พี่สาวในมุมจากขอบโต๊ะ...

ตอนเด็กๆเคยยืนเกาะขอบโต๊ะมองแม่หรือยายทำขนมไม่ก็อาหารมั้ยคะ
เราเป็นคนที่มีความทรงจำในวัยเด็กเป็นภาพจากมุมมองของเด็กที่ยืนเกาะขอบโต๊ะบ่อยมาก
แต่ภาพของคนที่ทำนั้นไม่ใช่แม่หรือยาย แต่เป็นพี่สาวเสียมากกว่า...
    อยู่ๆวันนี้เราตื่นเช้ามาพร้อมกับความทรงจำเก่าๆ เราไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงนึกถึงเรื่องเก่าๆเหล่านี้ขึ้นมา อาจเพราะเราจะได้เจอพี่สาวในอีกไม่นานหลังจากไม่ได้เจอกันและสามารถติดต่อได้แค่ทางจดหมายมาสี่ปีได้ (เราคิดว่าบางคนคงเริ่มเดาออกว่าพี่สาวเราไปไหน) เรามีความคิดผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด เยอะมากพอๆกันกับความทรงจำที่เหมือนปะทุออกมาเรื่อยๆจนต้องนอนมองเพดานนิ่งไปนานๆโดยไม่ขยับหรือเคลื่อนไหวอะไร(บางทีอาจจะเป็นเพราะขี้เกียจมากกว่า) พอดึงตัวลุกขึ้นมาได้ ก็เลยตัดสินใจถ่ายทอดมันออกมา อย่างน้อยๆ เราก็ไม่อยากให้เรื่องราวดีๆปนเศร้าและสุขใจนี้หายไป
พี่สาวเราอายุมากกว่าเราเจ็ดปีค่ะ ไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ แต่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเรา พี่สาวเป็นลูกของป้าแท้ๆเราเอง แม่เราเป็นลูกสาวคนกลางในบรรดาสามสาวพี่น้อง (เราชอบเรียกรวมๆว่าสามแม่)
      เราจำได้ว่าเรากับพี่สาวมีช่วงเวลาแบ่งเป็นช่วงใหญ่ๆได้สามช่วง ช่วงเด็กน้อยยยยยยยยจนถึงอนุบาลสาม เรากับพี่สาวจะรักกันมาก พี่สาวเราตามใจเราเต็มขั้น ตัวติดหนึบกันแบบที่ว่าป้าต้องพาพี่สาวเรามานอนด้วยที่บ้านเราทุกคืน
ช่วงที่สองช่วงประถมต้นถึงประมาณป.ห้าได้ เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ไม่รู้ทำไมพี่สาวเรากลายเป็นชอบหงุดหงิด แทบไม่ได้คุยกันเลย บางทีมานั่งคิดดู เอาจริงๆตูเองก็ไม่ชอบเด็กผู้หญิงวัยนี้เหมือนกันนี่หว่า เพราะแจ๊ดแจ๊มากเกินไป(ไม่รู้จะใช้คำศัพท์ไหนดี แจ๊ดแจ๊คือคำที่เรารู้สึกว่าตรงกับอารมณ์เรามากที่สุด) จน ป.หกแล้วเราเลือกเรียนต่อโรงเรียนประจำในระดับมัธยม เรากับพี่สาวก็กลับมารักกันอีกครั้ง

       เราไม่มีช่วงที่มาเปิดอกคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันเป็นอะไรที่เหมือนน้ำที่ค่อยๆซึมเข้าแก้วมาเรื่อยๆ รู้สึกตัวอีกทีก็คือมีน้ำอยู่เต็มแก้ว เรื่องเก่าตอนที่โวยวายใส่กันก็เหลือเพียงแค่ความทรงจำให้นึกสงสัยว่าเราเคยมีช่วงเวลาเหล่านั้นกันได้ยังไง
พี่สาวเราชอบพาเราไปเที่ยว ขนเราไปด้วยตลอดตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่ใช่ว่าพี่สาวเราจะไม่คบเพื่อนหรืออะไรเลยนะ มีแฟนก็พาเราไปเดทด้วย ช่วงที่พี่เราไปอยู่กับแฟนก็จะหาเวลามาบ้านแล้วทำกับข้าวให้เรากินอาทิตย์ละครั้ง คือพี่สาวให้เวลากับเราจริงๆ ในวันนั้นพี่สาวจะพาเราไปทุกที่ อยู่ด้วยกันตลอด แบบที่ว่าช่วยเรานั่งระบายสีการบ้านเลยอ่ะ(นึกแล้วฮา) บางทีมีงานวิชาการงาน มัธยมแล้วนี่แหละ ต้องเย็บผ้าหรืออะไร พี่สาวเราก็จะชอบเอาไปทำให้ เราสบายตัวไป ได้คะแนนเต็มมาแบบเนียนๆ(อย่าทำตามนะ ไม่ดีเลย)

