มันถึงเวลาที่ควรปฏิวัติการ์ตูนและแอนิเมชั่นไทยแล้วหรือยัง

บังเอิญวันนี้ผมไปอ่านเจอกระทู้นี้ครับ

http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/A3071846/A3071846.html

สำหรับท่านที่ไม่ได้อ่านนะครับ ก็สรุปเนื้อหาของกระทู้นั้นคร่าว ๆ ว่าเจ้าของกระทู้เขารู้สึกอัดอั้นตันใจกับแอนิเมชั่นไทยมากในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งในเรื่องที่ว่าเมืองไทยเรายังทำแอนิเมชั่น 2 มิติได้ไม่ดี แล้วก็ข้ามขั้นจะไปทำ 3 มิติ หลังจากนั้นเขาก็แบ่งเป็นหัวข้อต่าง ๆ

1.เพลง เขาจะพูดประมาณว่าเพลงการ์ตูนไทยกากนั่นแหละ มีเนื้อหาเป็นเพลงเด็ก ๆ บ้าง เป็นดนตรีไทย ๆ ลิเก ๆ บ้าง ในขณะที่ของญี่ปุ่นทำดีกว่านั้น เพราะกว่า อะไรทำนองนั้น
2.ตัวละคร ก็ประมาณว่าการ์ตูนไทยออกแบบตัวละครไม่ค่อยดี ไม่ค่อยสวยนั่นแหละ แล้วชื่อตัวละคร (เขายกตัวอย่างเรื่องภูผากับหน้าไม้) ว่าชื่อพระเอกนางเอกเห่ยมาก ใครจะไปชอบลง พร้อมยกตัวอย่างของญี่ปุ่นที่ตัวละครทุกตัวมีที่มาที่ไป มีปม มีนั่นมีนี่เยอะแยะ แถมบางครั้งการที่สร้างแอนิเมชั่นขึ้นมาก็เพื่อขายตัวละครเลยด้วยซ้ำ คือเหมือนตัวการ์ตูนตัวนี้ดังอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีเรื่องของตัวเอง ก็สร้างเรื่องขึ้นมาให้
3.ภาพ ก็แน่นอนแหละ ใคร ๆ ก็รู้ว่าภาพของการ์ตูนไทยบางครั้งยังไม่สวยพอ
4.เนื้อเรื่อง เขาจะกล่าวประมาณว่า เนื้อเรื่องการ์ตูนไทยยังหนีไม่พ้นแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ ปราบปรามยาเสพติด วรรณคดี อะไรทำนองนั้น

กระทู้นี้เก่าแล้วแหละครับ ตั้งแต่ปี 47 โน่น แต่ผมเพิ่งมาเห็นวันนี้ พอเห็นแล้วก็มีบางข้อที่ผมรู้สึกเห็นด้วยกับเขา แต่บางข้อก็รู้สึกเห็นต่าง โดยเฉพาะข้อที่มันมีการดูถูกของไทยนิดหน่อย

จุดที่เขาวิจารณ์เกี่ยวกับว่าไทยทำการ์ตูนสองมิติยังไม่ได้ดี แล้วข้ามขั้นไปทำสามมิติ อันนั้นผมไม่ขอแสดงความเห็น เพราะผมไม่ได้มีความรู้เรื่องของการทำแอนิเมชั่น

1.เกี่ยวกับเพลง อันนี้ผมเห็นด้วยตรงที่ว่ามันเป็นเพลงเด็ก ๆ เพลงน่ารัก ๆ มันเป็นเพราะว่าคนไทยเรายังมีทัศนคติว่าการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็ก ดังนั้น เนื้อเรื่องก็เลยทำออกมาแบบเข้าใจง่าย โลกสวย ไร้พิษภัยเพื่อให้เด็กดู เพลงก็เด็ก ๆ ตามไปด้วย ขอยกตัวอย่างเรื่อง สตาร์ด็อก ที่เป็นการ์ตูนของค่ายบรอดคาซท์ (แนวเรื่องออกแนวโดราเดมอนคือการที่มีตัวประหลาดที่มีพลังพิเศษมาอยู่ที่บ้าน) เพลงเด็กจริง ๆ แต่การ์ตูนวรรณคดีไทยของค่ายบรอดคาซท์บางเรื่องก็ไม่ได้เนื้อหาเด็กมากนัก อย่างเช่นพระรถ-เมรี มีเนื้อหาเป็นผู้ใหญ่จริง แต่ก็สื่อมาจากเนื้อเรื่องนั่นแหละว่าพระรถเมรีต้องพลัดพรากจากกัน ก้านกล้วย ภาค 2 เพลงประกอบก็มีความเป็นผู้ใหญ่ดีเหมือนกัน

