หน้าเปิด
ต่อจากตอนที่แล้ว อิซึมิโทรมาบอกข่าวร้ายกับพวกฮายาเตะเรื่องที่มณีราชาที่อยู่กับมาคิน่าถูกขโมยไปแล้ว ทันทีที่รู้ข่าวนี้มิคาโดะถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว แต่มิวายยังมีเล่นมุขจนโดนฮายาเตะด่า(พอดีมุขเป็นศัพท์เฉพาะเลยไม่เข้าใจ) มิคาโดะก็ถามว่าใครกันที่มาขโมยไป ซาคุยะก็คุยสายแทนอิซึมิบอกว่าคฤหาสน์ของเธอโดนบุกเข้ามาแบบไม่มีปีมีขลุ่ย คนร้ายเล่นงานทั้งรปภ.และพ่อบ้านหมด แถมยังจัดการพ่อบ้านของอาเธเน่(มาคิน่า)ที่เป็นคนเก็บซ่อนมณีราชาเอาไว้ แล้วก็ขโมยมณีราชาได้แล้วก็หนีไปทันที ซาคุยะบอกเลยว่าความสามารถของคนร้ายนั้นเหนือมนุษย์ ซาคุยะเลยเรียกอิซึมิมาเพื่อระบุตัวว่าเป็นใครก็เลยจะยืนยันกับฮายาเตะด้วย
เมื่อซาคุยะส่งรูปคนร้ายให้ฮายาเตะดู ฮายาเตะจำได้ทันที หญิงสาวที่สวมหน้ากากแถมในรูปหน้ากากก็แตกจนหลุดยิ่งทำให้เห็นหน้าจริงด้วย นั้นคือเมดของฮิซุยและยังเป็นบุคคลลึกลับที่เคยบุกมาที่อพาร์ทเมนต์ของนางิและเผาโลงศพ แถมยังแข็งแกร่งขนาดรับมืออิซึมิได้สบายๆด้วย
ซาคุยะบอกดูเหมือนทางพวกฮายาเตะจะคิดเหมือนกันสินะ ก็เท่ากับระบุตัวคนร้ายได้แน่นอน และการที่ฮิซุยมาขโมยมณีราชาแบบนี้นั้นเท่ากับฮิซุยได้รู้ถึงที่ซ่อนของกุญแจแล้วนั้นเอง มิคาโดะพอรู้ว่าฮิซุยได้มณีราชาไปแล้วก็บอกเลยว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดแล้ว ถึงขั้นที่จะศูนย์เสียมรดกตระกูลได้ทุกเมื่อ
แต่ทางฮายาเตะเมื่อคิดดูแล้วก็บอกว่ายังเป็นแบบนั้นซะทีเดียว สิ่งที่ฮายาเตะคิดคือจะชิงลงมือก่อนโดยการบุกไปคฤหาสน์ของฮิซุยบ้างเพื่อนำมณีราชากลับมาและทำลายมันเพื่อให้อาเธเน่กลับคืนร่างเดิมด้วย แต่พอฮายาเตะบอกจะบุกไปหาฮิซุย ซาคุยะก็ขอเตือนให้ระวังก่อน เพราะฮิซุยนั้นเป็นคนอันตรายของจริงเลย ทั้งตรรกะและผลที่ตามมากับเธอนั้นฮิซุยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น หากเห็นใครมาขวางฮิซุยจะจัดการไปให้พ้นทางทันที ซาคุยะจึงให้ฮายาเตะระวังตัวไว้ ไม่ว่าจะมีใครช่วยเหลือหรือไม่ ฮิซุยจะไม่หยุดจนกว่าจะชนะ
หลังจากซาคุยะวางสาย อิซึมิก็ขอตัวทันทีด้วยเหมือนกัน บอกว่าในเมื่อยืนยันชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นเมดของฮิซุยแบบนี้แล้ว... ซาคุยะถามอิซึมิว่าจะไปด้วยเหรอ อิซึมิบอกแน่นอน... นั้นก็เพื่อศึกล้างตา(จากคราวที่แล้วที่อิซึมิโดนโฮเซ็นเคาเตอร์สวนกลับจนอิซึมิล้มไปซะเอง)
ด้านฮิซุย ฮิซุยที่ได้มณีราชามาอยู่ในมือแล้วและยังรู้ถึงวิธีเปิดเส้นทางจากการใช้ระเบิดอารมณ์ด้านลบ รวมถึงที่ซ่อนของกุญแจที่น่าจะอยู่ที่รอยัลการ์เด้น แต่ดูเหมือนฮิซุยจะดูยังไม่เชื่อเต็มร้อยว่ากุญแจจะอยู่ที่นั้น บอกว่าหากไม่เห็นด้วยตาตัวเองก็จะยังไม่เชื่อ และว่าด้วยเรื่องนี้ ฮิซุยเลยถามโฮเซ็นข้อหนึ่ง....
