พระมหาไพรวัลย์ วรรณบุตร กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกัน เอาหนังเรื่องหลวงพี่แจ๊ส 5G ไปให้คณะกรรมการที่กระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาถึงความเหมาะสม โดยเปรียบเทียบกับกรณีของทศกัณฐ์หยอดขนมครก คุณคิดว่ากระทรวงวัฒนธรรมจะให้ความเห็นว่าอย่างไร #ตอบ
อาตมาไม่ได้มีปัญหากับการนำพระมาล้อเลียนนะ แต่อาตมามีปัญหากับมุมมองของคนพุทธในสังคมไทยต่างหาก มีปัญหากับมาตรฐานของการตัดสินว่า อะไรคือความเหมาะสมไม่เหมาะสม ในการนำเรื่องราวของศาสนาของนักบวชมาสร้างเป็นภาพยนตร์ อาตมากำลังตั้งคำถามกับคนในสังคมว่า บางทีเราก็ซีเรียสกับอะไรที่ไม่ควรซีเรียสหรือเปล่า บางเรื่องที่เราควรตั้งคำถาม เราก็ไม่ยอมตั้งคำถามหรือเปล่า เราปล่อยให้คนในสังคมเสพอะไรก็ได้ ที่เน้นไปในเรื่องของความตลกโปกฮาอย่างเดียว ยอมให้คนเอาศาสนาเอาพระมาสร้างเป็นตัวตลก ตัวงี่เง่า เพื่อให้คนมีเสียงหัวเราะ เพื่อสร้างกำไรให้กับผู้กำกับ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสาระหรือแง่คิดที่คนจะได้รับ อย่างนั้นหรือเปล่า
เมืองไทย คือเมืองพุทธแบบดัดจริตมากมาก นี่พูดอย่างไม่เกรงใจ เป็นเมืองพุทธที่ชาวบ้านมองพระเป็นตัวตลก เฮฮา โง่เง่า งมงาย ยังไงก็ได้ เอาไปสร้างหนังเพื่อเรียกเสียงหัวเราะยังไงก็ได้ แต่เป็นเมืองพุทธที่มองพระอย่างที่เป็นพระในสังคมจริงจริงไม่ได้ เอาพระที่กินเหล้าเมายา พระที่มีอารมณ์ทางเพศ มีความรู้สึกโลภโกรธหลง ไปสร้างเป็นหนังเพื่อสะท้อนความเป็นจริงไม่ได้ กับหนังปัญญาอ่อนพวกนี้ ดูเหมือนคนจะไม่ค่อยตั้งคำถามถึงสิ่งที่จะได้หรือผลกระทบต่อศาสนาเท่าไหร่เลย ไม่เหมือนกับหนังที่กระตุกความคิดคนอย่าง ศพไม่เงียบ หรือ นาคปรก และ อาปัติ เป็นต้น ที่ยังไม่ทันจะฉาย คนก็ออกมาโวยวายกันเสียแล้ว
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_44405
พระมหาไพวัลย์ชี้เมืองไทย ทำหนังพระเป็นตัวตลกได้ แต่ตีแผ่พระในสังคมจริงไม่ได้
ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกัน เอาหนังเรื่องหลวงพี่แจ๊ส 5G ไปให้คณะกรรมการที่กระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาถึงความเหมาะสม โดยเปรียบเทียบกับกรณีของทศกัณฐ์หยอดขนมครก คุณคิดว่ากระทรวงวัฒนธรรมจะให้ความเห็นว่าอย่างไร #ตอบ
อาตมาไม่ได้มีปัญหากับการนำพระมาล้อเลียนนะ แต่อาตมามีปัญหากับมุมมองของคนพุทธในสังคมไทยต่างหาก มีปัญหากับมาตรฐานของการตัดสินว่า อะไรคือความเหมาะสมไม่เหมาะสม ในการนำเรื่องราวของศาสนาของนักบวชมาสร้างเป็นภาพยนตร์ อาตมากำลังตั้งคำถามกับคนในสังคมว่า บางทีเราก็ซีเรียสกับอะไรที่ไม่ควรซีเรียสหรือเปล่า บางเรื่องที่เราควรตั้งคำถาม เราก็ไม่ยอมตั้งคำถามหรือเปล่า เราปล่อยให้คนในสังคมเสพอะไรก็ได้ ที่เน้นไปในเรื่องของความตลกโปกฮาอย่างเดียว ยอมให้คนเอาศาสนาเอาพระมาสร้างเป็นตัวตลก ตัวงี่เง่า เพื่อให้คนมีเสียงหัวเราะ เพื่อสร้างกำไรให้กับผู้กำกับ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสาระหรือแง่คิดที่คนจะได้รับ อย่างนั้นหรือเปล่า
เมืองไทย คือเมืองพุทธแบบดัดจริตมากมาก นี่พูดอย่างไม่เกรงใจ เป็นเมืองพุทธที่ชาวบ้านมองพระเป็นตัวตลก เฮฮา โง่เง่า งมงาย ยังไงก็ได้ เอาไปสร้างหนังเพื่อเรียกเสียงหัวเราะยังไงก็ได้ แต่เป็นเมืองพุทธที่มองพระอย่างที่เป็นพระในสังคมจริงจริงไม่ได้ เอาพระที่กินเหล้าเมายา พระที่มีอารมณ์ทางเพศ มีความรู้สึกโลภโกรธหลง ไปสร้างเป็นหนังเพื่อสะท้อนความเป็นจริงไม่ได้ กับหนังปัญญาอ่อนพวกนี้ ดูเหมือนคนจะไม่ค่อยตั้งคำถามถึงสิ่งที่จะได้หรือผลกระทบต่อศาสนาเท่าไหร่เลย ไม่เหมือนกับหนังที่กระตุกความคิดคนอย่าง ศพไม่เงียบ หรือ นาคปรก และ อาปัติ เป็นต้น ที่ยังไม่ทันจะฉาย คนก็ออกมาโวยวายกันเสียแล้ว
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_44405