     พี่สาวเราเป็นคนอารมณ์ร้อน เป็นสาวเปรี้ยว กล้า มั่นใจ คุยเก่ง รักน้องๆมาก เป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียคนหนึ่งเลยแหละ พี่สาวเราหน้าตาดีกว่าเราเยอะ ติดไปทางฝรั่งนิดๆด้วย เดินกับเราคนก็ตกใจที่ว่าเป็นญาติพี่น้องกัน เพราะเราหน้าออกไปทางแขกเหมือนพ่อมากกว่า  
เรากับพี่สาวไม่มีเรื่องปิดบังกัน...พี่สาวเราเป็นคนที่เราไว้ใจมากที่สุด ตอนพี่สาวเราท้อง พี่สาวเราไม่กล้าบอกที่บ้านเลยไม่กลับบ้านเลย เว่อร์มั้ย แต่คือเรื่องจริง พี่สาวเราไม่บอกป้าจนหลานเราคลอดเลยแหละ เวลาที่อยากเจอเรา พี่สาวจะโทรมาหาให้เราไปหาพี่ที่บ้านแฟน หรือจะโทรมาบอกว่าจะไปรับเราที่โรงเรียน(ประจำ)ในวันศุกร์แทนพ่อแม่เรา แล้วเราก็จะไปเที่ยวเล่นกันก่อนที่พี่จะส่งเราขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน
พี่สาวเราเป็นคนที่ชอบอะไรขัดกับนิสัย...ใจร้อน ขี้โวยวาย ปากจัด แต่ชอบงานบ้านงานเรือน ชอบทำงานฝีมือ ทำอาหาร ไทยจีนฝรั่ง ขนม ถ้าพี่อยากทำอะไรทำได้หมด ต้องอยากด้วยนะ...ถ้าไม่สนก็จะไม่คิดทำเลยแหละ แต่ถ้าชอบนะ ต่อให้ยากนางก็ไฝว้(555555555555555555555)
พี่สาวมักจะบอกกับเราเสมอ ว่า เราสองคนพี่น้องจะไม่มีความลับต่อกัน
จริงๆ เรามีน้องชายแท้ๆหนึ่งคน มีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นลูกน้าสาวอีกสองคน เราห้าคนสนิทกันมาก (พี่สาว พี่ชายสองคน(ลูกน้า) เรา น้องชาย) แต่คือถ้าถามว่าถ้าอยู่กันแบบแพคคู่ที่ให้ท้ายและทำงานเป็นทีมที่สุดก็เรากับพี่สาวนี่แหละ
เรามักจะชอบไปยืนเป็นลูกมือ(หรือตัวกวน)อยู่ข้างพี่สาวตลอด เป็นภาพที่พวกแม่ๆกับลูกจ้างและพวกแม่บ้านเห็นกันจนชินตา ถ้าพี่สาวเรามีโครงการจะทำอะไร เราคนหนึ่งแหละที่ทุกคนรู้แน่ๆว่าจะไม่ขัดพี่สาว เราอยู่ข้างๆกัน จนเหมือนเป็นความสบายใจ เราอายุสิบแปดพี่อายุยี่สิบห้าก็แล้ว พวกเราก็ยังเหมือนเดิม เราชอบลูกชายร้านขายยาในตลาด พี่สาวเราก็จะชอบชวนไปตลาดแล้วไปขับมอไซวนผ่านหน้าร้านให้(ทำไปได้) แล้วเวลาพี่ทำอาหาร ต่อให้เราไม่มีหน้าที่อะไรเลย พี่ก็จะต้องให้เรานั่งเล่นอยู่ในครัวด้วย เหมือนเป็นความเคยชินไปแล้ว...บางทีเรานอนเล่นอยู่ที่บ้านอีกหลังก็จะโทรมาตามให้ไปอยู่ด้วย ไปนั่งดูทีวีในครัวก็ยังดี

