ซื้อบ้านมือสอง กับบทเรียนราคาแพง  มัดจำที่ต้องเสียฟรีๆ กับความรู้ว่าเราครอบครองที่หลวงไว้ในรั้วบ้านได้ด้วยหรอ

สวัสดีค่ะ

เราไม่มีประสบการณ์ซื้อบ้านมาก่อน  มีคนมาเสนอบ้านมือสองหลังนึงในตอนที่เรากำลังดูบ้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้นพอดี เพื่อให้พ่อเราได้มีที่นั่งเล่นหน้าบ้าน   ให้แมวจรที่เก็บมาเลี้ยง12ตัว ได้มีที่อยู่  ไม่ต้องแออัดในห้องนอนเรา ซึ่งอยู่ในสมุทรปราการไม่ไกลจากบ้านเดิม

เรากับครอบครัวและนายหน้าก็ไปดูบ้านกัน  โดยมีลูกเจ้าของบ้านมาเปิดบ้านให้  บ้านน่าอยู่มาก  เป็นบ้าน2ชั้น 3 ห้องนอน มีห้องโถงกว้าง มีบริเวณรอบบ้าน มีที่จอดรถในรั้วบ้าน 4 คัน เป็นบ้านปลูกเอง อยู่หน้าหมู้บ้านหนึ่ง พื้นที่50กว่าตารางวา บอกราคาที่3.5ล้าน เราเลยขอ3.2ล้าน นายหน้าก็บอกว่าคุยกับเจ้าของบ้านให้ สรุปว่า ได้ในราคา3.2ล้าน แต่ต้องมัดจำภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2559 ซึ่งมีเวลาคิดแค่ไม่กี่วัน ถ้ามัดจำเกินสิ้นเดือนนั้นจะขึ้นราคาบ้านเป็น3.5ล้าน  แต่เราคุยกับครอบครัวแล้ว ว่าชอบบ้านหลังนี้ ถ้าได้ 3.2 ล้าน ช่วยๆกันผ่อนก็ไหว ตัดสินใจมัดจำ 60,000 บาท  และทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านในวันที่ 30 กรกฎาคม 2559 โดยในสัญญาระบุว่า ถ้ากู้ไม่ผ่าน จะคืนมัดจำครึ่งนึง คือ30,000บาท มีระยะเวลา2เดือน แต่เราโอเคกับบ้านหลังนี้ กู้ยังไงก็ผ่าน  กู้ได้น้อยก็หาคนกู้ร่วมหรือหาเงินโปะไป ไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียเงินมัดจำ30,000บาท  โดยไม่ได้บ้านที่เราชอบหรอก

โดยทำสัญญาจะซื้อจะขายและจ่ายมัดจำผ่านนายหน้า และนายหน้าก็นำเงินมัดจำ60,000บาทไปให้เจ้าของบ้าน ถึงโคราช และนายหน้าก็นำสัญญาที่เจ้าของบ้านเซ็นต์กลับมาให้เรา

แล้วเราก็รีบให้เอกสารกับนายหน้าเพื่อยื่นกู้ กลัวไม่ทัน2เดือน  แต่พอกู้ไปแล้วผลออกมาว่าธนาคารประเมินบ้านให้แค่2ล้าน บาท ก็กู้ได้ไม่ถึง100% ของราคาประเมิน เหลือกู้ได้แค่ล้านกว่า เราก็สงสัยว่าบ้านก็สวย ที่ก็กว้าง รถไฟฟ้าที่กำลังสร้างอยู่ก็ใกล้จะถึงด้วย

สาเหตุคือ บ้านหลังนั้นเป็นที่ตาบอด ติดที่ลำรางที่เป็นคลองมาก่อน  พอนายหน้าอธิบายให้ฟัง เราถึงรู้ว่า ที่เขาบอกว่าที่จอดรถ4คันที่ติดกับตัวบ้าน ที่เค้าตีรั้วไว้อย่างดี มันไม่ใช่ที่เค้า เป็นที่ลำราง เป็นที่หลวง เราเข่าทรุด แทบล้มทั้งยืนเลย

ถ้าวันนึงหลวงเอาที่คืน  เราจะไม่มีที่เข้าออกบ้านเลย มีแต่ที่ที่เป็นตัวบ้าน ไม่มีที่จอดรถ ไม่มีแม้ที่เดินออกจากบ้าน เพราะหน้าบ้านก็มีบ้านคน เค้าตีรั้วที่หลวงเป็นของเค้าสำหรับจอดรถได้และเป็นทางผ่าน

ทำไมวันดูบ้านลูกเจ้าของบ้านไม่บอกเรา  ทั้งที่เราก็บอกจะสร้างที่ว่างเป็นบ้านแมว สร้างนั่นนี่  ทำไมเจ้าของบ้านไม่บอก เรื่องนี้กับคนซื้อว่าเค้ารับได้ไหมกับการครอบครองที่หลวงในรั้วบ้าน  พอผลออกมาแบบนี้ เจ้าของบ้านก็บอกว่าไม่มีใครมาเอาคืนหรอก เค้าอยู่มาตั้งนาน ถ้าหลวงจะเอาก้เอาไปนานแล้ว แต่ก็ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างอะไร อ้าว แล้วบ้านแมวเราหล่ะ แล้วถ้าใครจะตากผ้าหรือจอดรถหน้าบ้านขวางทางเข้าออก เราจะทำไรได้ ก็หน้าบ้านมันไม่ใช่ที่เรานี่  ไม่ใช่ที่เราตั้งแต่ที่ในรั้วบ้านละ ส่วนนายหน้าก็บอกว่าเพิ่งรู้พร้อมเราในวันที่ธนาคารประเมินบอกมา ถ้าเรารู้เรื่องนี้ เราคงไม่เอาบ้านหลังนี้แน่ๆ

