หลังจากที่วางแพลนล่วงหน้ามาเกือบเดือนก็หาวันหยุดได้ในช่วงหยุดยาว ซึ่งตอนแรกเกือบจะไม่ได้ไปเพราะรอบรถไฟเต็มหมดเลย แต่ก็ยังโชคดีที่ยังมีรถไฟชั้น 3 เหลือให้ เลยเกิดเป็นทริปที่ 3 ของผมกับทริปภูสอยดาวหน้าฝน (ถึงจะไม่เจอฝนเลยก็เถอะ 5555) #ภูสอยดาว 2562
26 กรกฎาคม 2562
ผมเริ่มด้วยการจองตั๋วรถไฟไปพิษณุโลกจากสถานีดอนเมือง ในรอบ 21:00 น. ซึ่งเป็นรถไฟชั้น 3 (เพราะจองชั้น2ไม่ทัน😄) และแล้วรถไฟก็มาถึงซึ่งช่วงหยุดยาวนี้คนจะเยอะมากๆ เยอะจนไม่มีที่นั่ง 5555
27 กรกฎาคม 2562
หลังจากยืนบนรถไฟจนเกือบจะครึ่งทางถึงได้นั่งและพักสายตาบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่และแล้วก็มาถึงสถานีพิษณุโลกในช่วงตี 3 พวกเราเลยรีบล้างหน้าล้างตาเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถสองแถวที่ติดต่อไว้กับพี่เก่งจากเพจ รถรับส่งอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว พอผ่านไปซักพักนึงรถก็มาจอดรออยู่หน้าสถานีเลย เอาหล่ะ!! เช็คชื่อขึ้นรถแล้วตรงสู่ตลาดเพื่อเตรียมเสบียงกันก่อนจะตรงไปสู่ภูสอยดาว
ประมาณ 8 โมง เราก็มาถึงจุดลงทะเบียนที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โดยระหว่างทางที่จะมาทางพี่เก่งได้ให้เรากรอกใบลงทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว เราเลยไม่ต้องเสียเวลาไปกรอกที่อุทยาน เป็นบริการที่ดีมากๆ พี่เขาเดินเรื่องให้เกือบหมด 😁
รายการที่ทางอุทยานมีให้เช่า
รายการพวกนี้สามารถติดต่อเช่าของได้ข้างบนภูสอยดาวนะครับ และเมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้วเราก็เริ่มลุยกันได้เลย โดยจะมีรถมารับเราไปยังจุดเริ่มต้นของทางเดินขึ้นสู่ภูสอยดาว ซึ่งจุดแรกจะเป็นน้ำตกภูสอยดาว
มาเริ่มเดินขึ้นลานสนภูสอยดาวกัน
ในช่วงแรกๆจะเป็นบันไดเหล็กและจะเป็นทางเดินเรียบไปจนถึงเนินแรกนะครับ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโล
เมื่อเดินมาได้ซักพักนึงก็จะมาถึงเนินแรก คือ เนินส่งญาติ
ซึ่งตามจริงแล้วตรงนี้คือจุดเริ่มต้นของระยะทาง 6.5 กิโล ของจริง
ทางชันมากกกก ผมเดินขึ้นมาเรื่อยๆผ่านเนินปราบเซียนและเนินต่างๆขึ้นมา (เดินเหนื่อยจนลืมถ่ายรูปป้ายเนิน 555)
ด้วยจำนวนคนที่เยอะมากในวันนี้ ผมเลยได้รับหน้าที่ในการจองพื้นที่กางเต็นท์ของกลุ่มทำให้ต้องรีบเดินนำขึ้นไปก่อน เมื่อผมเดินมาได้ซักพักก็มาเจอกับจุดพักที่สวยมากๆ
แต่ผมดันลืม! ลืมว่าตัวเองไม่ได้พกอาหารติดตัวมาเลยมีแค่น้ำเปล่าขวดใหญ่และข้าวปั้นห่อเดียว 😑 ซึ่งตอนแบ่งของกันอาหารเกือบทั้งหมดเลยอยู่กับเพื่อนหมดเลย จำต้องกินเท่าที่มี 555 เสร็จแล้วก็เริ่มเดินต่อโดยผมได้เพื่อนร่วมทางมาเพิ่มคนนึงชื่อทัต ที่มีหน้าที่ขึ้นมาจองจุดกางเต็นท์เหมือนกับผม หลังจากนั้นก็พากันเดินขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาเจอกับกลุ่มพวกพี่ๆ ที่มาจากโคราชอีก 3 คน ทีนี่เราเลยกลายเป็นกลุ่มเดียวกันและเดินคุยกันมาเรื่อยๆ
เนินมรณะเป็นเนินที่ชันมากๆและถ้าฝนตกน่าจะอันตรายกว่านี้ ควรระมัดระวังกันด้วยนะครับ