แต่ก็นั่นแหละ การ์ตูนไทยหลายเรื่องก็คิดแต่ว่าทำให้เด็กดู เพลงก็เลยเด็กตามไปด้วย ไม่เหมือนของญี่ปุ่นที่เพลงเขาเนื้อหาผู้ใหญ่ไปเลย ทำนองผู้ใหญ่ไปเลย แบบตัดเอามาทำเป็นซิงเกิลเพราะ ๆ ได้เลย

จุดที่ผมไม่เห็นด้วยกับข้อนี้ก็ตรงที่เขาดูถูกเพลงไทย ๆ ตรงที่เขาบอกว่าพวกเพลงลิเกอะไรนั่นแหละ

2.ตัวละคร เห็นด้วยเรื่องการออกแบบว่ามันยังไม่ดี แต่ไม่เห็นด้วยตรงที่เขาวิจารณ์ชื่อ ก็ทำไม มันคือการ์ตูนไทย เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นในไทย แล้วจะให้ชื่อเป็นฝรั่งเหรอ ทุกวันนี้คนทั่วไปที่ไม่ใช่ตัวการ์ตูนก็มีชื่อเล่นเป็นภาษาอื่น ๆ กันมากพอแล้ว ในการ์ตูนก็จะให้เป็นแบบนั้นอีกเหรอ อย่างการ์ตูนญี่ปุ่น ชื่อตัวละครเขาก็เป็นญี่ปุ่นทั้งหมด ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองอื่น หรือเมือง หรือดาวที่สมมติขึ้นมาที่มันไม่ใช่ญี่ปุ่น อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง

3.เห็นด้วย แต่ก็อย่าดูถูก คนสร้างก็ต้องพัฒนาต่อไป

4.เนื้อเรื่อง ไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะสมัยนี้ หรือตอนปี 47 ที่เขาตั้งกระทู้นี้ มันก็อาจจะใช่ที่ส่วนใหญ่เนื้อเรื่องมันก็ออกแนวนั้น แต่ผมมองว่าคนสร้างเขาอาจจะอยากปลูกฝังเรื่องการอนุรักษ์ป่าไม้ ปราบปรามยาเสพติด หรือวรรณคดีไทยให้เด็ก ๆ ดู ซึ่งหนทางที่ดีที่สุดที่จะให้เด็กสนใจก็คือ การทำออกมาในรูปแบบการ์ตูน อย่าลืมว่าในไทยไม่ได้มีการ์ตูนเป็นอุตสาหกรรมหลักเหมือนญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ประเทศเขามีการ์ตูนออกมาหลากหลายรูปแบบ การ์ตูนในช่วงนั้นของไทยมันเลยออกมาเป็นแค่แนวนี้ ไม่ได้ทำออกมาเพื่อฉายเหมือนพวกละครหรือซีรีส์ ที่จะทำออกมาในหลากหลายรูปแบบ

