----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เส้นทาง : กรุงเทพฯ-หัวหิน-ประจวบฯ-บางสะพาน-ชุมพร-เกาะเต่า-เกาะพงัน-กระบี่-อ่าวนาง-ตรัง-หาดใหญ่-ปีนัง-มะละกา-กัวลาลัมเปอร์-ปุตราจายา
นี่เป็นการท่องเที่ยวแบ็คแพ็คที่รีดงบสุดๆ แบบทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เริ่มจาก..ล่องลงภาคใต้ พอรู้ตัวอีกทีก็ไปไกลถึง มะละกา ประเทศมาเลเซีย นับเวลาตั้งแต่กระโดดขึ้นรถไฟฟรีที่หัวลำโพง จนกลับถึงกรุงเทพฯอีกครั้ง รวมเวลา 26 วัน ที่ได้เจอะเจอหลากบรรยากาศหลายรสชาติ จนไม่อยากจะเม้าท์ว่า.. ได้เที่ยวทะเลทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ขึ้นเขาช่องกระจก..ดูวิวหลักล้านของอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ไหว้พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศที่บ้านกรูด กรี๊ดสลบกับภาพชายฝั่งทะเลตัดกับหน้าผาสีแดงที่ฝั่งแดง(บางสะพาน) ดำน้ำที่เกาะเต่า ขี่มอเตอร์ไซค์แว้นบนเกาะพงัน ซิ่งสปีดโบ๊ตไปเที่ยวหมู่เกาะพีพีที่กระบี่ อินกับภาพอาทิตย์ตกที่อ่าวนาง ลั้ลลา..ลอดถ้ำมรกตที่ทะเลตรัง ชิมอาหารพื้นเมืองและชิคๆคูลๆดูงาน Street Art ที่ปีนัง ชมเมืองมรดกโลกที่มะละกา..เมืองอะไรไม่รู้น่ารักเว่อร์ ย้อนกลับมาขึ้นถ้ำบาตูที่กัวลาลัมเปอร์ ร้องว้าวๆๆกับตึกแฝดปิโตรนาสในช่วงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตื่นตากับความเว่อร์วังของมัสยิดสีชมพูประจำเมืองปุตราจายา และอีกหลากหลายรสชาติมากมายให้ฟินเฟร่อกันไปเลย
ยังอยู่ที่ปีนัง วันนี้ออกมาเดินสำรวจเมือง George Town ดูสถาปัตยกรรม street art และ landmarks ของเมืองนี้
เส้นทางเดินเที่ยว
4 พฤษภาคม 2559
7.00 น.
เริ่มออกเที่ยวตั่งแต่เช้าตรู่ วันนี้กะไปกิน Roti Canai เจ้าดังเป็นมื้อเช้า ที่จริงโฮสเทลมีมื้อเช้าให้พวกขนมปังปิ้งกับกาแฟ แต่เกาะปีนังเค้าโปรโมทว่าเป็นสวรรค์ของนักชิม ..อาหารเช้าของที่พักเลยขอผ่าน แต่อดกินอ่ะ เพราะไปถึงแล้ว..อ้าว มันอยู่ไหน สรุปไปผิดที่คับ เข้าใจว่ามันอยู่บนถนน Penang แต่จริงๆต้องเดินต่อไปอีกบล็อก เพราะมันอยู่ถนน Transfer ..จำผิดครับ ช่างมันไม่กินล่ะ เดินเที่ยวกันเลย
George Town เป็นเมืองหลวงของรัฐปีนัง จริงๆรัฐนี้ก็มีพื้นที่นิดเดียวคือเกาะปีนังและพิ้นที่บนฝั่งทวีปอีกนิดหน่อย ปีนังเป็นเมืองสำคัญทางการค้า เมื่อก่อนเคยเป็นพื้นที่ๆอยู่ในอาณัติของไทยมาตั่งแต่ก่อนสมัยรัชกาลที่ห้า แต่ตอนหลังต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลของอังกฤษ ทำให้ประวัติของปีนังเองเกี่ยวข้องกับคนไทยไม่น้อย ตระกูล ณ ระนอง ของไทยยังเคยบริจาคที่ดินทำสวนสาธารณะ พระยาภูมินารถภักดี เจ้าเมืองสตูลข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ยังมีบ้านพักที่ถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีไว้โดยทายาทในเมืองนี้ และยังมีอีกหลายคนที่ทำการค้าและเกี่ยวพันกับที่นี่ วัฒนธรรมของเกาะแห่งนี้รวมถึงเมืองเก่าอีกหลายที่ในมาเลเซีย เช่น มะละกา เลยมีลักษณะคล้ายภาคใต้ของไทย โดยเฉพาะวัฒนธรรมแบบ Peranakan
