[CR] บันทึกนักเดินทางไปภูสอยดาวที่อยากจะแบ่งปัน

-สวัสดีครับ-
     นี้คือกระทู้รีวิวครั้งแรกของผมถ้าผิดพลาดเรื่องการจัดเรียงย่อหน้า ตัวอักษร ทำให้อ่านไม่สบายตาก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ จริงๆไม่อยากใช้คำว่ารีวิวเลยเอาเป็นคำว่า "บอกต่อ" ก็แล้วกันนะครับ ^^ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาเริ่มกันเลยครับ

--เกริ่น--
     การเดินทางในครั้งนี้เริ่มจาก จขกท. รู้สึกเบื่อและเหงาอย่างมากร่างกายต้องการสัมผัสผู้คนแปลกหน้าและสัมผัสธรรมชาติ เป็นช่วงเดือนปลายกันยายนและต้นตุลาคม คือช่วงปิดเทอมพอดี เลยอยากหาเรื่องไปเที่ยวคนเดียวสักที่หนึ่งที่ไหนก็ได้ไกลๆ ด้วยการนั่งรถไฟ
     ช่วงที่ผมไปยังคงเป็นช่วงของปลายฝนต้นหนาวอยู่ก็ติดตามสภาพอากาศมาเรื่อยๆแล้วก็มีวี่แววว่าฝนจะไม่ยอมหยุดตกเลย จึงได้ไปค้นหาข้อมูลจากพี่กรูเกิ้ลว่า "สถานที่ท่องเที่ยว ช่วงหน้าฝน" ก็เลยได้คำตอบที่สนใจมาสองสถานที่คือ ทองผาภูมิที่กาญจนบุรี และ ภูสอยดาวที่อุตรดิตถิ์ เลยใช้หลักการในการเดินทางเป็นตัวตัดสินใจ เพราะต้นทางของผมเริ่มจากจังหวัด สระบุรี ซึ่งสระบุรีเป็นทางรถไฟสายอีสาน หากจะไปขึ้นรถไฟไปกาญจนบุรีต้องเสียค่าเดินทางไปยังสถานีรถไฟธนบุรีอีกก็เลยเป็นเหตุผลให้ผมมาภูสอยดาว หัวเราะ
     การเดินทางของผมไม่ได้แบกกล้องไปแต่ต้องยอมรับเลยว่าเสียดายมาก ใครที่จะไปแนะนำให้แบกกล้องไปนะครับ กระทู้ของผมนี้รูปจะมาจากกล้องไอโฟน5s ล้วนๆโดยความจำที่มีอย่างจำกัดและแบตที่มีน้อยเหลือเกินถึงแม้จะพกพาวเวอร์แบงค์แบบชาร์ตจากแสงแดดได้ก็ยังไม่พอที่จะเก็บบันทึกเรื่องราวดีๆออกมาทางรูปภาพและวีดีโอ อีกทั้งผมไม่ได้นำสารชาร์ตแบตไปด้วยเพราะเกรงว่ามันคงไม่จำเป็น แต่ช่วงขากลับมีปลั๊กมากมายให้เสียบ ร้องไห้
     และในตลอดระยะการเดินทางของผม มักจะเช็คสภาพอากาศตลอด แล้วเวลาผ่านไปที่ไหนก็จะยกมือไหว้ขอให้ที่ภูสอยดาวฝนอย่าตกเลย

