สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ เห็นหลายๆ ท่านกระแนะกระแหนน้องเค้า ด้วยความที่ตัวเองไม่มีความรู้เรื่องที่น้องเค้ากำลังจะสื่อ หรือเรียกง่ายๆ ว่าขวางโลกให้ตัวเองดูเท่
ผมขอบอกในฐานะของเจ้าของร้าน ร้านนึง ที่จำหน่ายสินค้าออนไลน์ โดยมีตัวแทนจำหน่ายแบบพวก จขกท นี่แหละ
- การทำงานแบบที่ จขกท อธิบาย มันมีอยู่จริง และทำได้จริง ไม่เดือดร้อนใคร
- ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องสต๊อกของเอง แค่หาลูกค้า เหมือนเปิดร้านของตัวเอง เวลามีลูกค้ามาถามสินค้า ก็จะมาถามกับเจ้าของร้านที่รับตัวแทนอีกที ทำหน้าที่เป็นคนกลาง ในการหาลูกค้า
ก็เหมือนกับพวกนายหน้าขายที่ดิน ขายอสังหาทั่วไปนั่นแหละ ไม่ต้องลงทุนอะไร ขายได้มากก็ได้กำไรมาก ขี้เกียจก็ได้กำไรน้อย
ขั้นตอนก็คือ สมมติ
1. เจ้าของร้านอย่าง(ผม) จะขายสินค้า ชิ้นละ 100 บาทรวมส่งให้กับตัวแทน
2. ตัวแทน(จขกท) จะไปโฆษณาขายสินค้า (ด้วยเพจร้านของตัวเอง) ในราคา 150 บาทรวมส่ง ให้กับลูกค้าทั่วๆ ไป
3. เมื่อตกลงซื้อขายกัน (ลูกค้า)จะโอนเงิน 150 บาท ให้ตัวแทน(จขกท.)
4. ตัวแทน(จขกท) หักส่วนต่างออก 50 บาท โอนเงินให้เจ้าของร้าน(อย่างผม) 100 บาท
5. ทางร้าน(ผม) จะเป็นคนผลิตและจัดส่งสินค้าให้กับ (ลูกค้า) และแจ้งเลขพัสดุให้กับตัวแทน(จขกท)
6. ตัวแทน(จขกท.) ก็จะเอาเลขพัสดุไปให้(ลูกค้า) เหมือนเป็นคนขายและส่งเอง
7. จบการค้าขาย
สำหรับบางคนที่ชอบกระแนะกระแหนคนอื่น ผมอยากให้มองกว้างๆ นะครับว่าเค้าไม่ได้ทำอะไรให้คุณหรือใครเดือดร้อน อย่าไปว่าเค้านักเลย เท่าที่ผมดู น้องเค้าก็คงอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้กับคนที่อยากมีรายได้ แต่ไม่มีเงินทุนก็เท่านั้น
***ส่วนเงินทุน 1000 บาที่น้องเค้าบอก นั่นเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมาย หรือการตลาดผ่าน App ของ Facebook ถ้าใครไม่รู้จักก็ไปศึกษาหน่อยนะครับ อย่าไปว่าคนอื่นให้ตัวเองดูเท่ เพียงเพราะความเขลาของตัวเองเลยครับ
ผมขอบอกในฐานะของเจ้าของร้าน ร้านนึง ที่จำหน่ายสินค้าออนไลน์ โดยมีตัวแทนจำหน่ายแบบพวก จขกท นี่แหละ
- การทำงานแบบที่ จขกท อธิบาย มันมีอยู่จริง และทำได้จริง ไม่เดือดร้อนใคร
- ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องสต๊อกของเอง แค่หาลูกค้า เหมือนเปิดร้านของตัวเอง เวลามีลูกค้ามาถามสินค้า ก็จะมาถามกับเจ้าของร้านที่รับตัวแทนอีกที ทำหน้าที่เป็นคนกลาง ในการหาลูกค้า
ก็เหมือนกับพวกนายหน้าขายที่ดิน ขายอสังหาทั่วไปนั่นแหละ ไม่ต้องลงทุนอะไร ขายได้มากก็ได้กำไรมาก ขี้เกียจก็ได้กำไรน้อย
ขั้นตอนก็คือ สมมติ
1. เจ้าของร้านอย่าง(ผม) จะขายสินค้า ชิ้นละ 100 บาทรวมส่งให้กับตัวแทน
2. ตัวแทน(จขกท) จะไปโฆษณาขายสินค้า (ด้วยเพจร้านของตัวเอง) ในราคา 150 บาทรวมส่ง ให้กับลูกค้าทั่วๆ ไป
3. เมื่อตกลงซื้อขายกัน (ลูกค้า)จะโอนเงิน 150 บาท ให้ตัวแทน(จขกท.)
