วันเสาร์ คอนโดห้อง1509 หน้าฝน กทม.
ในวันที่อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่งใสทอดสายตาออกไปจะเห็น
สีครามกว้างสุดลูกหูลูกตาและปุยก้อนเมฆ พอให้เห็นความขาวเหนือเงา ลอยฟุ้งเป็นรูปร่างต่างๆ
สลับเปลี่ยนรูปทรงไม่หยุดนิ่ง เรามักจะรู้สึกสดใสสว่างใจไร้กังวล แต่ถ้าหากวันใดที่ท้องฟ้ามีมวลเมฆปกคลุมด้วยเงาหม่นหมอง
เราจะรู้สึกสลดหดหู่ เป็นเพราะก้อนเมฆและท้องฟ้าหรือเปล่านะ ที่ทำให้ใจเรารู้สึกแตกต่างอย่างนี้
และยิ่งทำให้การตัดสินใจเดินไปข้างหน้าในชีวิตของเรายิ่งไม่ชัดเจนโลเลเคว้งคว้างยิ่ง
ความเหงาร่วมสมัยกลางกรุงเกิดได้กับชีวิตทั่วไปอย่างเช่นกับ
รัศดานางค์ หญิงสาวโสดวัย35 พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เธอเฉลียวใจกับสิ่งเกิดในจิตใจของเธอ
ผ่านช่วงเวลาปีแล้วปีเล่า ตลอด 35 ปีที่เธอลืมตาขึ้นมาเห็นโลก นาฬิกาเดินไปอย่างช้าๆ
ท่ามกลางเสียงชุลมุนของการจราจรบนถนนเบื้องล่างคอนโด ดั่งเช่นวันนี้ วันที่ท้องฟ้ากำลังคลื่นตัวด้วยหมู่เมฆเข้ามาปกคลุม
เหนือความควบคุมที่จะไม่ให้เกิดขึ้นได้ คนธรรมดาเช่นเธอ จึงทำได้เพียงรอเวลาให้มันผ่านไป
ก่อนที่จะมันจะอัดตัวเป็นหยดน้ำจากท้องฟ้า เพื่อตกลงมากระทบกับผิวดิน เกิดเป็นความชุ่มชื้น
เย็นฉ่ำทดแทนความหมองหม่นที่มันทำให้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น และหลังจากนั้น ท้องฟ้าก็คงเปลี่ยนเบิกกว้างให้แสงตะวัน
สาดลงมาสู่พิภพธรณี เหมือนกับจะเข้ามาทำให้ใจของเธอมีแสงส่องความหวังสู่ปลายทางชีวิตมากขึ้น
เมื่อตัดสินใจมานานแล้วว่าการอยู่เป็นโสดอย่างนี้เป็นความอิสระอย่างหนึ่งสำหรับการตัดสินใจในชีวิตทุกด้านของตัวเอง
แต่ความเหงาเข้ามาจับขั้วหัวใจของรัศดานางค์ ตั้งแต่เมื่อเขาจากไปในฝนตกกระหน่ำฟ้าครึ้ม
คืนที่พายุถ่าโถมพัดเอา บรุษคนหนึ่งไปจากชีวิตเธอในขณะที่เธอมีอายุเพียง 23ปีกำลังจะขึ้นปีสี่
เธอรู้ดีว่าหากจะอ้อนวอนเพียงใด เขาก็ไม่มีทางจะกลับมาเป็นชายคนที่พร้อมจะทำดีต่อเธอ
เช่นทุกครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่รู้จักกัน เมื่อเขาบอกกับเธอว่าเขาต้องไปอยู่กับพริ้งพรรณ
แฟนสาวคนใหม่ของเขานั้น ที่หอพักรวมนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยของพริ้งพรรณ
เขาบอกกับเธอหลังจากทะเลาะกันในคราบน้ำตาของทั้งสอง ทั้งเขาและรัศดานางค์
ถึงเหตุผลที่เขาต้องไป เขาสลักคำพูดไว้ในใจเธอเพียงว่า เขาไม่อาจเป็นคนที่ดีพร้อมของเธอต่อไป
เมื่อเขาพบกับความรักครั้งใหม่กับ พริ้งพรรณ แฟนใหม่ที่รู้จักจากการออกค่ายอาสา
ร่วมมหาวิทยาลัยเมื่อช่วงซัมเมอร์ ที่เขาต้องการไปอยู่ร่วมในนั้นกับเธอ
จนเวลาล่วงเลยมา 12 ปี ตอนนี้รัศดานางค์ เป็นสาวใหญ่โสด
ผู้ขยันทำงานเพื่อหาเงินเก็บส่งกลับไปให้พ่อกับแม่ที่อยู่ทางบ้านต่างจังหวัดอำนาจเจริญ
ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจจากบ้านเกิดแห่งนี้เพื่อไปหาอนาคตที่ให้ความหวังแก่ความอับโชคที่เกิดมาเป็นคนท้องไร่ท้องนาของเธอ
เมื่อเธอขอทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาจากรัฐบาล
อันพอทำให้เธอได้ใช้สอยในระหว่างร่ำเรียนในกรุงเทพจนจบ และเธอต้องทำงานเพื่อคืนทุนนั้นแก่รัฐบาล
ทำให้ชีวิตของเธอกลายเป็นประชากรวัยทำงานในกรุงเทพมหานครจนทุกวันนี้
และด้วยมีเหตุให้เสียใจต่อชายคนรักที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันสมัยเรียนคราวนั้น
เธอจึงไม่กล้าที่จะคบกับชายใดอีกเลยตั้งแต่บัดนั้น
วันนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันพักผ่อน ในคอนโดเกรด B ที่รัศดานางค์
กำลังทยอยผ่อนด้วยเงินดาวน์สองแสนสี่ เพื่อใช้เป็นที่สงบส่วนตัวของเธอหลังการทำงานเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์
ฟ้าฝนกำลังก่อตัว อีกสักหน่อยก็จะมีหยาดฝนเป็นอนุสรณ์แห่งน้ำตา ให้รัศดานางค์
ย้อนนึกคิดไปถึงวันเก่าๆที่เธอไม่อาจลืมเลือนมันไปจากใจได้ ไอร้อนของกาต้มน้ำ
แบบที่มีนกหวีดร้องปลายกา เรียกเธอให้ไปรับมัน เธอลุกจากที่นอนเดินไปที่ซิงค์ครัว
เธอเงื้อมือขึ้นไปหยิบซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและถ้วยรอง ฉีกซองแล้วเทบะหมี่ลง
ก่อนจะเทน้ำร้อนที่เพิ่งเดือดลงตามลงไป แล้วฉีกซองเครื่องปรุงกลิ่นฉุนจมูก แต่กลิ่นของมัน
พอดีกับน้ำร้อนที่ผสานกระตุ้นให้น้ำลายของเธอสอเล็กน้อย เธอรอบะหมี่สุก
ขณะที่มองออกไปนอกหน้าต่างคอนโดชั้นที่ 15 ในย่านชานกรุงแห่งนี้
เห็นฝนกระหน่ำกรุงเทพ ท้องฟ้ามืดครึ้ม สีหม่นปกคลุมไปทั้งย่านข้างล่าง รถราติดขนัด
ความมัวหมองที่มองผ่านกระจกคอนโด ทำให้เธอสลดอยู่บ้าง พร้อมกับความเหงา
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูไลน์ ว่ามีใครเพิ่งส่งข้อความมาหา ก็รู้ว่า เป็น ยินตรา
เพื่อนสาวร่วมออฟฟิศที่เธอทำงาน ส่งการ์ดข้อความสุขสันต์วันเกิดมาให้
รัศดานางค์ อ่านข้อความอวยพรในการ์ด ก็เหมือนเดิมๆ ทุกปีที่เธอเคยได้จากเพื่อนสาวคนนี้
สุขสันต์วันเกิด ขอให้มีความสุขมากๆ สวยๆรวยๆ มีแฟนหล่อๆนะ
นั้นเป็นข้อความที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้างและ จะหวังให้ใครเข้ามาเป็นคู่ชีวิตในยามเมื่ออายุ
และงานของเธอกำลังก่อตัวเป็นรูปร่างของชีวิต อันยากจะทำความเข้าใจปรับรสนิยมให้เขากับชายได้ยากกว่าสมัยเป็นสาว
เธอท้อใจเหลือเกินกับชีวิตที่เป็นโสดนี้ แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามานานเท่าใด
ความรู้สึกระวังตัวต่อชายที่เข้ามาพัวพันคนแล้วคนเล่า ยิ่งทำให้เธอต้องการออกห่างจากสังคมเพื่อนผู้ชาย
ตามปกติเวลาที่มีโอกาสได้ไปสัมนาต่างจังหวัด ก็จะหนีไม่พ้นการสังสรรค์
อันทำให้บรรดาเพื่อนชายหญิงในบริษัทได้ผ่อนคลาย เป็นการสัมนาเชิงสร้างสัมพันธภาพในองค์กรไปในตัว
แต่การที่เธอเห็นบรรดาชายหนุ่มเพื่อนร่วมบริษัทแต่ละคน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความน่าสนใจ
บางคนมีนิสัยชอบคุยโม้โอ้อวดถึงความเก่งของตัวเอง ส่วนบางคนก็ชอบดื่มเหล้าสูบบุหรี่จัด
เมามายทุกครั้งที่ไปสัมนา แม้พวกเขาจะพยายามทำตัวสนิทสนมถึงขั้นจีบเธอบ้าง
แต่เธอก็ไม่ไว้ใจ รัศดานางค์ จึงให้ความรู้สึกต่อพวกเขาได้เพียงเป็นเพื่อนห่างๆ ที่คอยช่วยเหลือกันแค่ในที่ทำงาน
