ปลายทาง
มันเป็นช่วงเย็นของวันธรรมดาวันหนึ่งในฤดูหนาวที่แสนโหดร้ายบนยอดดอยที่สูงริบเรี่ยว ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยแผ่กิ่งก้างและอัดแน่นไปด้วยใบเต็มต้นจนแสงแดดที่แรงกล้าของวันไม่สามารถรอดผ่านไปได้ อีกทั้งยังเคยคึกคัดไปด้วยเสียงนกกาและแมลงนานาชนิดที่เข้ามาพักอาศัย แต่บัดนี้ต้นไม้ใหญ่ที่เคยเป็นเสมือนบ้านของเหล่าสัตว์ตัวจ้อยกลับถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวเหลือเพียงกิ่งก้างที่ทอดตัวยาวออกจากลำต้นไร้ซึ่งใบปกคลุม ราวกับบ้านที่ถูกรื้อถอนเหลือแต่โคลงเพื่อรอวันสร้างใหม่ ภาพที่เห็นชวนให้เหงาใจยิ่งนัด มิหนำซ้ำยังอธิบายถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายของปีได้เป็นอย่างดี ผู้คนที่เดินไปมาของดอยนี้ต่างใส่เสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันความหนาวจากสภาพอากาศ แม้แต่นกและแมลงตัวจิ๋วก็ยังหาที่กำบังเพื่อให้ร่างกายพ้นจากเส้นทางของลมที่หนาวเย็น แต่สิ่งที่ทำให้ผมสงสัยและยืนนิ่งจ้องอยู่พักใหญ่เหมือนถูกแช่แข็งเอาไว้ นั่นก็คือเจ้าหนอนตัวเล็กที่เปราะบางและไร้ขน มันไต่กระดึ๊บกระดึ๊บขึ้นไปบนต้นไม้ที่เต็มไปด้วยหนาม คำถามที่เกิดขึ้นในหัวผมก็คือ มันสามารถใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสุดขั้วจนเข้าไปถึงกระดูกโดยไม่ใส่เสื้อผ้าได้อย่างไร อีกทั้งมันยังเดินตัวชิวไร้ซึ่งเกราะกำบังท่ามกลางหนามอันแหลมคมที่พร้อมจะทิ่มแทงมันทุกเมื่อที่ก้าวพลาด เหมือนมันกำลังเยาะเย้ยและล้อเล่นกับสถานการณ์อันเลวร้ายที่ทุกชีวิตกำลังเผชิญด้วยความลำบากอยู่ ไม่ใช่ความหนาวทำให้มันเพี้ยนไปแล้วเหรอ หรือมันประเมินค่าสถานการณ์ที่ย่ำแย่เช่นนี้ต่ำไป หรือมันอาจเตรียมตัวมาดี หรือว่ามันอาจไมมีทางเลือก หรือไม่มันอาจทำไปเพื่ออะไรบางอย่างที่สำคัญกับตัวมันมากแม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม ผมจ้องดูมันไต่ตั้งแต่ข้างล่างขึ้นไปยังข้างบนของต้นหนามด้วยความเพลิดเพลิน มันไต่ด้วยความเร็วผ่านหนามต้นแล้วต้นเล่าโดยไม่มีทีท่าว่าจะถูกแทงเลยจนมาถึงกลางต้น หนามเริ่มแหลมคมและก่อตัวถี่ขึ้นจนมันต้องชะลอความเร็วลง มันก้าวผ่านหนามที่อัดกันแน่นด้วยความระมัดระวังและยากลำบากจนผมอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วย แต่มันก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์ มันพยายามหาช่องทางเพื่อฝ่าดงหนามขึ้นไปยังข้างบนให้ได้โดยไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับ ผมซึ่งมองเห็นเส้นทางเดินของเจ้าหนอนที่เรียงรายไปด้วยหนามต้นเล็กใหญ่ขึ้นเบียดเสียดกันเสมือนกองทัพขนาดใหญ่ที่กำลังปกป้องสิ่งมีค่าอยู่ เป็นผมคงถอดใจ แต่เจ้าหนอนยังกระดึ๊บไต่ขึ้นไปเรื่อยๆโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น อาจเป็นเพราะมันมองไม่เห็นอุปสรรค์ของตัวเองอย่างที่ผมเห็น