ข้อคิดดีๆสำหรับนักปฏิบัติใหม่ เรื่อง กัลยณมิตรทางธรรม

นักปฏิบัติใหม่หลายๆคนเมื่อเริ่มต้นปฏิบัติมักมีข้อสงสัย อย่างนี้ถูกมั๊ย/อย่างนั้นถูกรึป่าว และมีบ่อยครั้งที่เกิดปัญหาจากการปฏิบัติ อาทิเช่น ที่นั่งอยู่นั้นนั่งถูกวิธีรึป่าว/บริกรรมพุท-โธถูกต้องแล้วใช่มั๊ย ทำไมบางคนสัมมา-อะระหัง บางคนนะมะ-พะทะ/ ทำไมเราถึงไม่ก้าวหน้าเสียที นั่งทุกวันแท้ๆ นี่ก็นั่งเป็นชั่วโมงๆแล้ว เหน็บกินปวดจะแย่/ครูบาอาจารย์สอนว่าการฝึกสมาธิ เริ่มต้นจิตต้องรวมให้ได้ อล้วจิตรวมหน้าตาเป็นอย่างไร/อาการปฐมฌานมีลักษณะเป็นแบบไหน/ทำไมปิติแต่ละคนต่างกันจัง/หลายคนอยากเป็นพระอรหันต์ท่าเดียว อยากหลุดพ้นอย่างครูบาอาจารย์ให้ได้อย่างเร็ววันแต่ไม่สนปฏิบัติ พยายามก๊อปปี้คำพูดครูบาอาจารย์มาสอนผู้ปฏิบัติรอบข้าง ซึ่งไม่เป็นผลดีเลย

เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมาแล้วสำหรับนักปฏิบัติใหม่ ตัวกระผมเองสมัยฝึกปฏิบัติใหม่ๆด้วยความเป็นคนชอบคิดชอบตั้งคำถาม ถามใครไม่รู้เรื่อง (อันนี้สมัยนั้นนะไม่ใช่ตอนนี้) ขอเล่าเป็นวิทยาทานสักหน่อย จากปัญหาเรื่องต่างๆเหล่านี้ ผมจึงเรียนสอบถามหลายๆคนรอบข้าง
1.คำตอบส่วนใหญ่ที่ได้ก็ก็งูๆปลาๆ ส่วนใหญ่copy
2.ตอบแบบเก้ๆ กังๆ กั๊กๆ ไม่กล้าตอบว่าตนเองไม่รู้
3.พี่เลี้ยงตอบยิ่งหนักใหญ่เลย เพราะคำตอบว่า คุณก็อย่าไปคิดซิ/ปล่อยวางซะบ้าง/ท่องไว้อนิจจังๆๆๆ แล้วก็ทำหน้าหงุดหงิด แล้วก็เดินจากไป
4.บางท่านนอกจากไม่ตอบแล้วยังพาเดินไปที่ตู้พระไตรปิฏกแล้วก็ให้เราเปิดอ่านทั้ง 48-49เล่ม เพื่ออะไรก็ไม่รู้
5.ครูบาอาจารย์บางคนยิ่งหนัก นอกจากจะตอบไม่ได้แล้วยังเหวียง โยนให้ไปถามครูที่เป็นสามี พอไปถามสามีก็โยนไปถามภรรยา จึงไม่แปลกใจอะไรเพราะสำนักนั้นเจริญรุ่งเรืองมาในสมัยคุณย่าคุณยาย

แต่เมื่อค้นหาตัวเองเจอแล้ว ผนวกกับมาฝึกกับสำนักที่ถูกวิธี มีครูบาอาจารย์คอยกำกับดูแลไม่ให้ผิดเพี้ยน อาการที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร พระครูซึ่งเป็นอาจารย์รู้หมด บางครั้งยังไม่ถาม ท่านเล่นตอบให้ก่อนเลย ได้ครูบาอาจารย์แบบนี้ได้ก็ยิ่งดี
จากปัญหาต่างๆข้างต้น เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักปฏิบัติใหม่ เพราะท่านจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับการปฏิบัติที่ไม่ถูกจริติมีเพื่อนนักปฏิบัติที่ผิดเพี้ยน มีพี่เลี้ยงที่รู้จริง มีครูบาอาจารย์ที่สามารถแก้ไขปัญหาจากสภาวะต่างๆของเราได้ ผมจึงขอสรุปลักษณะของกัลยาณมิตรที่ดีให้ท่านพิจารณาเลือกในขณะปฏิบัตินะครับ

