ข้อคิดดีๆสำหรับนักปฏิบัติใหม่ เรื่อง การสอบถามธรรมในห้องศาสนา@พันทิพ

นักปฏิบัติใหม่หลายๆคนฝึกปฏิบัติหลายรูปแบบ ทั้งฝึกฝนด้วยตัวเอง ฝึกฝนผ่านสำนักวิปัสสนากรรมฐานมีพระคอยควบคุม บางสำนักฆราวาสกำกับดูแล บางคนฝึกสายแบบท่านโกเอ็นก้า บางท่านฝึกแบบเซน ต่างจริต ต่างแนวทางแต่มีเป้าหมายปลายทางเดียวกัน คือ พระนิพพานหรือการไม่กลับมาเกิดอีก แต่ก็มีนักปฏิบัติหลายคนที่อยากแลกเปลี่ยน เรียนรู้ผลของการปฏิบัติกับนักปฏิบัติอื่นๆ เช่น คุยกับเพื่อนต่างสำนัก คุยกับกัลยาณมิตรธรรมต่างวิธี แลกเปลี่ยน+แชร์ประสบการณ์ผ่านโลกออนไลด์ เวปพันทิพจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการแชร์ข้อมูลแลกเปลี่ยนความรู้ เพราะเป็นสังคมที่อุดมปัญญา มีความหลากหลาย เป็นแหล่งรวมของปัญญาชน

ผมในฐานะที่เคยผ่านการเป็นนักปฏิบัติใหม่มาก่อนเหมือนท่าน จึงขอแลกเปลี่ยนแนวความคิด เพื่อให้นักปฏิบัติใหม่ทราบแต่เนินๆว่าสังคมที่นี่เป็นอย่างไร ควรเลือกฟังกับท่านไหน เพื่อเป็นวิทยาทาน เป็นระโยชน์กับการสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับท่านนักปฏิบัติ

1.)ในพันทิพส่วนใหญ่มีผู้รู้จริงทั้งปริยัติและปฏิบัติ
ต้องยอมรับจริงๆว่าที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมผู้รู้ทั้ง 2 ส่วน ถ้าเราอ่านเนื้อหาที่ผู้รู้เหล่านี้เขียนขึ้น แทบไม่ต้องไปศึกษามหาเปรียญที่ไหน ที่นี่มีทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นส่ยปริยัตินะ ส่วนสายปฏิบัติก็มีแต่ค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งเกิดจากไม่ค่อยอยากมีคนเปิดตัว มีหลายคนเปิดตัวทดลองแลกเปลี่ยนแต่ก็โดนขาประจำสอบอารมณ์ตามตำราพระกรรมฐาน ท้ายสุดนักปฏิบัติก็ไม่ค่อยอยากเข้ามา จึงมีหลายคนพูดเอาไว้ว่า "คนจริงไม่พูด..แต่ที่พูดไม่ใช่ของจริง"

2.)ในพันทิพมีกัลยณมิตรธรรมที่นิสัยดีใช้ได้
อันนี้เรื่องจริง บางคนแนะนำด้วยความเป็นมิตร เป็นเพื่อน เห็นเราเป็นพี่เป็นน้อง อยากให้คบกับคนเหล่านี้ไว้ เพราะท่านได้เจอะเจอกัลยาณมิตรธรรมเข้าให้แล้ว แต่ถ้าเจอแบบลองวิชา กูรูขาใหญ่ ท่านต้องทำใจ อ่านผ่านๆอย่าไปยึด เพราะคนเหล่านี้นั้นมุ่งจับผิดเราอยู่เสมอ เค้าไม่เชื่อเราทุกอย่างอยู่แล้ว

3.)ในพันทิพเองก็มีพระสงฆ์เข้ามาสอนธรรมะ
อันนี้เป็นเรื่องดี เพราะสังคมนี้มีทั้งฆราวาสและพระสงฆ์มาแนะนำสั่งสอน บางเรื่องเป็นเรื่องดีเพราะสั้งสองภาคส่วนช่วยกันหาความรู้มาให้พวกเรานักปฏิบัติ แต่บางครั้งทั้งสองท่านก็ฟัดกันเองแบบเอาเป็นเอาตาย มีการcut&placeพระไตรปิฏกหมวดต่างๆมาถกเถียง บางเนื้อความยาวมาก ยาวจนไม่น่าเชื่อว่าผู้โพสหรือผู้ตอบเองนั้นอ่านเองบ้างรึป่าว แต่พวกเราในฐานะนักปฏิบัติก็ได้มีโอกาสตรงนี้แหล่ะ ได้อ่านธรรมะดีๆที่สองฝ่ายหาข้อมูลมาทัดทาน ประหัดประหารกัน ตอนนี้ฝ่ายสงฆ์อยู่ในช่วงเก็บข้อมูล พักนี้เราอาจได้รับข้อมูลจากผู้รู้ฝ่ายเดียวไปก่อน แต่เราก็ควรเรียนรู้ไว้เสมอ