อะไรคือพลังแห่งราชวงศ์ อาเธเน่ได้พูดเรื่องกับฮายาเตะซึ่งเป็นเรื่องที่อาเธเน่ในร่างปกติพยายามจะบอกฮายาเตะแต่ยังไม่มีโอกาสได้บอกแล้วกลายเป็นร่างเด็กซะก่อน อาเธเน่จึงขออธิบายให้ฟังตอนนี้เลยในขณะที่กำลังนั่งคอปเตอร์ไปคฤหาสน์ของฮิซุย
อาเธเน่ถามฮายาเตะว่ารู้จักนิทานเรื่องราชาหูลาไหม ฮายาเตะบอกรู้เป็นเรื่องที่ราชามีหูเป็นหูลาและช่างตัดผมเผลอไปรู้ความลับนี้เข้า แม้ฮายาเตะจะไม่ค่อยรู้รายละเอียดเพราะลืมๆไปเยอะแต่ก็รู้ว่ามันเป็นเพียงนิทาน อาเธเน่เลยถามต่อว่าแล้วได้รู้ไหมว่าทำไมราชาองค์นั้นถึงมีหูลาได้ ฮายาเตะเงียบบอกว่าไม่เคยได้ยินเรื่องตรงส่วนนั้นมาก่อนเลย อาเธเน่จึงเริ่มเล่า...
เป็นเรื่องเมื่อ 2,700 ปีก่อน ราชาแห่งอาณาจักรที่เรียกกันว่า "ฟริจิยา" (เป็นอาณาจักรโบราณที่มีอยู่จริงบริเวณตะวันออกกลางในปัจจุบัน) ราชาพระนาม "ไมดัส" ที่ชื่นชอบทองคำเป็นที่สุด เป็นราชาที่หลงรักทองคำมากกว่าสิ่งใด หลงรักมากจนไม่ยอมให้ใครอื่นได้มีมันเลยนอกจากตัวพระองค์เอง เป็นราชาแห่งความโลภและปรารถนาจะร่ำรวยยิ่งกว่าใครในโลก
วันหนึ่งพระองค์ได้ช่วยเหลือเทพเขลาองค์หนึ่ง เทพองค์นั้นจึงบอกกับราชาว่าจะมอบความปรารถนาให้อย่างหนึ่งเป็นการตอบแทน ราชาไมดัสขออย่างไม่ลังเลเลยว่า ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเขาสัมผัสถูกเปลี่ยนให้เป็นทอง แล้วเทพก็มอบความปรารถนานั้นให้ ราชาไมดัสจึงได้สุขสำราญกับความร่ำรวยอันไร้ที่สิ้นสุดจากมือของพระองค์เอง...
แต่แล้วราชาไมดัสก็ได้ตระหนักถึงผลที่ตามมาจากความปรารถนานี้ ในเมื่อทุกอย่างที่ราชาไมดัสแตะต้องจะกลายเป็นทอง ดังนั้นไม่ว่าจะขนมปังหรือไวน์ที่ดื่มกิน มันก็เปลี่ยนกลายเป็นทองไปด้วย ซ้ำร้ายยังรวมไปถึงเผลอทำให้ลูกสาวของตัวเองกลายเป็นทองด้วย(ลูกสาวที่ดูด้านข้างแล้วเหมือนโฮเซ็นไม่มีผิด) ด้วยเหตุนี้ราชาไมดัสจึงร้องขอคืนพลังนี้ให้กับเทพ แต่นั้นทำให้ต้องรับผลตอบแทนจากความปรารถนาอันโง่เขลานั้น ราชาไมดัสจึงได้รับหูลามาแทนจากการคืนพลัง หูของสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเขลา จึงเป็นที่มาของราชาหูลา จากนั้นจึงเกิดเรื่องของราชาหูลากับช่างตัดผม... และตอนนี้ก็ยังนำพามาถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดกับพวกฮายาเตะด้วย
แต่เรื่องมันก็ไม่ได้จบหลังจากที่ราชาไมดัสได้หูลามา ราชาไมดัสที่แม้จะคืนพลังที่ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นทองที่ไร้ความหมาย แต่ตัวราชาไมดัสเองแท้จริงแล้วต้องการที่จะได้พลังของเทพทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ราชาจึงใช้ความร่ำรวยอันไร้ที่สิ้นสุดของตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังแห่งดวงดาว เพื่อสร้างอุบายกับเทพผู้โง่เขลาองค์นั้น และผนึกเทพไว้ในราชวังที่อยู่เบื้องหลังแห่งเวลา นั้นก็คือรอยัลการ์เด้น เคหสถานของเทพที่ถูกราชาไมดัสจับเอาไว้ และในส่วนลึกของราชวังนั้น... ก็คือพลังที่ทำให้เทพหลับไหลอยู่ภายในโลงศพ นั้นแหละคือพลังแห่งราชวงศ์
หากใช้พลังแห่งดวงดาว... และแลกกับอายุไข 50 ปีของคนๆหนึ่ง ก็จะได้มาซึ่งความปรารถนาอะไรก็ได้... นั้นแหละคือ หนังสือลายมือของเทพ Orumuzuto Nadja
จบตอน
เจอชื่อสุดท้าย คิดว่าส่วนใหญ่คงไม่รู้จัก งั้นดูรูปหน้าตากันเลย
นึกออกกันแล้วใช่มะ เธอก็คือตัวละครที่โผล่มายิงมุขมาตลอดในปกในของฉบับรวมเล่มตั้งแต่เล่ม 1(ของญี่ปุ่นนะ ของไทย
สองเล่มแรกเล่มแรกวิบูลย์กิจไม่ได้ให้ความสำคัญเลยตัดออก หลังจากนั้นพอเล่ม 2 มาก็เอาไปแทรกตรงหน้าท้ายๆแทน)
*พอดีกลับไปดูรวมเล่มของไทยใหม่เปิดเจอเล่ม 2 ก็มีแทรกที่หน้าท้ายสุดแล้ว เลยขอแก้หน่อย
สรุปคือ เธอคนนี้คือเทพธิดาที่มอบพลังให้กับราชาไมดัสและโดนราชาไมดัสจับขังไว้ที่รอยัลการ์เด้นนั้นเอง งั้นเดี๋ยวสักพักก็คงปรากฎในเนื้อเรื่องหลักแน่ๆล่ะ (มิน่าทำไมถึงบอกว่าเป็นเทพโง่เขลา ก็สมแล้วจริงๆ)
[Spoil] Hayate no Gotoku! - 544
ต่อจากตอนที่แล้ว อิซึมิโทรมาบอกข่าวร้ายกับพวกฮายาเตะเรื่องที่มณีราชาที่อยู่กับมาคิน่าถูกขโมยไปแล้ว ทันทีที่รู้ข่าวนี้มิคาโดะถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว แต่มิวายยังมีเล่นมุขจนโดนฮายาเตะด่า(พอดีมุขเป็นศัพท์เฉพาะเลยไม่เข้าใจ) มิคาโดะก็ถามว่าใครกันที่มาขโมยไป ซาคุยะก็คุยสายแทนอิซึมิบอกว่าคฤหาสน์ของเธอโดนบุกเข้ามาแบบไม่มีปีมีขลุ่ย คนร้ายเล่นงานทั้งรปภ.และพ่อบ้านหมด แถมยังจัดการพ่อบ้านของอาเธเน่(มาคิน่า)ที่เป็นคนเก็บซ่อนมณีราชาเอาไว้ แล้วก็ขโมยมณีราชาได้แล้วก็หนีไปทันที ซาคุยะบอกเลยว่าความสามารถของคนร้ายนั้นเหนือมนุษย์ ซาคุยะเลยเรียกอิซึมิมาเพื่อระบุตัวว่าเป็นใครก็เลยจะยืนยันกับฮายาเตะด้วย
เมื่อซาคุยะส่งรูปคนร้ายให้ฮายาเตะดู ฮายาเตะจำได้ทันที หญิงสาวที่สวมหน้ากากแถมในรูปหน้ากากก็แตกจนหลุดยิ่งทำให้เห็นหน้าจริงด้วย นั้นคือเมดของฮิซุยและยังเป็นบุคคลลึกลับที่เคยบุกมาที่อพาร์ทเมนต์ของนางิและเผาโลงศพ แถมยังแข็งแกร่งขนาดรับมืออิซึมิได้สบายๆด้วย
