ผมอายุขึ้นเลข 5 มีอาการเจ็บโคนขาหนีบด้านขวา ถ้าเดิน วิ่ง ไม่ค่อยรู้สึก มาทราบอาการจริงๆก็ตอนที่ลองนั่งท่าขัดสมาธิ หรือ เวลานอนหงายท่าชันเข่าแล้วพับเข้า-ออก เวลาพับออกจะเจ็บจิ๊ดๆตรงขาหนีบด้านขวาจะลงได้ไม่สุด
-ผมตอนแรกไปพบนักกายภาพบำบัดของคลินิคที่ทำงาน ก็ให้ท่าบริหารมา ปรากฎว่า ลองทำแล้ว ไม่หาย แต่รู้สึกเจ็บกว่าเดิมอีก
-ต่อมาผมไปพบหมอโรงพยาบาลเอกชน แจ้งหมอว่าลองทำกายภาพบำบัดมาแล้วไม่หาย หมอบอกว่า กล้ามเนื้อหรือเอ็นมันบาดเจ็บอยู่ การทำกายภาพบำบัดยิ่งเหมือนไปรบกวนมัน ควรจะหยุดอยู่นิ่งๆ (ผมเคารพในคำแนะนำของทั้งคุณหมอและนักกายภาพ อันนี้ผมไม่ตำหนิท่านใดทั้งสิ้นนะครับ) แล้วหมอก็ให้ยามาทาน พวกนอร์จิสิคและอื่นๆ จัดยามาให้ทาน 7 วัน พอหมด ผมก็มาคิดว่า ถ้าไปพบหมออีก ก็คงจัดยามาให้ผมทานไปเรื่อยๆ พอดีผมไม่ค่อยชอบทานยา สงสารกระเพาะ ตับ ไต อีกอย่าง ยาประเภทนี้ค่อนข้างระคายเคืองกับกระเพาะอาหารด้วย ผมเลยทิ้งช่วงไป อยู่เฉยๆเป็นเวลาหลายสัปดาห์ อาการก็ยังมีเจ็บๆอยู่
-สุดท้าย ผมกลับไปหาหมอที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง คราวนี้ หมอคนเดิมไม่อยู่ ก็เลยปรึกษาหมอคนใหม่ ปรึกษาเรื่องการฉีดยาแทนการทานยา เพราะเคยได้ยินเกี่ยวกับเวลานักกีฬาอาชีพเช่น นักฟุตบอล มักจะเกิดอาการเจ็บโคนขาหนีบอยู่เป็นประจำแล้วใช้วิธีรักษาโดยการฉีดยาบริเวณที่บาดเจ็บ หมอบอกว่า ทำได้ ก็เลยได้ฉีดยา พร้อมจัดยามาให้ทาน 7 วันเหมือนเดิม ทานยาจนหมด คราวนี้ รู้สึกว่า อาการเจ็บมันทุเลาลงมากกว่าเดิมมาก สังเกตได้ว่า เวลานั่งขัดสมาธิอาการเจ็บจะน้อยลง
วันนี้ เมื่อยาหมดลง ผมก็เริ่มลังเลอีก ว่าจะเอายังไงต่อดี จะหยุดทานยา หยุดไปหาหมอ หรือจะไปฉีดยาเพิ่ม ทานยาเพิ่ม หรือจะหยุดเพื่อให้ร่างกายพักให้การบาดเจ็บมันทุเลาหายไปเองก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะหายสนิท เพราะอายุขนาดนี้การ recover ของร่างกายคงไม่เหมือนคนหนุ่มๆแน่ๆ จึงอยากจะรบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ ว่าควรจะเอายังไงต่อดีเพื่อให้อาการบาดเจ็บมันหายสนิทจริงๆ ต้องรักษาให้หายขาดวิธีไหนดีที่สุดครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้าทุกๆท่านอย่างสูงครับ
//เจ็บโคนขาหนีบด้านขวา รักษายังไงดีครับ//
-ผมตอนแรกไปพบนักกายภาพบำบัดของคลินิคที่ทำงาน ก็ให้ท่าบริหารมา ปรากฎว่า ลองทำแล้ว ไม่หาย แต่รู้สึกเจ็บกว่าเดิมอีก
-ต่อมาผมไปพบหมอโรงพยาบาลเอกชน แจ้งหมอว่าลองทำกายภาพบำบัดมาแล้วไม่หาย หมอบอกว่า กล้ามเนื้อหรือเอ็นมันบาดเจ็บอยู่ การทำกายภาพบำบัดยิ่งเหมือนไปรบกวนมัน ควรจะหยุดอยู่นิ่งๆ (ผมเคารพในคำแนะนำของทั้งคุณหมอและนักกายภาพ อันนี้ผมไม่ตำหนิท่านใดทั้งสิ้นนะครับ) แล้วหมอก็ให้ยามาทาน พวกนอร์จิสิคและอื่นๆ จัดยามาให้ทาน 7 วัน พอหมด ผมก็มาคิดว่า ถ้าไปพบหมออีก ก็คงจัดยามาให้ผมทานไปเรื่อยๆ พอดีผมไม่ค่อยชอบทานยา สงสารกระเพาะ ตับ ไต อีกอย่าง ยาประเภทนี้ค่อนข้างระคายเคืองกับกระเพาะอาหารด้วย ผมเลยทิ้งช่วงไป อยู่เฉยๆเป็นเวลาหลายสัปดาห์ อาการก็ยังมีเจ็บๆอยู่
-สุดท้าย ผมกลับไปหาหมอที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง คราวนี้ หมอคนเดิมไม่อยู่ ก็เลยปรึกษาหมอคนใหม่ ปรึกษาเรื่องการฉีดยาแทนการทานยา เพราะเคยได้ยินเกี่ยวกับเวลานักกีฬาอาชีพเช่น นักฟุตบอล มักจะเกิดอาการเจ็บโคนขาหนีบอยู่เป็นประจำแล้วใช้วิธีรักษาโดยการฉีดยาบริเวณที่บาดเจ็บ หมอบอกว่า ทำได้ ก็เลยได้ฉีดยา พร้อมจัดยามาให้ทาน 7 วันเหมือนเดิม ทานยาจนหมด คราวนี้ รู้สึกว่า อาการเจ็บมันทุเลาลงมากกว่าเดิมมาก สังเกตได้ว่า เวลานั่งขัดสมาธิอาการเจ็บจะน้อยลง
วันนี้ เมื่อยาหมดลง ผมก็เริ่มลังเลอีก ว่าจะเอายังไงต่อดี จะหยุดทานยา หยุดไปหาหมอ หรือจะไปฉีดยาเพิ่ม ทานยาเพิ่ม หรือจะหยุดเพื่อให้ร่างกายพักให้การบาดเจ็บมันทุเลาหายไปเองก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะหายสนิท เพราะอายุขนาดนี้การ recover ของร่างกายคงไม่เหมือนคนหนุ่มๆแน่ๆ จึงอยากจะรบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ ว่าควรจะเอายังไงต่อดีเพื่อให้อาการบาดเจ็บมันหายสนิทจริงๆ ต้องรักษาให้หายขาดวิธีไหนดีที่สุดครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้าทุกๆท่านอย่างสูงครับ