ออกเที่ยวตั่งแต่ฟ้าเพิ่งเริ่มสว่าง เดินไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็ชมเมืองไปพลางๆ
จุดหมาย #01 - เริ่มเดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามโฮสเทล เลี้ยวขวาผ่านแผงขายพวงมาลัยจะมีซอย Stewart ด้านซ้ายเดินตรงไปตามซอยเรื่อยๆผ่านซักสองแยก คอยสังเกตุแยกด้านซ้าย จะเจอกับ Street art รูปคนถ่อเรือ
จุดหมาย #02 - จากนั้นเดินตรงขึ้นไปเรื่อยๆจะเจอกับ Camera Museum ด้านข้างของพิพิธภัณฑ์ จะเป็น Street art รูปเด็กผู้หญิงดันตัวขึ้นจากหน้าต่าง
จุดหมาย #03 - ตรงต่อไปเรื่อยๆจนเจอถนน Penang ให้เลี้ยวขวา ตึกข้างๆลานจอดรถใหญ่ตรงข้าม Rima College จะมี Street Art ชิ้นใหญ่รูปคนนั่งพักบนรถสามล้อแบบมาเลย์
จุดหมาย #04 - เดินตรงไปทางถนน Sultan Almad Shah มุมถนนฝั่งตรงข้ามของ Street art เมื่อซักครู่ จะเป็นบ้านพักของ Ku Din Ku Meh หรือมีราชทินนามตามราชสำนักสยามว่า พระยาภูมินารถภักดี
จุดหมาย #05 - ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามแล้วเดินต่อมาตามถนน Sultan Almad Shah ผ่านแยกที่เดินมาไปอีกแยกทางขวาเดินเข้าไปซักยี่สิบเมตร จะเป็น Blue Mansion บ้านโบราณแบบ Peranakan คือเป็นบ้านใหญ่แบบเศรษฐีชาวจีนที่เราเห็นตามภูเก็ตนั่นเอง เป็นบ้านเก่าที่เค้าอนุรักษณ์ไว้ แต่โดนพี่ยามไล่เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิด ..อ่ะ ไม่ดูก็ได้จ้า
จุดหมาย #06 - กลับออกมาเดินต่อตามถนน Sultan Almad Shah เหมือนเดิม อีกแยกจะเป็นที่ตั่งของ Church of the Assumsion
ติดๆกันเป็น Penang Museum นี่ก็ยังไม่เปิดเหมือนกัน ..ท่าทางจะออกมาเที่ยวเช้าไปหน่อย
จุดหมาย #07 - ถัดมาติดๆ คือ St. Georges' Anglican Church อันนี้สวยงามคนชอบมาถ่ายรูปกัน
จุดหมาย #08 และ #9 - ฝั่งตรงข้าม St. Georges' ไปทางทะเลถัดไปอีกบล็อคนึง ไม่ห่างจากทะเล จะเป็น ทาวน์ฮอลล์ และ ซิตี้ฮออล์ ตามลำดับ
สามล้อแบบมาเลย์
จุดหมาย #10 - ตรงตามถนนต่อไปอีก ติดกับทะเลเป็น War Monument
เดินเลียบฝั่งทะเลไปทางขวา
จุดหมาย #11 - ไปทางขวา จะเป็นป้อมปืนใหญ่เก่า Cornwallis
จุดหมาย #12 - ไปตามทางเรื่อยๆมองทะลุพื้นที่ว่างด้านตะวันออกของป้อม Cornwallis ออกไป จะมองเห็นท่าเรือ Swettenham ที่ใช้จอดเรือโดยสารขนาดใหญ่
