หน้าเปิด
มกราคมเมื่อ 8 ปีก่อน อิสึมิได้เห็นแม่ของนางิในงานเลี้ยง อิสึมิเลยถามแม่ของเธอว่าเป็นใคร แม่อิสึมิบอกชื่อ ซังเซนอิง ยูคาริโกะ และเป็นคนสำคัญกับแม่อิสึมิด้วย แต่สำหรับอิสึมิแล้วยูคาริโกะดูราวกับเป็นเทพเลยที่เดียว
เมื่อวันก่อน คานานิวะมาหามิคาโดะและได้บอกเรื่องที่ว่าคนที่ดึงพลังราชวงศ์ออกไปเมื่อ 10 ปีก่อนจริงๆก็คือยูคาริโกะเอง แต่มิคาโดะบอกเป็นไปไม่ได้ คานานิวะเลยถามทำไมคิดงั้น มิคาโดะบอกเพราะยูคาริโกะไม่มีมณีราชา และมีแต่มณีราชาเท่านั้นที่จะช่วยเข้าไปที่ปราสาทได้ และในตอนนั้นก็มีของฮายาเตะที่ไม่ได้รับคำสาปของราชาไมดัส แต่คานานิวะบอกมิคาโดะลืมอะไรไปรึเปล่า บอกว่าไม่ว่าจะเวทมนตร์ที่ดีแค่ไหนแต่ยังไงเบื้องหลังมันก็เรียบง่ายสุดๆ
คานานิวะถามให้มิคาโดะลองนึกดูว่าใครกันที่เป็นคนเอามณีราชาทั้งเก้ามา มิคาโดะบอกยูคาริโกะบอกว่าไปเจอที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งตอนนั้นยูคาริโกะเอาทั้ง 9 มณีมาโชว์ให้ดูบอกยกให้ มิคาโดะคิดว่ายูคาริโกะไม่รู้ถึงความสำคัญของพวกมันก็เลยไม่ได้ต้องการมณีเลย แต่ทันทีนั้นมิคาโดะก็นึกอะไรบางอย่างออก ในตอนนั้นยูคาริโกะเอามาให้ 9 มณีโดยบอกว่า... เจอที่ชั้นใต้ดินตอนที่กำลังเล่นซ่อนหากับเพื่อน(ฮาสึโฮะ แม่อิสึมิ กับ มิโคโตะ แม่วาตารุ) ซึ่งตอนนั้นมิคาโดะพึ่งนึกได้ว่าทั้งสองคนนั้นก็อยู่ด้วย
คานานิวะคิดว่ามิคาโดะคงเริ่มเข้าใจแล้ว บอกอย่างที่มิคาโดะเริ่มคิดได้ว่าโดนทั้งสามคนหลอกแล้ว จริงๆแล้วที่ทั้งสามคนเจอนั้นไม่ใช่ 9 มณี แต่เป็น 12 มณีต่างหาก และในตอนนั้นยูคาริโกะได้แบ่งมณีให้ฮาสึโฮะและมิโคโตะ รวมทั้งเธอเก็บไว้คนละมณีเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์ของเพื่อนกันตลอดไป และแน่นอนว่ายูคาริโกะขอให้ทั้งสองคนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วย มิคาโดะพึ่งรู้ตัวว่าพวกยูคาริโกะแอบเก็บมณีไว้ก่อนแต่แรกแล้ว
คานานิวะบอกใช่แล้วและทั้งสามคนนั้นก็รู้ทุกอย่างแต่แรกแล้ว บอกเลยว่าหากรู้ว่าทั้งสามคนมีมณีอยู่ทุกอย่างก็ลงตัว หลังจากได้มณียูคาริโกะก็ถูกชักนำโดยพลังแห่งราชวงศ์ สู่ดินแดนฮิเมกามิและพบผนึกพลังราชวงศ์ จากนั้นยูคาริโกะก็มอบมณีให้ฮิเมกามิและเขาก็ใช้ไปโดยไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร แล้วพลังราชวงศ์ก็คืนกลับสู่โรยัลการ์เด้น มิคาโดะไม่อยากจะเชื่อแต่คานานิวะบอกมันคือความจริง
