หมดกังวลสำหรับพ่อแม่ที่ไม่กล้าปล่อยให้ลูกออกไปเรียนรู้นอกบ้าน ด้วยเครื่องมือที่จะช่วยติดตามดูแลลูกรักของคุณได้อย่างใกล้ชิด
มาพร้อมกับการคุ้มครองความปลอดภัยของเด็กเต็มรูปแบบกับ ประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัวรายแรกของไทย
สถิติจากศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงาในปี 2558 ที่ผ่านมา พบว่ามีเด็กหายถึง 592 คนทั่วประเทศ โดยเป็นเด็กหญิง 437 คน และ
เด็กชาย 155 คน และมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี ข่าวเด็กหายตามสื่อต่างๆ คงจะสร้างความหวั่นใจให้กับคนเป็นพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ไม่มากก็น้อยใช่ไหมครับ ทั้งสาเหตุจากการพลัดหลงกับผู้ปกครองในที่ชุมชนเช่น ห้างสรรพสินค้า การถูกชักชวนหรือล่อลวงตามสถานที่ต่างๆ หรือจากโซเชียลเน็ตเวิร์กทำให้เด็กถูกชักจูงไปกับคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ และสาเหตุที่รุนแรงที่สุดคือการถูกลักพาตัว ซึ่งจากสถิติแล้วอายุเฉลี่ยของเด็กที่ถูกลักพาตัวอยู่ที่ 4 ขวบเท่านั้นเองครับ การปล่อยให้เด็กคลาดสายตาเพียงเสี้ยววินาทีเดียว อาจทำให้เกิดภัยร้ายตามมาอย่าคาดไม่ถึง สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ของบรรดา พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ทำให้ไม่กล้าปล่อยเด็กๆ ออกไปพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ข้างนอก เพราะเมื่อเด็กหายแล้วยากที่จะติดตาม โดยหารู้ไม่ว่าความกลัวนี้ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กทั้งในด้านสมอง ร่างกาย และการเข้าสังคม
แล้วพ่อแม่อย่างเราควรจะทำอย่างไรดีล่ะ?
ทางทีมงาน ppantip.com ได้ทราบมาว่ามีเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นั่นก็คือ
นาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหาย ซึ่งปัจจุบัน
นี้มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ และหนึ่งในผู้นำด้านนี้ซึ่งนำเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเชื่อมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ สำหรับครอบครัว
คือบริษัทโพโมะเฮ้าส์ โดยจุดเริ่มต้นของ
POMO KidsWatch นั้นน่าสนใจครับ เพราะมาจากประสบการณ์จริงของทางผู้บริหารที่เกือบ
จะต้องพลัดหลงกับลูกสาวในขณะเดินทางท่องเที่ยว หลังจากนั้นจึงได้มีการรวบรวมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านซอฟท์แวร์สำหรับ
กลุ่มเด็กและครอบครัวโดยเฉพาะ ช่วยกันคิดค้นผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมาและเริ่มวางขายในปี 2558 โดยขณะนี้มีให้เลือกหลายรุ่น เพื่อให้ตรง
กับช่วงวัยของเด็ก และตรงความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด
ทางทีมงานเองก็ได้มีโอกาสทดลองใช้นาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหายของบริษัทโพโมะเฮ้าส์นี้ด้วยเช่นกันครับ ซึ่งตัวที่เราหยิบ
มาใส่ทดลองนั้นจะเป็นรุ่น
POMO R2 ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ IP65 จอสีสัมผัส และเป็นโทรศัพท์ได้ในตัว, มี GPS tracker ให้สามารถ
ระบุตำแหน่งของเด็กที่สวมใส่ ผ่านการแสดงตำแหน่งด้วยระบบ Wi-FI/GPS/LBS ได้ตลอดเวลา จึงทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าเด็กๆ นั้น
อยู่ในบริเวณไหนได้ทันท่วงที
รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น “H-S Reminder” ที่คอยแจ้งเตือนเวลาเด็กๆ กลับถึงบ้าน
หรืออยู่ในโรงเรียน โดยตัวเรือนมีแบตเตอรี่มีความจุมากถึง 450mAH แสตนด์บายได้สูงสุดมากกว่า 72 ชั่วโมง
หลังจากลองทำการทดสอบใช้งานแล้วพบว่า GPS ให้ความแม่นยำได้ดี (คล้าย GPS บนมือถือ)