ที่สำคัญคือเรื่องวรรณคดีไทย คือมันเป็นสมบัติของชาติไง และสำหรับผมหรือคนที่ชอบก็มองว่ามันเป็นเรื่องสนุก (ไม่เหมือนเจ้าของกระทู้นั้นที่ดูท่าทางจะไม่ชอบอะไรที่เป็นไทยเลย ไม่รู้ใช่คนที่ผมเคยหลังไมค์ด้วยรึเปล่า) ถ้าไม่ทำให้เด็กดูหรือสนใจ มันก็คงหายไปตามกาลเวลา หรือหากจะทำวรรณคดีไทยออกมาในรูปการ์ตูน อาจจะแทรกความเป็นดราม่า หรือเพิ่มอะไรเข้าไปก็ได้ แต่ต้องไม่ทำให้แก่นเรื่องเสีย อย่างผมเคยออกแบบฮีโร่ขึ้นมาภายใต้เรื่อง หลวิชัย-คาวี คือผมปรับเนื้อหาให้เป็นยุคปัจจุบัน ให้ทั้งหลวิชัยและคาวีสามารถแปลงร่างได้ ออกแนวไรเดอร์นั่นแหละแต่เป็นชุดเสือกับวัว มีพระขรรค์เป็นอาวุธตามในวรรณคดี พระฤๅษีในเรื่องก็เปลี่ยนเป็นนักวิทยาศาสตร์ชื่อ ดร.ดาบส อะไรทำนองนั้น คือจะเอาวรรณคดีมาทำเป็นการ์ตูนทั้งดุ้นเลยก็ได้ หรือจะประยุกต์ ดัดแปลงอะไรก็ได้
แต่ที่สำคัญคือ บางครั้งเราต้องยอมเปิดใจบ้าง เพราะหลายครั้งหากมีการเอาวรรณคดีมาดัดแปลงเนื้อหาบ้าง หรือเอาวัตถุที่คนนับถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงมาเล่นบ้าง หรือการกล่าวถึงพระมหากษัตริย์หรือบุคคลสำคัญบางคน ก็จะมีเสียงคัดค้านออกมาว่าไม่เหมาะสม ผมว่านี่มันก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้การ์ตูนไทยไม่สามารถสร้างออกมาได้หลากหลายแนวนัก อย่างเคยมีคนเคยออกแบบตัวละครในเกมใส่เทริดมโนราห์ ก็มีคนออกมาแย้งว่าไม่เหมาะสม เพราะเทริดเป็นของสูง แต่ผมมองกลับว่าดีซะอีก ได้เป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยออกไป เหมือนที่ญี่ปุ่นเขามักจะเอาวัฒนธรรมเขามาสอดแทรกในการ์ตูนหรือซีรีส์ต่าง ๆ ไม่ต้องมาทำเป็นซีรีส์หรือรายการเผยแพร่วัฒนธรรมแบบโต้ง ๆ

ในส่วนของพระมหากษัตริย์หรือบุคคลสำคัญ ก็อยากให้มีการเอามาทำเป็นการ์ตูนมากกว่านี้ เพราะส่วนใหญ่ก็จะมีแต่พระองค์ดัง ๆ หรือคนดัง ๆ ที่เขานิยมมาทำเป็นหนังหรือการ์ตูน เช่น พระนเรศวร,บางระจัน ทั้งที่บุคคลสำคัญของไทยมีมากกว่านั้น หรือหากเป็นไปได้ ประเทศไทยเราสามารถทำเกมออกมาได้เจ๋ง ๆ อาจมีการเอาบุคคลในประวัติศาสตร์มาสร้างเป็นตัวละครในเกม ดีซะอีก เด็กที่เล่นก็จะได้รู้จักบุคคลสำคัญมากขึ้น หรือหากได้ไปขายเมืองนอก คนต่างชาติก็จะได้รู้จักเช่นกัน ก้านกล้วย 2 ก็ขยับเข้าใกล้ขีดนั้นเหมือนกันนะ คือมีฉากที่พระนเรศวรกับทหารต้องสู้กับกองทัพผีดิบ แล้วมีฉากที่พระนเรศวรไต่หน้าผาหนีช้างผีดิบของพม่า สุดท้ายพระนเรศวรก็ใช้ดาบลงอาคมเล่นงานมันได้ คือมันไม่มีจริงอยู่แล้วแหละการที่พระนเรศวรสู้กับกองทัพผีดิบแบบนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่