---หาข้อมูลและจัดของกัน---

     เมื่อมีเป้าหมายแล้วผมจึงไปหาข้อมูลต่างๆทั้งเรื่องการเดินทางและสัมภาระที่จำเป็นต้องเตรียมไปโดยการอ่านจากเว็บพันทิปของชาวพันทิปที่เข้ามาเขียนรีวิวกันก็ได้ข้อมูลมามากเลยทีเดียว เรื่องประวัติสถานที่ผมจะไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้นะครับเดี๋ยวกระทู้จะยาวและออกทะเลเกินไป เอาเป็นว่าข้อมูลที่ผมจะมาบอกต่อคือการเดินทางและการเตรียมตัวผ่านเรื่องราวที่ผมไปมานะครับ
     เมื่อมีเป้าหมายว่าจะไปภูสอยดาวแล้วช่วงที่ผมหาข้อมูลและจัดของคือห้วงวันที่ 28-30 กันยายน 59 และวางแผนกำหนดเดินทางวันที่ 2-5 ต.ค. 59 (4 วัน 1 คืน อ๊ะ อย่าเพิ่งงงนะครับต้องติดตามเรื่องราวต่อ) ในระหว่างการหาข้อมูลเรื่องการเดินทางอยู่นั้นผมก็ได้ทราบว่าการเข้าอุทยานและออก จะมีรถสองแถวคันสีน้ำเงินที่ข้างรถเขียนว่า ป่าแดง-ร่มเกล้า ซึ่งรถคันนี้จะมีวิ่งเพียง 1 ถึง 2 คันต่อวันเท่านั้น โดยมีช่วง 10:30 น. และประมาณ 12:30 น. และใช้เวลาเดินทางถึง 3 ชั่วโมง หากไม่สามารถไปถึงภูได้ก่อน 14:00 น. เจ้าหน้าที่จะยังไม่ให้ขึ้นไปลานสนครับ อีกวิธีหนึ่งคือการเหมารถ ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูง แล้วในระหว่างที่ผมกำลังหาข้อมูลอยู่นั้นก็มีเสียงข้อความดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ ตือดึ้ง! เพื่อนผมส่งข้อความาว่าอยากเที่ยว ผมเลยพิมพ์ไปว่าที่ไหน เพื่อนก็ตอบกลับมาว่า อยากเดินป่า เลยประจวบเหมาะกันพอดีผมก็เลยชวนไปภูสอยดาวด้วยกัน (เอาไปหารค่าเหมารถ ฮ่าๆ) แต่คนเดียวยังคงไม่พอเลยเปลี่ยนแผนจากการเที่ยวคนเดียวไปเป็นแก็งค์แล้วกันก็เลยลองชวนเพื่อนครับ แต่ช่วงสัปดาห์นี้เพื่อนเข้ากรุงเทพไปติวกัน คือมันก็ใกล้จะสอบ gat-pat แล้ว เพื่อนๆก็เตรียมตัวกันเลยไม่ว่างไป สรุปก็ไปกันแค่สองคนครับ
     มาถึงเรื่องการเตรียมของสิ่งที่ผมเตรียมไปตามภาพเลยครับ



แต่สิ่งที่จำเป็นที่ต้องนำไปนะครับ อย่างแรกนะครับ ถ้าสามารถนำเต้นท์ไปได้นำไปดีกว่าครับเพราะจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะมาก ผ้ารอง(ไว้ใช้ปูนั่งเล่นนอกเต้นท์หรือไม่ก็บังฝนบังลม) อย่างที่สอง เครื่องครัวต่างๆตั้งแต่ มีด ช้อน ชาม ถ้วย หม้อสนามหรือกระทะไม่ก็ภาชนะอะไรก็ได้ที่สามารถหุงต้มและตักอาหารได้นะครับหรือถ้าอยากมีอารมณ์ปิ้งย่างก็นำตะแกรงไปด้วยนะครับ ต่อมาคือพวกสุขอนามัยให้นำขันไปด้วยนะครับสำหรับสายประหยัด และที่สำคัญคือด้านสุขภาพให้นำพวกยาแก้ปวดเมื่อยและยากัดยุงไปด้วยนะครับ (ข้างบนไม่มียุงครับ แต่มีตัวอะไรไม่รู้ดูดเลือดเหมือนยุงเหมือนกัน) และสองสิ่งสุดท้ายที่จำเป็นคือ เสื้อกันฝนและเสื้อกันหนาวครับ สำหรับคนที่จะเดินทางช่วงหน้าฝน รับรองว่ามีฝนแน่นอนครับ
และนี้คือสิ่งที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีให้เช่าครับ



----ออกเดินทางกัน---- 2.ต.ค.59
     ผมคนที่ไม่เคยเดินทางโดยรถไฟก็รู้สึกตื่นเต้นมากสำหรับใครที่ไม่รู้วิธีจองตั๋วรถไฟนะครับ สามารถเข้าไปจองได้ที่สถานนีใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นสายเหนือ ใต้ ออก ตก หรืออีสาน ก็สามารถจองได้ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็จองได้ครับโดยต้องเตรียมบัตรปชช.ไปด้วยนะครับ เช่นของผม ไปจองตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟสระบุรีเพื่อจะเดินทางไป ลพบุรี-พิษณุโลก ก็ทำได้เหมือนกันครับ ผมจึงเลือกเป็นรอบ 23:16 น. (เพราะอะไรติดตามต่อไปครับ)