และเมื่อทำการตั้งค่าพื้นที่ความปลอดภัย แล้วลองให้เด็กที่สวมใส่ออกไปนอกพื้นที่ที่กำหนด
ก็มีการแจ้งเตือนมายังสมาร์ทโฟนของผู้ปกครองรวดเร็วมาก เพียงแค่เด็กเดินพ้นไปไม่ถึง 10 ก้าวเท่านั้นเองครับ
มาดูที่คุณสมบัติอื่นๆ กันบ้าง ในส่วนของตัวเรือนนั้นผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยกับผิวหนังของเด็กและสิ่งแวดล้อม, หน้าจอสี มาพร้อมระบบ Touch Screen, มีคุณสมบัติกันน้ำ (IP65) นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น การโทรหาเพื่อนสนิท, ระบบสั่นเตือนที่จะไม่รบกวนในชั้นเรียน, นับก้าวพร้อมแจ้งแคลอรี่เบิร์น เป็นต้น
POMO R2 เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4-12 ขวบ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ ที่ชอบทำกิจกรรมแบบ Outdoor และที่สำคัญหากซื้อตอนนี้จะได้รับ
“ประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัว” ภายใต้แคมเปญ
“ฟอลคอนประกันภัย…โพโมะแคร์” จากบริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปฟรีๆ อีกด้วยครับ ทั้งหมดนี้ในราคา 4,990 บาท
สำหรับการ
ประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัว ภายใต้แคมเปญ “ฟอลคอนประกันภัย…โพะโมะแคร์” ของบริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) นั้น ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวครับ ถือเป็นการประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัวครั้งแรกในประเทศไทย และความคุ้มครองนี้ประยุกต์มาให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์นาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหาย ซึ่งนับว่าตอบโจทย์ความต้องการของพ่อแม่ยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยจะรับประกันในกรณีเด็กหายจากการถูกลักพาตัว ให้ความคุ้มครองรวมสูงสุดถึง 250,000 บาท ในระยะเวลา 1 ปี โดยให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายกรณีถูกลักพาตัว ตามค่าใช้จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และประกันอุบัติเหตุ 50,000 บาท
สำหรับลูกค้าที่ซื้อ POMO R2 ไปก่อนหน้านี้แล้ว หรือซื้อนาฬิการุ่นอื่นของทาง POMO ก็ไม่ต้องน้อยใจไปครับ สำหรับ Pomo รุ่นอื่นสามารถรับสิทธิ์เพิ่มเติมได้ในราคาเพียง 59 บาทต่อเดือนจากบริการ POMO CARE ประกอบด้วย ประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัว คูปองส่วนลดมูลค่า 1,000 บาท ประกันเครื่องตกน้ำ และยังได้เครื่องสำรองระหว่างซ่อมอีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.pomohouse.com/th/pomo-care
และนอกจากรุ่น POMO R2 แล้ว ทางบริษัทโพโมะเฮ้าส์ยังมีนาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหายอีก 2 รุ่น ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กันครับ
POMO KIDS MOJI รุ่นนี้จะเน้นไปที่ฟังก์ชั่น “Best Friend Forever” ให้เด็กๆ สามารถเพิ่มเพื่อนสนิทได้ง่ายๆ และยังทำให้โทรหากันระหว่างเพื่อนสนิทได้ โดยอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ นอกจากนั้นยังเพิ่มความแม่นยำในการระบุสถานที่ด้วย 3 เทคโนโลยีที่ดีที่สุดผ่าน Wi-Fi, GPS และ A-GPS, เสริมด้วยฟังก์ชั่น “In-Class Mode” ที่ทำให้ผู้ปกครองไม่รบกวนช่วงเวลาเรียนของเด็กๆ เพื่อให้เด็กได้มีสมาธิกับการเรียนอย่างเต็มที่, ฟังก์ชั่น “Journey History” ที่คอยแจ้งข้อมูลตำแหน่งย้อนหลัง เพื่อให้ผู้ปกครองได้ตรวจสอบว่าเด็กๆ ไปที่ไหนมาบ้างในช่วงเวลาที่ไม่อยู่ในสายตาของผู้ปกครอง สำหรับรุ่นนี้ราคา 3,990 บาท
รุ่นสุดท้ายคือ
