***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................


ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น



วันนี้ในอดีต 2 ตุลาคม พ.ศ. 2379 (ค.ศ. 1836) หรือเมื่อ 180 ปีที่แล้ว เป็นวันที่ชาร์ล ดาร์วิน เดินทางด้วยเรือบีเกิล
กลับถึงประเทศอังกฤษ หลังจากการออกสำรวจเก็บตัวอย่างทางชีววิทยานาน 5 ปี ซึ่งนำไปใช้คิดค้นทฤษฎีวิวัฒนาการค่ะ

แต่ก่อนเราเชื่อกันว่าพระเจ้าสร้างโลกและมนุษย์ จนชาร์ล ดาร์วินได้ศึกษาเรื่องวิวัฒนาการและสรุปว่า "คนมาจากลิง"
ซึ่งก่อนที่จะได้รับการยอมรับดาร์วินก็ต้องฝ่าฟันมามิใช่น้อยๆ วันนี้เลยจะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับชาร์ล ดาร์วินค่ะ

ชาร์ล โรเบิร์ต ดาร์วิน (ค.ศ. 1809-1882 หรือ พ.ศ. 2352 - 2425)

ดาร์วินเป็นนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ ผู้ทำการปฏิวัติความเชื่อเดิมๆ เกี่ยวกับที่มาของสิ่งมีชีวิต
และเสนอทฤษฎีวิวัฒนาการสมัยใหม่ และกลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติ เด็กชีวะต้องรู้จักเป็นอย่างดี

    


ตอนเด็กดาร์วินไม่สนใจเรียนวิชาอะไรทั้งนั้น แต่ชอบสะสมแมลงเต่าทองและชอบธรรมชาติ

จนเมื่อทางราชนาวีอังกฤษมีโครงการจะออกเดินทางสำรวจสภาพภูมิประเทศ มหาสมุทรและเกาะ
ซึ่งยังไม่มีผู้ใดเคยทำการสำรวจมาก่อนโดยจะใช้เรือหลวงบีเกิ้ล

เมื่อประกาศไปแล้วก็ไม่มีใครอยากไปเพราะดูจะลำบากและไม่ได้อะไร แต่ดาร์วินดีใจมาก ขอไปด้วยถึงกับออกค่าใช้จ่ายเอง

การเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ของเรือบีเกิลและดาร์วิน เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2374
โดยออกเดินทางจากอ่าวพลีมัธ (Plymouth harbor) ประเทศอังกฤษ และเดินทางไปตามเส้นทางต่างๆ ดังนี้

เส้นทางการเดินทางของเรือหลวงบีเกิ้ล (เส้นทางตามลูกศรสีแดง) วงกลมเขียวที่ลูกศรชี้ คือ หมู่เกาะกาลาปากอส




2 ต.ค. 2379 สิ้นสุดการเดินทางรอบโลกอันยาวนาน เมื่อเรือบีเกิลพาดาร์วินและคณะมาถึงท่าเรือเมืองฟอลมัธ (Falmouth)
สหราชอาณาจักร ในช่วงเช้าของวันนั้น หลังจากออกไปผจญโลกกว้างเป็นเวลา 4 ปี 9 เดือน และอีก 5 วัน

ภาพวาดจำลองเหตุการขณะเรือหลวงบีเกิลเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะกาลาปากอส
ในอเมริกาใต้ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก (ภาพโดย John Chancellor/darwin-online.org.uk)





เมื่อกลับมาดาร์วินตั้งทฤษฎีวิวัฒนาการว่า “สิ่งมีชีวิตในปัจจุบันนี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตในอดีต”
หรือที่พูดกันว่า “คนมาจากลิง”




ซึ่งแน่นอนทันทีที่เผยแพร่ออกไป ก็งานเข้า งานงอก งานเกิดดอกออกผล เหมือนนักวิทยาศาสตร์รุ่นพี่ๆ อย่างกาลิเลโอ
ที่ยืนกรานว่าโลกกลม ขัดกับความเชื่อเดิมที่ว่าโลกแบน จนกาลิเลโอต้องโดนเรียกไปปรับทัศนคติและถูกกักบริเวณ

ที่ถูกคัดค้านจากพวกเคร่งศาสนาอย่างหนัก เพราะคนเหล่านี้มีความเชื่อว่าสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนแต่พระเจ้าสร้างมา
อยู่ๆ จะมาบอกว่าบรรพบุรุษเราเป็นลิงมาก่อน มันรับบ่ได้

แต่ต่อมาไม่นานนักคนเหล่านี้ก็ให้การยอมรับทฤษฎีข้อนี้ มีการตีพิมพ์ผลงานออกมาอีกหลายเล่ม

ดาร์วินได้รับยกย่องโดยมีการจัดพิธีศพอย่างเป็นทางการในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์
และฝังร่างของเขาไว้เคียงข้างกับจอห์น เฮอร์เชล และ ไอแซก นิวตัน
อีกทั้งได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติคนหนึ่ง


...............................................................


ดาร์วินคล้ายกับกาลิเลโอตรงที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการเมืองในรูปศาสนจักร
แต่ยังโชคดีกว่าที่ทฤษฎีของเขาได้รับการยอมรับก่อนเขาจะเสียชีวิต

ในหลายครั้งผู้ค้นพบความจริงใหม่ๆ แต่ขัดแย้งกับความเชื่อดั้งเดิม แทนที่จะได้รับการยกย่อง กลับต้องถูกกล่าวหาเสียหาย
นอกจากจะไม่ยุติธรรมแล้ว มนุษยชาติยังเสียโอกาสไปอีกมากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป จะพบว่า ความจริงก็คือความจริง


คน ค้น คน

แต่ละคนมีที่มา แต่ละคนมีที่ไป
แต่ความจริงเป็นเช่นไร มีผู้ใด รู้ดี
แต่ละคนมีท่าทาง ต่างกันไปตามท่าที
ต่างก็คิดว่าต่างดี กันทุกคน...

https://www.youtube.com/watch?v=3zf0eJGQDR8



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ละคนมีที่มา แต่ละคนมีที่ไป
แต่ความจริงเป็นเช่นไร มีผู้ใด รู้ดี
แต่ละคนมีท่าทาง ต่างกันไปตามท่าที
ต่างก็คิดว่าต่างดี กันทุกคน

คนหนอคน เป็นอะไรกันหรือคน
ใยจึงวกวน ทั้งค้นทั้งคว้าไขว่
หรือว่าคน เราไม่รู้ ไม่เข้าใจ
ว่าความเป็นคน อยู่ตรงไหน

แต่ละคน จึงค้นไป สุดแต่ใคร จะค้นใคร
แต่ไม่รู้ จะเข้าใจ ไหมคน ก็ไม่รู้จะเข้าใจไหมคน