บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง ซึ่งประกอบธุรกิจลิสซิ่ง และเป็นบริษัทลูกของธนาคารธนชาต ได้ส่งผู้ขอลิสซิ่งเข้าเอาประกันภัยรถจักรยานยนต์ผ่านบุคคลธรรมดา โดยตกลงเรียกผลประโยชน์ค่าส่งลูกค้าให้อัตรา 11.7% จ่ายกันทุกงวดการชำระเบี้ยประกัน เดือนหนึ่งชำระเบี้ย 2 ครั้ง เมื่อถึงงวดการชำระ ทาง บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง จ่ายเบี้ยประกันโดยหักไว้ 11.7%ตามที่ตกลง แต่ทางบมจ.ขอหักค่าภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7%ของผลประโยชน์ที่ส่งลูกค้าให้ แต่ออกใบกำกับภาษีให้เป็นชื่อบริษัทประกันภัยแทน ทำธุรกรรมอยู่แบบนี้ติดต่อกันมาประมาณ 1 ปี
หลังจากนั้นทาง บมจ.เริ่มเรียกเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย เพิ่มขึ้นอีก 3% ของผลตอบแทนที่ส่งลูกค้าให้ เก็บอยู่ประมาณ 1 เดือน ทาง บมจ.ขอเก็บเงินสดเพิ่มอีก 3%ของผลตอบแทนจากการส่งลูกค้า การคิดภาษีหัก ณ ที่จ่ายทั้งส่วนที่นำไปหักกลบกับเบี้ยประกันที่ต้องชำระ และส่วนที่เป็นเงินสด ได้ออกใบเสร็จรับเงินเป็น ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย แต่ออกเป็นชื่อบริษัทประกันภัย เรื่องเกิดตั้งแต่ปี 2555 ต่อเนื่องกันมาตลอด ผมได้มีโอกาสรู้เรื่องนี้จากการที่เพื่อนขอให้เข้าไปตรวจสอบการทำธุรกรรมของเขาถูกต้องหรือไม่ อย่างไร จึงประสบเรื่องดังกล่าว
ได้มีการขอเงินภาษีVAT และภาษีหักณ ที่จ่ายคืน แต่
บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง ไม่สนใจ จึงได้มีการนำเรื่องฟ้องเป็นคดีแพ่งต่อศาลแขวงธนบุรี ขอเรียกเงินภาษีที่หักไว้ไม่ถูกต้องคืน ระหว่างพิพาทคดีทางสรรพากรพื้นที่ (29) ได้มีหนังสือถึงผู้พิพากษาศาลแขวงในการส่งเอกสารตามหมายที่เรียกไป แจ้งในหนังสือว่า ทาง บมจ.ราชธานี ไม่ได้มีการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย และในศาลทางฝ่ายจำเลยได้ยอมรับว่านำภาษีมูลค่าเพิ่มส่งสรรพากร แต่ภาษีหัก ณ ที่จ่ายไม่ได้มีการนำส่ง
จะเห็นว่า บมจ.ได้นำภาษีVat ส่งสรรพากรจริง แต่ก็เป็นการนำภาษีดังกล่าวไปหักกลบกับภาษีขายของบริษัท ภาษีหัก ณ ที่จ่ายหักไว้โดยที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ และไม่นำส่งต่อสรรพากรตามที่แจ้งคู่ค้าไว้
ในงบการเงินที่ปรากฎ ไม่มีการตั้งคู่ค้าเป็นเจ้าหนี้ (ตามจำนวนภาษีที่หักไว้ไม่นำส่ง) ไม่มีการแสดงรายได้ ค่านายหน้า แต่กลับมีใบกำกับภาษีระบุว่าเป็น ค่านายหน้า งบการเงินที่เป็นเท็จ หรือการทำบัญชีมากกว่า 1 เล่ม ทำต่อเนื่องมาจนถึงปีปัจจุบัน
ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าผู้สอบบัญชีเซ็นรับรองงบการเงินได้อย่างไร? บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง เป็นสมาชิกขององค์กรต่อต้านการทุจริต ได้รับคำชมเชยจากเลขาธิการ กลต. ว่าเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาล อยู่ในชั้นลำดับ5 จาก 6