เธอทานบะหมี่เสร็จ แล้วนำชามบะหมี่ไปล้างที่ซิงค์ล้างจาน ทอดตามองไปเบื้องหน้าผ่านกระจก
ที่ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่าง แสงแดดทอประกาย มีสายรุ้งที่ปลายฟ้า
ช่างเป็นภาพของความสดใสอย่างหนึ่งในวัย 35 ของเธอ เธอล้างชามเสร็จแล้ว
ยืนมองสายรุ้งอย่างมีความหวัง โทรศัพท์ดังสองสามที เธอเดินไปหยิบ
จึงรู้ว่า แม่จากอำนาจเจริญ โทรมา รัศดานางค์ ยกหูขึ้นสนทนา บอกกับเมื่อไปว่า
สิ้นเดือนจะส่งเงินให้แม่กับพ่อเหมือนเดิม ตอนนี้งานกำลังอยู่ตัว
ไม่มีอะไรลำบากเหมือนตอนเข้ามาทำแรกๆ ส่วนแม่ก็ โทรมาอวยพรวันเกิด ขอให้เธอมีความสุข และสุขภาพดี
และแม่ยังบอกกับเธอว่า ปีใหม่ปีนี้น้องชายจะแต่งงานกับลูกสาวปลัดในอำเภอ
ให้เธอเตรียมเงินไปช่วยน้องค่าสินสอดไว้ให้น้องด้วยนะ รัศดานางค์ ตอบตกลงว่าจะกู้บัตรเครดิตเพิ่ม อีก สองแสน
เพื่อไปสมทบค่าสินสอดให้น้องชาย ที่กำลังจะแต่งงานช่วงปีใหม่ สายสนทนาจบลง เธอก็ยังไม่รู้สึกว่า
ความอบอุ่นจากปลายสายจะมาช่วยเยียวยาความเหงาของเธอได้ในวันนี้ไม่พอให้ใจชื้นได้
ฝนตกลงมาอีกแล้ว สาวใหญ่กลับไปที่เตียงนอน เมื่อหัวลงถึงหมอน
เธอเอามือก่ายหน้าฝากด้วยใจที่ว้าเหว่ เธออยากไปดูหนัง จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
โทรไปหา ยินตรา แต่สายไม่ว่าง ถ้าวันนี้ไม่มีเพื่อนไปดูหนัง การออกไปดูหนังคนเดียวอาจจะยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหงายิ่งกว่า
เวลาที่เห็นคนอื่นควงคู่กันไปดูหนังแต่เธอต้องเดินคนเดียว วันนี้เธอไม่ค่อยมีเงินไปช๊อปปิ้ง เนื่องจากเป็นช่วงปลายเดือน จึงได้อยู่ที่ห้อง
ในวันเกิดวันนี้ของรัศดานางค์ ช่างเป็นวันที่ไม่มีอะไรที่พิเศษสักเท่าไหร่ เหมือนวันหยุดธรรมดาหนึ่งวันที่ค่อยๆผ่านเวลาไป
และนาฬิกาคอยเตือนให้เธอรู้ว่าเธอกำลังจะมีอายุเพิ่มขึ้นเช่นนี้ไปอีก พร้อมกับความโสด
แบบสาวมั่นตัวคนเดียวในบริษัท เธอน้ำตาซึม กับความเดียวดายในวันนี้
อยากจะออกไปข้างนอกก็ไม่รู้จะไปไหน เธอจึงลุกจากเตียงเดินเข้าไปที่โต๊ะคอม
เธอนั่งลงบนเก้าอี้เปิดคอม แล้วพาตัวเองเข้าสู่โลกออนไลน์ เธอมุ่งไปที่เฟสบุ๊ค
เพื่อพิมพ์ข้อความอัพเดทสถานะของเธอ
–เหงา-
คำเดียวที่เธอพิมพ์ลงบนสถานะแล้วโพส ดูข้อความอื่นในไทม์ไลน์
เห็นข้อความส่งทั้งรูปสติ๊กเกอร์และคำอวยพรจากเพื่อนในเฟสบุ๊คประมาณ10กว่าคน
ทั้งคนที่สนิทในบริษัทและเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย รัศดานางค์
ยื่นมือไปหยิบรีโมทคอนโทรเพื่อเปิดดูโทรทัศน์ ตรงกับเวลาของรายการเทคมีเอาท์ไทยแลนด์ ที่มีกาละแมและน้าเน๊กเป็นพิธีกร
เธอไม่ได้ดูทีวีหรอก แค่อยากเปิดเป็นเพื่อนคลายเหงาเท่านั้นเอง
ให้ทดแทนความเงียบในใจที่ไม่มีใครอยู่ในนั้นพอจะคอยกระซิบบอกรักกับเธอ
เป็นเวลาบ่ายในขณะที่ฝนกำลังตกลงมาชุดใหญ่ วันนี้เธอคงออกไปทานข้าวข้างนอกไม่ได้
จึงกดโทรศัพท์โทรไปสั่งอาหารสำเร็จจากS&P เดลิเวอรี่
รัศดานางค์ สั่งสปาเกตตี้ธรรมดา และน้ำส้มขวด อีกสักพักเขาคงเอามาส่ง