ซาคุยะบอกดูเหมือนทางพวกฮายาเตะจะคิดเหมือนกันสินะ ก็เท่ากับระบุตัวคนร้ายได้แน่นอน และการที่ฮิซุยมาขโมยมณีราชาแบบนี้นั้นเท่ากับฮิซุยได้รู้ถึงที่ซ่อนของกุญแจแล้วนั้นเอง มิคาโดะพอรู้ว่าฮิซุยได้มณีราชาไปแล้วก็บอกเลยว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดแล้ว ถึงขั้นที่จะศูนย์เสียมรดกตระกูลได้ทุกเมื่อ
แต่ทางฮายาเตะเมื่อคิดดูแล้วก็บอกว่ายังเป็นแบบนั้นซะทีเดียว สิ่งที่ฮายาเตะคิดคือจะชิงลงมือก่อนโดยการบุกไปคฤหาสน์ของฮิซุยบ้างเพื่อนำมณีราชากลับมาและทำลายมันเพื่อให้อาเธเน่กลับคืนร่างเดิมด้วย แต่พอฮายาเตะบอกจะบุกไปหาฮิซุย ซาคุยะก็ขอเตือนให้ระวังก่อน เพราะฮิซุยนั้นเป็นคนอันตรายของจริงเลย ทั้งตรรกะและผลที่ตามมากับเธอนั้นฮิซุยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น หากเห็นใครมาขวางฮิซุยจะจัดการไปให้พ้นทางทันที ซาคุยะจึงให้ฮายาเตะระวังตัวไว้ ไม่ว่าจะมีใครช่วยเหลือหรือไม่ ฮิซุยจะไม่หยุดจนกว่าจะชนะ
หลังจากซาคุยะวางสาย อิซึมิก็ขอตัวทันทีด้วยเหมือนกัน บอกว่าในเมื่อยืนยันชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นเมดของฮิซุยแบบนี้แล้ว... ซาคุยะถามอิซึมิว่าจะไปด้วยเหรอ อิซึมิบอกแน่นอน... นั้นก็เพื่อศึกล้างตา(จากคราวที่แล้วที่อิซึมิโดนโฮเซ็นเคาเตอร์สวนกลับจนอิซึมิล้มไปซะเอง)
ด้านฮิซุย ฮิซุยที่ได้มณีราชามาอยู่ในมือแล้วและยังรู้ถึงวิธีเปิดเส้นทางจากการใช้ระเบิดอารมณ์ด้านลบ รวมถึงที่ซ่อนของกุญแจที่น่าจะอยู่ที่รอยัลการ์เด้น แต่ดูเหมือนฮิซุยจะดูยังไม่เชื่อเต็มร้อยว่ากุญแจจะอยู่ที่นั้น บอกว่าหากไม่เห็นด้วยตาตัวเองก็จะยังไม่เชื่อ และว่าด้วยเรื่องนี้ ฮิซุยเลยถามโฮเซ็นข้อหนึ่ง....
อะไรคือพลังแห่งราชวงศ์ อาเธเน่ได้พูดเรื่องกับฮายาเตะซึ่งเป็นเรื่องที่อาเธเน่ในร่างปกติพยายามจะบอกฮายาเตะแต่ยังไม่มีโอกาสได้บอกแล้วกลายเป็นร่างเด็กซะก่อน อาเธเน่จึงขออธิบายให้ฟังตอนนี้เลยในขณะที่กำลังนั่งคอปเตอร์ไปคฤหาสน์ของฮิซุย
อาเธเน่ถามฮายาเตะว่ารู้จักนิทานเรื่องราชาหูลาไหม ฮายาเตะบอกรู้เป็นเรื่องที่ราชามีหูเป็นหูลาและช่างตัดผมเผลอไปรู้ความลับนี้เข้า แม้ฮายาเตะจะไม่ค่อยรู้รายละเอียดเพราะลืมๆไปเยอะแต่ก็รู้ว่ามันเป็นเพียงนิทาน อาเธเน่เลยถามต่อว่าแล้วได้รู้ไหมว่าทำไมราชาองค์นั้นถึงมีหูลาได้ ฮายาเตะเงียบบอกว่าไม่เคยได้ยินเรื่องตรงส่วนนั้นมาก่อนเลย อาเธเน่จึงเริ่มเล่า...
