[MotoGP] 8 สนาม 8 ผู้ชนะ + การกลับมายืนบนโพเดี่ยมสูงสุดอีกครั้งของทีม Suzuki

กระทู้สนทนา
ยังคงมีเรื่องราวและสถิติใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการแข่งขัน MotoGP ในฤดูกาลนี้ ซึ่งถ้านับถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่าเกินกว่าที่คาดหวังไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นฤดูกาลไปแล้ว


การออกสตาร์ทที่ซิลเวอร์สโตน


ที่ Silverstone ทีมเด็กโรงงานน้ำแข็งอย่าง Ecstar Suzuki สามารถคว้าชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์(ขนาดน้านน) ได้แบบเหนือความคาดหมาย Maverick Vinales ขี่ได้อย่างสุดยอดในสนามนี้ ฐานของตัวรถ GSX-RR เองก็ดีขึ้นมาหลังจากมีการอัพเกรดรถในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง บวกกับอุณหภูมิที่ค่อนข้างต่ำในช่วงสุดสัปดาห์นั้นพอดี ทำให้รถของ Suzuki ที่ชอบอากาศเย็นอยู่แล้วแปลงร่างจากเต่ามาเป็นกระต่าย พอทุกอย่างเข้าแก๊ป เลยทำให้ MV25 โบยบินในวันนั้น


ธงหมากรุก! ชนะแล้วเฟ้ย


ถึงแม้ว่าในช่วงของการซ้อมและ QP ทาง MV25 จะทำได้ค่อนข้างดีแต่เป้าหมายก็น่าจะยังอยู่ที่แค่การลุ้น Podium เท่านั้น สิ่งที่ทำให้ Vinales นั้นมามั่นใจในตัวรถว่าเค้าอาจจะชนะได้ก็คือหลังจากการออกสตาร์ทครั้งแรก ที่เค้าออกสตาร์ทได้ดีและขยับขึ้นไปเป็นผู้นำได้ ระยะห่างจากอันดับ 2 ตอนที่ได้รับธงแดงให้หยุดการแข่งขันในรอบแรกนั้น นั้นเยอะกว่าที่เค้าคาดไว้จนทำให้เค้าประหลาดใจ ทำให้หลังจาก Re-start ใหม่ เจ้าวินก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง พยายามแซง CC35 กับ VR46 ที่อยู่ข้างหน้าเพื่อขึ้นไปเป็นผู้นำให้ได้เร็วที่สุด หลังจากนั้นก็รักษาจังหวะในการขี่ไปเรื่อยๆ ซึ่งเค้าก็เร็วที่สุดในวันนั้น ทำให้ระยะห่างจากกลุ่มที่ตามมาค่อยๆขยับห่างออกไปเรื่อยๆ จนเข้าไปอยู่ในระยะ 3-4 วินาที ซึ่งระยะห่างตรงนี้แหละที่ถือว่าเหนือความคาดหมาย ก่อนเริ่มการแข่งขันคงไม่มีใครเชื่อว่ารถ Suzuki สามารถฉีกหนีคู่แข่งออกไปได้ขนาดนั้น


เอ้า บินนนน


กลายเป็นว่าความสนุกตื่นเต้นเร้าใจมาอยู่ในกลุ่มแย่งโพเดี่ยมแทน ซึ่งชาวคณะในกลุ่มนี้ประกอบด้วย Rossi, Marquez, Crutchlow และ Iannone โดยเฉพาะการขับเคี่ยวกันระหว่างพ่อหมอกับไอ้มดคันไฟนั้นถือว่ามันมากๆ ก่อนที่ Rossi จะเอาชนะในยกนี้ไปได้และได้ขึ้นไปยืนบนโพเดี่ยมอันดับ 3 เป็นรางวัลตอบแทน ที่ผลงานดีอย่างต่อเนื่องก็คงจะเป็น Cal Crutchlow พ่อลูกอ่อนเบอร์ 35 ที่สามารถต่อสู้กับรถโรงงานของมาร์ค มาเกซได้พร้อมกับจบอันดับ 2 ขึ้นโพเดี่ยมในการแข่งขันในบ้านได้สำเร็จ ถือว่าฟอร์มของพ่อลิงคนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจสุดๆ


CC35 ที่กำลังขี่ได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงนี้


ชัยชนะครั้งนี้ของ MV25 และทีม Suzuki ถือเป็นชัยชนะในสภาพสนามแห้งเป็นครั้งแรกใน MotoGP เลยทีเดียว เพราะเมื่อปี 2007 ที่เลอร์มองนั้นเป็น Wet race ขณะที่ชัยชนะในสนามแห้งครั้งล่าสุดโดย Kenny Roberts Jr. เมื่อปี 2000 นั้นยังเป็นการแข่งขันในรุ่น 500cc ด้วยรถ Suzuki RGV500 อยู่เลย  กับ 2 โพเดี่ยมที่ได้มา ทำให้ตอนนี้ Suzuki มีคะแนน Concession ไปแล้ว 4 คะแนน นั้นแปลว่าถ้าหากทีมเก็บคะแนนเพิ่มได้อีก 2 คะแนนในอีก 5 สนามที่เหลือนั้น Suzuki จะขยับเข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับ 3 ทีมหัวแถวในปีหน้าที่จะทดสอบรถและเครื่องยนต์แบบอิสระไม่ได้แล้ว รวมไปถึงจำนวนเครื่องยนต์ต่อฤดูกาลก็จะลดลง แต่เชื่อว่าทางผู้บริหารอาจจะไม่ได้มากังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ซักเท่าไหร่หรอก เอามาเถอะโพเดี่ยม ช่วงปิดฤดูกาลก็ค่อยไปวางแผนกันใหม่


We need more podiums!


ถัดจาก Silverstone ในสัปดาห์ถัดมาก็ถึงคิวของ San Marino GP ซึ่งเป็นการแข่งขันในบ้านของ Valentino Rossi ที่กำลังต้องการจุดเปลี่ยนเพื่อเปิดโอกาสในการลุ้นแชมป์ขึ้นอีกครั้ง ตลอด 3-4 สนามที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า Rossi จะจบการแข่งขันด้วยอันดับที่เหนือกว่า Marc Marquez แต่ช่องว่างในตารางคะแนนสะสมนั้นลดลงสนามละ 3-4 คะแนนเท่านั้น ซึ่งด้วยโมเมนตัมแบบนี้ต้องบอกว่าไม่พอที่จะพลิกกับไปเป็นแชมป์โลกได้ ทำให้เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของ Rossi ในสนามนี้คือชัยชนะต่อหน้ากองเชียร์ Yellow Army ของเค้าให้ได้พร้อมกับแช่งไม่ให้มาร์ค มาเกซขึ้นโพเดี่ยม อิอิ


The doctor


ข่าวไม่ดีสำหรับทีม Ducati ในสุดสัปดาห์นี้คือ Andrea Iannone หนึ่งในนักแข่งขวัญใจเจ้าถิ่น(มั้ยนะ) ได้รับบาดเจ็บหนักจากการล้มที่โค้ง 15 ในช่วง FP1 ทำให้ไม่สามารถลงแข่งขันได้ แต่ทีมโรงงานดูคาติก็ยังมี Michele Pirro นักแข่งทดสอบของทีมลงแข่งขันในฐานะ Wildcard อยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง Ducati และ Aprilia ได้มาทดสอบรถที่นี่กันล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในบ้าน ที่เจ้านายนั้นจะมานั่งดูนั่งชมกันแบบสดๆในสนามกันเลยทีเดียว