เธอนั่งดูเฟสบุ๊คต่อไป เห็นหลายคนโพสสถานะด้วยรูปภาพ ในการไปท่องเที่ยวพักผ่อนวันหยุด
ทั้งในห้างหรู ร้านอาหาร รวมไปถึงสวนสนุกต่างๆ
แต่สำหรับรัศดานางค์ ช่างไม่มีอารมณ์จะไปไหนเลย ฝนก็ตกเพื่อนสนิทมินตราก็ไม่ว่าง
เธอรู้ดีว่าวันเกิดในตอนเป็นผู้ใหญ่แล้วนั้น ก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง
ที่แค่เตือนให้รู้ว่าอีกไม่กี่ปีก็จะเกษียณและแก่ตัวไปตามเวลา ไม่ได้เป็นวันสำคัญพิเศษกว่าวันใดสักเท่าไหร่
ไม่ถึง30นาที รถเด็กส่งอาหารก็โทรมา เธอบอกชื่อห้องให้เขาขึ้นมาได้
เธอจึงลุกจากเก้าอี้คอมไปเปิดประตูห้อง เด็กส่งอาหารบอกราคา เธอจ่ายเงินเสร็จ ปิดประตูห้องแล้วนำมาสปาเกตตี้และขวดน้ำส้มมาวางที่ซิ้งค์ครัว มื้อนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายของวันนี้ เนื่องจากเธอกำลังลดหุ่นจึงคิดว่าจะงดทานอาหารเย็น
เวลาบ่ายสามของวันเสาร์ในคอนโดที่เธอกำลังทยอยผ่อนจ่าย เธอไปที่โต๊ะกินข้าว
นำจานมาวางลงบนโต๊ะทานอาหารสีเทา แล้วเทสปากตตี้ธรรมดาลงบนจาน
เส้นสีเหลืองของอาหารทำให้เธอรู้สึกหิวเล็กน้อย เธอกินสปาเกตตี้จนเสร็จ
ก็พอดีจบรายการเทคมีเอาท์ ไทยแลนด์ หลังมื้ออาหารอันเดียวดาย เธอไม่รู้จะทำอะไรต่อ
จึงเดินไปที่โต๊ะคอมอีกครั้ง รัศดานางค์ มุ่งไปที่เฟสบุ๊ค เปิดดูแฟนเพจข้อความคลายเหงาต่างๆ
เห็นQuote ข้อความถูกใจ ข้อความนั้นเขียนว่า
“ดอกไม้ที่บานในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย คือดอกไม้ที่สวยงามและหายากที่สุด”
-มู่หลาน-
รัศดานางค์จึงแชร์ไปที่ไทม์ไลน์ของตัวเอง แล้วไปเม้นต์สถานะรูปถ่ายเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยสองสามคน
เธอต้องการปลดปล่อยความเหงาให้โลกรับรู้ ในความเหงาทรมาณลึกๆในใจสำหรับชีวิตโสด
นี่ถ้าเธอไม่มีแฟนในวัยที่เลยมาถึง35ปีแล้ว มีโอกาสสูงที่เธอจะต้องกลายเป็นคนโสดไปจนแก่เฒ่า
ในขณะที่ชายแฟนเก่าของเธอตอนนี้มีลูกกับพริ้งพรรณแล้วสองคน
เธอรู้สึกเสียดายเวลาเก่าๆที่เธอไม่สามารถดึงใจชายคนรักไว้กับตัวได้ หยาดน้ำตาแห่งความบริสุทธิ์
ไหลเป็นทางบนใบหน้าของเธอเมื่อเธอ พร้อมๆกับที่สายตากำลังดูเฟสบุ๊คเห็นเพื่อนเก่าในมหาวิทยาลัย
อุ้มลูกชายถ่ายรูปมาอวดในฟีดข่าว ส่วนเธอกำลังรออะไรอยู่ เธอไม่เข้าใจตัวเอง
บางทีก็เหมือนกับว่าเธอกำลังรอ ก้อนเมฆแห่งชีวิตโสดอัดตัวเป็นฝนหลากกระหน่ำความช้ำใจไหลบ่านองจนหมดไป
และก่อนที่จะมีรักใหม่กับใครสักคนที่จะเข้ามาเติมเต็มชีวิต ในเวลาที่ฟ้าหลังฝนสว่างไสว
รัศดานางค์ กำลังรออย่างสิ้นหวังในอายุ 35 กับชายที่ดีที่สุด ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเจอกัน
ในวันเสาร์ คอนโดห้อง1509 หน้าฝน กทม. เธอปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบสองแก้มโดยไม่เช็ดมันออก
ปล่อยให้มันไหลไปตามธรรมชาติเหมือนฝนที่ไหลบ่าพร้อมท่วมผืนดินให้เป็นน้ำตาหล่อเลี้ยงหัวใจดิน
ที่เหี่ยวเฉาทึมเทาพร้อมกับเสียงฟ้าร้องคำรามข้างนอกคอนโด ในวันเกิดครบอายุ 35 ในวันนี้ของเธอ
นคเรศ ณ เสนางค์
เรื่องสั้นสะท้อนความเหงาของคนเมือง "วันเสาร์ คอนโดห้อง1509 หน้าฝน กทม."
