...เปิดงบทัวร์หรู “ยิ่งลักษณ์” 3 ประเทศ เกือบ 22 ล้าน ! โดยทีมข่าวภาคสนาม...

กระทู้คำถาม
การเดินทางไปต่างประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ 81 คน ระหว่างวันที่ 8-15 ก.ย.56 โดยมีกำหนดการไป 3 ประเทศ ประกอบด้วย การเยือนสมาพันธรัฐสวิส สาธารณรัฐอิตาลี และมอนเตเนโกร (ซึ่งเดิมไม่มีกำหนดไว้อย่างเป็นทางการ) ได้ใช้วิธีเดินทางด้วยการเช่าเครื่องการบินไทยแบบเหมาลำ มีค่าใช้จ่าย ดังนี้

เส้นทาง กรุงเทพฯ -เจนีวา- ซูริค- โรม-มิลาน (พักเครื่องรอ) – กรุงเทพฯ : 18,900,000 บาท
มิลาน- มอนเตรเนโกร 2 ลำ ลำละ 1,450,000 บาท  : 2,900,000 บาท
รวมค่าเครื่องบิน  21,800,000 บาท

การเดินทางไปต่างประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ นอกจากจะใช้วิธีเหมาเครื่องบินการบินไทยแล้ว เจ้าหน้าที่จะจัดให้พักโรงแรมระดับ 6 ดาวของทุกประเทศ รับประทานอาหารเลิศหรู ซึ่งไม่มีใครทราบว่าเสียเงินแผ่นดินไปกับการใช้ชีวิตในต่างประเทศเท่าไหร่ โดยมีหลายครั้งที่นางสาวยิ่งลักษณ์ นำงบกลางที่อยู่ในอำนาจของตัวเองมาใช้จ่ายสำหรับค่าที่พักอาศัย และ การเลี้ยงรับรอง ทั้ง ๆ ที่วัตถุประสงค์ของการมีงบกลางเพื่อให้ไว้สำรองในกรณีเหตุฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น กรณีภัยพิบัติ เป็นต้น

นอกจากนี้การเดินทางไปยังมอนเตเนโกรในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายนักโทษหนีคดีอยู่ในระหว่างการใช้ชีวิตในสถานที่ดังกล่าวพอดี ทำให้เกิดข้อครหาว่าเป็นการเดินทางไปเพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับพี่ชาย โดยใช้รัฐบาลไทยเป็นเครื่องมือ อย่างไรก็ตามนางสาวยิ่งลักษณ์อ้างว่า การเดินทางไปมอนเตเนโกรระหว่างวันที่ 13-14 ก.ย.นั้น เป็นไปเพื่อยกระดับความสัมพันธ์และเปิดตลาดการค้าและนักธุรกิจไทยเข้าพบหารือกับผู้แทนภาครัฐ และเอกชนของมอนเตเนโกร พร้อมกับเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการระหว่างไทยกับมอนเตเนโกรเป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน  โดยครม.ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้เป็นประธานในที่ประชุมได้อนุมัตในเรื่องดังกล่าวในวันที่  10 ก.ย.56 ก่อนที่นางสาวยิ่งลักษณ์จะเดินทางไปมอนเตเนโกรเพียง 3 วัน

ในขณะที่การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่าเพียงแค่กว่า 5 ล้านเหรีญสหรัฐ หรือประมาณ กว่า 150 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการยกเว้นวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการไทยและมอนเตเนโกรนั้น เป็นไปเพื่อให้ข้าราชการไทยเดินทางไปพบ นักโทษหนีคดีได้สะดวกมากขึ้นหรือไม่ แต่รัฐบาลปฏิเสธในเรื่องดังกล่าว โดยยืนยันว่าเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างความสัมพันธ์มิติต่าง ๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของนักโทษชายทักษิณ

ก่อนหน้านี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกโจมตีอย่างหนักจากกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศในช่วง 2 ปี ถึง 52 ครั้ง รวม 42 ประเทศ ถือเป็นผู้นำประเทศที่เดินทางไปต่างประเทศมากที่สุดเป็นอันดับสามรองจากนายบารัค โอบาม่า ประธานธิบดีสหรัฐ และ จอร์จ บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเท่านั้น โดยใช้เงินแผ่นดินไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท
//////////////
...........

จุ๊ จุ๊ เบาๆหน่อย
ไม่ต้องด่ายิ่งลักษณ์เยอะ สํานึกไม่ทัน !!
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ผมเห็นประเด็นการเดินทางไปดูงานต่างประเทศฮ็อตกันจัง ต่างว่ารัฐในยุคนี้ของคสช.ใช้เงินเว่อร์ มันแพงเกินไปสำหรับการไปดูงานต่างประเทศ
แต่สำหรับผมกลับมองว่ามันไม่แพงหรอกครับ ผมมองว่าถูกซะด้วยซ้ำ รัฐบาลคสช.เค้ามีพาวเวอร์มีกำลังทรัพย์มากพอและมั่นใจว่าได้ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งมากกว่าว่ารัฐปูแดงที่ซื้อแต่ของถูกๆไม่รู้ว่าจะมีคุณภาพหรือเปล่าด้วยซ้ำ แล้วเอาเงินไปไหนหมดล่ะครับ น้ำท่วมยังไม่เห็นช่วยแก้ปัญหาได้เลย
ดูอย่างรถไฟ รัฐคสช.เราซื้อแพงกว่าถึงเกือบ 2 เท่า แล้วไหนจะไมค์ทำเนียบอีกที่มีคุณภาพสูงสุดราคาตกอันละแสนสี่กว่าๆ ยังมีอุทยานราชภักดิ์อีกที่สร้างขึ้นอย่างใหญ่โต และที่ผ่านมาท่านอภิสิทธิ์ก็ยังแสดงความแน่นอนกว่ารัฐปูแดงจนๆด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นความมั่งคั่งของทั้งสองรัฐบาลนี้ครับ
อย่างเสาธงต้นละห้าแสน ปูแดงมีปัญญาทำหรือเป่า เรือเหาะ 350 ล้านอีก แล้วก็ TG-200 ที่มีคุณภาพระดับโลกที่ถึงขนาดท่าน สรรเสริญยังออกมายืนยันถึงคุณภาพและการใช้งานอย่างละเอียดที่ต้องว่าแบบนี้มันต้องตรวจหาสนามแม่เหล็กก่อน ต้องดูแผนที่เข็มทิศเพื่อกำหนดพื้นที่ให้แคบลง ว่าตรงไหนมีความน่าจะเป็นที่จะสามารถตรวจหาระเบิดหรือสิ่งเสพติดได้ แล้วก็ต้องส่องแนวเส้นเล็ง ตรวจสอบในแนวแกน X และ Y และต้องใช้หลักการทางฟิสิกส์ที่เจ้าหน้าที่ต้องมีความสามารถอย่างแท้จริงอีกด้วย  และอดีตท่านนายกฯอภิสิทธิ์ก็ยืนยันแล้วว่าการปฏิบัติหน้าที่ที่จะได้ผล100%นั้น เจ้าหน้าที่คนนั้นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะทำให้การทำงานขาดประสิทธิภาพครับ!!! ....
ซึ่งตรงจุดนี้ไงที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำงานของรัฐบาลอภิสิทธิ์และรัฐบาลคสช.ของท่านประยุทธว่ามีความสามารถที่ต่างกันลิบลับกับรัฐบาลปูแดงครับ ประชาชนทั้งประเทศจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะประชาชนได้รู้ได้เห็นของจริงมาทั้งหมดแล้วว่าใครกันแน่ที่เก่งจริงครับ ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่