POMO KIDS RAINBOW รุ่นนี้จะเหมาะสำหรับเด็กอายุประมาณ 3-7 ขวบ เน้นการใช้งานง่าย มีระบบ GPS ทำให้สามารถกำหนดพื้นที่ปลอดภัยของเด็กได้, มีรายงานอุบัติเหตุได้ทันท่วงที นอกจากนั้นยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับเมื่อนาฬิกาหลุดจากข้อมือของเด็กๆ และแจ้งเตือนเมื่อเด็กออกห่างจากระยะบลูทูธ แถมยังมีฟังก์ชั่นกันยุงอีกด้วย รุ่นนี้ราคาอยู่ที่ 3,490 บาท
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับความพิเศษของนาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหาย ซึ่งมาพร้อมกับประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัวรายแรกของไทย นับเป็นตัวช่วยที่ทำให้พ่อแม่กล้าและมั่นใจมากขึ้นที่จะปล่อยให้เด็กๆ ได้ออกไปเรียนรู้โลกกว้างได้อย่างอุ่นใจ และอยู่บนความปลอดภัยของเด็กเป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีเครื่องมือพิเศษที่ดีขนาดไหน เพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่อาจจะเกิดขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็ไม่ควรประมาท จนปล่อยเด็กไว้ในที่สาธารณะหรือในที่เปลี่ยวเพียงลำพัง รวมถึงควรจะสอนเด็กไม่ให้พูดคุย รับของจากคนแปลกหน้า และสอนให้จดจำชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครองไว้ด้วยนะครับ “กันไว้ดีกว่าแก้” ต้องบอกว่าสำนวนนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ เพื่อบุตรหลานที่รักของเรา
สำหรับผู้ที่สนใจ POMO Kids รุ่นต่างๆ ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.pomohouse.com, Call-Center: 02-105-4274, Facebook: POMO House และ Official Line: @Pomo_House หรือหากต้องการสอบถามเกี่ยวกับความคุ้มครองประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัวสามารถติดต่อ บมจ. ฟอลคอนประกันภัย โทร. 02 676 9999, เว็บไซต์:
http://www.falconinsurance.co.th, Facebook: บมจ. ฟอลคอนประกันภัย หรืออีเมล: fcicustomerservice@falconinsurance.co.th ได้ครับ
[Advertorial]
ป้องกันเด็กหายด้วยวิธีไหนดี ?
หมดกังวลสำหรับพ่อแม่ที่ไม่กล้าปล่อยให้ลูกออกไปเรียนรู้นอกบ้าน ด้วยเครื่องมือที่จะช่วยติดตามดูแลลูกรักของคุณได้อย่างใกล้ชิด
มาพร้อมกับการคุ้มครองความปลอดภัยของเด็กเต็มรูปแบบกับ ประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัวรายแรกของไทย
สถิติจากศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงาในปี 2558 ที่ผ่านมา พบว่ามีเด็กหายถึง 592 คนทั่วประเทศ โดยเป็นเด็กหญิง 437 คน และ
เด็กชาย 155 คน และมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี ข่าวเด็กหายตามสื่อต่างๆ คงจะสร้างความหวั่นใจให้กับคนเป็นพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ไม่มากก็น้อยใช่ไหมครับ ทั้งสาเหตุจากการพลัดหลงกับผู้ปกครองในที่ชุมชนเช่น ห้างสรรพสินค้า การถูกชักชวนหรือล่อลวงตามสถานที่ต่างๆ หรือจากโซเชียลเน็ตเวิร์กทำให้เด็กถูกชักจูงไปกับคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ และสาเหตุที่รุนแรงที่สุดคือการถูกลักพาตัว ซึ่งจากสถิติแล้วอายุเฉลี่ยของเด็กที่ถูกลักพาตัวอยู่ที่ 4 ขวบเท่านั้นเองครับ การปล่อยให้เด็กคลาดสายตาเพียงเสี้ยววินาทีเดียว อาจทำให้เกิดภัยร้ายตามมาอย่าคาดไม่ถึง สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ของบรรดา พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ทำให้ไม่กล้าปล่อยเด็กๆ ออกไปพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ข้างนอก เพราะเมื่อเด็กหายแล้วยากที่จะติดตาม โดยหารู้ไม่ว่าความกลัวนี้ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กทั้งในด้านสมอง ร่างกาย และการเข้าสังคม