     ตอนประถมพี่เคยตื่นมาทำคุกกี้กับยำวุ้นเส้นตอนตีห้า ให้เราเอาไปงานเลี้ยงที่โรงเรียนด้วย ขนาดนางเป็นคนตื่นสายนะ นางทุ่มเทขนาดไหน เรานึกทีไรก็ขำทั้งน้ำตา ตอนนั้นเรากวนมาก กลัวไม่มีขนมไปแล้วจะโดนเพื่อนว่า พี่เราก็นั่งรถกลับบ้านมาจากมหาลัยตอนเย็นไปซื้อของที่ตลาด แล้วตื่นมาเตรียมให้ตอนเช้า ตอนนั้นยังเด็ก ไม่ได้รู้เลยว่าไม่ใช่พี่ทุกคนหรอกนะที่จะทำให้ได้ขนาดนี้
เคยมีครั้งหนึ่งที่เรากวนอยากกินน้ำใบเตย พี่พาไปตลาดหาซื้อใบเตยมานั่งสับทำให้เรากิน เราเข้าไปกวนขอช่วย โดนมีดสับปลายเล็บไป กลายเป็นต้องนั่งจ๋อยมองพี่ทำอยู่คนเดียว ภาพที่เห็นคือผู้หญิงที่ปกติจะแต่งตัวเปรี้ยวๆแต่หน้าไปมหาลัยอยู่ในแบบหน้าสด มัดผมลวกๆ ใส่กางเกงเจเจ เสื้อกล้ามย้วยๆนั่งสับใบเตยอย่างตั้งใจ เป็นเรื่องที่แทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ แต่เมื่อเช้าเป็นเรื่องแรกที่ผุดเข้ามาในหัวเรา
ตอนเราจะไปเข้าค่ายที่ต่างประเทศ พี่สาวเราเพิ่งรู้ตอนเรากำลังจะเดินทาง เราเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน(ได้เพราะมีคนสละสิทธิ) พี่เราทำหมูตุ๋นแล้วตักข้าวใส่ถ้วยใบใหญ่ตักหมูตุ๋นราดลงบนข้าว ส่งใส่มือเราที่อยู่บนรถ เราจำไม่ได้ว่าพี่พูดกับเราว่าอะไร แต่หมูตุ๋นวันนั้นอร่อยมาก ไม่ว่าพวกแม่ๆจะทำให้กินกี่ครั้ง ก็ไม่อร่อยเท่าครั้งนั้น

วันที่เราคุยกับพี่สาวก่อนจะแยกกัน พี่สาวโทรหาเรา แล้วบอกว่าคิดถึง เราไม่คิดอะไร เพราะบางทีพวกเราก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว โทรหากันตลอดถ้าต้องอยู่แยกกัน วันนั้นพี่สาวเราไปนอนบ้านแฟน...ทุกวันนี้เรายังคิดเสมอ ว่าถ้าวันนั้น เราชวนคุยนานกว่านี้ ถ้าตอนนั้นเราใส่ใจกว่านี้ แม้แต่ตอนนี้เราใกล้จะได้เจอพี่สาวแล้ว แต่มันก็ยังคงเป็นความรู้สึกที่มันตันๆติดคาอยู่ในใจ วนอยู่แต่กับคำว่า ถ้าตอนนั้น...

สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือการเพิ่งรู้ว่าพี่สำคัญยิ่งกว่าที่คิดในวันที่ต้องแยกกัน...วุ้นใส่ลูกชุบที่พี่ชอบทำแช่ไว้ให้ในตู้เย็นรสชาติอร่อยจนทำให้คิดว่าถ้าต้องกลืนลงไปคงรู้สึกเสียดาย  ภาพที่ยืนมองพี่จากขอบโต๊ะ มีตั้งแต่เรายังอนุบาลด้วยซ้ำ พี่เราชอบเข้าครัวตั้งแต่เด็ก ทำไก่อบให้กิน ทำโน้นนี่ตามที่สนใจ มีช่วงหนึ่งที่เราชอบกินแกงเขียวหวานปลาดุก พี่ก็ทำติดๆกันจนเอียนไปข้าง
พี่สาวชอบทำอะไรทีละเยอะๆ บางทีก็โดนป้าบ่นบ้าง บางทีก็เสียต้องทิ้งบ้าง...หลายๆครั้งที่นึกถึงสิ่งที่พี่ทำแล้วเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า ทำไมตอนนั้นเราไม่กินให้หมดนะ...เพิ่งรู้ว่าอาหารหรือขนมในวันนั้นมันอร่อยก็ตอนที่ไปกินที่ร้านแล้วมันไม่โดนใจถูกปากเหมือนตอนที่พี่ทำ อาหารบางสูตรถ้าทำตามต้นฉบับคือไม่โดนเลย แต่พี่ก็ปรับสูตรให้เรากินได้

พี่รักเราขนาดนั้น...

