สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
มันก็เหมือนเหรียญ 2 ด้านนะครับ
1. หัวหน้าไม่ดี กดดัน ไม่สอนงาน
อันนี้คนที่เป็นหัวหน้าใหญ่ต้องทำการปรับปรุง
พัฒนาทีมงาน และระบบต่างๆครับ
2. ลูกน้องไม่พัฒนาเอาแต่ว่าตัวเองโง่
ความจำสั้น ลืม
อันนี้ไม่ใช่ไม่เข้าใจนะครับว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แต่ผมก็แปลกใจครับ รู้ตัวแต่ไม่ปรับปรุง
เอาแต่บ่นเอาแต่ว่าหัวหน้า
ผมถามครับ คนที่บ่นว่าตัวเองขี้ลืม
ทำไมไม่ฟังกันเอาแต่กดดัน
รู้ตัวแต่ไม่ปรับปรุง
เอาแต่โทษชะตา โทษคนอื่น
กุเพลีย
1. หัวหน้าไม่ดี กดดัน ไม่สอนงาน
อันนี้คนที่เป็นหัวหน้าใหญ่ต้องทำการปรับปรุง
พัฒนาทีมงาน และระบบต่างๆครับ
2. ลูกน้องไม่พัฒนาเอาแต่ว่าตัวเองโง่
ความจำสั้น ลืม
อันนี้ไม่ใช่ไม่เข้าใจนะครับว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แต่ผมก็แปลกใจครับ รู้ตัวแต่ไม่ปรับปรุง
เอาแต่บ่นเอาแต่ว่าหัวหน้า
ผมถามครับ คนที่บ่นว่าตัวเองขี้ลืม
ทำไมไม่ฟังกันเอาแต่กดดัน
รู้ตัวแต่ไม่ปรับปรุง
เอาแต่โทษชะตา โทษคนอื่น
กุเพลีย
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ฝากถึงคนที่เป็นหัวหน้า อย่าบอกให้น้องๆเอาแต่ "อดทน" โดยไม่ช่วยน้องนะครับ
ผมทำงานเป็นผู้จัดการระดับกลาง ดูแลทีมทั้งหมด 4 ทีม ซึ่งแต่ละทีมก็จะมีหัวหน้าทีมอีกทีนึง
เมื่อไม่นานมานี้ พึ่งมีน้องคนนึงมายื่นใบลาออก ด้วยเหตุผลที่ผมได้แต่รู้สึกเสียใจที่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้
น้องคนนี้เป็นคนทำงานดี ผลงานประเมินได้ระดับดีทุกปีจากประวัติ แต่น้องเป็นเด็กรุ่นใหม่อายุ 20 กลางๆ
เรื่องมันเกิดขึ้นว่า
น้องคนนี้พึ่งย้ายมาจากแผนกอื่น มาสังกัดใต้ทีมที่ผมดูแลทีมนึง
ซึ่งหัวหน้าของทีมนั้นก็เป็นหัวหน้าที่สไตล์เก่านิดนึง คือชี้นิ้วสั่ง เอาความคิดตัวเองถูก ลูกน้องต้องทำตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร แต่มันก็เป็นสไตล์ที่เด็กรุ่นใหม่จะไม่ค่อยชอบ
เมื่อกลางปีผมมีโอกาสได้คุยแบบ 1-1 กับน้อง ก็สัมผัสได้ว่าน้องเค้าเริ่มไม่มีความสุขกับการทำงาน เพราะไม่ชอบตัวหัวหน้า ซึ่งผมในฐานะผู้จัดการก็ได้แค่บอกให้ อดทน สู้งาน พยายามคิดบวก บอกว่าพี่เค้าก็เป็นแบบนี้แหละ (ซึ่งตรงนี้คือสิ่งที่ผมทำพลาด)
เวลาผ่านไปตัวน้องเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลง มาทำงานสายบ่อยขึ้น ความทุ่มเทลดลง คุณภาพงานลดลง ทีมเวิร์คน่อยลง
เมื่อเดือนที่แล้วน้องมาขอย้ายทีม เพราะไม่ชอบทำงานทีมนี้ แต่ทางผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะยังตองการให้ร้องทำงานกับทีม
และสุดท้ายผลก็ออกมาเป็นที่น้องมายื่นใบลาออก ซึ่งผมเองก็เสียใจที่ไม่ได้หาทางออกให้น้องที่ดีกว่านี้
เหตุการ์ณนี้ผมจึงอยากฝากบอกคนที่เป็นหัวหน้าหลายๆคนว่า
1. อย่าโทษแต่ว่าเด็กรุ่นใหม่ทำงานไม่อดทน สมัยนี้มันต่างจากสมัยก่อนเยอะครับ เพราะสมัยนี้เด็ก ไม่จำเป็นต้องอดทนก็ได้ ในเมื่อโลกข้างนอกมีงานหาคนเยอะกว่าคนหางาน
2. อย่าบอกให้น้อง "อดทน" โดยที่เราไม่หาทางช่วยเหลือน้อง การอดทนมันทำได้แค่ชั่วคราว ซึ่งคนที่ยอมอดทนคือเค้ายังรอความหวังว่าอะไรมันจะดีขึ้น
3. การคิดบวกเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ใช่ Ultimate Solution ที่แก้ไขได้ทุกปัญหา ปัญหาบางอย่างมันต้องการ Action ที่จับต้องได้มากกว่าการปรับความคิด
4. การที่ลูกน้องไม่ชอบหัวหน้า มันไม่เสมอไปว่าจะเป็นเพราะลูกน้องแย่ หรือหัวหน้าแย่ บางทีมันเป็นแค่การที่คนสองคนไม่ชอบสไตล์ของอีกคน ทางที่ดีเราควรเข้าใจ และหาทางออกให้เค้าเจอคนที่ถูกสไตล์กันดีกว่าให้เค้ารับสภาพและบอกว่า "เค้าก็เป็นแบบนี้"
5. ท้ายที่สุด ถ้าน้องอดทนแล้ว ปรับตัวก็แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำงานร่วมกับหัวหน้าได้ ก็อย่ารั้งน้องไว้ครับ บางทีหัวหน้าจะมองแค่เรื่อง Headcount, Resource หรืออะไรที่เป็นตัวเลข แต่ไม่ได้เข้าใจถึงความรู้สึกของคนปฏิบัติงาน