ทางทีมงาน ppantip.com ได้ทราบมาว่ามีเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นั่นก็คือ นาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหาย ซึ่งปัจจุบัน
นี้มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ และหนึ่งในผู้นำด้านนี้ซึ่งนำเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเชื่อมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ สำหรับครอบครัว
คือบริษัทโพโมะเฮ้าส์ โดยจุดเริ่มต้นของ POMO KidsWatch นั้นน่าสนใจครับ เพราะมาจากประสบการณ์จริงของทางผู้บริหารที่เกือบ
จะต้องพลัดหลงกับลูกสาวในขณะเดินทางท่องเที่ยว หลังจากนั้นจึงได้มีการรวบรวมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านซอฟท์แวร์สำหรับ
กลุ่มเด็กและครอบครัวโดยเฉพาะ ช่วยกันคิดค้นผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมาและเริ่มวางขายในปี 2558 โดยขณะนี้มีให้เลือกหลายรุ่น เพื่อให้ตรง
กับช่วงวัยของเด็ก และตรงความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด
ทางทีมงานเองก็ได้มีโอกาสทดลองใช้นาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหายของบริษัทโพโมะเฮ้าส์นี้ด้วยเช่นกันครับ ซึ่งตัวที่เราหยิบ
มาใส่ทดลองนั้นจะเป็นรุ่น POMO R2 ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ IP65 จอสีสัมผัส และเป็นโทรศัพท์ได้ในตัว, มี GPS tracker ให้สามารถ
ระบุตำแหน่งของเด็กที่สวมใส่ ผ่านการแสดงตำแหน่งด้วยระบบ Wi-FI/GPS/LBS ได้ตลอดเวลา จึงทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าเด็กๆ นั้น
อยู่ในบริเวณไหนได้ทันท่วงที
หรืออยู่ในโรงเรียน โดยตัวเรือนมีแบตเตอรี่มีความจุมากถึง 450mAH แสตนด์บายได้สูงสุดมากกว่า 72 ชั่วโมง
และเมื่อทำการตั้งค่าพื้นที่ความปลอดภัย แล้วลองให้เด็กที่สวมใส่ออกไปนอกพื้นที่ที่กำหนด
ก็มีการแจ้งเตือนมายังสมาร์ทโฟนของผู้ปกครองรวดเร็วมาก เพียงแค่เด็กเดินพ้นไปไม่ถึง 10 ก้าวเท่านั้นเองครับ
มาดูที่คุณสมบัติอื่นๆ กันบ้าง ในส่วนของตัวเรือนนั้นผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยกับผิวหนังของเด็กและสิ่งแวดล้อม, หน้าจอสี มาพร้อมระบบ Touch Screen, มีคุณสมบัติกันน้ำ (IP65) นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น การโทรหาเพื่อนสนิท, ระบบสั่นเตือนที่จะไม่รบกวนในชั้นเรียน, นับก้าวพร้อมแจ้งแคลอรี่เบิร์น เป็นต้น
POMO R2 เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4-12 ขวบ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ ที่ชอบทำกิจกรรมแบบ Outdoor และที่สำคัญหากซื้อตอนนี้จะได้รับ “ประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัว” ภายใต้แคมเปญ “ฟอลคอนประกันภัย…โพโมะแคร์” จากบริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปฟรีๆ อีกด้วยครับ ทั้งหมดนี้ในราคา 4,990 บาท
สำหรับการ ประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัว ภายใต้แคมเปญ “ฟอลคอนประกันภัย…โพะโมะแคร์” ของบริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) นั้น ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวครับ ถือเป็นการประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัวครั้งแรกในประเทศไทย และความคุ้มครองนี้ประยุกต์มาให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์นาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหาย ซึ่งนับว่าตอบโจทย์ความต้องการของพ่อแม่ยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยจะรับประกันในกรณีเด็กหายจากการถูกลักพาตัว ให้ความคุ้มครองรวมสูงสุดถึง 250,000 บาท ในระยะเวลา 1 ปี โดยให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายกรณีถูกลักพาตัว ตามค่าใช้จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และประกันอุบัติเหตุ 50,000 บาท