หรืออาจเป็นเพราะมันรู้ว่าจะได้รับอะไรหลังจากฝ่าอุปสรรค์เหล่านั้นไปได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นสิ่งที่มันตะเกียดตะกายขึ้นไปหาต้องมีค่ามากสำหรับมันแน่นอน เมื่อคิดเช่นนั้นผมก็ยิ่งลุ้นเข้าไปอีกและสงสัยถึงความสามารถของเจ้าหนอนว่ามันจะสามารถเอาชนะอุปสรรค์ของตัวเองเพื่อขึ้นไปยังที่หมายได้ไหม ด้วยร่างกายที่แสนจะเปราะบางและไม่เอื้อมอำนวยต่อการปีนไต่เอาเสียเลยของมันทำให้ผมมั่นใจทันทีว่ามันไม่สามารถฝ่าฝูงหนามเพชฌฆาตเหล่านั้นไปได้แน่นอน ยิ่งเจ้าหนอนขึ้นสูงเท่าไหร่จำนวนหนามก็เพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดก็ไม่เหลือที่ให้แทรกตัวผ่านไปได้อีกแล้ว ถึงผมจะรู้สึกว่ามันไม่มีทางขึ้นไปถึงข้างบนได้แน่นอนแต่ใจลึกๆของผมก็คอยเอาใจช่วยมันอยู่ตลอด แต่ถึงผมจะเอาใจช่วยมันแค่ไหน ผมก็เห็นว่าไม่มีทางเลยที่เจ้าหนอนจะสามารถเดินฝ่ากองทัพหนามที่แหลมคมขึ้นไปได้ เพราะตอนนี้แม้แต่ที่ที่จะให้มันเกาะยังไม่มีเลย นอกเสียจากมันจะเหยียบขึ้นไปบนหนามแล้วเดินขึ้นไปถึงแม้ว่าหนามจำนวนมหาสารจะรุมทึ้งเข้าไปยังเนื้อที่แสนจะอ่อนนุ่มของมันก็ตาม หรือไม่มันก็คงต้องยอมแพ้และลงมาจากต้นเพื่อไปหาต้นใหม่ที่น่าจะขึ้นง่ายกว่า แต่แล้วผมก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น ผมค่อยๆสูบหายใจเข้าไปเต็มปอดทิ้งไว้พักหนึ่งก่อนจะปล่อยออกมาทีเดียวดังฟู่ด้วยความรู้สึกที่หวาดเสียว เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีที่จะให้ก้าวต่อไปแล้วเจ้าหนอนที่ไม่มีแม้แต่ขนสักเส้นจึงเหยียบขึ้นไปบนหนามที่ขึ้นยั้วเยี๊ยเต็มลำต้นโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เจ้าหนอนเพิ่มสปีคเพื่อให้ตัวเองวิ่งผ่านทุ่งหนามไปอย่างรวดเร็วเพราะมันรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับร่างกายที่เปราะบางของมันหากอยู่บนหนามนาน ผมยืนนิ่งเกร็งตัวพร้อมกลั้นหายใจอีกครั้งในขณะที่ลุ้นว่าเจ้าหนอนจะสามารถฝ่าสมรภูมิหนามไปได้ไหม ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะดำเนินไปด้วยความเงียบ แต่ผมกลับรู้สึกว่าเจ้าหนอนกำลังร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดด้วยท่าทีที่บิดไปมาของลำตัวในขณะที่วิ่งอยู่บนหนาม มันคงจะเจ็บและทรมานน่าดู ผมได้แต่จินตนาการถึงความเจ็บปวดที่หนอนน้อยได้รับ หนามต้นเล็กใหญ่จำนวมมากที่ขึ้นเบียดเสียดกันถี่ยีบได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่เปรียบเสมือนนักรบที่แข็งแกร่งคอยใช้หอกและดาบทิ่มแทงไปยังทุกส่วนของร่างกายเจ้าหนอนทุกครั้งที่เข้ามาสัมผัสโดนเพื่อขัดขวางไม่ให้เจ้าหนอนขึ้นไปยังข้างบน ถึงกระนั้นเจ้าหนอนก็ยังไม่ละทิ้งความพยายามมันกุมความฝันและเป้าหมายของตัวเองไว้แน่นมันปีนขึ้นไปเรื่อยๆด้วยร่างกายที่สะบัดสบอมและเต็มไปด้วยแผลจากการต่อสู้ระยะประชิด เจ้าหนอนพยายามต่อสู้กับกองทัพหนามที่แข็งแกร่งด้วยมือเปล่าอย่างสุดฝีมือยู่พักหนึ่ง