อยากบอกข่าวถึงเพื่อนๆที่ถือหุ้น หรือกำลังจะซื้อหุ้นบริษัทนี้ว่ามีวัตรปฎิบัตอย่างไร
พบข้อมูลบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ โกงภาษีVAT ภาษีหัก ณที่จ่าย และใช้งบการเงินเท็จในการซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ป
หลังจากนั้นทาง บมจ.เริ่มเรียกเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย เพิ่มขึ้นอีก 3% ของผลตอบแทนที่ส่งลูกค้าให้ เก็บอยู่ประมาณ 1 เดือน ทาง บมจ.ขอเก็บเงินสดเพิ่มอีก 3%ของผลตอบแทนจากการส่งลูกค้า การคิดภาษีหัก ณ ที่จ่ายทั้งส่วนที่นำไปหักกลบกับเบี้ยประกันที่ต้องชำระ และส่วนที่เป็นเงินสด ได้ออกใบเสร็จรับเงินเป็น ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย แต่ออกเป็นชื่อบริษัทประกันภัย เรื่องเกิดตั้งแต่ปี 2555 ต่อเนื่องกันมาตลอด ผมได้มีโอกาสรู้เรื่องนี้จากการที่เพื่อนขอให้เข้าไปตรวจสอบการทำธุรกรรมของเขาถูกต้องหรือไม่ อย่างไร จึงประสบเรื่องดังกล่าว
ได้มีการขอเงินภาษีVAT และภาษีหักณ ที่จ่ายคืน แต่
บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง ไม่สนใจ จึงได้มีการนำเรื่องฟ้องเป็นคดีแพ่งต่อศาลแขวงธนบุรี ขอเรียกเงินภาษีที่หักไว้ไม่ถูกต้องคืน ระหว่างพิพาทคดีทางสรรพากรพื้นที่ (29) ได้มีหนังสือถึงผู้พิพากษาศาลแขวงในการส่งเอกสารตามหมายที่เรียกไป แจ้งในหนังสือว่า ทาง บมจ.ราชธานี ไม่ได้มีการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย และในศาลทางฝ่ายจำเลยได้ยอมรับว่านำภาษีมูลค่าเพิ่มส่งสรรพากร แต่ภาษีหัก ณ ที่จ่ายไม่ได้มีการนำส่ง
จะเห็นว่า บมจ.ได้นำภาษีVat ส่งสรรพากรจริง แต่ก็เป็นการนำภาษีดังกล่าวไปหักกลบกับภาษีขายของบริษัท ภาษีหัก ณ ที่จ่ายหักไว้โดยที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ และไม่นำส่งต่อสรรพากรตามที่แจ้งคู่ค้าไว้
ในงบการเงินที่ปรากฎ ไม่มีการตั้งคู่ค้าเป็นเจ้าหนี้ (ตามจำนวนภาษีที่หักไว้ไม่นำส่ง) ไม่มีการแสดงรายได้ ค่านายหน้า แต่กลับมีใบกำกับภาษีระบุว่าเป็น ค่านายหน้า งบการเงินที่เป็นเท็จ หรือการทำบัญชีมากกว่า 1 เล่ม ทำต่อเนื่องมาจนถึงปีปัจจุบัน
ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าผู้สอบบัญชีเซ็นรับรองงบการเงินได้อย่างไร? บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง เป็นสมาชิกขององค์กรต่อต้านการทุจริต ได้รับคำชมเชยจากเลขาธิการ กลต. ว่าเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาล อยู่ในชั้นลำดับ5 จาก 6
อยากบอกข่าวถึงเพื่อนๆที่ถือหุ้น หรือกำลังจะซื้อหุ้นบริษัทนี้ว่ามีวัตรปฎิบัตอย่างไร