สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ผมเป็นมุสลิมจะตอบคำถามให้ตามนี้
1.และสิ่งที่น้องพูดเป็นความจริงตามหลักศาสนาใช่หรือไม่
ตอบ จริง
2. ถ้าเป็นจริง มีความจำเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือไม่
ตอบ จำเป็น
3.คำถามผมคือ ผมควรทำอย่างไรดีครับ
ตอบ แม้จะเป็นจริงและ มีความจำเป็นตามหลักศาสนา กรณีนี้ เท่ากับน้องไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่ตกลงกัน
วิธีแก้ปัญหาคือ แจ้งให้น้องทราบถึงปัญหาทีเ่กิดขึ้น และให้ทางเลือกเช่น เพิ่มเวลาทำงานชดเชย กรณีสามารถจัดสรรงานให้ทำชดเชยได้
แต่ถ้าไม่สามารถจัดตารางเวลาเพิ่มเติมได้ ให้ย้ายแผนก หรือ ให้น้องออกจากกปฏิบัติหน้าที่
กรณีนี้มีการพูดคุยกันก่อน ถ้าน้องเป็นมุสลิมที่รู้ถูกผิดชอบ การแก้ปัญหาในลักษณะนี้น้องจะรู้ว่าเป็นเหตุจำเป็นและเข้าใจได้
แต่ถ้าน้องมีปัญหา ก็ถือว่า น้องไม่รุ้จักผิดชอบไม่รุ้จักอะไรถูกผิด ไม่ควรรับไว้เป็นพนักกงานตั้งแต่แรก
แม้มุสลิมเองมีภาระในการปฏิบัติศาสนากิจ แต่มุสลิมก็ถูกสอนให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานในโลก
และมีหน้าที่ต้องจัดการตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทีสามารจัดการกิจการทางโลกและทางศาสนาได้พร้อมๆกัน
ผมว่าน้องย่อมเข้าใจไม่มีเรื่องอะไรให้ผิดใจกัน
1.และสิ่งที่น้องพูดเป็นความจริงตามหลักศาสนาใช่หรือไม่
ตอบ จริง
2. ถ้าเป็นจริง มีความจำเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือไม่
ตอบ จำเป็น
3.คำถามผมคือ ผมควรทำอย่างไรดีครับ
ตอบ แม้จะเป็นจริงและ มีความจำเป็นตามหลักศาสนา กรณีนี้ เท่ากับน้องไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่ตกลงกัน
วิธีแก้ปัญหาคือ แจ้งให้น้องทราบถึงปัญหาทีเ่กิดขึ้น และให้ทางเลือกเช่น เพิ่มเวลาทำงานชดเชย กรณีสามารถจัดสรรงานให้ทำชดเชยได้
แต่ถ้าไม่สามารถจัดตารางเวลาเพิ่มเติมได้ ให้ย้ายแผนก หรือ ให้น้องออกจากกปฏิบัติหน้าที่
กรณีนี้มีการพูดคุยกันก่อน ถ้าน้องเป็นมุสลิมที่รู้ถูกผิดชอบ การแก้ปัญหาในลักษณะนี้น้องจะรู้ว่าเป็นเหตุจำเป็นและเข้าใจได้
แต่ถ้าน้องมีปัญหา ก็ถือว่า น้องไม่รุ้จักผิดชอบไม่รุ้จักอะไรถูกผิด ไม่ควรรับไว้เป็นพนักกงานตั้งแต่แรก
แม้มุสลิมเองมีภาระในการปฏิบัติศาสนากิจ แต่มุสลิมก็ถูกสอนให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานในโลก
และมีหน้าที่ต้องจัดการตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทีสามารจัดการกิจการทางโลกและทางศาสนาได้พร้อมๆกัน
ผมว่าน้องย่อมเข้าใจไม่มีเรื่องอะไรให้ผิดใจกัน
แสดงความคิดเห็น
มีพนักงานเป็นคนอิสลามและต้องละหมาดจนทำให้ เกิดปัญหาภายในหน่วยงาน
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ
1. ที่ทำงานผมค่อนข้างอิสระครับ ในเวลาที่ไม่มีงานไม่มีใครสนใจครับว่าน้องจะหายไปไหน แต่บางครั้ง ไม่ได้บ่อยนะครับ แต่ก็มีเกิดขึ้นบ้างที่มีงานแล้วน้องหายไป จนทำให้คนที่ทำงานอยู่รู้สึกว่าถูกกินแรงหรือโดนเอาเปรียบ เพราะเวลาหายไปจะหายไปราวๆ15นาที ซึ่งผมเชื่อว่าน้องเค้าไม่ได้เถลไถลไปทำอย่างอื่นเพราะเวลากลับมาจะกลับมาพร้อมเป้ใบเดิม ซึ่งเป็นเป้ที่ใส่พรมไว้ในเป้
2. สิ่งหนึ่งที่น้องไม่ได้บอกผมตอนสัมภาษณ์คือ น้องต้องไปละหมาดทุกวันศุกร์ตอนเที่ยง ซึ่งต้องไปละหมาดร่วมกันกับผู้อื่นที่มัสยิด แล้วกว่าจะออกไป และกว่าจะกลับเข้ามา เพราะที่ที่น้องไปมันไกลจากที่ทำงานพอสมควร และใช้เวลาเกินเวลาพักกลางวัน ถ้าเป็นวันปกติก็คงไม่มีใครว่าถ้าจะพักเกินเวลาไปบ้าง แต่เนื่องจากลักษณะงานในบริษัทเป็นงานที่มีลักษณะเป็นการจัดอีเว้นต์ และต้องมีพนักงานประจำจุดที่ถูกมอบหมายงานไว้อย่างชัดเจน ซึ่งผมยังไม่ได้คุยกับน้องโดยตรง แต่หัวหน้างานของน้องได้รายงานกับผมว่า มันมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น และน้องต้องไปทุกศุกร์หรืออย่างน้อย ศุกร์เว้นศุกร์ ไม่สามารถขาดได้สองศุกร์ติดกัน
คำถามผมคือ ผมควรทำอย่างไรดีครับ และสิ่งที่น้องพูดเป็นความจริงตามหลักศาสนาใช่หรือไม่ ถ้าเป็นจริง มีความจำเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือไม่ ไม่สามารถงดเว้นได้เลยจริงๆหรือ เพราะที่บริษัทผมมีน้องอีกแผนกนึงที่เป็นอิสลามเหมือนกัน แต่เท่าที่ผมสอบถามหัวหน้างานของน้องอีกแผนกเขาบอกว่า แผนกเขาไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลย หรือเป็นเพราะว่าน้องแผนกผมเคร่งศาสนามากหรือเปล่าครับ ทั้งนี้ผมยังไม่ได้คุยกับน้องโดยตรงครับ ผมอยากทราบความเห็นจากทุกท่านก่อน ทางเลือกที่ต้องให้น้องออกจากงาน ผมอยากเลือกมันเป็นทางสุดท้ายครับ
ขอบคุณครับ