จนมาถึงตอนนี้เจ้าหนอนที่วิ่งมาตลอดทางบนทุ่งหนามที่ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตาสำหรับมัน อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดของร่างกายที่ฝืนมานานทำให้มันค่อยๆชะลอตัวลงอย่างช้าๆมาอยู่ในสภาพเดินแทน มันพยายามพยุงร่างกายที่ฟกช้ำของมันไต่ขึ้นไปข้างบนอย่างช้าๆพร้อมกับความเร็วที่ลดลงเรื่อยๆ เหมือนมันกำลังบอกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว สู้เค้าหนอนน้อยอย่าได้ยอมแพ้ นายทำได้ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น ผมได้แต่ส่งเสียงเชียร์และให้กำลังใจเจ้าหนอนจากลึกๆข้างในจิตใจผม ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กที่เรียนใกล้จะจบปริญญาตรีแล้วอย่างผมกลับต้องมายืนจ้องและลุ้นหนอนปีนต้นหนามจนตัวโก่ง คิดแล้วช่างไร้สาระสิ้นดี ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ช่างมันเถอะไหนๆก็มาถึงจุดนี้แล้วปล่อยให้อารมณ์พาไปละกัน ทำตัวไร้สาระบ้างบางทีอาจช่วยบรรเทาความน่าเบื่อของชีวิตลงได้อย่างน้อยสักนิดก็ยังดี และแล้วเจ้าหนอนก็หยุดเดินในที่สุดหลังจากที่เดินโซเซคล้ายกับหมดเรี่ยวแรงมาพักหนึ่ง มันหยุดนิ่งไม่ขยับตัวแม้แต่นิดเดียว คงเป็นเพราะบาดแผลที่พึ่งได้รับมากับความเหน็ดเหนื่อยจากการวิ่งเมื่อครู่ ทำให้มันไม่อาจจะก้าวขาขยับไปข้างหน้าได้อีกแล้วณะตอนนี้ แต่แล้วผมกลับถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกโล่งอก เพราะตอนนี้หนอนน้อยซึ่งเป็นเสมือนตัวเอกในหนังแอ๊คชั่นบู้ระห่ำที่ผมชอบดูได้ฟันฝ่าเหล่าศัตรูทั้งร้ายกาจทั้งน่ากลัวจนมาถึงที่หมายดั่งใจหวังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่มันหยุดเดินไม่ใช่เพราะมันบาดเจ็บหรือเหนื่อยมากจนเดินไม่ไหว แต่เป็นเพราะมันกำลังจ้องมองและชื่นชมสิ่งสวยงามที่ตั้งตระง่าอยู่ตรงหน้า เป็นสิ่งที่มันต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อปีนขึ้นมาหาด้วยความลำบากยากเข็ญ และท้ายที่สุดมันก็ได้รับรางวัลจากความพยายามของมัน รางวัลไม่เคยทรยศผู้ชนะจริงๆและรางวัลก็มีไว้สำหรับผู้ชนะเสมอ เหตุการณ์ครั้งนี้ของเจ้าหนอนนักสู้ทำให้ผมย้อยกลับมาคิดถึงการสู้ชีวิตของคนเรา หลายๆครั้งเราเอาปัญหาและอุปสรรค์มาเป็นตัวตั้ง ทำให้ปัญหาที่เราเผชิญมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนบังความฝันและเป้าหมายของเราจนมิดในท้ายที่สุด เป็นเหตุผลที่ทำให้เราล้มเลิกความคิดและสิ่งที่กำลังทำอยู่เพราะรู้สึกว่าปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่นั้นมันใหญ่และน่ากลัวเกินกว่าที่เราจะฝ่าไปได้ ทำให้เราไปไม่เคยถึงสิ่งที่ฝันเอาไว้สักทีแล้วก็กลับมานั่งปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไร ถอยเพื่อก้าวใหม่ สิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่ทางของเรา เพราะเศรษฐกิจมันแย่ เพราะรัฐบาลมันห่วย ช่วยไม่ได้ ต่างๆนาๆที่เราจะคิดออกและสรรหามากล่าวโทษสิ่งรอบข้างยกเว้นตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดไม่ว่าเราจะสู้อีกกี่ครั้งผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม เพราะปัญหาและอุปสรรค์ก็ยังใหญ่สำหรับเราเสมอหาใช่ความฝันไม่ แต่หากเราเป็นเหมือนเจ้าหนอนตัวนี้ กล้าที่จะเสี่ยง ยอมเจ็บตัวบ้าง และที่สำคัญ พุ่งเป้าไปที่ความฝันด้วยความแน่วแน่ทะเยอทะยาน บางทีเราอาจได้ลิ้มรมของความสำเร็จและไปถึงความฝันที่เราจินตนาการและวาดมันมาโดยตลอด คงจะดีไม่ใช่น้อย ตื่นเต้นทุกครั้งที่คิดเช่นนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า ผมได้แต่หัวเราะเยาะตัวเอง เพราะทั้งหมดที่ผมบ่นมานี้มันสะท้อนถึงชีวิตที่ไม่เอาไหนของตัวผมเอง มาถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ละสายตาจากเจ้าหนอนตัวจ้อย ผมกำลังสงสัยว่ามันจะทำอะไรต่อกับดอกกุหลาบสีแดงตรงหน้าที่ยังไม่บานออกด้วยซ้ำ มันคงไม่ได้เสี่ยงชีวิตฝ่าหนามกุหลาบเป็นร้อยขึ้นมาเพื่อจ้องมองความสวยงามของดอกกุหลาบจนพอใจแล้วก็ลงไปหรอกนะ เจ้าหนอนหยุดนิ่งพักใหญ่ก่อนจะขยับตัวในเวลาต่อมา มันไต่ขึ้นไปบนดอกกุหลาบที่มีลักษณะเหมือนดอกบัวตูมในขณะนี้ เมื่อมันขึ้นไปถึงมันก็ไม่รอช้าที่จะใช้ขากรรไกรคู่หน้าเจาะเข้าไปยังกลีบดอกกุหลาบสีแดงทันทีเพื่อลิ้มรสชาติรางวัลแห่งความสำเร็จที่ตัวเองได้รับ จริงๆผมควรจะตบมันให้ร่วงและเหยียบซ้ำด้วยรองเท้าหนังสีดำของผม เพราะมันเป็นหน้าที่ของผมที่คอยสอดส่องดูแลดอกกุหลาบพวกนี้ไม่ให้หนอนหรือแมลงต่างๆที่เป็นศัตรูพืชเข้ามากัดกินและทำลายดอกกุหลาบ แต่หลังจากที่ผมเห็นถึงความพยายามของหนอนตัวนี้แล้วก็ทำให้ผมใจอ่อนยอมยกกุหลาบดอกนี้ให้เป็นรางวัล อีกอย่างในสวนมีดอกกุหลาบเป็นพันดอกแบ่งให้หนอนดอกหนึ่งแม่คงไม่ว่าอะไรมั้ง ผมเห็นมันตั้งหน้าตั้งตากินดอกกุหลาบอย่างมีความสุข ลึกๆข้างในจิตใจของผมก็พลอยมีความสุขไปด้วยจนเผลอมีอมยิ้มออกมาให้เห็น เมื่อผมได้ชื่นชมความสามารถและความพยายามของเจ้าหนอนอย่างเติมที่แล้ว ผมก็เดินจากมาโดยทิ้งให้เจ้าหนอนอยู่กับอาหารเย็นของมัน พร้อมทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่เหมือนจะเป็นห่วงเป็นใยหนอนน้อยว่า “หลบให้ดีๆนะ อย่าให้แม่เรามาเห็นเข้าล่ะ เพราะตัวแกอาจจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันกับส้นเท้าของแม่เราได้ แต่เราว่าญาติพี่น้องหรือเพื่อนๆของแกคงเล่าให้แกฟังหมดแล้วล่ะ หรือไม่แกอาจเห็นมากับตาแล้วถึงความโหดร้ายของแม่เราเวลาเจอตัวอย่างแก ฮ่าฮ่าฮ่า แม่เราเกลียดตัวที่มีรูปร่างหน้าตาอย่างแกมากเลยนะ เพราะฉะนั้นระวังตัวด้วย แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
เย็นวันถัดมาหลังจากที่ผมช่วยแม่หุ้มดอกกุหลาบจนเสร็จผมก็เดินไปหาเจ้าหนอนทันทีซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ผมเจอมันเมื่อวาน
(ไว้มาต่อวันหลังครับ)
