สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ที่ทำงานเราเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างไทยกับต่างประเทศนะคะ มีผู้คนหลายชาติหลายศาสนาทำงานร่วมกัน บริษัทมีนโยบายเรื่องศาสนาที่แจ้งให้พนักงานเข้าใหม่ทุกคนทราบว่า ความสำเร็จของกิจการงานบริษัทถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะความสำเร็จนำไปสู่ผลกำไร ผลกำไรนำไปสู่การปรับขึ้นเงินเดือน การจ่ายโบนัส การขยายงาน และความมั่นคงในตำแหน่งหน้าที่ของพนักงานทุกคน
จะนับถือศาสนาใด ลัทธิใด หรือแม้ไม่มีศาสนาก็ไม่สำคัญค่ะ ขอให้เป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริตก็เพียงพอแล้ว
ก่อนรับเข้าทำงาน พนักงานต้องทำความเข้าใจกับบริษัทให้ชัดเจนแจ่มแจ้งว่า เวลาทำงานของบริษัทเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน รวมทั้งการจ่ายค่าล่วงเวลา การลาหยุด ลาป่วยและสิทธิอื่น ๆ ที่พนักงานจะพึงมี
ดังนั้น บริษัทจึงห้ามประกอบพิธีกรรมทางศาสนาใด ๆ ระหว่างเวลาปฎิบัติงานค่ะ ไม่มีข้อยกเว้นให้ใครทั้งนั้น เพราะถือความสำเร็จของงานสำคัญอันดับหนึ่งตามที่เขียนข้างต้น
ดังนั้น กรณีคำถามของ จขกท บริษัทเราไม่อนุญาตให้ระหมาดในเวลางาน อาจทำได้เฉพาะเวลาพัก เช่น พักกลางวัน ซึ่งเป็นสิทธิของพนักงานตามกฎหมาย
บริษัทมีเหตุผลนะคะ ในการมีกฎเกณฑ์เช่นนี้ เพราะไม่อาจทราบได้ว่า พนักงานแต่ละคนนับถือศาสนาใด มีบทบัญญัติของแต่ละศาสนาอย่างไรที่ต้องปฎิบัติ หากอนุญาตให้พนักงานคนหนึ่งใช้เวลางานปฎิบัติตามข้อบัญญัติศาสนา เช่น ระหมาด ก็อาจมีอีกคนยกเอาบทบัญญัติของอีกศาสนาขึ้นมาเพื่อยกเว้นการทำงานได้ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับพนักงานอื่น รวมทั้งการงานจะชงักไป ต้องรอผู้ที่ใช้เวลากับพิธีทางศาสนาให้เรียบร้อยเสียก่อน
ตอบ จขกท
สมมุติน้องหญิงมุสลิมเป็นเลขา ต้องเข้าประชุม แต่ต้องระหมาดตามที่ จขกท เขียนกระทู้ ที่ประชุมต้องรอหรือคะ หากเป็นเรา เราแก้ปัญหาด้วยการให้น้องเลือกค่ะ ว่าจะร่วมงานกันต่อไปหรือไม่ หากศาสนาสำคัญมากถึงขนาดที่การประชุมต้องรอน้องให้ระหมาดเสร็จเรียบร้อยเสียก่อน ก็จ่ายชดเชยแล้วให้ออกค่ะ
ทั้งนี้เพื่อตัดไฟต้นลม ไม่ให้มากเรื่องแล้วแก้ปัญหายากขึ้น
บริษัทเคยเจอข้อเสนอ
1. เรียกร้องให้จัดอาหารเฉพาะสำหรับพนักงานมุสลิม หรือ ให้ทั้งห้องอาหารพนักงานบริการอาหารที่ทุกคนกินได้ (ตรงที่ "ทุกคนกินได้นี่" เข้าใจไหมคะ)
2. จัดให้มีห้องสำหรับระหมาด เป็นต้น
แน่นอน ข้อเรียกร้องทั้งหมดถูกปฎิเสธ บริษัทตอบกลับว่า ยึดถือกฎหมายเป็นหลัก
เรามีสาขาหลายประเทศ เช่นใน มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ซึ่งพนักงานของเราในแต่ละประเทศต้องเคารพและปฎิบัติตามกฎหมายของประเทศนั้น
เช่น ในบางประเทศ วันสำคัญทางศาสนาพุทธ ไม่ใช่วันหยุด พนักงานทุกคนในประเทศนั้นก็ทำงานตามปรกติค่ะ
จขกท เสนอบริษัทใช้กฎหมายแรงงานให้เคร่งครัดนะคะ
ตาม ท่าน คห 14 ที่ว่าศาสนาสำคัญที่สุดเพราะสอนให้ซื่อสัตย์ เห็นด้วยค่ะ ทุกศาสนามีคำสอนนี้ แต่แปลกที่พนักงานบางคนของเราแจ้งตั้งแต่แรกเข้าว่า ไม่สนใจและไม่มีศาสนา กลับทำงานได้ขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์ไม่แพ้ผู้นับถือศาสนานะคะ เคยถามเขาเรื่องนี้ เขาว่า "หากรู้ผิดชอบชั่วดีในใจ ศาสนาก็ไม่สำคัญ"
แก้ไขพิมพ์ผิดเล็กน้อย