4.)ควรเลือกอ่านเฉพาะเรื่องที่มีความเป็นเหตุเป็นผล
อันนี้ชัดเจน เพราะสังคมที่นี่ใช้เหตุใช้ผล คนที่นี่คุยด้วยหลักฐานไม่ใช่พูดลอยๆ นักปฏิบัติจะได้ข้อมูลดีๆหลักธรรมจากพระโอษฐ์จากพระพุทธองค์ได้ที่นี่ แต่ก็มีบ่อยครั้งที่พระธรรมจากแหล่งเดียวกันแต่ไม่สอดคล้องกัน มีการประหัดประหารอีกเช่นเคย ระหว่างสำนักพุทธวจน กับกลุ่มผู้รู้ธรรมจากตู้พระไตรปิฏก เราควรเลือกอ่านและพิจารณาด้วยปัญญา

5.)ควรเลือกคุยในห้องปฏิบัติธรรมมากกว่าห้องศาสนา
ข้อนี้ได้รับการยืนยันจากนักปฏิบัติหลายคน ห้องปฏิบัติธรรมจะมีบรรยากาศการพูดคุยsmootกว่าห้องศาสนา อันนี้นานาจิตตัง อาจจะเพราะความเข้มข้นของเนื้อหา ความร้อนแรงของประเด็น ความต้องการชัยชนะของบางคนด้วย นักปฏิบัติจึงควรเข้าให้ถูกห้อง แต่ก็มีหลายกระทู้ในห้องศาสนาที่ดีมาก แต่ผู้เขียนไม่ได้แท็คห้องปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสีดาย

6.)ทำใจให้กว้างเพราะที่นี่ก็มีพวกไม่รู้จริงค่อนข้างเยอะ
เราในฐานะนักปฏิบัติ นอกจากต้องเรียนรู้ฝึกฝนการปฏิบัติแล้ว เรื่องปริยะติก็ยังมีความสำคัญ ท่าต้องหมั่นหาตำรามาพิจารณา อย่าได้เชื่อกับผู้รู้เหล่านี้ บ่อยครั้งที่ผู้รู้ห้องนี้ทะเลาะกันเองในหมวดธรรมเดียวกัน

7.)ทำใจให้เป็นกลางเพราะบ่อยครั้งก็มีผู้ที่ไม่เคยปฏิบัติมาแนะนำผู้ปฏิบัติ
เชื่อว่าทุกคนเคยประสบพบเจอ แต่เชื่อว่าทุกท่านผ่านได้ นักปฏิบัติจะมีสิ่งหนึ่งที่คล้ายๆกัน คือ เราจะทราบทันทีว่า ใครคือของจริง ใครคือของปลอม ไม่เรียกว่าญาณ แต่เรียกว่า"จิตผู้รู้" แต่อย่าได้ใช้มั่วซั่ว จิตนี้มีไว้สำหรับสำรวจความเป็นจริง มีเหตุมีผล

8.)เราควรมีฐานความรู้มาบ้างพอสมควร ไม่ถึงกับว่าไม่รู้อะไรมาเลย
คนที่จะเข้ามาพูดคุยที่นี่ต้องมีปัญหา แยกผิดแยกถูกได้พอสมควร ที่นี่ไม่ควรเอาเรื่องอภิญญาสมาบัติมาพูดคุย เพราะท่านจะเป็าสายตาให้กับมวลชน ทุกคนที่นี่พร้อมที่จะฟาดฟันประหัดประหารผู้ที่ไม่รู้จริงอยู่เสมอ และพร้อมที่จะดูแลคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน

9.)เกรียนเยอะ มีทั้งเกรียนเด็ก เกรียนผู้ใหญ่ เกรียนคนชรา
ไม่ขอยกตัวอย่าง แต่มีเยอะมาก เยอะจริงๆต้องยอมรับ

10.)รับข้อมูลแล้วเอาไปวิเคราะห์ปรับใช้เฉพาะด้านแต่ไม่ใช่ทั้งหมด
นักปฏิบัติที่ดีต้องรู้จักย่อยข้อมูล เข้าใจถึงความเป็นเหตุเป็นผลของเรื่องที่กำลังสื่อสาร ท่านอย่าเชื่อเรื่องทั้งหมดแม้กระทั่งเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนขึ้น ท่านต้องเลือกเสพสิ่งที่เป็นประโยชน์ อย่าได้ถือทั้งหมดเพราะมันหนัก คำสอนของพระพุทธองค์คือให้ปล่อยวาง

ขอให้นักปฏิบัติใหม่ทุกท่านเจริญในธรรมสวัสดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่