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าปัญหา คือการยอมแพ้ให้กับมัน
มันเป็นช่วงเย็นของวันธรรมดาวันหนึ่งในฤดูหนาวที่แสนโหดร้ายบนยอดดอยที่สูงริบเรี่ยว ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยแผ่กิ่งก้างและอัดแน่นไปด้วยใบเต็มต้นจนแสงแดดที่แรงกล้าของวันไม่สามารถรอดผ่านไปได้ อีกทั้งยังเคยคึกคัดไปด้วยเสียงนกกาและแมลงนานาชนิดที่เข้ามาพักอาศัย แต่บัดนี้ต้นไม้ใหญ่ที่เคยเป็นเสมือนบ้านของเหล่าสัตว์ตัวจ้อยกลับถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวเหลือเพียงกิ่งก้างที่ทอดตัวยาวออกจากลำต้นไร้ซึ่งใบปกคลุม ราวกับบ้านที่ถูกรื้อถอนเหลือแต่โคลงเพื่อรอวันสร้างใหม่ ภาพที่เห็นชวนให้เหงาใจยิ่งนัด มิหนำซ้ำยังอธิบายถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายของปีได้เป็นอย่างดี ผู้คนที่เดินไปมาของดอยนี้ต่างใส่เสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันความหนาวจากสภาพอากาศ แม้แต่นกและแมลงตัวจิ๋วก็ยังหาที่กำบังเพื่อให้ร่างกายพ้นจากเส้นทางของลมที่หนาวเย็น แต่สิ่งที่ทำให้ผมสงสัยและยืนนิ่งจ้องอยู่พักใหญ่เหมือนถูกแช่แข็งเอาไว้ นั่นก็คือเจ้าหนอนตัวเล็กที่เปราะบางและไร้ขน มันไต่กระดึ๊บกระดึ๊บขึ้นไปบนต้นไม้ที่เต็มไปด้วยหนาม คำถามที่เกิดขึ้นในหัวผมก็คือ มันสามารถใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสุดขั้วจนเข้าไปถึงกระดูกโดยไม่ใส่เสื้อผ้าได้อย่างไร อีกทั้งมันยังเดินตัวชิวไร้ซึ่งเกราะกำบังท่ามกลางหนามอันแหลมคมที่พร้อมจะทิ่มแทงมันทุกเมื่อที่ก้าวพลาด เหมือนมันกำลังเยาะเย้ยและล้อเล่นกับสถานการณ์อันเลวร้ายที่ทุกชีวิตกำลังเผชิญด้วยความลำบากอยู่ ไม่ใช่ความหนาวทำให้มันเพี้ยนไปแล้วเหรอ หรือมันประเมินค่าสถานการณ์ที่ย่ำแย่เช่นนี้ต่ำไป หรือมันอาจเตรียมตัวมาดี หรือว่ามันอาจไมมีทางเลือก หรือไม่มันอาจทำไปเพื่ออะไรบางอย่างที่สำคัญกับตัวมันมากแม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม ผมจ้องดูมันไต่ตั้งแต่ข้างล่างขึ้นไปยังข้างบนของต้นหนามด้วยความเพลิดเพลิน มันไต่ด้วยความเร็วผ่านหนามต้นแล้วต้นเล่าโดยไม่มีทีท่าว่าจะถูกแทงเลยจนมาถึงกลางต้น หนามเริ่มแหลมคมและก่อตัวถี่ขึ้นจนมันต้องชะลอความเร็วลง มันก้าวผ่านหนามที่อัดกันแน่นด้วยความระมัดระวังและยากลำบากจนผมอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วย แต่มันก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์ มันพยายามหาช่องทางเพื่อฝ่าดงหนามขึ้นไปยังข้างบนให้ได้โดยไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับ ผมซึ่งมองเห็นเส้นทางเดินของเจ้าหนอนที่เรียงรายไปด้วยหนามต้นเล็กใหญ่ขึ้นเบียดเสียดกันเสมือนกองทัพขนาดใหญ่ที่กำลังปกป้องสิ่งมีค่าอยู่ เป็นผมคงถอดใจ แต่เจ้าหนอนยังกระดึ๊บไต่ขึ้นไปเรื่อยๆโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น อาจเป็นเพราะมันมองไม่เห็นอุปสรรค์ของตัวเองอย่างที่ผมเห็น