สวัสดีครับ
วันนี้จะขอพาชมดอกลิเซียนทัส ที่ปลูกเอาไว้ที่บ้านที่จังหวัดสมุทรปราการครับ
ไปได้ต้นนี้มาจากงานบ้านและสวนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เห็นทางสวนบอกว่าเลี้ยงในที่ราบภาคกลางได้ เลยเอามาลองดู เลยซื้อมาในราคาต้นละ 350 บาท
ตอนแรกคิดว่าน่าจะออกดอกน้อย เพราะดูเหมือนเขาเป็นพืชที่ต้องปลูกบนดอย อากาศเย็นหน่อย ถึงจะออกดอกเยอะๆให้ชม
แต่กลายเป็นเขาออกดอกให้เห็นหลายดอกมากเลยครับ
ที่บ้านปลูกในโรงเรือน แบบแดดเต็มวัน เพราะดูสภาพแล้วไม่น่าจะปล่อยไว้กลางแดดฝน 100% ได้เลย
เดิมทีเขาเป็นพืชที่อยู่ในอากาศหนาว ชอบแดดแต่ไม่ชอบอากาศร้อนและไม่ถูกกับฝน เลยคิดว่าเอาไว้ในโรงเรือนจะดีกว่า
ซึ่งเขาก็โตได้ดี ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร นอกจากหนอนชอนใบกับมีเพลี้ยไฟบ้างนิดหน่อย
ดูแลเหมือนกุหลาบที่บ้านเลยครับ ถือว่าเป็นพืชที่กินปุ๋ยเก่งนะ แต่โตช้า เพราะผมให้ปุ๋ยในอัตราเดียวกับกุหลาบที่บ้านเลย เขางอกยอดใหม่มาช้ากว่ากุหลาบ แต่เขาก็ไม่มีอาการใบไหม้จากช๊อคปุ๋ย แถมยังแตกกิ่งใหม่งอกจากดินมาเพิ่มอีก 3 กิ่งด้วยครับ
ถ้าใครอยากปลูกแนะนำว่าควรทำโครงแล้วคลุมพลาสติกโรงเรือนเอาไว้ เพื่อกันฝนและปรับแสงแดดให้ฟุ้ง ไม่แรงเกินไปครับ
ส่วนดินให้เลือกดินที่ระบายน้ำดี คือพอเรารดน้ำแล้ว นับไม่เกิน 5 วินาที น้ำจะต้องซึมและระบายออกที่ก้นกระถางทั้งหมด อีกทั้งกระถางต้องมีรูระบายน้ำดี ไม่ต้องใส่จานรองกระถางครับ ผมใช้กระถาง Airpot เพื่อเน้นการระบายน้ำไม่ให้น้ำขังในดินเยอะเกินไป กันรากเน่าด้วย
การให้ปุ๋ย
ช่วงแตกหน่อและแทงยอดใบ ให้ 21-7-14 1 ช้อนชา ร่วมกับปุ๋ยหมัก 1 ช้อนโต๊ะ ทุกสัปดาห์ จนกว่าเขาจะแทงยอดดอกออกมา แล้วสลับไปใช้ 15-5-20 1 ช้อนชา ร่วมกับปุ๋ยมูลไก่หรือปุ๋ยมูลค้างคาว 1 ช้อนโต๊ะ แทนครับ
การให้ปุ๋ยทางใบ จะพ่นสัปดาห์ละครั้ง ให้เป็น จุลธาตุ แคลเซียมโบรอน สาหร่ายอะมิโน ปุ๋ยเกล็ด 18-6-19 MgO+4S (อันนี้เป็นปุ๋ยเกล็ดทางใบสำหรับกุหลาบโดยเฉพาะ ก็พ่นรวมๆกันไปเลย ถ้าใครไม่มีก็ใช้ปุ๋ยเกล็ดสูตรเสมอก็ได้ หรือชำนาญแล้ว ก็สลับสูตรเป็นโยกหน้าโยกหลังได้ตามสะดวกครับ)
การกำจัดศัตรูพืชและเชื้อรา
เชื้อราพ่นคุมด้วย คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ (ที่จะมีคราบสีฟ้าเคลือบใบ) คุมเชื้อราช่วงหน้าฝนได้ดีมากๆครับ พ่นสัปดาห์ละครั้ง สลับกับ ไดฟีโนโคนาโซล+อะซอกซิสโตรบิน ซึ่งเป็นยากำจัดเชื้อรากลุ่มดูดซึม พ่นสลับกันไปในแต่ละสัปดาห์ครับ สูตรนี้คุมเชื้อราในช่วงหน้าฝนที่ฝนตกติดกันทุกวัน ได้ดีมากครับ ไม่มีอาการเชื้อราขึ้นใบและลำต้นเลย อย่าลืมพ่นลงดินด้วยครับ
เพลี้ยไฟคุมด้วย สไปนีโทแรม , คลอร์ฟีนาเฟอร์ , ไซแอนทรานิลิโพรล ซึ่งเป็นยากำจัดเพลี้ยไฟที่ผมใช้ในการดูแลกุหลาบที่บ้านอยู่แล้วครับ พ่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง พอครบ 2 สัปดาห์ก็สลับตัวยา กันเพลี้ยไฟดื้อยาครับ
