ปัญหาคือยาวิเศษ

เมื่อพูดถึงอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตมีความสุขน้อยลง สำหรับบางคนคงคิดถึงบางเหตุการณ์ขึ้นมาทันที แต่หนึ่งในนั้นที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด คงปฏิเสธไม่ได้ว่าต้นเหตุมาจากสิ่งที่เราเรียกกันว่า “ปัญหา” เพราะหากคิดตามรากศัพท์ ปัญหาก็หมายถึง สิ่งที่เป็นอุปสรรค สร้างความยากลำบากให้ชีวิต สถานการณ์ที่มีปัญหาก็ต้องมีการแก้ไขปัญหาเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้นั้นเอง

บางคนเมื่อมีเจ้าตัวปัญหาเข้ามาสิงสู่ร่างเมื่อไหร่ละก็…….ขอพูดได้เลยว่าทั้งร่างกายและจิตใจห่อเหี่ยวขึ้นมาทันที กินไม่ได้นอนไม่หลับนั้งเอามือกุมขมับกันเลยทีเดียว

เสียงที่ดังกึกก้องในใจ “ชีวิตฉันทำไมไม่สวยงามเหมือนเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ” ก็เจ้ากลีบกุหลาบสวยงามที่กำลังพูดถึงตอนนี้ ลองนั้งคิดเล่นๆ จะพบความต่างข้อนึงว่าดอกกุหลาบมีหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายสีสรรค์ หากย้อนกลับมามองดอกที่มันสวยงามละก็…….ส่วนที่เรียกว่า “กลีบดอกกุหลาบ” จริงๆ มันก็มีจุดบกพร่องของมันนะ ดอกที่ดูสวยงามชวนหลงไหล ชวนเคลิ้มให้ติดใจในสีสรรค์และกลิ่นหอมละมุน  เปรียบเสมือนเส้นทางที่สวยงามไร้ซึ่งปัญหาและอุปสรรค ลึกๆ ไปแล้วย่อมมีรอยบอบช้ำมาก่อนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสารเคลือบผิวดอกเพื่อไม่ให้ดอกเหี่ยวเฉาตามกาลเวลา แต่พอหมดฤทธิ์ของยาเคลือบก็ถึงห้วงอวสารชีวิตของมัน ทั้งหมดทั้งมวลล้วนไปตามกาลเวลาทั้งสิ้น แม้แต่ภายในดอกกุหลาบหนึ่งดอกก็ยังคงมีกลีบดอกและขนาดที่แตกต่างกัน ทั้งกลีบดอกหนาแข็งแรงจนถึงกลีบดอกบางๆ กลีบดอกด้านในสุดที่ติดกับเกสรที่ดูจะบอบบางและอ่อนแอที่สุด ชีวิตคนเราฉันใดก็ฉันนั้นไม่มีใครที่จะมีความสุขและทุกข์ไปได้ทั้งชีวิต ฉะนั้นหากมีใครบอกว่าชีวิตสวยงามเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ อันนี้ขอแย้งว่าเป็นไปได้ยากอย่างแท้จริง

หากย้อนกลับไปมองพระเดชพระคุณของเจ้าตัวปัญหา คุณจะพบทันทีว่าถ้าไม่มีเจ้าตัวปัญหา คุณก็จะไม่วันยืนแข็งแกร่งได้เช่นทุกวันนี้

เจ้าตัวปัญหามันจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป หากคุณมั่นหน้ารับมือกับมัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กปัญหาใหญ่ เพียงแค่เราไม่กลัวและยิ้มรับมัน รับรองว่าคุณนี้แหละ คือ เจ้าของตำแหน่ง The Winner ตัวจริงอย่างแน่นอน ดั่งคำสอนของท่านพระอาจารย์มานพ อุปสโม ซึ่งเป็นพระวิปัสสนาจารย์ นักพัฒนาที่ทำงานเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่หลายคนอาจจพอคุ้นหูกันอยู่บ้าง ท่านมักกล่าวถึงเรื่องปัญหาเสมอว่า

“ต้นเหตุของปัญหาทุกอย่างสรุปลงตรงความรู้สึกขัดใจ หากเราไม่รู้สึกขัดใจเสียอย่าง ทุกข์ก็จะไม่เกิดขึ้นในใจเราเลย”

เส้นทางชีวิตแต่ละคนไม่เคยมีทางตัน ตราบที่เรายังคงหายใจอยู่ ถ้าเรารู้สึกด้อยค่ากว่าคนอื่น ก็ลองมองออกไปในที่โล่งกว้าง คุณจะพบว่ายังมีอีกหลายๆ คนที่มีโอกาสไม่เท่ากับคุณ วันนี้คุณรู้สึกเหนื่อยกับงาน แต่คุณค่อยๆ ลองเปิดใจออกไปเรื่อยๆ  มีคนอีกมากมายที่ทำงานท่ามกลางแสงแดด  แต่พวกเขายังคงทำงานด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่สนุกสนาน ไม่ใช่ว่างานที่เขาทำไม่เหนื่อยยากแต่สิ่งที่พวกเขามีและซ่อนอยู่ข้างในใจ คือ ความเข้มแข็ง ความรักที่พวกเขาได้รับจากคนรอบกาย

หรือแม้แต่เวลาที่คุณ  “เจอกับคำด่าเจ้านาย เจ้านายมองไม่เห็นคุณค่าในตัวตนของคุณ” คุณก็จงชนะสิ่งเหล่านั้นด้วยการกระทำของคุณ เพื่อพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์ผลงานของคุณ สักวันผลงานของคุณก็จะเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนทั่วไป

หรือแม้แต่วันที่คุณไม่มีเงินมาซื้ออาหารจานอร่อยมารับประทานลงท้อง คุณลองหันมองคนขอทานข้างถนน หรือคนเร่ร่อนข้างทาง พวกเขากำลังหมดแรง กำลังหิวโหย แต่พวกเขายังมีแรงต่อสู้ที่จะคุ้ยเขี่ยถังขยะข้างถนนเพื่อนำเศษอาหารที่เหลือจากคนทิ้งขว้างเพื่อนำกลับมาเป็นอาหารจานโอชะของพวกเขา

“ทั้งหมดนี้ไม่ใช่จะบอกคุณว่า ให้คุณยอมรับชะตากรรมที่เป็น แต่จงใช้ใจที่นิ่งมากพอ ค่อยๆ ตรึกตรองถึงต้นเหตุของปัญหาและค่อยๆ แก้ไขมันไปเรื่อยๆ ขอเพียงเราอึดสู้กับมัน มองเห็นคุณค่าของทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ปัญหาก็ไม่มาถมตัวเราให้ใจเราหนักอีกต่อไป”

ปล. แก้ไขคำตามที่ สมาชิกหมายเลข 2969997 แนะนำ ส่วนเนื้อหาขอคงไว้ตามเดิมนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่