     เนื่องจากสระบุรีเป็นรถไฟสายอีสาน แต่ปลายทางของเราคือสายเหนือ ผมจึงเลือกที่จะเดินทางไปลพบุรีขึ้นรถไฟที่นั้นที่สถานีรถไฟลพบุรี โดยเริ่มจากเดินทางมาที่ บขส.สระบุรีประมาณ 18:20 น. แล้วก็ไปขึ้นรถตู้ ลพบุรี-สระบุรี ในราคา 35 บาท ประมาณ 10 นาที รถก็เริ่มออก เราออกเดินทางกันตอน 18:30 น. เพื่อไปยังวงเวียนสระแก้วหรือ บขส.ลพบุรี เราใช้เวลาเดินทางกันมาถึงตอน 19:40 น. ตามแผนของเรากะจะเดินทางไปที่สถานีรถไฟลพบุรีในระยะทาง 3.8 กม. เพราะเรามีเวลาเหลือเฟือก่อนรถไฟจะมาและจะได้เป็นการซักซ้อมกำลังขาไปในตัวด้วย แต่เผอิญมีรถสองแถวผ่านมาพอดี ไม่รู้อะไรดลใจก็เลยขึ้นรถสองแถวไปก็แล้วกันโดยเสียค่าเดินทาง 10 บาท เรามาถึงสถานีรถไฟลพบุรีเวลาประมาณ 19:50 น.

ถึงแล้วเย้ๆ


     เมื่อมาถึงแล้วด้วยสัมภาระที่หนักเอาการก็เลยไปหาจุดฝากของจริงๆก็ไม่มีหรอกครับ แต่ป้าที่ทำหน้าที่บริการทางเข้าห้องน้ำเค้ารับฝากในราคาเพียงคนล่ะ 10 บาท

และนี้คือสัมภาระของพวกเราครับ


จากนั้นก็ออกทัวร์เมืองลพบุรีสิครับ แถวนั้นก็มีตลาดเรียงเป็นแถวยาวมาก แต่ผมกับเพื่อนก็ไม่ได้ซื้ออะไรกินเพราะเติมพลังมาจากบ้านกันเรียบร้อยแล้ว ประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฮาๆ แล้วเราสองคนก็ได้เดินเข้าไปแถวๆวังพระนารายณ์ แต่ก็ต้องพบว่าร้านแถวนั้นไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร เสื้แผ้า หรือคอฟฟี่ ก็ต่างพากันปิดหมด เลยตกใจมากทำไมถึงปิดไวขนาดนี้เพื่งจะสองทุ่มเอง

และนี้คือรูปมราเก็บมาเล็กๆน้อยจากเมืองลพบุรีครับ






     ยังคงเหลือเวลาอีกตั้ง 3 ชม. ผมเลยเอ่ยปากมาว่า หาร้านเกมกัน ฮาๆ ก็เลยไปหาร้านเกมครับ เราเดินหากันนานพอสมควร เวลาประมาณ 20:30 น. เจอร้านแถมยังมีตั้ง 3 ร้านติดกัน ห่างกับสถานีลพบุรีเพียง 100 ม. เอง ฮาๆ ก็เลยเข้าไปใช้บริการ 2 ชม.



หลังจากนั่งร้านเน็ตเสร็จแล้วตอนนั้นก็เวลาประมาณ 22:40 น. ผมก็ได้เติมพลังจากชายสี่หมี่เกี๊ยวที่มีขายหน้าร้านเน็ต แล้วเราก็ไปรถไฟกัน



แต่ในระหว่างนั้นผมก็บังเอิญนึกขึ้นได้ว่าลืมเอาหม้อสนามมาอีก 2 ใบ เพราะตอนนี้มีอยู่ใบเดียวมันไม่พอสำหรับการนำไปเป็นจานใส่อาหารแล้วแยกต้มน้ำ แถมยังลืมพกกระดาษมาไว้สำหรับก่อไฟ ก็เลยแก้ปัญหาโดยการซื้อข้าวกล่องเซเว่นมาทำเป็นจานเอาแล้วหม้อสนามที่มีก็เอาไว้ต้มน้ำก็เลยแวะเซเว่นสักหน่อย

ปู๊นนนนนนนนนนนน แสงไฟสว่างไสวจากทางมืดๆ เย้รถไฟมาแล้วมาเรทจังเลยตั้ง 15 นาที


จากนั้นเราก็ได้ขึ้นรถไฟผมตื่นเต้นมากที่จะได้นั่งรถไฟครั้งแรก พอขึ้นไปแล้วก็หาที่นั่งแล้วก็มาเจอคนนั่งที่ของเราก็งง เอ้านี้ขึ้นผิดห้องรถไฟป่ะเนี่ย ฮาๆ สุดท้ายเค้าก็บอกว่ามา น้องนั่งนี้เหรอ ? จากนั้นเค้าก็หลบไปนั่งอีกฝั่ง