จำได้ว่าขนมที่พี่ทำเป็นอย่างแรกคือลูกชุบ พี่ทำเป็นรูปหัวใจน่ารักๆให้เรา...เรานั่งกวนอยู่ข้างๆ พี่ต้องคอยกันไม่ให้ไปโดนหม้อใส่วุ้น ขนาดตอนโตแล้ว พี่ยังคงหาขนมนั้นนี่ทำให้เรากินอยู่เรื่อย
ไก่ทอดของพี่ต้องทอดสองรอบ...เราจำได้ว่าเราต้องนั่งกินขนมรอรอข้าวเลยทีเดียว มันนานขนาดนั้น...แต่ไก่ที่ได้มาก็สมราคารอ กรอบอร่อยจนเรากวนกินอีกบ่อยๆ

พี่มักจะเขียนจดหมายบอกเราว่าน้อยใจ ที่ไม่มีน้องมาหา...เราอยากบอกพี่สาวมากว่า พวกเราน้องๆกวนจะไปกันหลายครั้งมาก แต่พวกแม่ๆไม่อยากให้เราไป  (ป้า แม่ น้า) เพราะว่ากลัวพี่เราทำใจไม่ได้ ไม่อยากให้เห็นภาพที่พี่อยู่ที่นั่น...
หลายๆครั้งที่เห็นเมนูในห้องก้นครัวแล้วคิดถึงพี่...ก็คิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าได้เจอกับพี่ คราวนี้จะตั้งใจนั่งดู จะเกาะโต๊ะอยู่มุมเดิม มองภาพที่คิดถึงให้เต็มตา และจะเอาอาหารฝีมือพี่มาลงให้ทุกคนดู

มุมขอบโต๊ะ เป็นมุมวัยเด็กที่มีความหมายนะ ความทรงจำของเรามากมายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในห้องครัวนี่แหละ พี่สาวเราไม่ใช่คนที่เรียบร้อยงดงามแบบที่จะเป็นภาพหวานแบบแสงส่องตาเห็นพี่เป็นเงาๆว่าหันมาคุยจ๊ะจ๋ากับเรา หัวเราะคิกคักกันแบบในละคร พี่สาวเรา จะทำอาหารไปบาง โทรคุยกับแฟนไปบ้าง เอาอาหารมายัดใส่ปากเราบ้าง ไม่ได้ยิ้มไปฮัมเพลงไปทำไป พี่เราจะทำด้วยหน้านิ่งๆหรือคิดอะไรตลอดเวลา แต่ที่ชัดเจนคือ ภาพพี่สาวที่ปาดเหงื่อตรงขมับกับชุดนอนเก่าๆ อบอุ่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

เพิ่งรู้ว่าพี่สาวพยายามจะถ่ายทอดหลายๆอย่างที่ดีให้เราตลอดก็ตอนนอนนึกดีๆอย่างเมื่อเช้า ว่าพี่สาวเราทำแบบนั้นทำไม ทำแบบนี้ทำไม พี่สาวเราจะคอยพูดเสมอว่า
...ถึงพี่จะไม่ดี แต่พี่จะไม่ยอมให้น้องตัวเองเดินตามพี่เด็ดขาด พี่จะสอนน้องทุกอย่างว่าอะไรดีไม่ดี พี่ไม่ได้เรียนดีๆ พี่ก็จะทำทุกทางให้น้องได้เรียนดีๆ ตอนเด็กพี่มีปัญหาไม่มีคนที่ปรึกษาได้ พี่จะไม่ยอมให้น้องต้องเจอแบบพี่ พี่จะเป็นคนที่อยู่ข้างน้องและเป็นที่ปรึกษาให้น้อง...