จุดหมาย #13 - เดินต่อมาเรื่อยๆจะเจอหอนาฬิกา ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระบรมราชินีนาถวิคทอเรียแห่งอังกฤษ โดยให้ความสูงของหอนาฬิกา เท่ากับจำนวนปีที่ครองราชย์ของพระนาง
จุดหมาย #14 - จากหอนาฬิกาเลี้ยวขวาเลียบสวน Cornwallis มาเจอแยกแรกเลี้ยวซ้าย มาเจอจุดหมาย #14 โดยบังเอิญ เพราะความที่อดกิน Roti Canai เจ้าดังที่ตั่งใจไว้ตอนเช้า มาเจอร้านแขกอินเดีย มี Nasi Lemak ขายด้วย ลักษณะคือเป็นข้าวราดแกงมีปลาแห้งโปะตามด้วยใข่ต้ม ต้องลองซะหน่อย.. ปรากฏว่าใช้ได้เลย แถมไม่แพงด้วย สั่งชานมมาเป็นชาร้อน กลิ่นหอมติดใจเลย ประเทศนี้ชาร้อนเป็นเอกลักษณ์ต้องมีฟองอยู่ด้านบน ใกล้ๆกันมีร้าน Roti Canai (โรตีชาไน) ถ้าจำได้เมื่อเช้าไม่ได้กินโรตีร้านดังตามที่ตั่งใจไว้ตอนแรก เลยแวะกินร้านนี้แทนก็ได้ ..เคยเห็นอาหารชนิดนี้แต่ในรูป ไม่คิดว่าแกงที่มันกินคู่กับโรตีเนี่ย น้ำแกงล้วนๆไม่มีเนื้ออะไรเลย แต่เครื่องแกงก็หอมดี..ใช้ได้
[CR] ชิลล์คนเดียวเที่ยวไปเรื่อย ฟินเฟร่อ 26 วันในไทยและมาเลเซีย ตอนที่ 11
เส้นทาง : กรุงเทพฯ-หัวหิน-ประจวบฯ-บางสะพาน-ชุมพร-เกาะเต่า-เกาะพงัน-กระบี่-อ่าวนาง-ตรัง-หาดใหญ่-ปีนัง-มะละกา-กัวลาลัมเปอร์-ปุตราจายา
นี่เป็นการท่องเที่ยวแบ็คแพ็คที่รีดงบสุดๆ แบบทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เริ่มจาก..ล่องลงภาคใต้ พอรู้ตัวอีกทีก็ไปไกลถึง มะละกา ประเทศมาเลเซีย นับเวลาตั้งแต่กระโดดขึ้นรถไฟฟรีที่หัวลำโพง จนกลับถึงกรุงเทพฯอีกครั้ง รวมเวลา 26 วัน ที่ได้เจอะเจอหลากบรรยากาศหลายรสชาติ จนไม่อยากจะเม้าท์ว่า.. ได้เที่ยวทะเลทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ขึ้นเขาช่องกระจก..ดูวิวหลักล้านของอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ไหว้พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศที่บ้านกรูด กรี๊ดสลบกับภาพชายฝั่งทะเลตัดกับหน้าผาสีแดงที่ฝั่งแดง(บางสะพาน) ดำน้ำที่เกาะเต่า ขี่มอเตอร์ไซค์แว้นบนเกาะพงัน ซิ่งสปีดโบ๊ตไปเที่ยวหมู่เกาะพีพีที่กระบี่ อินกับภาพอาทิตย์ตกที่อ่าวนาง ลั้ลลา..ลอดถ้ำมรกตที่ทะเลตรัง ชิมอาหารพื้นเมืองและชิคๆคูลๆดูงาน Street Art ที่ปีนัง ชมเมืองมรดกโลกที่มะละกา..เมืองอะไรไม่รู้น่ารักเว่อร์ ย้อนกลับมาขึ้นถ้ำบาตูที่กัวลาลัมเปอร์ ร้องว้าวๆๆกับตึกแฝดปิโตรนาสในช่วงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตื่นตากับความเว่อร์วังของมัสยิดสีชมพูประจำเมืองปุตราจายา และอีกหลากหลายรสชาติมากมายให้ฟินเฟร่อกันไปเลย
ยังอยู่ที่ปีนัง วันนี้ออกมาเดินสำรวจเมือง George Town ดูสถาปัตยกรรม street art และ landmarks ของเมืองนี้
เส้นทางเดินเที่ยว
4 พฤษภาคม 2559
7.00 น.