99 - 46 - 25


Valentino Rossi นั้นแข็งแกร่งมากที่มิซาโน่ปีนี้ เรียกได้ว่าทำได้เกือบทุกอย่างตามที่วางแผนเอาไว้ ตั้งแต่ในช่วงการทดสอบ การ Qualify ซึ่งแม้ว่าจะพลาดตำแหน่ง Pole แต่ก็ต้องยอมให้ Lorenzo ในรอบนั้นจริงๆ รวมไปถึงในการแข่งขัน ที่ออกสตาร์ทได้ดีและแซงคู่ปรับเพื่อนร่วมทีมขึ้นไปเป็นผู้นำได้แบบว่านะ ห้าห้าห้า แต่จริงๆก็เป็นการแซงแบบคลีนนะ เพราะ Rossi นั้นเข้าไปในโค้งคนละไลน์ และตอนที่ JL หักรถกลับมา รถเบอร์ 46 ก็แซงล่วงหน้าไปครึ่งคันละ ซึ่งยังไงก็ต้องยก ด้วยไลน์ที่มันทำให้รถมันมาป๊ะกันพอดี ทำให้ดูหวาดเสียว แต่รอสซี่นั้นไม่ได้แซงอันตราย(มาก)อย่างที่ JL ไม่พอใจซักเท่าไหร่ ซึ่งก็นะตามประสาคนไม่กินเส้นกัน ก็เลยต้องเปิดการโต้วาทีกันซะหน่อย


เฮ้ยมาร์ค หลบหน่อยๆ เฮียจะไปละ


Rossi แทบจะคุมเกมทั้งหมดในวันนั้นได้แล้ว เพียงแต่ว่า Dani Pedrosa ดันกลับคืนร่างเอเลี่ยนในวันนี้พอดี ทำให้งานปาร์ตี้ของพลพรรคคนรักรอสซี่นั้นกร่อยไปเลยทีเดียว เชื่อว่าก่อนแข่งขันนั้น Rossi น่าจะคิดว่าวันนี้จัดการเจ้าเบอร์ 99 กับ 93 ได้ ก็น่าจะเพียงพอที่จะชนะการแข่งขันแล้ว ซึ่งก็ทำได้อย่างที่ต้องการตั้งแต่ช่วงต้นเรซ และหลังจากนั้นก็ดูเหมือน VR46 จะคุมเกมเอาไว้ได้หมดแล้วจริงๆ ก่อนที่พายุไต้ฝุ่นจะหอบเอาพ่อใหญ่จิ๋วเบอร์ 26 บินมาอย่างรวดเร็ว  แดนนี่นั้นค่อยๆไล่เก็บมาเรื่อยๆตั้งแต่ Dovi, Vinales, Marquez มาจนถึง Lorenzo ซึ่งทีมงาน Yamaha ก็รู้และได้เตือนรอสซี่แล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ คนมันจะชนะ จะเอาโขลงช้าง ฝูงม้ามาหยุดก็ฉุดไม่อยู่ Dani Pedrosa สามารถเก็บชัยชนะครั้งแรกในฤดูกาลนี้ของเค้าได้สำเร็จและเป็นนักแข่งคนที่ 8 ที่ชนะการแข่งขัน นับตั้งแต่ที่มูเจลโล่ ที่ JL99 เป็นผู้ชนะที่สนามนั้น


เล็กพริกขี้หนู กลับมาเผ็ดจี๊ดจ๊าดอีกครั้ง


หลังจากที่เจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก ตั้งแต่สนามที่สาธารณะรัฐเช็ค ฯ Dani กับทีมงานได้เริ่มเซ็ตอัพรถกันใหม่ตั้งแต่ต้น ซึ่งเริ่มเห็นผลที่เยอรมันแล้วล่ะ โดยสนามนนั้น Dani บอกว่าเค้าเริ่มมั่นใจในตัวรถมากขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะมาพีคที่อิตาลีในรอบนี้พอดี ที่น่าสังเกตุคือรถ Honda RC213V ในสนามนี้ไม่มีปีกด้วย อีกประเด็นนึงที่สำคัญคือระบบ Electronic ที่เป็นอีก 1 ปัญหาหลักของรถ Honda นั้น ได้ถูกแก้ไขและพัฒนาขึ้นมาเยอะมาก ซึ่งนี่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถ Honda นั้นดีขึ้นกว่าในช่วงต้นฤดูกาลอย่างเห็นได้ชัด

