การที่ไต้หวันเจริญมาได้ถึงขนาดเป็นประเทศโลกที่1 ได้ ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างมาช่วยดัน  เอาง่ายว่า ดันกันมานาน

เพราะสมัยพี่ปุ๋ยได้นางงามจักรวาล จาก สารธารณรัฐจีน ตอนนั้น สกู๊ปรายการก็โชว์ความล้ำหน้าของไต้หวันได้สุดๆแล้ว

ตอนนี้แบรนดังๆของไต้หวัน ที่เราเห็น ก็  hTC , asus , acer , gigabyte , tatung , sym ที่ผลิตนวัตกรรมออกขาย

ถึงจะไม่ดังเท่า samsung , lg ,hyundai แต่ก็ทำรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล นอกจากนี้ นวัตกรรมการเกษตร

ของไต้หวันก็ล้ำหน้ามาได้ไหนแต่ไร อย่างเทคนิคตัดตากุ้งกุลาดำ ก็ได้มาจากไต้หวัน หรือแม้กระทั้ง ชาอู่หลง พันธุ์ พันธุ์ชิงซิน

ที่ดอยแม่สลอง ก็ล้วนมาจากไต้หวัน ดังนั้นไม่แปลกที่ตอนนี้ไต้หวัน จะเป็นประเทศโลกที่1

/////////////////////ต่อไปนี้คือความเห็นส่วนตัว\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\

ด้วยนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ที่รัฐบาลนี้กำลังดัน  ก็เดินตามรอยไต้หวันนี่แหละ  หวังว่าในไทยจะทำนวัตกรรมเป็นของตัวเอง

จะเห็นได้ว่าช่วงนี้ งานวิจัยของไทยเอามาออกทีวีโปรโมทเยอะมากๆ เช่น การทำหมันยุงของ การปรับปรุงพันธ์ปลา นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์

เวชสำอางค์จากพืชพื้นถิ่นไทย  พัฒนาเทคโนโลยีแบทเตอรี่ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนไทย อย่างทีวีอัลตรอน ที่เริ่มทำนวัตกรรม+แบรนขึ้นมาแล้ว

โดย RnD ในไทย (แต่ดีไซน์ยังไม่สวย) มีฐานการผลิตในพม่าและไทย คือตอนนี้ก็ดันกันสุดๆ แต่มันก็ต้องใช้เวลา  

อย่างไต้หวัน ซักปี 2531 ปีที่พี่ปุ๋ยได้เป็นนางงามจักรวาล  ตอนนั้นไต้หวันก็มีอุตสาหกรรมหนักแล้ว  กว่าจะมาเป็นประเทศโลกที่1ได้

ใช้เวลาไปไม่ต่ำกว่า 25 ปี ดังนั้น ประเทศไทย ถ้าเลียนแบบไต้หวันได้  เวลาอาจจะไม่ถึง 26 ปี แต่ก็ไม่ต่ำกว่า 20ปีแน่นอน

แต่อย่างว่า การเมืองการปกครองมันก็มีส่วนอีก หากว่า หมดรัฐบาลนี้ รัฐบาลถัดไป ไม่สนใจที่จะดันต่อ ไทยแลนด์ 4.0 ก็ไร้ค่า