Herzogenaurach เมืองเล็กๆ ในประเทศเยอรมนีที่มีประชากรราว 22,000 คน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Aurach เป็นบ้านเกิดของผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาที่โด่งดังที่สุดในโลกถึง 2 เจ้า ที่เป็นคู่อริกันมาเนิ่นนาน
ความเป็นมาของ Adidas และ Puma นั้นแตกต่างจากการแข่งขันระหว่าง Coca-Cola กับ Pepsi หรือ Apple กับ Microsoft เพราะมันคือการแข่งขันของพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน!!
รองเท้าอาดิดาสและพูม่าในปัจจุบัน ต่างก็ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต
เรื่องราวของ Adidas และ Puma เริ่มต้นในช่วงปี 1920 เมื่อสองพี่น้อง อะดอล์ฟ (อาดี้) – Adolf (Adi) และ รูดอร์ฟ (รูดี้) – Rudolph (Rudi) สองพี่น้องตระกูลดาสเลอร์ – Dassler ก่อตั้งบริษัท Dassler Brothers Sports Shoe Company
ต่อมาพวกเขาขัดแย้งกันจนต้องแยกทาง ต่างคนต่างดำเนินกิจการของตัวเอง มีเรื่องเล่าหลายรูปแบบเกี่ยวกับสาเหตุของการแตกหัก หลายคนกล่าวว่าพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน เพราะ Rudi แอบมีความสัมพันธ์กับภรรยาของ Adi
บางคนเล่าว่าครั้งที่ Rudi ต้องไปรับใช้ชาติในกองทัพระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาคิดว่า Adi และภรรยารวมหัวกันวางแผนหักหลังเขา เพราะหลังจาก Adi และภรรยากลับมาจากสงคราม Rudi และภรรยาของเขาเข้าครอบครองกิจการทั้งหมด แถมยังกล่าวกับ Adi ว่า “เจ้าเวรสกปรกนี่กลับมาแล้ว” เชื่อว่า Rudi หมายถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด แต่ Adi กลับคิดว่าน้องชายหมายถึงเขาและครอบครัว
ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพวกเขาแยกทางกัน ต่างคนต่างก่อตั้งกิจการของตัวเองอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Aurach
Adi ตั้งชื่อบริษัทว่า Adidas จากชื่อของเขาเอง
ส่วน Rudi ตั้งชื่อว่า Ruda ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น Puma
กิจการของทั้งคู่เติบใหญ่จนโด่งดังไปทั่วเมืองและมีผู้คนมากมายสมัครเข้าทำงาน แต่ความขัดแย้งยังคงดำเนินไปและส่งผลไปถึงพนักงานของทั้งสองฝ่าย
พนักงานพูมาจะไม่พูดคุยกับพนักงานของอดิดาส และถ้าครอบครัวของคุณทำงานในอดิดาส คุณจะต้องไม่แต่งงานกับครอบครัวที่ทำงานในพูมา ร้านค้าในชุมชนบางร้านสนับสนุนแต่พูมา และบางร้านก็สนับสนุนแต่อดิดาสเท่านั้น
การสนับสนุนทีมกีฬาคืออีกหนึ่งสังเวียนในการแข่งขันเพื่อให้ชาวโลกจดจำแบรนด์
Klaus-Peter Gabelein เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้ข้อมูลกับ The Guardian ว่า “แม้แต่ความเชื่อทางศาสนาและการเมืองก็ถูกแบ่งแยก พูมานับถือนิกายคาทอลิกและสนับสนุนฝ่ายอนุรักษ์นิยม อดิดาสนับถือโปรเตสแตนท์และสนับสนุนฝ่ายสังคมนิยมประชาธิปไตย”
อย่างไรก็ตามความแค้นเคืองเป็นแรงผลักดันทำให้ทั้งสองบริษัทมุ่งหน้าพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกพร้อมๆ กัน
พี่น้อง Dassler เสียชีวิตลงไล่เลี่ยกันในช่วงปี 1970 ร่างของพวกเขาถูกฝังในสุสานเดียวกัน แต่เรื่องราวทั้งหมดยังไม่จบสิ้นลงเพราะมีข่าวลือเกี่ยวกับพี่น้อง Dassler ว่าพวกเขาแอบนัดพบกันก่อนเสียชีวิต โดยเก็บไว้เป็นความลับเพราะเชื่อว่าจะส่งผลเสียต่อธุรกิจ
Rudi (ซ้าย) Adi (ขวา) และ H Waitzer รัฐมนตรีกระทรวงกีฬา ปี 1930
ส่วนความขัดแย้งระหว่างทั้งสองบริษัทยังคงดำเนินไป จนกระทั่งมีการแข่งขันฟุตบอลเพื่อเยียวยาความบาดหมางในปี 2009 ระหว่างพนักงานของทั้งสองบริษัท
“Peace One Day” พักรบสงบศึกกันหนึ่งวัน
ซีอีโอของทั้งสองบริษัทพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง
เรื่องราวความแค้นของสองพี่น้องดาสเลอร์ได้กลายเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ของชาวเยอรมัน สองพี่น้องที่แข่งขันกันเองด้วยธุรกิจจนกระทั่งทำให้คนทั้งโลกได้เห็น “อาดิดาส” และ “พูม่า”
ที่มา: news.com.au, ภาพจาก: TheGuardian
บทความจาก meekhao.com/news/adidas-vs-puma
ตำนานความขัดแย้งของ Adidas vs Puma บริษัทยักษ์ใหญ่จากพี่น้องตระกูลเดียวกัน!!