หลังจากผ่านเนินมรณะมาได้ก็จะเป็นทางเรียบเพื่อเดินไปยังลานสนที่เป็นจุดกางเต็นท์ ซึ่งเดินไปซักระยะนึงก็จะเจอป้าย ผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว กลุ่มเราที่รวมตัวกันระหว่างทางเลยได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก
หลังจากป้ายนี้เดินต่อกันอีกนิดก็จะถึงลานกางเต็นท์
ผมมาถึงลานกางเต็นท์กันเป็นกลุ่มแรกๆ เลยมีพื้นที่ให้เลือกเยอะพอสมควร พวกเราเลยตกลงกันว่ากางเต็นท์ใกล้ๆกันไปเลย
ต่างคนต่างกางเต็นท์และรอเพื่อนแต่ละกลุ่มของตัวเองขึ้นมา เมื่อกลุ่มเพื่อนที่ตามหลังขึ้นมากันครบก็มาเริ่มทำอาหารเย็นกินกัน
ดาวบนภูสอยดาว สมกับชื่อภูมากๆครับในวันที่ฟ้าเปิด ซึ่งคืนที่ผมมาฟ้าเปิดพอดีหลังจากที่มีหมอกและฟ้าปิดมาทั้งวัน
28 กรกฎาคม 2562
ตื่นขึ้นมากะจะรีบมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ฟ้าดันปิดอีกแล้วและมีหมอกเต็มไปหมด
วันนี้กลุ่มผมมีกำหนดลงกันช่วงเที่ยงเพื่อกลับไปยังพิษณุโลก เลยไม่ต้องรีบเตรียมตัวลงกันทำให้สามารถนั่งทำอาหารเช้ากินกันได้ ไม่นานฟ้าก็เริ่มเปิด ผมจึงไปเดินชมวิว ชมหลักเขตไทย-ลาวซักหน่อย
เดินเล่นได้ซักพักก็เริ่มเก็บเต็นท์และลงข้างล่างกันและต้องไม่พลาดที่จะถ่ายรูปหมู่กับกลุ่มตัวเองก่อนลง 5555
ผมได้นัดกับพี่เก่งไว้ช่วง 4 โมงเย็น และเมื่อลงมาถึงข้างล่างเราเลยรีบหาของกินเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถไปยังพิษณุโลก โดยพี่เก่งได้เตรียมรถvan ไว้เพื่อส่งเรา ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.กว่าๆ เราก็มาถึงอ.เมือง พิษณุโลก เลยไม่รอช้ารีบหาเช่ามอไซค์ไว้ขี่เที่ยวกันในวันพรุ่งนี้ ส่วนคืนนี้ผมไปเข้าพักกับโรงแรมรัตนา ปาร์ค ที่จองไว้ กับ agoda บรรยากาศดี ราคาเป็นกันเองมากๆคืนละ 240 บาท
29 กรกฎาคม 2562
วันนี้พวกเรามีนัดกับวนธารา รีสอร์ท ก่อน 08:30 น. เพื่อไปล่องแก่งลำน้ำเข็กกัน ด้วยการขี่รถมอไซค์ออกจาก อ.เมือง เข้าสู่ อ.วังทอง เมื่อลงทะเบียนกับทางรีสอร์ทเสร็จ จะมีรถพาเราไปยังจุดเริ่มต้นล่องแก่ง
ก่อนจะทำการล่องแก่งจะมีการอธิบายวิธีการและขั้นตอนต่างๆ เกี่ยวกับการล่องแก่ง ซึ่งล่องแก่งนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ชม. โดยจุดสิ้นสุดจะอยู่ที่ วนธารา รีสอร์ท เอาหล่ะ ไปล่องแก่งกัน
ถึงจุดหมายแล้วจะมีอาหารว่างและมื้อเที่ยงที่ซื้อไว้พร้อมกับแพ็คเกจล่องแก่งนี้ที่รีสอร์ท ช่วยดับหิวได้ดีมาก คุ้มๆครับ ออกจากรีสอร์ท กลับสู่โรงแรมอาบน้ำนอนครับ 5555 (เพลียกันมากๆ) และช่วงเย็นผมได้ออกไปไหว้พระที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุก่อนที่จะกลับกันในวันพรุ่งนี้
30 กรกฎาคม 2562
ในวันนี้เป็นวันกลับ ผมได้จองตั๋วเครื่องบินของ Thai lion air ไว้ในไฟต์ตอน 10:30 น. เพื่อบินกลับมาสนามบินดอนเมือง ไม่รอช้าเก็บกระเป๋าแล้วตรงไปสนามบินกันเลย
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่ารถไฟ (ขาไป) = 178 บาท
ค่าเครื่องบิน(ขากลับ) = 900 บาท/รวมโหลด
ค่าที่พัก 2 คืน 2400/5 = 480 บาท
ค่าเช่ามอไซค์ 1800/5 = 360 บาท
ค่าล่องแก่งลำน้ำเข็ก = 750 บาท/คน
ค่ารถรับ - ส่ง = 500 บาท
รวม 3,168 บาท
ทริปภูสอยดาวหน้าฝน ที่ไม่เจอฝนแต่เจอหมอก 2562