🌺 พาชมลิเซียนทัส (Lisianthus) ที่ปลูกไว้ที่บ้าน 🌺
วันนี้จะขอพาชมดอกลิเซียนทัส ที่ปลูกเอาไว้ที่บ้านที่จังหวัดสมุทรปราการครับ
ไปได้ต้นนี้มาจากงานบ้านและสวนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เห็นทางสวนบอกว่าเลี้ยงในที่ราบภาคกลางได้ เลยเอามาลองดู เลยซื้อมาในราคาต้นละ 350 บาท
ตอนแรกคิดว่าน่าจะออกดอกน้อย เพราะดูเหมือนเขาเป็นพืชที่ต้องปลูกบนดอย อากาศเย็นหน่อย ถึงจะออกดอกเยอะๆให้ชม
แต่กลายเป็นเขาออกดอกให้เห็นหลายดอกมากเลยครับ
ที่บ้านปลูกในโรงเรือน แบบแดดเต็มวัน เพราะดูสภาพแล้วไม่น่าจะปล่อยไว้กลางแดดฝน 100% ได้เลย
เดิมทีเขาเป็นพืชที่อยู่ในอากาศหนาว ชอบแดดแต่ไม่ชอบอากาศร้อนและไม่ถูกกับฝน เลยคิดว่าเอาไว้ในโรงเรือนจะดีกว่า
ซึ่งเขาก็โตได้ดี ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร นอกจากหนอนชอนใบกับมีเพลี้ยไฟบ้างนิดหน่อย
ดูแลเหมือนกุหลาบที่บ้านเลยครับ ถือว่าเป็นพืชที่กินปุ๋ยเก่งนะ แต่โตช้า เพราะผมให้ปุ๋ยในอัตราเดียวกับกุหลาบที่บ้านเลย เขางอกยอดใหม่มาช้ากว่ากุหลาบ แต่เขาก็ไม่มีอาการใบไหม้จากช๊อคปุ๋ย แถมยังแตกกิ่งใหม่งอกจากดินมาเพิ่มอีก 3 กิ่งด้วยครับ
ถ้าใครอยากปลูกแนะนำว่าควรทำโครงแล้วคลุมพลาสติกโรงเรือนเอาไว้ เพื่อกันฝนและปรับแสงแดดให้ฟุ้ง ไม่แรงเกินไปครับ
ส่วนดินให้เลือกดินที่ระบายน้ำดี คือพอเรารดน้ำแล้ว นับไม่เกิน 5 วินาที น้ำจะต้องซึมและระบายออกที่ก้นกระถางทั้งหมด อีกทั้งกระถางต้องมีรูระบายน้ำดี ไม่ต้องใส่จานรองกระถางครับ ผมใช้กระถาง Airpot เพื่อเน้นการระบายน้ำไม่ให้น้ำขังในดินเยอะเกินไป กันรากเน่าด้วย
การให้ปุ๋ย
ช่วงแตกหน่อและแทงยอดใบ ให้ 21-7-14 1 ช้อนชา ร่วมกับปุ๋ยหมัก 1 ช้อนโต๊ะ ทุกสัปดาห์ จนกว่าเขาจะแทงยอดดอกออกมา แล้วสลับไปใช้ 15-5-20 1 ช้อนชา ร่วมกับปุ๋ยมูลไก่หรือปุ๋ยมูลค้างคาว 1 ช้อนโต๊ะ แทนครับ
การให้ปุ๋ยทางใบ จะพ่นสัปดาห์ละครั้ง ให้เป็น จุลธาตุ แคลเซียมโบรอน สาหร่ายอะมิโน ปุ๋ยเกล็ด 18-6-19 MgO+4S (อันนี้เป็นปุ๋ยเกล็ดทางใบสำหรับกุหลาบโดยเฉพาะ ก็พ่นรวมๆกันไปเลย ถ้าใครไม่มีก็ใช้ปุ๋ยเกล็ดสูตรเสมอก็ได้ หรือชำนาญแล้ว ก็สลับสูตรเป็นโยกหน้าโยกหลังได้ตามสะดวกครับ)
การกำจัดศัตรูพืชและเชื้อรา
เชื้อราพ่นคุมด้วย คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ (ที่จะมีคราบสีฟ้าเคลือบใบ) คุมเชื้อราช่วงหน้าฝนได้ดีมากๆครับ พ่นสัปดาห์ละครั้ง สลับกับ ไดฟีโนโคนาโซล+อะซอกซิสโตรบิน ซึ่งเป็นยากำจัดเชื้อรากลุ่มดูดซึม พ่นสลับกันไปในแต่ละสัปดาห์ครับ สูตรนี้คุมเชื้อราในช่วงหน้าฝนที่ฝนตกติดกันทุกวัน ได้ดีมากครับ ไม่มีอาการเชื้อราขึ้นใบและลำต้นเลย อย่าลืมพ่นลงดินด้วยครับ
เพลี้ยไฟคุมด้วย สไปนีโทแรม , คลอร์ฟีนาเฟอร์ , ไซแอนทรานิลิโพรล ซึ่งเป็นยากำจัดเพลี้ยไฟที่ผมใช้ในการดูแลกุหลาบที่บ้านอยู่แล้วครับ พ่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง พอครบ 2 สัปดาห์ก็สลับตัวยา กันเพลี้ยไฟดื้อยาครับ