จากนั้น 12 ปีต่อมา มิคาโดะได้เจอฮิเมกามิในฐานะผู้เดินทางเพื่อฟื้นพลังแห่งราชวงศ์ และเมื่อมิคาโดะได้เรียนรู้ถึงพลังแห่งราชวงศ์และโรยัลการ์เด้นเป็นครั้งแรกก็เริ่มหาทางเข้าไปสู่ปราสาท ในตอนนั้นจึงได้เลี้ยงดูอัจฉริยะคนหนึ่งที่สามารถแปลข้อความภาษาได้ ถึงจะพบอุปสรรคมาตลอดแต่ในที่สุดหนทางก็เปิดได้ในที่สุดโดยอาเธเน่ที่ตอนนั้นพึ่งเสียพ่อที่เป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ไป นั้นเลยทำให้หนทางเปิดขึ้น
พอเส้นทางเปิดได้ในที่สุดจนสามารถจะเอื้อมถึงการ์เด้นและพลังแห่งราชวงศ์ บางสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น คำสาปของราชาไมดัส ตอนที่มิคาโดะพยายามจะเข้าไปในปราสาทด้วยอาเธเน่ ไมดัสก็กางเคี้ยวเล็บขวางซะก่อน แต่ในที่สุดอาเธเน่ก็ไล่ราชาไมดัสเข้าไปในส่วนลึกได้ แต่มิคาโดะก็ไม่สามารถเข้าไปโรยัลการ์เด้นได้แล้ว พร้อมกันนั้นมณี 7 อันก็สูญสิ้นแสงไปด้วยคำสาปของไมดัส เพราะเหตุนี้เองมิคาโดะจึงคิดว่าเป็นฮายาเตะที่ชิงพลังของราชวงศ์ไป คิดว่าแค่มณีชิ้นนั้นเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลของคำสาปของไมดัส แต่นั้นเป็นเรื่องที่ผิด ความจริงแล้วในตอนนั้นมิโคโตะและฮาสึโฮะยังคงมีมณีอยู่กับตัว
มิคาโดะสงสัยว่างั้นทำไมถึงเป็นยูคาริโกะ ไม่คิดว่าสองคนนั้นจะเป็นคนเอาไปรึไง คานานิวะบอกนั้นก็มีความเป็นไปได้แต่ก็ได้พยานหลักฐานมา ในวันที่อาเธเน่ได้รับการช่วยเหลือ(จากพี่ฮายาเตะ) คนขับรถบอกพี่ฮายาเตะได้ช่วยยูคาริโกะในตอนที่เธอถูกปองร้าย คานานิวะรู้สึกได้เลยว่าเพราะพลังแห่งราชวงศ์ได้เลือกเธอและชักนำเธอ เลือกยูคาริโกะผู้ที่เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลซังเซนอิง มีซึ่งทุกสิ่งที่ต้องการ คานานิวะคิดไม่ออกเลยว่าอย่างยูคาริโกะจะจำเป็นต้องใช้พลังไปทำไม แต่ก็รู้สึกได้ว่าหลังนั้นชักนำเธอ...ในฐานะ เจ้านายที่แท้จริง ในตอนนั้นคานานิวะคิดว่าคงเป็นมณีของฮาสึโฮะที่ยูคาริโกะใช้เพื่อเข้าไปในปราสาทเพราะตอนนั้นมิโคโตะตีตัวออกห่างไปแล้วจากที่ยูคาริโกะแต่งงาน
จึงเป็นที่แน่นอนว่าเมื่อ 10 ปีก่อนผู้ที่ได้รับพลังราชวงศ์มาก็คือยูคาริโกะ แต่ดูเหมือนจะใช้พลังหลังจากนั้นและคืนมันกลับปราสาทอีกครั้ง แต่เรื่องนี้ก็แค่รู้จากอาเธเน่โดยไม่มีหลักฐาน แต่ถ้าไปตรวจสอบที่แมนชั่นที่ยูคาริโกะเคยอยู่ก็คงพบมณี 2 อันที่สูญสิ้นแสงไปแล้ว และคานานิวะคิดว่าบางทีมิคาโดะคงรู้อยู่แล้วจากที่ให้ฮายาเตะและมาเรียไปทำความสะอาด
