“ลุงยิ้ม ตาสว่าง”แกนนำเสื้อแดงเสียชีวิตแล้ว
นายพฤกษ พฤกษ์สุนันท์ หรือ“ลุงยิ้ม ตาสว่าง” แกนนำคนเสื้อแดงเสียชีวิตอย่างสงบ
เช้าวันนี้ (27ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพฤกษ พฤกษ์สุนันท์ หรือ “ลุงยิ้ม ตาสว่าง” แกนนำคนเสื้อแดง ได้เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 3.54 นาที ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากป่วยเป็นมะเร็งมานาน
http://www.komchadluek.net/news/politic/243852
ขอแสดงความเสียใจแก่ญาติ ครอบครัว และ มิตรสหายของลุงยิ้ม ตาสว่าง ด้วยนะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
...แม้ใครจะมีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี ทุกคนก็ยังมีความตายเป็นที่ไปในเบื้องหน้า.
ความตายไม่ยกเว้นให้แก่ใคร ๆ มันย่ำยีหมดทุกคน....
มู. ม. ๑๒/๑๖๓/๑๙๒, มหาวาร. สํ ๑๙/๒๘๗/๙๖๓.
"ความตาย" เป็นเรื่องน่ากลัวเพราะคนไม่รู้ว่าตายแล้วเป็นอย่างไร ? ตายแล้วไปที่ไหน ?
แต่ถ้าได้รู้ความจริงว่าตายแล้วเป็นอย่างไร ? ต้องไปที่ไหนต่อ? จะยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเป็นร้อยเท่าพันทวี...
เพราะพระพุทธเจ้า ผู้สัพพัญญู รู้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกธาตุตรัสว่า ...
"มนุษย์หลังจากตายเพราะกายแตกทำลาย ได้เหลือกลับมาเกิดเป็นมนุษย์หรือไปเกิดเป็นเทวดา น้อยมากๆๆๆๆๆๆ (เทียบได้กับฝุ่นที่ปลายเล็บ)
ที่เหลือโดยมาก (มากกว่าร้อยละ 99.9999999ฯ) ต้องไปเกิดในนรก กำเนิดเดรัจฉานและเปรตวิสัย (เทียบได้กับดินทั้งมหาปฐพี)
สัตว์เกิดกลับมาเป็นมนุษย์มีน้อยเพราะไม่รู้อริยสัจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : ฝุ่นนิดหนึ่ง
ที่เราช้อนขึ้นด้วยปลายเล็บนี้ กับมหาปฐพีนั้น ข้างไหนจะมากกว่ากัน ?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มหาปฐพีนั่นแหละเป็นดินที่มากกว่า. ฝุ่นนิดหนึ่ง
เท่าที่ทรงช้อนขึ้นด้วยปลายพระนขานี้ เป็นของมีประมาณน้อย. ฝุ่นนั้น เมื่อนำเข้าไปเทียบ
กับมหาปฐพี ย่อมไม่ถึงซึ่งการคำนวณได้ เปรียบเทียบได้ ไม่เข้าถึงแม้ซึ่งกะละภาค
(ส่วนเสี้ยว)”.
ภิกษุ ท. ! อุปมานี้ฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้น : สัตว์ที่เกิดกลับมาสู่
หมู่มนุษย์ มีน้อย ; สัตว์ที่เกิดกลับเป็นอย่างอื่นจากหมู่มนุษย์ มีมากกว่า
โดยแท้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ข้อนั้น เพราะความที่สัตว์
เหล่านั้นไม่เห็นอริยสัจทั้งสี่. อริยสัจสี่ อย่างไรเล่า ? สี่อย่างคือ อริยสัจคือ
ทุกข์ อริยสัจคือเหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ อริยสัจคือความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
อริยสัจคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.
ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงประกอบโยคกรรม๑
อันเป็ นเครื่องกระทำให้รู้ว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้, เหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์ เป็น
อย่างนี้, ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่
เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้”, ดังนี้.
- มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๗๘/๑๗๕๗.
ความทุกข์ในโลกมนุษย์มีปริมาณเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับในนรก
พระองค์เปรียบเทียบอย่างนี้ว่า...
ความทุกข์ของคนที่ถูกหอก 300 เล่มแทง มีปริมาณความเจ็บปวดเหมือนก้อนหินเล็กๆ ก้อนหนึ่ง
แต่ทุกข์ในมหานรกมีปริมาณมากเหมือนเขาพระสุเมรุทีเดียว...
และพระองค์ยังตรัสอีกว่า ...
ภิกษุทั้งหลาย ! เราไม่มองเห็นการจองจำอื่นแม้อย่างเดียว
ที่ทารุณอย่างนี้ เจ็บปวดอย่างนี้ เป็น อันตรายอย่างนี้
ต่อการบรรลุโยคักเขมธรรมอันไมมี่ธรรมอื่นยิ่งกว่าเหมือนการถูกจองจำในนรกหรือในกำเนิดเดรัจฉานอย่างนี้.