จะนับถือศาสนาใด ลัทธิใด หรือแม้ไม่มีศาสนาก็ไม่สำคัญค่ะ ขอให้เป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริตก็เพียงพอแล้ว
ก่อนรับเข้าทำงาน พนักงานต้องทำความเข้าใจกับบริษัทให้ชัดเจนแจ่มแจ้งว่า เวลาทำงานของบริษัทเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน รวมทั้งการจ่ายค่าล่วงเวลา การลาหยุด ลาป่วยและสิทธิอื่น ๆ ที่พนักงานจะพึงมี
ดังนั้น บริษัทจึงห้ามประกอบพิธีกรรมทางศาสนาใด ๆ ระหว่างเวลาปฎิบัติงานค่ะ ไม่มีข้อยกเว้นให้ใครทั้งนั้น เพราะถือความสำเร็จของงานสำคัญอันดับหนึ่งตามที่เขียนข้างต้น
ดังนั้น กรณีคำถามของ จขกท บริษัทเราไม่อนุญาตให้ระหมาดในเวลางาน อาจทำได้เฉพาะเวลาพัก เช่น พักกลางวัน ซึ่งเป็นสิทธิของพนักงานตามกฎหมาย
บริษัทมีเหตุผลนะคะ ในการมีกฎเกณฑ์เช่นนี้ เพราะไม่อาจทราบได้ว่า พนักงานแต่ละคนนับถือศาสนาใด มีบทบัญญัติของแต่ละศาสนาอย่างไรที่ต้องปฎิบัติ หากอนุญาตให้พนักงานคนหนึ่งใช้เวลางานปฎิบัติตามข้อบัญญัติศาสนา เช่น ระหมาด ก็อาจมีอีกคนยกเอาบทบัญญัติของอีกศาสนาขึ้นมาเพื่อยกเว้นการทำงานได้ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับพนักงานอื่น รวมทั้งการงานจะชงักไป ต้องรอผู้ที่ใช้เวลากับพิธีทางศาสนาให้เรียบร้อยเสียก่อน
ตอบ จขกท
สมมุติน้องหญิงมุสลิมเป็นเลขา ต้องเข้าประชุม แต่ต้องระหมาดตามที่ จขกท เขียนกระทู้ ที่ประชุมต้องรอหรือคะ หากเป็นเรา เราแก้ปัญหาด้วยการให้น้องเลือกค่ะ ว่าจะร่วมงานกันต่อไปหรือไม่ หากศาสนาสำคัญมากถึงขนาดที่การประชุมต้องรอน้องให้ระหมาดเสร็จเรียบร้อยเสียก่อน ก็จ่ายชดเชยแล้วให้ออกค่ะ
ทั้งนี้เพื่อตัดไฟต้นลม ไม่ให้มากเรื่องแล้วแก้ปัญหายากขึ้น
บริษัทเคยเจอข้อเสนอ
1. เรียกร้องให้จัดอาหารเฉพาะสำหรับพนักงานมุสลิม หรือ ให้ทั้งห้องอาหารพนักงานบริการอาหารที่ทุกคนกินได้ (ตรงที่ "ทุกคนกินได้นี่" เข้าใจไหมคะ)
2. จัดให้มีห้องสำหรับระหมาด เป็นต้น
แน่นอน ข้อเรียกร้องทั้งหมดถูกปฎิเสธ บริษัทตอบกลับว่า ยึดถือกฎหมายเป็นหลัก
เรามีสาขาหลายประเทศ เช่นใน มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ซึ่งพนักงานของเราในแต่ละประเทศต้องเคารพและปฎิบัติตามกฎหมายของประเทศนั้น
เช่น ในบางประเทศ วันสำคัญทางศาสนาพุทธ ไม่ใช่วันหยุด พนักงานทุกคนในประเทศนั้นก็ทำงานตามปรกติค่ะ
จขกท เสนอบริษัทใช้กฎหมายแรงงานให้เคร่งครัดนะคะ
ตาม ท่าน คห 14 ที่ว่าศาสนาสำคัญที่สุดเพราะสอนให้ซื่อสัตย์ เห็นด้วยค่ะ ทุกศาสนามีคำสอนนี้ แต่แปลกที่พนักงานบางคนของเราแจ้งตั้งแต่แรกเข้าว่า ไม่สนใจและไม่มีศาสนา กลับทำงานได้ขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์ไม่แพ้ผู้นับถือศาสนานะคะ เคยถามเขาเรื่องนี้ เขาว่า "หากรู้ผิดชอบชั่วดีในใจ ศาสนาก็ไม่สำคัญ"
แก้ไขพิมพ์ผิดเล็กน้อย
แสดงความคิดเห็น
พนักงานละหมาดในที่ทำงาน เป็นเรื่องซีเรียสมากมั้ยคะ
- น้องๆ ที่รับอิสลามคือรับตามแฟนค่ะ และไฟแรงมากด้วย เคร่งสุดๆ ยิ่งกว่ามุสลิมโดยกำเนิดอีก เพราะมีน้องอีกแผนกที่เป็นมุสลิมโดยกำเนิด คนนั้นไม่คลุมผ้า+ไม่ละหมาดใดๆ ทั้งสิ้น น้องบอกทำที่บ้านเมื่อไรก็ได้ค่ะ
- น้องทำงานมาราวๆ 2 ปีแล้วค่ะ ตอนที่รับเข้ามาไม่มีใครทราบว่าน้องจะเปลี่ยนเป็นอิสลาม
- ไม่เอาดราม่า ไม่ด่ากันในกระทู้เราได้มั้ยคะ อันนี้คืออยากแก้ปัญหาให้อยู่ร่วมกันได้โดยสวัสดิภาพทั้งสองฝ่าย