เริ่มออกเที่ยวตั่งแต่เช้าตรู่ วันนี้กะไปกิน Roti Canai เจ้าดังเป็นมื้อเช้า ที่จริงโฮสเทลมีมื้อเช้าให้พวกขนมปังปิ้งกับกาแฟ แต่เกาะปีนังเค้าโปรโมทว่าเป็นสวรรค์ของนักชิม ..อาหารเช้าของที่พักเลยขอผ่าน แต่อดกินอ่ะ เพราะไปถึงแล้ว..อ้าว มันอยู่ไหน สรุปไปผิดที่คับ เข้าใจว่ามันอยู่บนถนน Penang แต่จริงๆต้องเดินต่อไปอีกบล็อก เพราะมันอยู่ถนน Transfer ..จำผิดครับ ช่างมันไม่กินล่ะ เดินเที่ยวกันเลย
George Town เป็นเมืองหลวงของรัฐปีนัง จริงๆรัฐนี้ก็มีพื้นที่นิดเดียวคือเกาะปีนังและพิ้นที่บนฝั่งทวีปอีกนิดหน่อย ปีนังเป็นเมืองสำคัญทางการค้า เมื่อก่อนเคยเป็นพื้นที่ๆอยู่ในอาณัติของไทยมาตั่งแต่ก่อนสมัยรัชกาลที่ห้า แต่ตอนหลังต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลของอังกฤษ ทำให้ประวัติของปีนังเองเกี่ยวข้องกับคนไทยไม่น้อย ตระกูล ณ ระนอง ของไทยยังเคยบริจาคที่ดินทำสวนสาธารณะ พระยาภูมินารถภักดี เจ้าเมืองสตูลข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ยังมีบ้านพักที่ถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีไว้โดยทายาทในเมืองนี้ และยังมีอีกหลายคนที่ทำการค้าและเกี่ยวพันกับที่นี่ วัฒนธรรมของเกาะแห่งนี้รวมถึงเมืองเก่าอีกหลายที่ในมาเลเซีย เช่น มะละกา เลยมีลักษณะคล้ายภาคใต้ของไทย โดยเฉพาะวัฒนธรรมแบบ Peranakan
ออกเที่ยวตั่งแต่ฟ้าเพิ่งเริ่มสว่าง เดินไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็ชมเมืองไปพลางๆ
จุดหมาย #01 - เริ่มเดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามโฮสเทล เลี้ยวขวาผ่านแผงขายพวงมาลัยจะมีซอย Stewart ด้านซ้ายเดินตรงไปตามซอยเรื่อยๆผ่านซักสองแยก คอยสังเกตุแยกด้านซ้าย จะเจอกับ Street art รูปคนถ่อเรือ
จุดหมาย #02 - จากนั้นเดินตรงขึ้นไปเรื่อยๆจะเจอกับ Camera Museum ด้านข้างของพิพิธภัณฑ์ จะเป็น Street art รูปเด็กผู้หญิงดันตัวขึ้นจากหน้าต่าง
จุดหมาย #03 - ตรงต่อไปเรื่อยๆจนเจอถนน Penang ให้เลี้ยวขวา ตึกข้างๆลานจอดรถใหญ่ตรงข้าม Rima College จะมี Street Art ชิ้นใหญ่รูปคนนั่งพักบนรถสามล้อแบบมาเลย์
จุดหมาย #04 - เดินตรงไปทางถนน Sultan Almad Shah มุมถนนฝั่งตรงข้ามของ Street art เมื่อซักครู่ จะเป็นบ้านพักของ Ku Din Ku Meh หรือมีราชทินนามตามราชสำนักสยามว่า พระยาภูมินารถภักดี
