The Girl on The Train สับขาหลอกจนหลงทาง

หนังเรื่อง The Girl on The Train มาจากนวนิยาย เจ้าของคนแต่งคนเดียวกับ Gone Girl ที่หลอนจิตใจผู้ชายมาแล้วหลายคน เล่าเรื่องถึง Rachel (Emily Blunt) สาวขี้เหงาคิดถึงผัวเก่า ที่เลิกรากันไปหลังพบรักใหม่กับ Anna (Rebecca Ferguson) เพราะนาง Anna สามารถมีลูกให้ผัวได้ และมีสาวพี่เลี้ยงชื่อ Emma (Haley Bennett)

หนังเล่าเรื่องถึงสามสาว ที่เกี่ยวข้องกันเป็นลูกโซ่ นาง Rachel หลังเลิกกับผัวเก่า ก็กลายเป็นสาวขี้เมา คอยนั่งรถไฟไปมา โดยไร้จุดหมายและไร้งานทำ ทางที่นั่งรถไฟผ่านทุกวัน ผ่านบ้านของผัวเก่าที่อยู่กับเมียใหม่ กับบ้านของคู่รักอีกคู่ที่เป็นบ้านพี่เลี้ยงสาวคนนั้นกับแฟนนาง นางมองภาพบ้านสองหลังนี้ เป็นเหมือนตัวแทนความเจ็บปวดจากบ้านหลังเก่า และมองเห็นความรักที่บ้านของพี่เลี้ยง เหมือนความรักในฝัน ที่ใครๆอยากมี ตัวแทนของความรักที่สมบูรณ์แบบ ตัวนางเอกเหมือนกับคนดูอย่างเรา เราตัดสินตามทุกสิ่งที่เราเห็นก่อน ก่อนจะตัดสินใจว่าใครทำอะไร

หนังทำได้ดีกับการปูเรื่องราว ว่าใครเป็นอะไร ที่สำคัญที่อยากชมเลยคือ การตัดสลับฉากอดีต กับปัจจุบัน สลับไปมา ไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องสับสน งุนงงแต่อย่างใด มันเหมือนกับว่า เราได้โจทย์จากหนังให้เราทายก่อนให้เราตัดสินก่อน และผู้กำกับทำให้เราเชื่อในสิ่งที่เราเห็นแบบนางเอก ที่เหมือนตัวดำเนินเรื่อง จากนั้นก็ค่อยเฉลยว่า เรื่องมันเป็นยังไง หนังเหมือนบอกถึงสามัญสำนึกมนุษย์เราว่า เราตัดสินคนจากสิ่งที่เห็นก่อนเสมอ แม้เราจะยังไม่รู้ห่าอะไรเลยก็ตาม ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำได้ดีเลย

หนังบอกอะไรเราบ้าง อันนี้คือพยายามมองให้ออกนะ
1 บอกเราว่า การที่เราจมอยู่กับความทุกข์ มีแต่จะทำให้คนอื่น และตัวเองเดือดร้อน
2 การที่เอาแต่ใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ช่วยให้ลืม กลับกัน มันยิ่งทำให้จำและจะไร้สติอย่างสิ้นเชิง
3 อย่าตัดสินเหตุการณ์ต่างๆ เพียงเพราะเราเห็น เพราะความจริงอาจไม่ใช่แค่ที่เราเห็นก็ได้
4 คนนอกใจ และสวมเขาคนรัก ไม่มีวันหยุดพฤติกรรมพวกนี้ได้

บรรยากาศในหนังเข้าขั้นดีเลย ถ่ายทำแค่ไม่ดี่โลเคชั่น แต่สถานที่มันชวนไม่น่าไว้ใจซักอย่าง ดนตรีประกอบก็ชวนลุ้น และน่าหวาดเสียวสุดติ่งพอๆกับ Gone Girl แต่ยังไม่ถึงเรื่องนั่น

หนังดีครับ ถ้าอยากหาหนังให้ปวดสมองเล่นๆ อย่างน้อยการแสดงของ Emily Blunt ก็-ขาดแล้ว