ในวันที่อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่งใสทอดสายตาออกไปจะเห็น
สีครามกว้างสุดลูกหูลูกตาและปุยก้อนเมฆ พอให้เห็นความขาวเหนือเงา ลอยฟุ้งเป็นรูปร่างต่างๆ
สลับเปลี่ยนรูปทรงไม่หยุดนิ่ง เรามักจะรู้สึกสดใสสว่างใจไร้กังวล แต่ถ้าหากวันใดที่ท้องฟ้ามีมวลเมฆปกคลุมด้วยเงาหม่นหมอง
เราจะรู้สึกสลดหดหู่ เป็นเพราะก้อนเมฆและท้องฟ้าหรือเปล่านะ ที่ทำให้ใจเรารู้สึกแตกต่างอย่างนี้
และยิ่งทำให้การตัดสินใจเดินไปข้างหน้าในชีวิตของเรายิ่งไม่ชัดเจนโลเลเคว้งคว้างยิ่ง
ความเหงาร่วมสมัยกลางกรุงเกิดได้กับชีวิตทั่วไปอย่างเช่นกับ
รัศดานางค์ หญิงสาวโสดวัย35 พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เธอเฉลียวใจกับสิ่งเกิดในจิตใจของเธอ
ผ่านช่วงเวลาปีแล้วปีเล่า ตลอด 35 ปีที่เธอลืมตาขึ้นมาเห็นโลก นาฬิกาเดินไปอย่างช้าๆ
ท่ามกลางเสียงชุลมุนของการจราจรบนถนนเบื้องล่างคอนโด ดั่งเช่นวันนี้ วันที่ท้องฟ้ากำลังคลื่นตัวด้วยหมู่เมฆเข้ามาปกคลุม
เหนือความควบคุมที่จะไม่ให้เกิดขึ้นได้ คนธรรมดาเช่นเธอ จึงทำได้เพียงรอเวลาให้มันผ่านไป
ก่อนที่จะมันจะอัดตัวเป็นหยดน้ำจากท้องฟ้า เพื่อตกลงมากระทบกับผิวดิน เกิดเป็นความชุ่มชื้น
เย็นฉ่ำทดแทนความหมองหม่นที่มันทำให้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น และหลังจากนั้น ท้องฟ้าก็คงเปลี่ยนเบิกกว้างให้แสงตะวัน
สาดลงมาสู่พิภพธรณี เหมือนกับจะเข้ามาทำให้ใจของเธอมีแสงส่องความหวังสู่ปลายทางชีวิตมากขึ้น
เมื่อตัดสินใจมานานแล้วว่าการอยู่เป็นโสดอย่างนี้เป็นความอิสระอย่างหนึ่งสำหรับการตัดสินใจในชีวิตทุกด้านของตัวเอง
แต่ความเหงาเข้ามาจับขั้วหัวใจของรัศดานางค์ ตั้งแต่เมื่อเขาจากไปในฝนตกกระหน่ำฟ้าครึ้ม
คืนที่พายุถ่าโถมพัดเอา บรุษคนหนึ่งไปจากชีวิตเธอในขณะที่เธอมีอายุเพียง 23ปีกำลังจะขึ้นปีสี่
เธอรู้ดีว่าหากจะอ้อนวอนเพียงใด เขาก็ไม่มีทางจะกลับมาเป็นชายคนที่พร้อมจะทำดีต่อเธอ
เช่นทุกครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่รู้จักกัน เมื่อเขาบอกกับเธอว่าเขาต้องไปอยู่กับพริ้งพรรณ
แฟนสาวคนใหม่ของเขานั้น ที่หอพักรวมนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยของพริ้งพรรณ
เขาบอกกับเธอหลังจากทะเลาะกันในคราบน้ำตาของทั้งสอง ทั้งเขาและรัศดานางค์
ถึงเหตุผลที่เขาต้องไป เขาสลักคำพูดไว้ในใจเธอเพียงว่า เขาไม่อาจเป็นคนที่ดีพร้อมของเธอต่อไป
เมื่อเขาพบกับความรักครั้งใหม่กับ พริ้งพรรณ แฟนใหม่ที่รู้จักจากการออกค่ายอาสา
ร่วมมหาวิทยาลัยเมื่อช่วงซัมเมอร์ ที่เขาต้องการไปอยู่ร่วมในนั้นกับเธอ
จนเวลาล่วงเลยมา 12 ปี ตอนนี้รัศดานางค์ เป็นสาวใหญ่โสด
ผู้ขยันทำงานเพื่อหาเงินเก็บส่งกลับไปให้พ่อกับแม่ที่อยู่ทางบ้านต่างจังหวัดอำนาจเจริญ
ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจจากบ้านเกิดแห่งนี้เพื่อไปหาอนาคตที่ให้ความหวังแก่ความอับโชคที่เกิดมาเป็นคนท้องไร่ท้องนาของเธอ
เมื่อเธอขอทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาจากรัฐบาล
อันพอทำให้เธอได้ใช้สอยในระหว่างร่ำเรียนในกรุงเทพจนจบ และเธอต้องทำงานเพื่อคืนทุนนั้นแก่รัฐบาล
ทำให้ชีวิตของเธอกลายเป็นประชากรวัยทำงานในกรุงเทพมหานครจนทุกวันนี้
และด้วยมีเหตุให้เสียใจต่อชายคนรักที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันสมัยเรียนคราวนั้น
เธอจึงไม่กล้าที่จะคบกับชายใดอีกเลยตั้งแต่บัดนั้น
วันนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันพักผ่อน ในคอนโดเกรด B ที่รัศดานางค์
กำลังทยอยผ่อนด้วยเงินดาวน์สองแสนสี่ เพื่อใช้เป็นที่สงบส่วนตัวของเธอหลังการทำงานเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์
ฟ้าฝนกำลังก่อตัว อีกสักหน่อยก็จะมีหยาดฝนเป็นอนุสรณ์แห่งน้ำตา ให้รัศดานางค์
ย้อนนึกคิดไปถึงวันเก่าๆที่เธอไม่อาจลืมเลือนมันไปจากใจได้ ไอร้อนของกาต้มน้ำ
แบบที่มีนกหวีดร้องปลายกา เรียกเธอให้ไปรับมัน เธอลุกจากที่นอนเดินไปที่ซิงค์ครัว
เธอเงื้อมือขึ้นไปหยิบซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและถ้วยรอง ฉีกซองแล้วเทบะหมี่ลง
ก่อนจะเทน้ำร้อนที่เพิ่งเดือดลงตามลงไป แล้วฉีกซองเครื่องปรุงกลิ่นฉุนจมูก แต่กลิ่นของมัน
พอดีกับน้ำร้อนที่ผสานกระตุ้นให้น้ำลายของเธอสอเล็กน้อย เธอรอบะหมี่สุก
ขณะที่มองออกไปนอกหน้าต่างคอนโดชั้นที่ 15 ในย่านชานกรุงแห่งนี้
เห็นฝนกระหน่ำกรุงเทพ ท้องฟ้ามืดครึ้ม สีหม่นปกคลุมไปทั้งย่านข้างล่าง รถราติดขนัด
ความมัวหมองที่มองผ่านกระจกคอนโด ทำให้เธอสลดอยู่บ้าง พร้อมกับความเหงา
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูไลน์ ว่ามีใครเพิ่งส่งข้อความมาหา ก็รู้ว่า เป็น ยินตรา
เพื่อนสาวร่วมออฟฟิศที่เธอทำงาน ส่งการ์ดข้อความสุขสันต์วันเกิดมาให้
รัศดานางค์ อ่านข้อความอวยพรในการ์ด ก็เหมือนเดิมๆ ทุกปีที่เธอเคยได้จากเพื่อนสาวคนนี้
สุขสันต์วันเกิด ขอให้มีความสุขมากๆ สวยๆรวยๆ มีแฟนหล่อๆนะ
นั้นเป็นข้อความที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้างและ จะหวังให้ใครเข้ามาเป็นคู่ชีวิตในยามเมื่ออายุ
และงานของเธอกำลังก่อตัวเป็นรูปร่างของชีวิต อันยากจะทำความเข้าใจปรับรสนิยมให้เขากับชายได้ยากกว่าสมัยเป็นสาว
เธอท้อใจเหลือเกินกับชีวิตที่เป็นโสดนี้ แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามานานเท่าใด
ความรู้สึกระวังตัวต่อชายที่เข้ามาพัวพันคนแล้วคนเล่า ยิ่งทำให้เธอต้องการออกห่างจากสังคมเพื่อนผู้ชาย
ตามปกติเวลาที่มีโอกาสได้ไปสัมนาต่างจังหวัด ก็จะหนีไม่พ้นการสังสรรค์
อันทำให้บรรดาเพื่อนชายหญิงในบริษัทได้ผ่อนคลาย เป็นการสัมนาเชิงสร้างสัมพันธภาพในองค์กรไปในตัว
แต่การที่เธอเห็นบรรดาชายหนุ่มเพื่อนร่วมบริษัทแต่ละคน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความน่าสนใจ
บางคนมีนิสัยชอบคุยโม้โอ้อวดถึงความเก่งของตัวเอง ส่วนบางคนก็ชอบดื่มเหล้าสูบบุหรี่จัด
เมามายทุกครั้งที่ไปสัมนา แม้พวกเขาจะพยายามทำตัวสนิทสนมถึงขั้นจีบเธอบ้าง
แต่เธอก็ไม่ไว้ใจ รัศดานางค์ จึงให้ความรู้สึกต่อพวกเขาได้เพียงเป็นเพื่อนห่างๆ ที่คอยช่วยเหลือกันแค่ในที่ทำงาน
