ทำไมแสงถึงเป็นตัวกำหนดเวลาครับ?

จากคำพูดของไอน์สไตน์ทำให้ผมปวดหัวครับ
ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ว่าหากวัตถุใดที่ไม่ถูกแสงกระทบวัตุถุนั้นย่อมไม่มีเวลา
สิ่งที่ทำให้ผมปวดหัวที่สุดคือเวลาที่คนบนโลกกับคนในยานอวกาศที่เดินทางนอกโลกในระยะทางที่ไกลมาก และ การที่เรามองเห็นปรากฎการณ์ต่างๆบนเอกภพของเราจากกล้องโทรทัศน์
การที่แสงจากวัตถุส่องมาถึงเราต้องใช้เวลาผมเข้าใจเพราะแสงก็มีความเร็วของมันเหมือนกัน แต่ในที่นี้มันคือการมองเห็นไม่ใช่เหรอครับถ้าสมมติว่า ผมเป็นมนุษย์ต่างดาวมองดูโลกระเบิดแต่มันระเบิดไปแล้ว300,000ปีสุดท้ายแล้วมันเป็นแค่การมองเห็นไม่ใช่เหรอครับถ้าเราตัดคำว่าแสงออกไปจากทุกสิ่งทุกอย่างในเอกภพสุดท้ายแล้วเวลาก็จะเท่ากันไม่ใช่เหรอครับ แต่ ทำไมมนุษย์ที่เดินทางนอกโลกด้วยยานอวกาศถึงแก่ช้ากว่าหรือเร็วกว่าคนที่อยู่บนโลกล่ะครับ เพราะมันก็แค่การมองเห็นนี่ครับ ถ้าตัดแสงไปเวลาทุกอย่างก็จะเท่ากันแต่!!!!!!ไอน์สไตน์บอกว่าวัตถุใดที่ไม่ถูกแสงกระทบวัตุถุนั้นย่อมไม่มีเวลา โอ้วบร๊ะจ้าวมีแต่เรื่องปวดหัวแต่ก็อยากจะเข้าใจ

ถ้าจะอธิบายให้ชัดเจนเลยรบกวนวาดภาพประกอบจะเป็นพระคุณมากครับเพราะผมไม่เก่งเรื่องจินตนการเป็นภาพซักเท่าไร
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่ต้องพูดถึงแสงก็ได้ มันทำให้คุณสับสน พอพูดว่าแสงแล้วคุณก็ไปคิดถึงการมองเห็น เอาแรงดึงดูดนี่แหละ ชัดเจนกว่า เพราะคุณหลับตาหนีแรงดึงดูดไม่ได้

คุณรู้ใช่ไหมครับว่าแสงจากดวงอาทิตย์ใช้เวลาแปดนาทีในการเดินทางมาถึงโลก (ถ้าดวงอาทิตย์ดับทันที อีกแปดนาที โลกถึงจะมืด)
และคุณก็รู้ใช่ไหมครับว่าโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ตามแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์
แต่.. คุณรู้ไหมครับว่า โลกโคจรตามตำแหน่งของดวงอาทิตย์เมื่อแปดนาทีที่แล้ว
ใช่แล้วครับ แรงดึงดูดก็ใช้เวลาแปดนาทีในการเดินทางมาถึงโลกเหมือนกัน
...จริงๆแล้ว การโคจรมันก็เกิดเพราะงี้แหละ โลกตกเข้าหาดวงอาทิตย์เพราะแรงดึงดูด แต่โลกพุ่งไปผิดทาง.. (ก็ดวงอาทิตย์ขยับไปแปดนาทีแล้วนี่นา) พอพุ่งไปผิดทาง มันก็ต้องเลี้ยว(ตกใหม่ให้ถูกตามแรงดึง) แต่พุ่งใหม่ก็ผิดอีก ต้องเลี้ยวๆๆ มันก็เป็นการโคจรนั่นแหละ (ว่าง่ายๆ การโคจร คือการตกที่พลาดพื้นดิน)

แล้วมันเกี่ยวกับเวลายังไง เพราะเวลาคือเหตุการณ์ครับ สุดท้ายแล้ว นิยามของเวลาที่วัดได้ง่ายที่สุดและอะตอมของทุกสิ่งในจักรวาลทำตามก็คือลำดับของเหตุการณ์ เมื่อทุกเหตุการณ์ไม่เกิดเลย ถ้าคุณไม่รับรู้เหตุการณ์อะไรเลย (ที่ระดับโมเลกุลนะครับ ไม่ใช่เรื่องปรัชญาแบบหลับตาหรือนอนหลับ) มันก็ไม่มีเวลา


คำว่า"ความเร็วแสง"อาจจะเป็นคำที่ทำให้เข้าใจผิดกันเยอะ จริงๆควรจะเรียกว่า "ความเร็วเหตุการณ์" แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะสิ่งที่แสดงความเร็วนี้ให้เราเห็นสิ่งแรกที่เรารู้จักมันคือแสง มันจึงเป็นคำติดปากไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่