มิคาโดะเลยถามต่อว่างั้นยูคาริโกะจะใช้พลังเพื่ออะไร คานานิวะบอกเธอเองก็ไม่รู้และไม่เจอหนทางจะรู้เลย แต่ก็สรุปได้แล้วว่าจำนวนของมณีที่เหลือมี 5 อัน อันที่ถูกทำลายไปแล้วก็มี มิคาโดะทำลายไปหนึ่งเพื่อคลายคำสาปให้ตัวเอง นางิทำลายไปหนึ่งที่ไมโคนอส พี่ฮายาเตะทำลายไปอีกหนึ่ง(ตอนที่ฮายาเตะไปขอคืน) และอาเธเน่ลอบทำลายอันที่มิคาโดะแอบเก็บไว้ เท่ากับว่าแค่ปีนี้มณีถึง 4 อันก็ถูกทำลายไปแล้ว และใน 5 อันที่เหลือ คานานิวะมีอยู่หนึ่งอัน คานานิวะคิดว่าอยู่ที่มิโคโตะ อาเธเน่ซ่อนไว้หนึ่งอัน อีกสองอันที่เหลือมิคาโดะคงให้ใครเก็บไว้อยู่โดยที่จะไปเอากลับมาเมื่อไรก็ได้ แต่คานานิวะจะใช้การทัศนศึกษาหาเด็กที่จะเปิดเส้นทางสู่การ์เด้นให้ได้ก่อน และบอกเลยว่าจะใช้เด็กนั้นไปชิงพลังแห่งราชวงศ์มาด้วย และก่อนจะขอตัวคานานิวะก็ขอขอบคุณมิคาโดะจริงๆที่ให้มณีสุดรักไว้กับเธอแบบนี้
หลังจากคานานิวะไปแล้ว มิคาโดะก็พูดไม่ออกจนอาเธเน่เข้ามาทักแซว อาเธเน่ถามมิคาโดะจะเอายังไงต่อ ปล่อยไว้แบบนี้คานานิวะคงได้พลังไปแน่ แต่มิคาโดะบอกไม่ต้องห่วง เขายังมีไพ่ตายอยู่ แต่อาเธเน่ดักคอเลยว่าไพ่ตายที่ว่าสุดท้ายจะได้ทำงานให้มิคาโดะรึเปล่ายังไม่รู้เลย
จบตอน
[Spoil] Hayate no Gotoku! - 504
มกราคมเมื่อ 8 ปีก่อน อิสึมิได้เห็นแม่ของนางิในงานเลี้ยง อิสึมิเลยถามแม่ของเธอว่าเป็นใคร แม่อิสึมิบอกชื่อ ซังเซนอิง ยูคาริโกะ และเป็นคนสำคัญกับแม่อิสึมิด้วย แต่สำหรับอิสึมิแล้วยูคาริโกะดูราวกับเป็นเทพเลยที่เดียว
เมื่อวันก่อน คานานิวะมาหามิคาโดะและได้บอกเรื่องที่ว่าคนที่ดึงพลังราชวงศ์ออกไปเมื่อ 10 ปีก่อนจริงๆก็คือยูคาริโกะเอง แต่มิคาโดะบอกเป็นไปไม่ได้ คานานิวะเลยถามทำไมคิดงั้น มิคาโดะบอกเพราะยูคาริโกะไม่มีมณีราชา และมีแต่มณีราชาเท่านั้นที่จะช่วยเข้าไปที่ปราสาทได้ และในตอนนั้นก็มีของฮายาเตะที่ไม่ได้รับคำสาปของราชาไมดัส แต่คานานิวะบอกมิคาโดะลืมอะไรไปรึเปล่า บอกว่าไม่ว่าจะเวทมนตร์ที่ดีแค่ไหนแต่ยังไงเบื้องหลังมันก็เรียบง่ายสุดๆ
คานานิวะถามให้มิคาโดะลองนึกดูว่าใครกันที่เป็นคนเอามณีราชาทั้งเก้ามา มิคาโดะบอกยูคาริโกะบอกว่าไปเจอที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งตอนนั้นยูคาริโกะเอาทั้ง 9 มณีมาโชว์ให้ดูบอกยกให้ มิคาโดะคิดว่ายูคาริโกะไม่รู้ถึงความสำคัญของพวกมันก็เลยไม่ได้ต้องการมณีเลย แต่ทันทีนั้นมิคาโดะก็นึกอะไรบางอย่างออก ในตอนนั้นยูคาริโกะเอามาให้ 9 มณีโดยบอกว่า... เจอที่ชั้นใต้ดินตอนที่กำลังเล่นซ่อนหากับเพื่อน(ฮาสึโฮะ แม่อิสึมิ กับ มิโคโตะ แม่วาตารุ) ซึ่งตอนนั้นมิคาโดะพึ่งนึกได้ว่าทั้งสองคนนั้นก็อยู่ด้วย