4. ตัวแทน(จขกท) หักส่วนต่างออก 50 บาท โอนเงินให้เจ้าของร้าน(อย่างผม) 100 บาท
5. ทางร้าน(ผม) จะเป็นคนผลิตและจัดส่งสินค้าให้กับ (ลูกค้า) และแจ้งเลขพัสดุให้กับตัวแทน(จขกท)
6. ตัวแทน(จขกท.) ก็จะเอาเลขพัสดุไปให้(ลูกค้า) เหมือนเป็นคนขายและส่งเอง
7. จบการค้าขาย
สำหรับบางคนที่ชอบกระแนะกระแหนคนอื่น ผมอยากให้มองกว้างๆ นะครับว่าเค้าไม่ได้ทำอะไรให้คุณหรือใครเดือดร้อน อย่าไปว่าเค้านักเลย เท่าที่ผมดู น้องเค้าก็คงอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้กับคนที่อยากมีรายได้ แต่ไม่มีเงินทุนก็เท่านั้น
***ส่วนเงินทุน 1000 บาที่น้องเค้าบอก นั่นเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมาย หรือการตลาดผ่าน App ของ Facebook ถ้าใครไม่รู้จักก็ไปศึกษาหน่อยนะครับ อย่าไปว่าคนอื่นให้ตัวเองดูเท่ เพียงเพราะความเขลาของตัวเองเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำเงิน 1,000 ให้เป็นเงิน 10,000 ใน 3 เดือน
ขอแนะแนวทาง เล่าประสบการณ์ สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจธุรกิจ หรือหารายได้เสริม สำหรับวัยรุ่น หรือคนทำงานค่ะ
สวัสดีค่ะ …เราอายุ 20 ปี ชอบในการทำธุรกิจ เราไม่เคยมีโอกาสได้หาประสบการณ์ทำงานระหว่างเรียน นอกบ้าน (งานพาร์ทไทม์) เหมือนคนอื่นๆ เพราะทางบ้านเป็นห่วงอยากให้ตั้งใจเรียนมากกว่า แต่สนใจอยากหารายได้เป็นของตัวเอง คิดอยู่หลายทางว่าจะทำอะไรดีโดยที่ไม่ต้องลงทุนเยอะ ไม่มีความเสี่ยงมาก ไม่ต้องสต็อกของ ทำงานในบ้าน ไม่เสียเวลามาก เราเลยทำขายออนไลน์ การขายออนไลน์ก็ไม่ใช่ง่าย ไม่ใช่ว่าคิดจะขายได้รุ่งทุกอย่าง เพราะการแข็งขันของตลาดออนไลน์ตอนนี้ก็เยอะมาก การขายออนไลน์เราก็ต้องดูการตลาดว่าคนส่วนใหญ่สนใจในสินค้าอะไร และสินค้าที่ขายนั้นควรเป็นสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายที่กว้าง เป็นที่สนใจทั้งวันรุ่นและวัยทำงาน ส่วนตัวเราคิดเป็นตัวแทนขายกางเกง เราเป็นคนที่ถ้าคิดตั้งใจแล้วจะลงมือทำเลย เราก็เปิดเพจ สร้างปกเพจ ลงสินค้าอะไรในวันนั้นเลย แต่มีคนสนใจเข้ามากดlike สอบถาม แต่ไม่ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้ามากนัก เราเริ่มศึกษาการโปรโหมดโฆษณาเพจในfacebook เพราะเราเห็นร้านค้าอื่นมีคนกดlike