แน่นอนว่า Rossi นั้นผิดหวังที่ไม่สามารถนำชัยชนะมาฝากแฟนๆของเค้าได้ รวมถึงพลาดโอกาสที่จะลดช่องว่างระหว่างเค้ากับ MM93 ได้เพิ่มอีกถึง 5 คะแนน แต่อย่างน้อย การเอาชนะ Lorenzo และ Marquez ในบ้านได้ก็ยังพอทำให้การฉลองนั้นไม่จืดสนิทไปซะทีเดียว ในทุกๆปีในการแข่งขันที่นี่ เราจะได้เห็นกองทัพเสื้อสีเหลืองเบอร์ 46 เข้ามากันอย่างล้นหลาม แต่การแข่งขันก็เป็นแบบนี้ แฟนๆของ VR46 ยังมีโอกาสที่จะเห็นเค้าชนะในบ้าน อย่างน้อยก็อีก 2 ครั้งในปี 2017 และ 2018


แฟนๆของ Rossi ยังคงยอดเยี่ยมอยู่เสมอ


เครื่องยนต์ดับไปแล้ว แต่การให้สัมภาษณ์ในห้อง Press Conference นั้นยังคงดุเดือดอยู่ เป็นครั้งแรกๆที่เราได้เห็น VR กับ JL ปะทะคารมณ์กันออกสื่อขนาดนี้ เชื่อว่าแฟนโมโตจีพีส่วนใหญ่คงได้ฟังหรืออ่านบทสัมภาษณ์กันไปหมดแล้วล่ะ ก็นะ ต่างคนก็ต่างคิดในมุมของตัวเอง เถียงกันไปสิบปีก็คงไม่จบ แต่ถ้ามองในมุมให้มันเป็นสีสันก็นะ สนุกดี อิอิ


แดนนี่: ฉันมาทำอะไรที่นี่...


ขณะที่ผลในอันดับ 4-5 นั้น ก็ต้องบอกว่าถูกใจแฟนซูซูกิอย่างข้าพเจ้าอยู่มากโขเลยทีเดียว นี่เป็นการชนะรถ Ducati ในสนามที่ Ducati มีข้อมูลมากกว่า มีการทดสอบที่นี่บ่อยว่า ในสภาพอากาศที่ร้อนด้วย ถือว่า Suzuki เตรียมรถ GSX-RR มาได้ดีเลยทีเดียว ขนาดที่ MV นั้นพอใจกับตัวรถมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขึ้น Podium ก็ตาม เชื่อว่าผู้บริหารทีม Ducati น่าจะไม่พอใจกับผลที่ออกมาแบบนี้ซักเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก ทีมคนบ้าก็มีดีเหมือนกันนะเฟ้ย ห้า ห้า (โม้ๆๆ)


Ducati vs Suzuki


ที่พอจะใจชื้นขึ้นมาหน่อย ก็คงจะเป็นทีม Aprilia ที่ผลงานในสนามนี้นั้นดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยทีเดียว Álvaro Bautista นั้นผ่านเข้า Q2 แบบไม่ต้องวิ่งใน Q1 และจบการแข่งขันในอันดับ 10 ซึ่งเค้าเชื่อว่าถ้าหากเค้าไม่โดนเบียดจนหลุดโค้งแรกนั้น อาจจะมีลุ้นถึงการแย่งอันดับ 9 เลยทีเดียว หวังว่าพัฒนาการตรงนี้ของรถ RS-GP จะเป็นของจริงและพัฒนารถได้ดีขึ้นไปอีกเรื่อยๆในอนาคต


Aprilia โชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีในสนามนี้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่