คานานิวะคิดว่ามิคาโดะคงเริ่มเข้าใจแล้ว บอกอย่างที่มิคาโดะเริ่มคิดได้ว่าโดนทั้งสามคนหลอกแล้ว จริงๆแล้วที่ทั้งสามคนเจอนั้นไม่ใช่ 9 มณี แต่เป็น 12 มณีต่างหาก และในตอนนั้นยูคาริโกะได้แบ่งมณีให้ฮาสึโฮะและมิโคโตะ รวมทั้งเธอเก็บไว้คนละมณีเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์ของเพื่อนกันตลอดไป และแน่นอนว่ายูคาริโกะขอให้ทั้งสองคนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วย มิคาโดะพึ่งรู้ตัวว่าพวกยูคาริโกะแอบเก็บมณีไว้ก่อนแต่แรกแล้ว
คานานิวะบอกใช่แล้วและทั้งสามคนนั้นก็รู้ทุกอย่างแต่แรกแล้ว บอกเลยว่าหากรู้ว่าทั้งสามคนมีมณีอยู่ทุกอย่างก็ลงตัว หลังจากได้มณียูคาริโกะก็ถูกชักนำโดยพลังแห่งราชวงศ์ สู่ดินแดนฮิเมกามิและพบผนึกพลังราชวงศ์ จากนั้นยูคาริโกะก็มอบมณีให้ฮิเมกามิและเขาก็ใช้ไปโดยไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร แล้วพลังราชวงศ์ก็คืนกลับสู่โรยัลการ์เด้น มิคาโดะไม่อยากจะเชื่อแต่คานานิวะบอกมันคือความจริง
จากนั้น 12 ปีต่อมา มิคาโดะได้เจอฮิเมกามิในฐานะผู้เดินทางเพื่อฟื้นพลังแห่งราชวงศ์ และเมื่อมิคาโดะได้เรียนรู้ถึงพลังแห่งราชวงศ์และโรยัลการ์เด้นเป็นครั้งแรกก็เริ่มหาทางเข้าไปสู่ปราสาท ในตอนนั้นจึงได้เลี้ยงดูอัจฉริยะคนหนึ่งที่สามารถแปลข้อความภาษาได้ ถึงจะพบอุปสรรคมาตลอดแต่ในที่สุดหนทางก็เปิดได้ในที่สุดโดยอาเธเน่ที่ตอนนั้นพึ่งเสียพ่อที่เป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ไป นั้นเลยทำให้หนทางเปิดขึ้น
พอเส้นทางเปิดได้ในที่สุดจนสามารถจะเอื้อมถึงการ์เด้นและพลังแห่งราชวงศ์ บางสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น คำสาปของราชาไมดัส ตอนที่มิคาโดะพยายามจะเข้าไปในปราสาทด้วยอาเธเน่ ไมดัสก็กางเคี้ยวเล็บขวางซะก่อน แต่ในที่สุดอาเธเน่ก็ไล่ราชาไมดัสเข้าไปในส่วนลึกได้ แต่มิคาโดะก็ไม่สามารถเข้าไปโรยัลการ์เด้นได้แล้ว พร้อมกันนั้นมณี 7 อันก็สูญสิ้นแสงไปด้วยคำสาปของไมดัส เพราะเหตุนี้เองมิคาโดะจึงคิดว่าเป็นฮายาเตะที่ชิงพลังของราชวงศ์ไป คิดว่าแค่มณีชิ้นนั้นเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลของคำสาปของไมดัส แต่นั้นเป็นเรื่องที่ผิด ความจริงแล้วในตอนนั้นมิโคโตะและฮาสึโฮะยังคงมีมณีอยู่กับตัว