พึ่งรู้ว่าพี่ทำตามคำพูดเสมอมาก็ตอนที่ต้องแยกกับพี่ พึ่งรู้ว่ากับข้าวพี่อร่อยขนาดไหนตอนที่นั่งกินข้าวจากร้านตามสั่งคนเดียวตรงโต๊ะตัวเดิมที่ชอบยืนเกาะดูพี่ทำอาหาร พี่สาวบอกป้าว่าถ้ากลับมา จะทำงานหาเงินช่วยส่งเราเรียนต่อป.โท
พี่คิดถึงเราขนาดนั้น...เราคิดเสมอว่าอยากซื้อบ้านอยู่กับพี่ เปิดคาเฟ่ตามที่พี่ชอบ อยู่ด้วยกันเรา พี่ หลาน น้องชาย  ตอนแรกยังเป็นแค่ความคิดที่คิดขึ้นมาลอยๆ แต่เมื่อเช้า ถึงรู้สึกว่า จะให้มันเป็นแค่ฝันไม่ได้

เราอยากให้ทุกคนลองมองไปรอบๆตัว ทุกอย่างมีความทรงจำทั้งนั้น ว่างๆลองกลับบ้านที่เราเติบโตมายืนนิ่งหรือนั่งนิ่งๆมองรอบๆตัว  เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายเป็นคำอ่านยังไง แต่โดยรวมคือ อย่าให้มาคิดได้ว่าเราต้องแคร์ใครในวันที่สาย เรารู้สึกว่าเราต้องใช้บุญที่ทำมาทั้งชีวิตแน่ๆในการคิดได้โดยยังมีโอกาสได้แก้ตัว คือเราโชคดีแค่ไหนที่ได้เห็นคุณค่าแล้วยังมีโอกาสได้แก้ตัวเมื่อพี่สาวเราจะได้กลับมาอยู่ใกล้ๆกันอีกในไม่ช้า และได้ตระหนักว่าเราไม่ได้โชคดีขนาดนี้เสมอไป เราอยากพูดในมุมของความรักของพี่น้องบ้าง เพราะบางทีเราเห็นพี่น้องทะเลาะกัน ไม่ถูกกันแล้วเราก็ค่อนข้างจะไม่สบายใจ ขนาดเราห่างกับพี่แค่สี่ปี เรายังรู้สึกเศร้าใจ เสียใจขนาดนี้ แล้วบางคนที่มารู้ตัวในวันที่สายไปและไม่มีโอกาสอีกล่ะ มันจะรู้สึกแย่ขนาดไหน

...เราหวังและต้องการให้เป็นจริงคือ วันใดวันหนึ่ง เราจะได้ตั้งกระทู้เล่าความสำเร็จตามฝันที่เราได้บอกไป พร้อมลงรูปเรากับพี่และร้านในฝันของเราลงพันทิป 5555555 พี่เราเขียนจดหมายว่า ว่าพี่คงจะไม่แต่งงานแล้วล่ะ ไม่อยากมีใครแล้ว อยากอยู่กับลูกกับน้อง ดูแลแม่ๆกับตายาย ซึ่งเราเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนไม่ว่าพี่จะทำอะไรก็ตาม และเราพร้อมจะช่วยพี่ทุกอย่างถ้าเราช่วยได้ เราอยากเลี้ยงและรักหลานเราได้ดีเหมือนที่พี่เลี้ยงเรารักเราดูแลเรา
เราเปิดไปเจอรูปที่เราถ่ายกับพี่สาวกับน้องชายตอนเด็ก พี่แก่กว่าเราเจ็ดปี เราแก่กว่าน้องเจ็ดปี เราถ่ายรูปกันที่หน้าวัดที่จังหวัดสุพรรณบุรี วัดบ้านขุนช้างขุนแผน จำชื่อวัดไม่ได้  น้องเรายังเดินไม่ได้ ตอนนี้น้องเราม.หกแล้ว ผ่านมานานขนาดนั้น...
ความทรงจำแรกของเรากับพี่เลยคือตอนอนุบาลหนึ่ง ที่พี่เราจูงมือเราที่ใส่ชุดรำเดินไปหาคุณครูประจำชั้น...พี่เราจูงมือเราบ้างอุ้มเราบ้าง พี่เราตอนนั้นยังผมเท่าติ่งหูอยู่เลย...
อ่านถึงตรงนี้แล้ว...คุณคิดถึงใครบ้างคะ อ่านแล้วมีมุมไหนในบ้านที่คุณนึกถึงบ้าง เราอาจจะเขียนไม่รู้เรื่องจับประเด็นไม่ถูก...แต่เราอยากเขียนให้ตัวเองไม่ลืมความรู้สึกนี้ และไม่อยากให้มันหายไปเมื่อโน๊ตบุ๊คพังหรือตัวเก็บหายและจะเปิดให้พี่ได้อ่าน (ต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่