ฉกฺก. อํ. ๒๒/๓๙๓/๓๑๖
ที่มาโพสด้วยความเป็นห่วงสมาชิกทุกท่านนะครับ โดยเฉพาะในราชดำเนินที่มีความขัดแย้งกันสูง มิได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น...
ใช้ความตายของผู้ที่รู้จักมาเป็น "มรณานุสติ" น้อมเข้ามาหาตัวท่านเอง...
แล้วเร่งศึกษาและปฏิบัติตามอริยสัจ 4 ที่พระองค์ชี้ทางไว้
แล้วจะสามารถยังประโยชน์ให้ตัวท่านเองได้ครับ... ด้วยความปราถนาดี...
ปล. กรุณางดแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อให้เกียรติ์แก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัวด้วยครับ
.... ความตายไม่เคยยกเว้นให้แก่ใครๆ มันย่ำยีหมดทุกคน (ลุงยิ้ม ตาสว่าง) ....
“ลุงยิ้ม ตาสว่าง”แกนนำเสื้อแดงเสียชีวิตแล้ว
นายพฤกษ พฤกษ์สุนันท์ หรือ“ลุงยิ้ม ตาสว่าง” แกนนำคนเสื้อแดงเสียชีวิตอย่างสงบ
เช้าวันนี้ (27ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพฤกษ พฤกษ์สุนันท์ หรือ “ลุงยิ้ม ตาสว่าง” แกนนำคนเสื้อแดง ได้เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 3.54 นาที ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากป่วยเป็นมะเร็งมานาน
http://www.komchadluek.net/news/politic/243852
ขอแสดงความเสียใจแก่ญาติ ครอบครัว และ มิตรสหายของลุงยิ้ม ตาสว่าง ด้วยนะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
...แม้ใครจะมีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี ทุกคนก็ยังมีความตายเป็นที่ไปในเบื้องหน้า.
ความตายไม่ยกเว้นให้แก่ใคร ๆ มันย่ำยีหมดทุกคน....
มู. ม. ๑๒/๑๖๓/๑๙๒, มหาวาร. สํ ๑๙/๒๘๗/๙๖๓.
"ความตาย" เป็นเรื่องน่ากลัวเพราะคนไม่รู้ว่าตายแล้วเป็นอย่างไร ? ตายแล้วไปที่ไหน ?
แต่ถ้าได้รู้ความจริงว่าตายแล้วเป็นอย่างไร ? ต้องไปที่ไหนต่อ? จะยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเป็นร้อยเท่าพันทวี...
เพราะพระพุทธเจ้า ผู้สัพพัญญู รู้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกธาตุตรัสว่า ...
"มนุษย์หลังจากตายเพราะกายแตกทำลาย ได้เหลือกลับมาเกิดเป็นมนุษย์หรือไปเกิดเป็นเทวดา น้อยมากๆๆๆๆๆๆ (เทียบได้กับฝุ่นที่ปลายเล็บ)
ที่เหลือโดยมาก (มากกว่าร้อยละ 99.9999999ฯ) ต้องไปเกิดในนรก กำเนิดเดรัจฉานและเปรตวิสัย (เทียบได้กับดินทั้งมหาปฐพี)
สัตว์เกิดกลับมาเป็นมนุษย์มีน้อยเพราะไม่รู้อริยสัจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความทุกข์ในโลกมนุษย์มีปริมาณเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับในนรก
พระองค์เปรียบเทียบอย่างนี้ว่า...ความทุกข์ของคนที่ถูกหอก 300 เล่มแทง มีปริมาณความเจ็บปวดเหมือนก้อนหินเล็กๆ ก้อนหนึ่ง
แต่ทุกข์ในมหานรกมีปริมาณมากเหมือนเขาพระสุเมรุทีเดียว...
และพระองค์ยังตรัสอีกว่า ...
ภิกษุทั้งหลาย ! เราไม่มองเห็นการจองจำอื่นแม้อย่างเดียว
ที่ทารุณอย่างนี้ เจ็บปวดอย่างนี้ เป็น อันตรายอย่างนี้
ต่อการบรรลุโยคักเขมธรรมอันไมมี่ธรรมอื่นยิ่งกว่าเหมือนการถูกจองจำในนรกหรือในกำเนิดเดรัจฉานอย่างนี้.
ฉกฺก. อํ. ๒๒/๓๙๓/๓๑๖
ที่มาโพสด้วยความเป็นห่วงสมาชิกทุกท่านนะครับ โดยเฉพาะในราชดำเนินที่มีความขัดแย้งกันสูง มิได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น...
ใช้ความตายของผู้ที่รู้จักมาเป็น "มรณานุสติ" น้อมเข้ามาหาตัวท่านเอง...
แล้วเร่งศึกษาและปฏิบัติตามอริยสัจ 4 ที่พระองค์ชี้ทางไว้
แล้วจะสามารถยังประโยชน์ให้ตัวท่านเองได้ครับ... ด้วยความปราถนาดี...
ปล. กรุณางดแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อให้เกียรติ์แก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัวด้วยครับ