มิคาโดะสงสัยว่างั้นทำไมถึงเป็นยูคาริโกะ ไม่คิดว่าสองคนนั้นจะเป็นคนเอาไปรึไง คานานิวะบอกนั้นก็มีความเป็นไปได้แต่ก็ได้พยานหลักฐานมา ในวันที่อาเธเน่ได้รับการช่วยเหลือ(จากพี่ฮายาเตะ) คนขับรถบอกพี่ฮายาเตะได้ช่วยยูคาริโกะในตอนที่เธอถูกปองร้าย คานานิวะรู้สึกได้เลยว่าเพราะพลังแห่งราชวงศ์ได้เลือกเธอและชักนำเธอ เลือกยูคาริโกะผู้ที่เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลซังเซนอิง มีซึ่งทุกสิ่งที่ต้องการ คานานิวะคิดไม่ออกเลยว่าอย่างยูคาริโกะจะจำเป็นต้องใช้พลังไปทำไม แต่ก็รู้สึกได้ว่าหลังนั้นชักนำเธอ...ในฐานะ เจ้านายที่แท้จริง ในตอนนั้นคานานิวะคิดว่าคงเป็นมณีของฮาสึโฮะที่ยูคาริโกะใช้เพื่อเข้าไปในปราสาทเพราะตอนนั้นมิโคโตะตีตัวออกห่างไปแล้วจากที่ยูคาริโกะแต่งงาน
จึงเป็นที่แน่นอนว่าเมื่อ 10 ปีก่อนผู้ที่ได้รับพลังราชวงศ์มาก็คือยูคาริโกะ แต่ดูเหมือนจะใช้พลังหลังจากนั้นและคืนมันกลับปราสาทอีกครั้ง แต่เรื่องนี้ก็แค่รู้จากอาเธเน่โดยไม่มีหลักฐาน แต่ถ้าไปตรวจสอบที่แมนชั่นที่ยูคาริโกะเคยอยู่ก็คงพบมณี 2 อันที่สูญสิ้นแสงไปแล้ว และคานานิวะคิดว่าบางทีมิคาโดะคงรู้อยู่แล้วจากที่ให้ฮายาเตะและมาเรียไปทำความสะอาด
มิคาโดะเลยถามต่อว่างั้นยูคาริโกะจะใช้พลังเพื่ออะไร คานานิวะบอกเธอเองก็ไม่รู้และไม่เจอหนทางจะรู้เลย แต่ก็สรุปได้แล้วว่าจำนวนของมณีที่เหลือมี 5 อัน อันที่ถูกทำลายไปแล้วก็มี มิคาโดะทำลายไปหนึ่งเพื่อคลายคำสาปให้ตัวเอง นางิทำลายไปหนึ่งที่ไมโคนอส พี่ฮายาเตะทำลายไปอีกหนึ่ง(ตอนที่ฮายาเตะไปขอคืน) และอาเธเน่ลอบทำลายอันที่มิคาโดะแอบเก็บไว้ เท่ากับว่าแค่ปีนี้มณีถึง 4 อันก็ถูกทำลายไปแล้ว และใน 5 อันที่เหลือ คานานิวะมีอยู่หนึ่งอัน คานานิวะคิดว่าอยู่ที่มิโคโตะ อาเธเน่ซ่อนไว้หนึ่งอัน อีกสองอันที่เหลือมิคาโดะคงให้ใครเก็บไว้อยู่โดยที่จะไปเอากลับมาเมื่อไรก็ได้ แต่คานานิวะจะใช้การทัศนศึกษาหาเด็กที่จะเปิดเส้นทางสู่การ์เด้นให้ได้ก่อน และบอกเลยว่าจะใช้เด็กนั้นไปชิงพลังแห่งราชวงศ์มาด้วย และก่อนจะขอตัวคานานิวะก็ขอขอบคุณมิคาโดะจริงๆที่ให้มณีสุดรักไว้กับเธอแบบนี้
หลังจากคานานิวะไปแล้ว มิคาโดะก็พูดไม่ออกจนอาเธเน่เข้ามาทักแซว อาเธเน่ถามมิคาโดะจะเอายังไงต่อ ปล่อยไว้แบบนี้คานานิวะคงได้พลังไปแน่ แต่มิคาโดะบอกไม่ต้องห่วง เขายังมีไพ่ตายอยู่ แต่อาเธเน่ดักคอเลยว่าไพ่ตายที่ว่าสุดท้ายจะได้ทำงานให้มิคาโดะรึเปล่ายังไม่รู้เลย
จบตอน