เธอทานบะหมี่เสร็จ แล้วนำชามบะหมี่ไปล้างที่ซิงค์ล้างจาน ทอดตามองไปเบื้องหน้าผ่านกระจก
ที่ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่าง แสงแดดทอประกาย มีสายรุ้งที่ปลายฟ้า
ช่างเป็นภาพของความสดใสอย่างหนึ่งในวัย 35 ของเธอ เธอล้างชามเสร็จแล้ว
ยืนมองสายรุ้งอย่างมีความหวัง โทรศัพท์ดังสองสามที เธอเดินไปหยิบ
จึงรู้ว่า แม่จากอำนาจเจริญ โทรมา รัศดานางค์ ยกหูขึ้นสนทนา บอกกับเมื่อไปว่า
สิ้นเดือนจะส่งเงินให้แม่กับพ่อเหมือนเดิม ตอนนี้งานกำลังอยู่ตัว
ไม่มีอะไรลำบากเหมือนตอนเข้ามาทำแรกๆ ส่วนแม่ก็ โทรมาอวยพรวันเกิด ขอให้เธอมีความสุข และสุขภาพดี
และแม่ยังบอกกับเธอว่า ปีใหม่ปีนี้น้องชายจะแต่งงานกับลูกสาวปลัดในอำเภอ
ให้เธอเตรียมเงินไปช่วยน้องค่าสินสอดไว้ให้น้องด้วยนะ รัศดานางค์ ตอบตกลงว่าจะกู้บัตรเครดิตเพิ่ม อีก สองแสน
เพื่อไปสมทบค่าสินสอดให้น้องชาย ที่กำลังจะแต่งงานช่วงปีใหม่ สายสนทนาจบลง เธอก็ยังไม่รู้สึกว่า
ความอบอุ่นจากปลายสายจะมาช่วยเยียวยาความเหงาของเธอได้ในวันนี้ไม่พอให้ใจชื้นได้
ฝนตกลงมาอีกแล้ว สาวใหญ่กลับไปที่เตียงนอน เมื่อหัวลงถึงหมอน
เธอเอามือก่ายหน้าฝากด้วยใจที่ว้าเหว่ เธออยากไปดูหนัง จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
โทรไปหา ยินตรา แต่สายไม่ว่าง ถ้าวันนี้ไม่มีเพื่อนไปดูหนัง การออกไปดูหนังคนเดียวอาจจะยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหงายิ่งกว่า
เวลาที่เห็นคนอื่นควงคู่กันไปดูหนังแต่เธอต้องเดินคนเดียว วันนี้เธอไม่ค่อยมีเงินไปช๊อปปิ้ง เนื่องจากเป็นช่วงปลายเดือน จึงได้อยู่ที่ห้อง
ในวันเกิดวันนี้ของรัศดานางค์ ช่างเป็นวันที่ไม่มีอะไรที่พิเศษสักเท่าไหร่ เหมือนวันหยุดธรรมดาหนึ่งวันที่ค่อยๆผ่านเวลาไป
และนาฬิกาคอยเตือนให้เธอรู้ว่าเธอกำลังจะมีอายุเพิ่มขึ้นเช่นนี้ไปอีก พร้อมกับความโสด
แบบสาวมั่นตัวคนเดียวในบริษัท เธอน้ำตาซึม กับความเดียวดายในวันนี้
อยากจะออกไปข้างนอกก็ไม่รู้จะไปไหน เธอจึงลุกจากเตียงเดินเข้าไปที่โต๊ะคอม
เธอนั่งลงบนเก้าอี้เปิดคอม แล้วพาตัวเองเข้าสู่โลกออนไลน์ เธอมุ่งไปที่เฟสบุ๊ค
เพื่อพิมพ์ข้อความอัพเดทสถานะของเธอ
–เหงา-
คำเดียวที่เธอพิมพ์ลงบนสถานะแล้วโพส ดูข้อความอื่นในไทม์ไลน์
เห็นข้อความส่งทั้งรูปสติ๊กเกอร์และคำอวยพรจากเพื่อนในเฟสบุ๊คประมาณ10กว่าคน
ทั้งคนที่สนิทในบริษัทและเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย รัศดานางค์
ยื่นมือไปหยิบรีโมทคอนโทรเพื่อเปิดดูโทรทัศน์ ตรงกับเวลาของรายการเทคมีเอาท์ไทยแลนด์ ที่มีกาละแมและน้าเน๊กเป็นพิธีกร
เธอไม่ได้ดูทีวีหรอก แค่อยากเปิดเป็นเพื่อนคลายเหงาเท่านั้นเอง
ให้ทดแทนความเงียบในใจที่ไม่มีใครอยู่ในนั้นพอจะคอยกระซิบบอกรักกับเธอ
เป็นเวลาบ่ายในขณะที่ฝนกำลังตกลงมาชุดใหญ่ วันนี้เธอคงออกไปทานข้าวข้างนอกไม่ได้
จึงกดโทรศัพท์โทรไปสั่งอาหารสำเร็จจากS&P เดลิเวอรี่
รัศดานางค์ สั่งสปาเกตตี้ธรรมดา และน้ำส้มขวด อีกสักพักเขาคงเอามาส่ง