เป็นเรื่องเมื่อ 2,700 ปีก่อน ราชาแห่งอาณาจักรที่เรียกกันว่า "ฟริจิยา" (เป็นอาณาจักรโบราณที่มีอยู่จริงบริเวณตะวันออกกลางในปัจจุบัน) ราชาพระนาม "ไมดัส" ที่ชื่นชอบทองคำเป็นที่สุด เป็นราชาที่หลงรักทองคำมากกว่าสิ่งใด หลงรักมากจนไม่ยอมให้ใครอื่นได้มีมันเลยนอกจากตัวพระองค์เอง เป็นราชาแห่งความโลภและปรารถนาจะร่ำรวยยิ่งกว่าใครในโลก
วันหนึ่งพระองค์ได้ช่วยเหลือเทพเขลาองค์หนึ่ง เทพองค์นั้นจึงบอกกับราชาว่าจะมอบความปรารถนาให้อย่างหนึ่งเป็นการตอบแทน ราชาไมดัสขออย่างไม่ลังเลเลยว่า ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเขาสัมผัสถูกเปลี่ยนให้เป็นทอง แล้วเทพก็มอบความปรารถนานั้นให้ ราชาไมดัสจึงได้สุขสำราญกับความร่ำรวยอันไร้ที่สิ้นสุดจากมือของพระองค์เอง...
แต่แล้วราชาไมดัสก็ได้ตระหนักถึงผลที่ตามมาจากความปรารถนานี้ ในเมื่อทุกอย่างที่ราชาไมดัสแตะต้องจะกลายเป็นทอง ดังนั้นไม่ว่าจะขนมปังหรือไวน์ที่ดื่มกิน มันก็เปลี่ยนกลายเป็นทองไปด้วย ซ้ำร้ายยังรวมไปถึงเผลอทำให้ลูกสาวของตัวเองกลายเป็นทองด้วย(ลูกสาวที่ดูด้านข้างแล้วเหมือนโฮเซ็นไม่มีผิด) ด้วยเหตุนี้ราชาไมดัสจึงร้องขอคืนพลังนี้ให้กับเทพ แต่นั้นทำให้ต้องรับผลตอบแทนจากความปรารถนาอันโง่เขลานั้น ราชาไมดัสจึงได้รับหูลามาแทนจากการคืนพลัง หูของสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเขลา จึงเป็นที่มาของราชาหูลา จากนั้นจึงเกิดเรื่องของราชาหูลากับช่างตัดผม... และตอนนี้ก็ยังนำพามาถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดกับพวกฮายาเตะด้วย
แต่เรื่องมันก็ไม่ได้จบหลังจากที่ราชาไมดัสได้หูลามา ราชาไมดัสที่แม้จะคืนพลังที่ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นทองที่ไร้ความหมาย แต่ตัวราชาไมดัสเองแท้จริงแล้วต้องการที่จะได้พลังของเทพทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ราชาจึงใช้ความร่ำรวยอันไร้ที่สิ้นสุดของตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังแห่งดวงดาว เพื่อสร้างอุบายกับเทพผู้โง่เขลาองค์นั้น และผนึกเทพไว้ในราชวังที่อยู่เบื้องหลังแห่งเวลา นั้นก็คือรอยัลการ์เด้น เคหสถานของเทพที่ถูกราชาไมดัสจับเอาไว้ และในส่วนลึกของราชวังนั้น... ก็คือพลังที่ทำให้เทพหลับไหลอยู่ภายในโลงศพ นั้นแหละคือพลังแห่งราชวงศ์
หากใช้พลังแห่งดวงดาว... และแลกกับอายุไข 50 ปีของคนๆหนึ่ง ก็จะได้มาซึ่งความปรารถนาอะไรก็ได้... นั้นแหละคือ หนังสือลายมือของเทพ Orumuzuto Nadja
จบตอน
เจอชื่อสุดท้าย คิดว่าส่วนใหญ่คงไม่รู้จัก งั้นดูรูปหน้าตากันเลย
นึกออกกันแล้วใช่มะ เธอก็คือตัวละครที่โผล่มายิงมุขมาตลอดในปกในของฉบับรวมเล่มตั้งแต่เล่ม 1(ของญี่ปุ่นนะ ของไทย
สองเล่มแรกเล่มแรกวิบูลย์กิจไม่ได้ให้ความสำคัญเลยตัดออก หลังจากนั้นพอเล่ม 2 มาก็เอาไปแทรกตรงหน้าท้ายๆแทน)*พอดีกลับไปดูรวมเล่มของไทยใหม่เปิดเจอเล่ม 2 ก็มีแทรกที่หน้าท้ายสุดแล้ว เลยขอแก้หน่อย
สรุปคือ เธอคนนี้คือเทพธิดาที่มอบพลังให้กับราชาไมดัสและโดนราชาไมดัสจับขังไว้ที่รอยัลการ์เด้นนั้นเอง งั้นเดี๋ยวสักพักก็คงปรากฎในเนื้อเรื่องหลักแน่ๆล่ะ (มิน่าทำไมถึงบอกว่าเป็นเทพโง่เขลา ก็สมแล้วจริงๆ)