เป็นพันๆหมื่นๆ มีลูกค้ามากมายต้องทำโฆษณาเพจแน่ๆ เราเลยไปทำบัตรเดบิตรกับธนาคาร ค้าเปิดบัญชี 500 บาท และค้าทำบัตรเดบิตร 500 บาท และนี้คือเงินลงทุนของเรา คิดไปแล้วเราลงทุนเสียค่าบัตรไปแค่ 500 บาทเอง อีก 500 ก็ยังอยู่ในบัญชีเรา จากนั้นเราก็เริ่มโฆษณาขายในfacebook ภายในเดือนเดียวเราได้กำไร 5000 บาท เราแค่อยากมีรายได้ขายแบบไม่เครียดสร้างไม่ความกดดันให้ตัวเอง เราไม่ได้นั่งเฝ้าคอมเลย วันนึงสมัครเน็ตโทรศัพท์ 9 บาท แล้วออนเฟสทิ้งไว้ มีลูกค้าถามก็ค้อยมาตอบ ระหว่างนั้นจะทำไรก็ได้ทำ อยู่กับบ้านเที่ยวไหนก็ไป ดูชิวมาก ^^ เดือนที่ 2 เราได้กำไรเพิ่ม 3000 บาท พอเดือนที่ 3 เราก็โฆษณาเพจเหมือนเดิม ก็ได้กำไร 2000 บาท (เป็นยอดเงินโดยประมาณ) กำไรที่ได้นั้นเป็นกำไรสุทธิแล้วหักค้าโฆษณาหักค่าอินเตอร์เน็ตรายวันหักค้าใช้จ่ายกิเลสไปแล้ว 555+ ตอนนี้ทำมา 6 เดือนได้แล้ว มั้ง กำไรเป็น 20000 บาท ได้ซื้อของที่อยากได้ ได้ซื้อรองเท่าหรูๆให้พ่อ แม่ ก็มีเงินเก็บน่ะถ้าเราไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย บางคนอาจทำเงินได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ถ้าอยากมีรายได้เล็กๆน้อยๆ ไม่จริงจังยึดเป็นอาชีพหลักก็น่าสนใจนะค่ะ เราเลยมาเล่าประสบการณ์ เป็นแนวทางให้ให้วัยรุ่น น้องๆ และทุกคนที่อยากมีรายได้เสริมแต่ไม่มีเงินทุนมาก เสี่ยงน้อย อยากทำงานอิสระ อยู่กับบ้านได้มีรายได้เป็นของตัวเองค่ะ และตอนนี้เราก็กำลังคิดอยากทำเงินเป็นเงิน ต่อยอดกำไรที่ได้จากการขายออนไลน์ต่อไปค่ะ
จะทำธุรกิจหรืออยากหารายได้เสริมอะไรก็แล้วแต่ แค่นั่งคิดก็ไม่เกิดหรอกค่ะ มันต้องลงมือทำ มันต้องเสี่ยงกันดูสักตั้ง ขอแค่ตั้งใจ มีแรงใจ แรงการมุ่งมั่นและผลักดันให้เราเกิดความอยาก อยากที่จะทำ และเราจะทำสิ่งนั้นได้ด้วยความตั้งใจ และเต็มที่
หารายได้เสริมได้กำไรวัน 50 บาทนั้นก็คือเป็นเงินเก็บเราแล้ว ดีกว่าวันๆนึงเล่นเน็ต อยู่บ้านว่างๆหาเงินไม่ได้สักบาทเข้ากระเป๋าเลย
ลองพิจารณาดูนะค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางหรือแรงผลักดัน ให้ใครหลายๆคนที่ลังเลกับคนที่อยากมีรายได้เสริมได้ลองลงมือทำค่ะ ^ ^ ขอให้สบความสำเร็จกันนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