เธอนั่งดูเฟสบุ๊คต่อไป เห็นหลายคนโพสสถานะด้วยรูปภาพ ในการไปท่องเที่ยวพักผ่อนวันหยุด
ทั้งในห้างหรู ร้านอาหาร รวมไปถึงสวนสนุกต่างๆ
แต่สำหรับรัศดานางค์ ช่างไม่มีอารมณ์จะไปไหนเลย ฝนก็ตกเพื่อนสนิทมินตราก็ไม่ว่าง
เธอรู้ดีว่าวันเกิดในตอนเป็นผู้ใหญ่แล้วนั้น ก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง
ที่แค่เตือนให้รู้ว่าอีกไม่กี่ปีก็จะเกษียณและแก่ตัวไปตามเวลา ไม่ได้เป็นวันสำคัญพิเศษกว่าวันใดสักเท่าไหร่
ไม่ถึง30นาที รถเด็กส่งอาหารก็โทรมา เธอบอกชื่อห้องให้เขาขึ้นมาได้
เธอจึงลุกจากเก้าอี้คอมไปเปิดประตูห้อง เด็กส่งอาหารบอกราคา เธอจ่ายเงินเสร็จ ปิดประตูห้องแล้วนำมาสปาเกตตี้และขวดน้ำส้มมาวางที่ซิ้งค์ครัว มื้อนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายของวันนี้ เนื่องจากเธอกำลังลดหุ่นจึงคิดว่าจะงดทานอาหารเย็น
เวลาบ่ายสามของวันเสาร์ในคอนโดที่เธอกำลังทยอยผ่อนจ่าย เธอไปที่โต๊ะกินข้าว
นำจานมาวางลงบนโต๊ะทานอาหารสีเทา แล้วเทสปากตตี้ธรรมดาลงบนจาน
เส้นสีเหลืองของอาหารทำให้เธอรู้สึกหิวเล็กน้อย เธอกินสปาเกตตี้จนเสร็จ
ก็พอดีจบรายการเทคมีเอาท์ ไทยแลนด์ หลังมื้ออาหารอันเดียวดาย เธอไม่รู้จะทำอะไรต่อ
จึงเดินไปที่โต๊ะคอมอีกครั้ง รัศดานางค์ มุ่งไปที่เฟสบุ๊ค เปิดดูแฟนเพจข้อความคลายเหงาต่างๆ
เห็นQuote ข้อความถูกใจ ข้อความนั้นเขียนว่า
“ดอกไม้ที่บานในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย คือดอกไม้ที่สวยงามและหายากที่สุด”
-มู่หลาน-
รัศดานางค์จึงแชร์ไปที่ไทม์ไลน์ของตัวเอง แล้วไปเม้นต์สถานะรูปถ่ายเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยสองสามคน
เธอต้องการปลดปล่อยความเหงาให้โลกรับรู้ ในความเหงาทรมาณลึกๆในใจสำหรับชีวิตโสด
นี่ถ้าเธอไม่มีแฟนในวัยที่เลยมาถึง35ปีแล้ว มีโอกาสสูงที่เธอจะต้องกลายเป็นคนโสดไปจนแก่เฒ่า
ในขณะที่ชายแฟนเก่าของเธอตอนนี้มีลูกกับพริ้งพรรณแล้วสองคน
เธอรู้สึกเสียดายเวลาเก่าๆที่เธอไม่สามารถดึงใจชายคนรักไว้กับตัวได้ หยาดน้ำตาแห่งความบริสุทธิ์
ไหลเป็นทางบนใบหน้าของเธอเมื่อเธอ พร้อมๆกับที่สายตากำลังดูเฟสบุ๊คเห็นเพื่อนเก่าในมหาวิทยาลัย
อุ้มลูกชายถ่ายรูปมาอวดในฟีดข่าว ส่วนเธอกำลังรออะไรอยู่ เธอไม่เข้าใจตัวเอง
บางทีก็เหมือนกับว่าเธอกำลังรอ ก้อนเมฆแห่งชีวิตโสดอัดตัวเป็นฝนหลากกระหน่ำความช้ำใจไหลบ่านองจนหมดไป
และก่อนที่จะมีรักใหม่กับใครสักคนที่จะเข้ามาเติมเต็มชีวิต ในเวลาที่ฟ้าหลังฝนสว่างไสว
รัศดานางค์ กำลังรออย่างสิ้นหวังในอายุ 35 กับชายที่ดีที่สุด ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเจอกัน
ในวันเสาร์ คอนโดห้อง1509 หน้าฝน กทม. เธอปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบสองแก้มโดยไม่เช็ดมันออก
ปล่อยให้มันไหลไปตามธรรมชาติเหมือนฝนที่ไหลบ่าพร้อมท่วมผืนดินให้เป็นน้ำตาหล่อเลี้ยงหัวใจดิน
ที่เหี่ยวเฉาทึมเทาพร้อมกับเสียงฟ้าร้องคำรามข้างนอกคอนโด ในวันเกิดครบอายุ 35 ในวันนี้ของเธอ
นคเรศ ณ เสนางค์