พนักงานกำลังตรวจตั๋ว


ระยะเวลาในการเดินทางใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง นานเหมือนกันนะเนี่ย หนังสือก็ไม่มีอ่าน จะเล่นโทรศัพท์ก็กลัวแบตหมด เลยคุยกับเพื่อนไปชั่วโมงนึงเพราะเพื่อนมันง่วงแล้วก็นอน แต่ผมตลอดระยะการเดินทางข่มตาให้หลับยังไงก็ไม่หลับ

ตอนนี้ก็เดินทางมาถึงพิจิตรแล้วฝนก็เริ่มตกผมก็เริ่มหวั่นๆแล้วว่าที่พิษณุโลกจะตกหรือเปล่า



และแล้วเราก็ได้เดินทางมาถึงพิษณุโลกแล้ว เย้ มาถึงตอน 3:30 น. R.I.P การรถไฟไทย



อันนี้ผมว่าจะเป็นแลนด์มาร์คของสถานีรถไฟพิษณุโลก



เมื่อมาถึงจริงๆก็มีสามล้อกับวินมอไซค์ให้บริการอยู่ แต่ด้วยการเป็นสายประหยัดผมจึงชวนเพื่อนเดินเท้าไปที่ บขส.พิษณุโลก ด้วยระยะทาง 2.7 กม.



แถวๆทางรถไฟก็มีตลาดเช้าอยุ่เป็นน่าจะเป็นตลาดล้ง ใครที่อยากมีผักสดๆไปประกอบอาหารหาซื้อที่นี้ก็ได้นะครับ



แต่ระหว่างทางที่เราเดินนั้นผมก็เริ่มตกปรอยๆและเริ่มจะแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมและเพื่อนก็เลยควักไอเท็มออกมาคือเสื้อกันฝน แล้วเราก็เดินลุยกันต่อเดินจนรองเท้าเปียกจนได้ ผมเดินไปโดยใช้กูเกิ้ลแมพนำทางและพอฝนตกทางแอพมันก็เริ่มรวน ยิ้มล่ะ ผมอุทานออกมาแบบซวยล่ะตู แต่โชคยังเข้าข้างเรา มีคนผ่านมาแถวนั้นก็เลยลองถามทางไป บขส. และท้ายที่สุดก็ได้มาถึง บขส. ตอนประมาณ 4:35 น.



จากนั้นเพื่อนผมก็เปลี่ยนรองเท้าจากผ้าใบเป็นคอมแบ็ทพร้อมรบ ผมก็ทำหน้าที่ไปซื้อตั๋ว ผมเดินตรงไปที่ช่อง 26 แต่อ่าวทำไมถึงยังไม่ขายตั๋ว รถรอบแรกก็จะออกตอน ตี 5 ไม่ใช่เหรอ แล้วก็มีพนักงานมาเรียก หนูๆจะไปไหน ก็บอกไปว่าจะไป อำเภอชาติตระการครับ พนักงานเลยบอก นู้นๆรถอยู่ตรงนู้นไปซื้อตั๋วตรงนู้นได้เลยจ่ะ ผมก็ขอบคุณพนักงานแล้วตรงดิ่งไปซื้อตั๋ว









รถออกตรงเวลามาก 05:00 น. ก็ออกแล้วโดยรถจะไปแวะที่ บขส.พิษณุโลกใหม่ก่อน ในระหว่างทางผมก็ยังไม่ได้นอนนะครับ ฮาๆ แต่เพื่อนผมหลับปุ๋ย และนี้คือภาพที่เก็บมาตอนนั่งรถครับ

ตอนใกล้รุ่ง

และแสงแรกของวันนี้


ตอนที่นั่งรถอยู่นั้นกระเป๋าก็ถามว่าผู้โดยสารคนไหนจะไปภูสอยดาวบ้างจะได้เรียกรถให้ จังหวะนี้แหละที่ผมได้แต่หวังว่าจะมีคนไปร่วมทางกับเราด้วย และเป็นโอการได้พบกับผู้คนใหม่ๆ แต่เดี๋ยวนะ! ไม่มีเลยเหรอ ไม่มีใครไปภูสอยดาวด้วยกันเลย ฮืออออ ทีนี้ผมกับเพื่อนก็เสี่ยงโชคกันครับเผื่อจะมีใครไปรออยู่ตรงท่ารถแล้ว ถ้าหากไม่มีก็จะลองเสี่ยงรอรถสองแถวดู
ชื่อสินค้า:   อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่