สำหรับลูกค้าที่ซื้อ POMO R2 ไปก่อนหน้านี้แล้ว หรือซื้อนาฬิการุ่นอื่นของทาง POMO ก็ไม่ต้องน้อยใจไปครับ สำหรับ Pomo รุ่นอื่นสามารถรับสิทธิ์เพิ่มเติมได้ในราคาเพียง 59 บาทต่อเดือนจากบริการ POMO CARE ประกอบด้วย ประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัว คูปองส่วนลดมูลค่า 1,000 บาท ประกันเครื่องตกน้ำ และยังได้เครื่องสำรองระหว่างซ่อมอีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pomohouse.com/th/pomo-care
และนอกจากรุ่น POMO R2 แล้ว ทางบริษัทโพโมะเฮ้าส์ยังมีนาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหายอีก 2 รุ่น ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กันครับ POMO KIDS MOJI รุ่นนี้จะเน้นไปที่ฟังก์ชั่น “Best Friend Forever” ให้เด็กๆ สามารถเพิ่มเพื่อนสนิทได้ง่ายๆ และยังทำให้โทรหากันระหว่างเพื่อนสนิทได้ โดยอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ นอกจากนั้นยังเพิ่มความแม่นยำในการระบุสถานที่ด้วย 3 เทคโนโลยีที่ดีที่สุดผ่าน Wi-Fi, GPS และ A-GPS, เสริมด้วยฟังก์ชั่น “In-Class Mode” ที่ทำให้ผู้ปกครองไม่รบกวนช่วงเวลาเรียนของเด็กๆ เพื่อให้เด็กได้มีสมาธิกับการเรียนอย่างเต็มที่, ฟังก์ชั่น “Journey History” ที่คอยแจ้งข้อมูลตำแหน่งย้อนหลัง เพื่อให้ผู้ปกครองได้ตรวจสอบว่าเด็กๆ ไปที่ไหนมาบ้างในช่วงเวลาที่ไม่อยู่ในสายตาของผู้ปกครอง สำหรับรุ่นนี้ราคา 3,990 บาท
รุ่นสุดท้ายคือ POMO KIDS RAINBOW รุ่นนี้จะเหมาะสำหรับเด็กอายุประมาณ 3-7 ขวบ เน้นการใช้งานง่าย มีระบบ GPS ทำให้สามารถกำหนดพื้นที่ปลอดภัยของเด็กได้, มีรายงานอุบัติเหตุได้ทันท่วงที นอกจากนั้นยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับเมื่อนาฬิกาหลุดจากข้อมือของเด็กๆ และแจ้งเตือนเมื่อเด็กออกห่างจากระยะบลูทูธ แถมยังมีฟังก์ชั่นกันยุงอีกด้วย รุ่นนี้ราคาอยู่ที่ 3,490 บาท
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับความพิเศษของนาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหาย ซึ่งมาพร้อมกับประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัวรายแรกของไทย นับเป็นตัวช่วยที่ทำให้พ่อแม่กล้าและมั่นใจมากขึ้นที่จะปล่อยให้เด็กๆ ได้ออกไปเรียนรู้โลกกว้างได้อย่างอุ่นใจ และอยู่บนความปลอดภัยของเด็กเป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีเครื่องมือพิเศษที่ดีขนาดไหน เพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่อาจจะเกิดขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็ไม่ควรประมาท จนปล่อยเด็กไว้ในที่สาธารณะหรือในที่เปลี่ยวเพียงลำพัง รวมถึงควรจะสอนเด็กไม่ให้พูดคุย รับของจากคนแปลกหน้า และสอนให้จดจำชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครองไว้ด้วยนะครับ “กันไว้ดีกว่าแก้” ต้องบอกว่าสำนวนนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ เพื่อบุตรหลานที่รักของเรา
สำหรับผู้ที่สนใจ POMO Kids รุ่นต่างๆ ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pomohouse.com, Call-Center: 02-105-4274, Facebook: POMO House และ Official Line: @Pomo_House หรือหากต้องการสอบถามเกี่ยวกับความคุ้มครองประกันเด็กหายจากการถูกลักพาตัวสามารถติดต่อ บมจ. ฟอลคอนประกันภัย โทร. 02 676 9999, เว็บไซต์: http://www.falconinsurance.co.th, Facebook: บมจ. ฟอลคอนประกันภัย หรืออีเมล: fcicustomerservice@falconinsurance.co.th ได้ครับ
[Advertorial]