หรืออาจเป็นเพราะมันรู้ว่าจะได้รับอะไรหลังจากฝ่าอุปสรรค์เหล่านั้นไปได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นสิ่งที่มันตะเกียดตะกายขึ้นไปหาต้องมีค่ามากสำหรับมันแน่นอน เมื่อคิดเช่นนั้นผมก็ยิ่งลุ้นเข้าไปอีกและสงสัยถึงความสามารถของเจ้าหนอนว่ามันจะสามารถเอาชนะอุปสรรค์ของตัวเองเพื่อขึ้นไปยังที่หมายได้ไหม ด้วยร่างกายที่แสนจะเปราะบางและไม่เอื้อมอำนวยต่อการปีนไต่เอาเสียเลยของมันทำให้ผมมั่นใจทันทีว่ามันไม่สามารถฝ่าฝูงหนามเพชฌฆาตเหล่านั้นไปได้แน่นอน ยิ่งเจ้าหนอนขึ้นสูงเท่าไหร่จำนวนหนามก็เพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดก็ไม่เหลือที่ให้แทรกตัวผ่านไปได้อีกแล้ว ถึงผมจะรู้สึกว่ามันไม่มีทางขึ้นไปถึงข้างบนได้แน่นอนแต่ใจลึกๆของผมก็คอยเอาใจช่วยมันอยู่ตลอด แต่ถึงผมจะเอาใจช่วยมันแค่ไหน ผมก็เห็นว่าไม่มีทางเลยที่เจ้าหนอนจะสามารถเดินฝ่ากองทัพหนามที่แหลมคมขึ้นไปได้ เพราะตอนนี้แม้แต่ที่ที่จะให้มันเกาะยังไม่มีเลย นอกเสียจากมันจะเหยียบขึ้นไปบนหนามแล้วเดินขึ้นไปถึงแม้ว่าหนามจำนวนมหาสารจะรุมทึ้งเข้าไปยังเนื้อที่แสนจะอ่อนนุ่มของมันก็ตาม หรือไม่มันก็คงต้องยอมแพ้และลงมาจากต้นเพื่อไปหาต้นใหม่ที่น่าจะขึ้นง่ายกว่า แต่แล้วผมก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น ผมค่อยๆสูบหายใจเข้าไปเต็มปอดทิ้งไว้พักหนึ่งก่อนจะปล่อยออกมาทีเดียวดังฟู่ด้วยความรู้สึกที่หวาดเสียว เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีที่จะให้ก้าวต่อไปแล้วเจ้าหนอนที่ไม่มีแม้แต่ขนสักเส้นจึงเหยียบขึ้นไปบนหนามที่ขึ้นยั้วเยี๊ยเต็มลำต้นโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เจ้าหนอนเพิ่มสปีคเพื่อให้ตัวเองวิ่งผ่านทุ่งหนามไปอย่างรวดเร็วเพราะมันรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับร่างกายที่เปราะบางของมันหากอยู่บนหนามนาน ผมยืนนิ่งเกร็งตัวพร้อมกลั้นหายใจอีกครั้งในขณะที่ลุ้นว่าเจ้าหนอนจะสามารถฝ่าสมรภูมิหนามไปได้ไหม ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะดำเนินไปด้วยความเงียบ แต่ผมกลับรู้สึกว่าเจ้าหนอนกำลังร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดด้วยท่าทีที่บิดไปมาของลำตัวในขณะที่วิ่งอยู่บนหนาม มันคงจะเจ็บและทรมานน่าดู ผมได้แต่จินตนาการถึงความเจ็บปวดที่หนอนน้อยได้รับ หนามต้นเล็กใหญ่จำนวมมากที่ขึ้นเบียดเสียดกันถี่ยีบได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่เปรียบเสมือนนักรบที่แข็งแกร่งคอยใช้หอกและดาบทิ่มแทงไปยังทุกส่วนของร่างกายเจ้าหนอนทุกครั้งที่เข้ามาสัมผัสโดนเพื่อขัดขวางไม่ให้เจ้าหนอนขึ้นไปยังข้างบน ถึงกระนั้นเจ้าหนอนก็ยังไม่ละทิ้งความพยายามมันกุมความฝันและเป้าหมายของตัวเองไว้แน่นมันปีนขึ้นไปเรื่อยๆด้วยร่างกายที่สะบัดสบอมและเต็มไปด้วยแผลจากการต่อสู้ระยะประชิด เจ้าหนอนพยายามต่อสู้กับกองทัพหนามที่แข็งแกร่งด้วยมือเปล่าอย่างสุดฝีมือยู่พักหนึ่ง