จุดหมาย #05 - ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามแล้วเดินต่อมาตามถนน Sultan Almad Shah ผ่านแยกที่เดินมาไปอีกแยกทางขวาเดินเข้าไปซักยี่สิบเมตร จะเป็น Blue Mansion บ้านโบราณแบบ Peranakan คือเป็นบ้านใหญ่แบบเศรษฐีชาวจีนที่เราเห็นตามภูเก็ตนั่นเอง เป็นบ้านเก่าที่เค้าอนุรักษณ์ไว้ แต่โดนพี่ยามไล่เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิด ..อ่ะ ไม่ดูก็ได้จ้า
จุดหมาย #06 - กลับออกมาเดินต่อตามถนน Sultan Almad Shah เหมือนเดิม อีกแยกจะเป็นที่ตั่งของ Church of the Assumsion
ติดๆกันเป็น Penang Museum นี่ก็ยังไม่เปิดเหมือนกัน ..ท่าทางจะออกมาเที่ยวเช้าไปหน่อย
จุดหมาย #07 - ถัดมาติดๆ คือ St. Georges' Anglican Church อันนี้สวยงามคนชอบมาถ่ายรูปกัน
จุดหมาย #08 และ #9 - ฝั่งตรงข้าม St. Georges' ไปทางทะเลถัดไปอีกบล็อคนึง ไม่ห่างจากทะเล จะเป็น ทาวน์ฮอลล์ และ ซิตี้ฮออล์ ตามลำดับ
สามล้อแบบมาเลย์
จุดหมาย #10 - ตรงตามถนนต่อไปอีก ติดกับทะเลเป็น War Monument
เดินเลียบฝั่งทะเลไปทางขวา
จุดหมาย #11 - ไปทางขวา จะเป็นป้อมปืนใหญ่เก่า Cornwallis
จุดหมาย #12 - ไปตามทางเรื่อยๆมองทะลุพื้นที่ว่างด้านตะวันออกของป้อม Cornwallis ออกไป จะมองเห็นท่าเรือ Swettenham ที่ใช้จอดเรือโดยสารขนาดใหญ่
จุดหมาย #13 - เดินต่อมาเรื่อยๆจะเจอหอนาฬิกา ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระบรมราชินีนาถวิคทอเรียแห่งอังกฤษ โดยให้ความสูงของหอนาฬิกา เท่ากับจำนวนปีที่ครองราชย์ของพระนาง
จุดหมาย #14 - จากหอนาฬิกาเลี้ยวขวาเลียบสวน Cornwallis มาเจอแยกแรกเลี้ยวซ้าย มาเจอจุดหมาย #14 โดยบังเอิญ เพราะความที่อดกิน Roti Canai เจ้าดังที่ตั่งใจไว้ตอนเช้า มาเจอร้านแขกอินเดีย มี Nasi Lemak ขายด้วย ลักษณะคือเป็นข้าวราดแกงมีปลาแห้งโปะตามด้วยใข่ต้ม ต้องลองซะหน่อย.. ปรากฏว่าใช้ได้เลย แถมไม่แพงด้วย สั่งชานมมาเป็นชาร้อน กลิ่นหอมติดใจเลย ประเทศนี้ชาร้อนเป็นเอกลักษณ์ต้องมีฟองอยู่ด้านบน ใกล้ๆกันมีร้าน Roti Canai (โรตีชาไน) ถ้าจำได้เมื่อเช้าไม่ได้กินโรตีร้านดังตามที่ตั่งใจไว้ตอนแรก เลยแวะกินร้านนี้แทนก็ได้ ..เคยเห็นอาหารชนิดนี้แต่ในรูป ไม่คิดว่าแกงที่มันกินคู่กับโรตีเนี่ย น้ำแกงล้วนๆไม่มีเนื้ออะไรเลย แต่เครื่องแกงก็หอมดี..ใช้ได้