ผมได้อ่านบางกระทู้เกี่ยวกับการยืนให้เด็กนั่ง ตัวผมอายุ 30จะ40ละ ถูกสอนเรื่องการเอื้อเฟื้อ แก่เด็ก สตรีและคนชรามา ปัจจุบันผมลุกให้คนแค่ 5 ประเภทคือ เด็ก (ประถม) คนท้อง คนแก่ พระ และคนป่วยพิการ
จากเมื่อก่อนเอื้อเฟื้อ เด็ก สตรี คนชรา ก็เหลือ เด็ก คนชรา
ตอนนี้อ่านบ้างกระทู้ เด็กที่ยืนได้แล้ว ก็ลดลงไปอีก โดยให้เหตุผลประมาณว่า สิทธิมนุษย์เท่ากัน วันนี้เหนื่อยมากลุกไม่ไหว เวลาเท่ากันอยากนั่งไปขึ้นอู่ ฝึกความอดทนเด็ก (อันนี้ยกจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผมมองว่ารถเมล์ญี่ปุ่นปลอดภัยกับรถเมล์ไทยเยอะ ไม่น่าเอามาใช้อยากฝึกเด็กอดทนฝึกวิธีอื่นเถอะ) ด้วยเหตุผลที่ว่ามาทำให้ การเอื้อเฟื้อก็ลดลงไปอีก
สำหรับคนอายุที่ทันรถเมล์ได้ขึ้นรถเมล์สมัยก่อน คิดยังไง ยังคิดว่าวัฒนธรรมการเอื้อเฟื้อแก่ เด็ก สตรี คนชรา ควรมีอยู่ระดับไหนดีตามความเห็นส่วนตัว
สำหรับผม ไม่ว่าสิทธิมนุษย์ ความเหนื่อย เวลา สมัยก่อนมียังไง สมัยนี้ก็มีเท่ากัน ใช่ว่าคนสมัยก่อนคนทำงานมาไม่เหนื่อย สิทธิมนุษย์ไม่เท่ากัน เวลามีมากกว่าสมัยนี้ ทำไมสมัยก่อนดูสังคมเอื้อน้ำใจกันดีกว่านี้
ปล. ไม่รู้แท็กว์ถูกห้องป่าวนะครับ
อยากทราบความเห็นเรื่องการลุกให้เด็กนั่งบนรถเมล์ของคนสมัย 10 20 ปีก่อนว่าเหมือนสมัยนี้ไหม
จากเมื่อก่อนเอื้อเฟื้อ เด็ก สตรี คนชรา ก็เหลือ เด็ก คนชรา
ตอนนี้อ่านบ้างกระทู้ เด็กที่ยืนได้แล้ว ก็ลดลงไปอีก โดยให้เหตุผลประมาณว่า สิทธิมนุษย์เท่ากัน วันนี้เหนื่อยมากลุกไม่ไหว เวลาเท่ากันอยากนั่งไปขึ้นอู่ ฝึกความอดทนเด็ก (อันนี้ยกจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผมมองว่ารถเมล์ญี่ปุ่นปลอดภัยกับรถเมล์ไทยเยอะ ไม่น่าเอามาใช้อยากฝึกเด็กอดทนฝึกวิธีอื่นเถอะ) ด้วยเหตุผลที่ว่ามาทำให้ การเอื้อเฟื้อก็ลดลงไปอีก
สำหรับคนอายุที่ทันรถเมล์ได้ขึ้นรถเมล์สมัยก่อน คิดยังไง ยังคิดว่าวัฒนธรรมการเอื้อเฟื้อแก่ เด็ก สตรี คนชรา ควรมีอยู่ระดับไหนดีตามความเห็นส่วนตัว
สำหรับผม ไม่ว่าสิทธิมนุษย์ ความเหนื่อย เวลา สมัยก่อนมียังไง สมัยนี้ก็มีเท่ากัน ใช่ว่าคนสมัยก่อนคนทำงานมาไม่เหนื่อย สิทธิมนุษย์ไม่เท่ากัน เวลามีมากกว่าสมัยนี้ ทำไมสมัยก่อนดูสังคมเอื้อน้ำใจกันดีกว่านี้
ปล. ไม่รู้แท็กว์ถูกห้องป่าวนะครับ