จนมาถึงตอนนี้เจ้าหนอนที่วิ่งมาตลอดทางบนทุ่งหนามที่ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตาสำหรับมัน อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดของร่างกายที่ฝืนมานานทำให้มันค่อยๆชะลอตัวลงอย่างช้าๆมาอยู่ในสภาพเดินแทน มันพยายามพยุงร่างกายที่ฟกช้ำของมันไต่ขึ้นไปข้างบนอย่างช้าๆพร้อมกับความเร็วที่ลดลงเรื่อยๆ เหมือนมันกำลังบอกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว สู้เค้าหนอนน้อยอย่าได้ยอมแพ้ นายทำได้ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น ผมได้แต่ส่งเสียงเชียร์และให้กำลังใจเจ้าหนอนจากลึกๆข้างในจิตใจผม ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กที่เรียนใกล้จะจบปริญญาตรีแล้วอย่างผมกลับต้องมายืนจ้องและลุ้นหนอนปีนต้นหนามจนตัวโก่ง คิดแล้วช่างไร้สาระสิ้นดี ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ช่างมันเถอะไหนๆก็มาถึงจุดนี้แล้วปล่อยให้อารมณ์พาไปละกัน ทำตัวไร้สาระบ้างบางทีอาจช่วยบรรเทาความน่าเบื่อของชีวิตลงได้อย่างน้อยสักนิดก็ยังดี และแล้วเจ้าหนอนก็หยุดเดินในที่สุดหลังจากที่เดินโซเซคล้ายกับหมดเรี่ยวแรงมาพักหนึ่ง มันหยุดนิ่งไม่ขยับตัวแม้แต่นิดเดียว คงเป็นเพราะบาดแผลที่พึ่งได้รับมากับความเหน็ดเหนื่อยจากการวิ่งเมื่อครู่ ทำให้มันไม่อาจจะก้าวขาขยับไปข้างหน้าได้อีกแล้วณะตอนนี้ แต่แล้วผมกลับถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกโล่งอก เพราะตอนนี้หนอนน้อยซึ่งเป็นเสมือนตัวเอกในหนังแอ๊คชั่นบู้ระห่ำที่ผมชอบดูได้ฟันฝ่าเหล่าศัตรูทั้งร้ายกาจทั้งน่ากลัวจนมาถึงที่หมายดั่งใจหวังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่มันหยุดเดินไม่ใช่เพราะมันบาดเจ็บหรือเหนื่อยมากจนเดินไม่ไหว แต่เป็นเพราะมันกำลังจ้องมองและชื่นชมสิ่งสวยงามที่ตั้งตระง่าอยู่ตรงหน้า เป็นสิ่งที่มันต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อปีนขึ้นมาหาด้วยความลำบากยากเข็ญ และท้ายที่สุดมันก็ได้รับรางวัลจากความพยายามของมัน รางวัลไม่เคยทรยศผู้ชนะจริงๆและรางวัลก็มีไว้สำหรับผู้ชนะเสมอ เหตุการณ์ครั้งนี้ของเจ้าหนอนนักสู้ทำให้ผมย้อยกลับมาคิดถึงการสู้ชีวิตของคนเรา หลายๆครั้งเราเอาปัญหาและอุปสรรค์มาเป็นตัวตั้ง ทำให้ปัญหาที่เราเผชิญมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนบังความฝันและเป้าหมายของเราจนมิดในท้ายที่สุด เป็นเหตุผลที่ทำให้เราล้มเลิกความคิดและสิ่งที่กำลังทำอยู่เพราะรู้สึกว่าปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่นั้นมันใหญ่และน่ากลัวเกินกว่าที่เราจะฝ่าไปได้ ทำให้เราไปไม่เคยถึงสิ่งที่ฝันเอาไว้สักทีแล้วก็กลับมานั่งปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไร ถอยเพื่อก้าวใหม่ สิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่ทางของเรา เพราะเศรษฐกิจมันแย่ เพราะรัฐบาลมันห่วย