ความเป็นมาของ Adidas และ Puma นั้นแตกต่างจากการแข่งขันระหว่าง Coca-Cola กับ Pepsi หรือ Apple กับ Microsoft เพราะมันคือการแข่งขันของพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน!!
รองเท้าอาดิดาสและพูม่าในปัจจุบัน ต่างก็ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต
เรื่องราวของ Adidas และ Puma เริ่มต้นในช่วงปี 1920 เมื่อสองพี่น้อง อะดอล์ฟ (อาดี้) – Adolf (Adi) และ รูดอร์ฟ (รูดี้) – Rudolph (Rudi) สองพี่น้องตระกูลดาสเลอร์ – Dassler ก่อตั้งบริษัท Dassler Brothers Sports Shoe Company
ต่อมาพวกเขาขัดแย้งกันจนต้องแยกทาง ต่างคนต่างดำเนินกิจการของตัวเอง มีเรื่องเล่าหลายรูปแบบเกี่ยวกับสาเหตุของการแตกหัก หลายคนกล่าวว่าพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน เพราะ Rudi แอบมีความสัมพันธ์กับภรรยาของ Adi
บางคนเล่าว่าครั้งที่ Rudi ต้องไปรับใช้ชาติในกองทัพระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาคิดว่า Adi และภรรยารวมหัวกันวางแผนหักหลังเขา เพราะหลังจาก Adi และภรรยากลับมาจากสงคราม Rudi และภรรยาของเขาเข้าครอบครองกิจการทั้งหมด แถมยังกล่าวกับ Adi ว่า “เจ้าเวรสกปรกนี่กลับมาแล้ว” เชื่อว่า Rudi หมายถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด แต่ Adi กลับคิดว่าน้องชายหมายถึงเขาและครอบครัว
ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพวกเขาแยกทางกัน ต่างคนต่างก่อตั้งกิจการของตัวเองอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Aurach
Adi ตั้งชื่อบริษัทว่า Adidas จากชื่อของเขาเอง
ส่วน Rudi ตั้งชื่อว่า Ruda ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น Puma
กิจการของทั้งคู่เติบใหญ่จนโด่งดังไปทั่วเมืองและมีผู้คนมากมายสมัครเข้าทำงาน แต่ความขัดแย้งยังคงดำเนินไปและส่งผลไปถึงพนักงานของทั้งสองฝ่าย
พนักงานพูมาจะไม่พูดคุยกับพนักงานของอดิดาส และถ้าครอบครัวของคุณทำงานในอดิดาส คุณจะต้องไม่แต่งงานกับครอบครัวที่ทำงานในพูมา ร้านค้าในชุมชนบางร้านสนับสนุนแต่พูมา และบางร้านก็สนับสนุนแต่อดิดาสเท่านั้น
การสนับสนุนทีมกีฬาคืออีกหนึ่งสังเวียนในการแข่งขันเพื่อให้ชาวโลกจดจำแบรนด์
Klaus-Peter Gabelein เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้ข้อมูลกับ The Guardian ว่า “แม้แต่ความเชื่อทางศาสนาและการเมืองก็ถูกแบ่งแยก พูมานับถือนิกายคาทอลิกและสนับสนุนฝ่ายอนุรักษ์นิยม อดิดาสนับถือโปรเตสแตนท์และสนับสนุนฝ่ายสังคมนิยมประชาธิปไตย”
อย่างไรก็ตามความแค้นเคืองเป็นแรงผลักดันทำให้ทั้งสองบริษัทมุ่งหน้าพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกพร้อมๆ กัน
พี่น้อง Dassler เสียชีวิตลงไล่เลี่ยกันในช่วงปี 1970 ร่างของพวกเขาถูกฝังในสุสานเดียวกัน แต่เรื่องราวทั้งหมดยังไม่จบสิ้นลงเพราะมีข่าวลือเกี่ยวกับพี่น้อง Dassler ว่าพวกเขาแอบนัดพบกันก่อนเสียชีวิต โดยเก็บไว้เป็นความลับเพราะเชื่อว่าจะส่งผลเสียต่อธุรกิจ
Rudi (ซ้าย) Adi (ขวา) และ H Waitzer รัฐมนตรีกระทรวงกีฬา ปี 1930
ส่วนความขัดแย้งระหว่างทั้งสองบริษัทยังคงดำเนินไป จนกระทั่งมีการแข่งขันฟุตบอลเพื่อเยียวยาความบาดหมางในปี 2009 ระหว่างพนักงานของทั้งสองบริษัท
“Peace One Day” พักรบสงบศึกกันหนึ่งวัน
ซีอีโอของทั้งสองบริษัทพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง
เรื่องราวความแค้นของสองพี่น้องดาสเลอร์ได้กลายเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ของชาวเยอรมัน สองพี่น้องที่แข่งขันกันเองด้วยธุรกิจจนกระทั่งทำให้คนทั้งโลกได้เห็น “อาดิดาส” และ “พูม่า”
ที่มา: news.com.au, ภาพจาก: TheGuardian
บทความจาก meekhao.com/news/adidas-vs-puma