เราก็ตัดสินใจไม่เอาบ้านหลังนี้ เพราะไม่รู้ว่า ตีรั้วที่หลวงเป็นที่ตัวเองได้ด้วยหรอ และถ้าอนาคตหลวงเอาที่คืนเราจะเข้าออกบ้านยังไง เหมือนเจตนาให้เราเข้าใจผิด โดยไม่บอกเราแต่แรก  เราเห็นบ้านหลังนี้ลงขายในเน็ตก็ถ่ายรูปส่วนที่หลวงลงขายด้วย และบอกชัดเจนว่ามีที่จอดรถ4คัน ซึ่งความจริง พื้นที่เค้าแค่ติดกำแพงบ้าน ไม่มีที่เดินเลยด้วยซ้ำ

เราจึงแจ้งเจ้าของบ้านว่าไม่เอาบ้านหลังนี้ ขอมัดจำคืน กู้ได้ต่ำ ครอบครองที่หลวงไว้ในรั้วตัวเอง เอาไปก็ไม่สบายใจ เจ้าของบ้านบอกจะคืนมัดจำ30,000บาท ตามในสัญญา  วันที่ 15 กันยายน 2559 พอถึงวันที่15ก็เงียบ เราโทรไปก็ขอเลื่อนเป็น20กันยายน2559  เราก็บอกว่า20จริงๆนะ เราต้องใช้เงิน เค้าก็ตกลง พอถึง20 เค้าก็เงียบ โทรไปก็ไม่รับสาย เหมือนเจตนาจะไม่คืนมัดจำเราเลย จนเราต้องไลน์ไปบอกลูกชายเค้า ว่าพ่อเค้าไม่คืนมัดจำเราทั้งที่นัดกัน และติดต่อไม่ได้ ต้องทำยังไง ถ้าเค้าเงียบแบบนี้ เราจะแจ้งความ จนเจ้าของบ้านยอมรับสาย และบอกว่าให้รอสัญญาครบ2เดือนก่อน คืนสิ้นเดือนกันยายน  เราบอกไม่รอและจะไปแจ้งความ  เจ้าของบ้านเลยจะคืนมัดจำในวันที่26กันยายน2559 แต่ขอดูใบแจ้งความก่อน คือถ้าเราไม่แจ้งความจริงๆเค้าจะไม่คืนเงินเราหรอ อ้างนั่นนี่โกหกไปเรื่อย เราเลยส่งใบแจ้งความให้เค้าดู เค้าถึงโอนเงินมัดจำคืนมา 30,000บาท และโทรมาบอกว่าโอนแล้ว ให้ไปถอนแจ้งความให้เค้า เค้าส่งสลิปโอนเงินมาและเขียนว่าโอนคืนมัดจำ30,000บาทแล้ว เพราะผู้ซื้อขอยกเลิกสัญญา เนื่องจากผู้ซื้อไม่สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้  ซึ่งความเป็นจริง ที่เราไม่เอาบ้าน เพราะเค้าไม่บอกเราว่าในรั้ว ไม่ใช่ที่เค้า เจตนาให้เราเข้าใจผิด  บอกไม่ให้เราโทรไปอีก ไม่ให้ยุ่งกะลูกชายเค้า (ไม่ให้ยุ่งได้ไงวันดูบ้านลูกชายคุณมาเปิดบ้านให้นะและคุณก็ไม่รับสาย) ให้อโหสิกรรม และยังบอกอีกว่าถ้าขายบ้านได้จะคืน30,000ที่เหลือ  ไม่อยากได้เงินของคนอื่นหรอก ไม่ใช่คนแบบนั้น แต่การกระทำไม่ใช่เลย ถ้าไม่แจ้งความ ไม่บอกลูกชาย เค้าคงไม่คืนมัดจำ30,000บาท ตามสิทธิของเราแน่ๆ
กว่าเราจะได้มัดจำก้อนนี้คืน เราต้องเครียด ปวดประสาทแทบแย่

แล้วเราก็ได้ยินมาว่า เค้าทำแบบนี้หลายคนแล้ว ขายบ้าน กู้ไม่ผ่าน กินเงินมัดจำ 
ซึ่งบทเรียนราคาแพงครั้งนี้ ก็เป็นความผิดเราด้วยแหละ ที่
-อยากได้บ้านจน รีบเอาเงินมัดจำให้นายหน้าไปจ่ายเค้า โดยไม่สืบข้อมูลให้ดีก่อน และ ไม่รู้จักเรื่องที่ลำราง
-ไม่รู้มาก่อนว่าสามารถตีรั้วเอาที่หลวงเป็นของตัวเองได้
-ไม่ทันคิดและดูไม่ออกว่า ที่50กว่าตารางวา มันไม่กว้างขนาดนี้ รวมที่หลวงแล้ว คงถึง100ตารางวาเลย

ที่เราตั้งกระทู้นี้ เราไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่เราอยากขอให้เราเป็นคนสุดท้ายที่จะเจอเหตุการณ์แบบนี้  เป็นคนสุดท้ายที่จะโดนเค้ากินมัดจำไป 30,000บาทไปง่ายๆ  ซึ่งเงินก้อนนี้เราเก็บนานมากกว่าจะได้มา
แต่ถ้าเราทำอะไรไม่ได้ ก็ถือว่าเราได้ซื้อบทเรียนราคาแพง และอย่าได้พบได้เจอคนแบบนี้อีกเลย  

เรื่องยาว แต่ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่รู้แบบเรา

ถ้าท่านใดมีข้อเสนอแนะ ก็แนะนำเราได้นะคะ  ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่