ช่วยไม่ได้ ต่างๆนาๆที่เราจะคิดออกและสรรหามากล่าวโทษสิ่งรอบข้างยกเว้นตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดไม่ว่าเราจะสู้อีกกี่ครั้งผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม เพราะปัญหาและอุปสรรค์ก็ยังใหญ่สำหรับเราเสมอหาใช่ความฝันไม่ แต่หากเราเป็นเหมือนเจ้าหนอนตัวนี้ กล้าที่จะเสี่ยง ยอมเจ็บตัวบ้าง และที่สำคัญ พุ่งเป้าไปที่ความฝันด้วยความแน่วแน่ทะเยอทะยาน บางทีเราอาจได้ลิ้มรมของความสำเร็จและไปถึงความฝันที่เราจินตนาการและวาดมันมาโดยตลอด คงจะดีไม่ใช่น้อย ตื่นเต้นทุกครั้งที่คิดเช่นนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า ผมได้แต่หัวเราะเยาะตัวเอง เพราะทั้งหมดที่ผมบ่นมานี้มันสะท้อนถึงชีวิตที่ไม่เอาไหนของตัวผมเอง มาถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ละสายตาจากเจ้าหนอนตัวจ้อย ผมกำลังสงสัยว่ามันจะทำอะไรต่อกับดอกกุหลาบสีแดงตรงหน้าที่ยังไม่บานออกด้วยซ้ำ มันคงไม่ได้เสี่ยงชีวิตฝ่าหนามกุหลาบเป็นร้อยขึ้นมาเพื่อจ้องมองความสวยงามของดอกกุหลาบจนพอใจแล้วก็ลงไปหรอกนะ เจ้าหนอนหยุดนิ่งพักใหญ่ก่อนจะขยับตัวในเวลาต่อมา มันไต่ขึ้นไปบนดอกกุหลาบที่มีลักษณะเหมือนดอกบัวตูมในขณะนี้ เมื่อมันขึ้นไปถึงมันก็ไม่รอช้าที่จะใช้ขากรรไกรคู่หน้าเจาะเข้าไปยังกลีบดอกกุหลาบสีแดงทันทีเพื่อลิ้มรสชาติรางวัลแห่งความสำเร็จที่ตัวเองได้รับ จริงๆผมควรจะตบมันให้ร่วงและเหยียบซ้ำด้วยรองเท้าหนังสีดำของผม เพราะมันเป็นหน้าที่ของผมที่คอยสอดส่องดูแลดอกกุหลาบพวกนี้ไม่ให้หนอนหรือแมลงต่างๆที่เป็นศัตรูพืชเข้ามากัดกินและทำลายดอกกุหลาบ แต่หลังจากที่ผมเห็นถึงความพยายามของหนอนตัวนี้แล้วก็ทำให้ผมใจอ่อนยอมยกกุหลาบดอกนี้ให้เป็นรางวัล อีกอย่างในสวนมีดอกกุหลาบเป็นพันดอกแบ่งให้หนอนดอกหนึ่งแม่คงไม่ว่าอะไรมั้ง ผมเห็นมันตั้งหน้าตั้งตากินดอกกุหลาบอย่างมีความสุข ลึกๆข้างในจิตใจของผมก็พลอยมีความสุขไปด้วยจนเผลอมีอมยิ้มออกมาให้เห็น เมื่อผมได้ชื่นชมความสามารถและความพยายามของเจ้าหนอนอย่างเติมที่แล้ว ผมก็เดินจากมาโดยทิ้งให้เจ้าหนอนอยู่กับอาหารเย็นของมัน พร้อมทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่เหมือนจะเป็นห่วงเป็นใยหนอนน้อยว่า “หลบให้ดีๆนะ อย่าให้แม่เรามาเห็นเข้าล่ะ เพราะตัวแกอาจจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันกับส้นเท้าของแม่เราได้ แต่เราว่าญาติพี่น้องหรือเพื่อนๆของแกคงเล่าให้แกฟังหมดแล้วล่ะ หรือไม่แกอาจเห็นมากับตาแล้วถึงความโหดร้ายของแม่เราเวลาเจอตัวอย่างแก ฮ่าฮ่าฮ่า แม่เราเกลียดตัวที่มีรูปร่างหน้าตาอย่างแกมากเลยนะ เพราะฉะนั้นระวังตัวด้วย แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
เย็นวันถัดมาหลังจากที่ผมช่วยแม่หุ้มดอกกุหลาบจนเสร็จผมก็เดินไปหาเจ้าหนอนทันทีซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ผมเจอมันเมื่อวาน
(ไว้มาต่อวันหลังครับ)