1.ควรเป็นผู้รู้จริง จากการฝึกฝนปฏิบัติ
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะอะไร สาเหตุสำคัญคือชาวพุทธส่วนใหญ่เป็นนักบุญ นักแสวงหาโชคลาภ มางานบุญเป็นคาราวาน ร้องเต้นสนุกสนาน แต่เอาเข้าจริงพอเข้าห้องปฏิบัติแล้วคนเหล่านี้ไม่รู้จักแม้กระทั่งพุท-โธ ดูลมหายใจก็ไม่เป็น พอเดินออกนอกห้องกลับสามารถพูดเป็นตุเป็นตะได้ สมัยนั้นผมเองก็ปฏิบัติมาพอสมควรที่วัดท่าซุง หลวงพ่อจึงบอกว่า"เธออย่าคอยมุ่งจับผิดเขา ให้ดูตัวเราเป็นหลัก บุพกรรมเขาสร้างมาอย่างไร ก็ต้องเป็นแบบนั้น การพูดคุยเรื่องแนวทางการปฏิบัตินั้น เราควรพูดคุยเฉพาะในกลุ่มเป็นพอ บางเรื่องเรายังไม่สามารถคุยกับท่านสุขวิปัสสโกได้เลย เพราะท่านจะไม่เชื่อ ยกเว้นท่านสุขวิปัสสโกที่สำเร็จแล้วจริงๆถึงจะเชื่อ"

2.มีความเป็นมิตรมากกว่ามุ่งจับผิด
จริตตัวนี้นักปฏิบัติใหม่ต้องทำใจ มีคนรักย่อมีคนเกลียด มีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ ท่านจงพิจารณาจิตตานุปัสนาสติปัฏฏาณ พิจารณาสีของจิตท่านว่าเป็นสีอะไร ความโกรธจะสีแดงร้อนรุ่ม ท่านจงนำสีแดงเข้าเจริญในกสิน10ตามที่ได้ร่ำเรียนมา ปรับสภาวะให้เป็นสมาธิ เข้าสภาวะฌาณ4ให้ได้ในขณะที่โกรธ จากนั้นอารมณ์นี้จะหายไป หมั่นทำบ่อยๆเใื่อเกิดความเคยชินท่านจะสามาระละความโกรธได้เลย ส่วนท่านสุขวิปัสสโก เมื่อท่านโกรธท่านต้องรู้ทันจิตของท่าน พิจารณาเหตุการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปของอารมณ์โกรธ เมื่อท่านเข้าใจถึงเหตุ ท่านก็จะวางความโกรธได้

3.เมื่อมีข้อสงสัย มักให้ความช่วยเหลือ
กัลยาณมิตรที่ดีจะไม่พูดจาถากถาง ไม่มุ่งจับผิดกันเอง จะมีแต่ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ตามพรหมวิหาร4 ลักษณะง่ายๆเวลาท่านอยู่ด้วย ท่านจะรู้สึกสบาย บรรยากาศรอบข้างจะเย็น(เหมือนที่ท่านเป็นอยู่ขณะนี้)สภาวะที่เกิดขึ้นตอนนี้เรียกว่าสุข จัดเป็น1ในสภาวะขั่นต้น ท่านเคยเห็นบางคนที่เจอครูบาอาจารย์แล้วน้ำหูน้ำตาไหลมั๊ย นั่นแหล่ะเรียกว่าอารมณ์ปิติสุข พยายามหากัลยาณมิตรทางธรรมแบบนี้ให้ได้

4.ไม่เป็นผู้สร้างภาพดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง
อันนี้ชัดเจน ข้าพเจ้าในสมัยเริ่มต้นปฏิบัติเจอบ่อย กลุ่มนี้มักเข้ามาดี พอสักพักเริ่มมาแล้ว พระเครื่อง มหาทานโน่นนี่นั่น สร้างโน่นสร้างนี่ เป็นเจ้าภาพกฐิณบ้าง วัดโน้นวัดนี้อยากได้โบสถ์บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องทานบารีทั้งนั้น ถ้าหากท่านสบายใจท่านก็ทำไปตามกำลัง ถ้าอยู่นานๆแล้วเกิดความร้อนในจิตให้รีบถอยหนี ใช้กษิณไฟยับยั้งอารมณ์จิต ส่วนท่านสุขวิปัสสโกท่านก็พิจารณาจิตแบบที่แนะนำไปข้างต้น นักปฏิบัติบางคนชอบสรรเสริฐคนที่ทำบุญมากๆอ้างเป็นนางฟ้ามาเกิด ได้รับโบว์สีสรรต่างๆ บางคนได้รับแหวน รับฆ้อน นำมาซึ่งอาการปิติสุข การสรรเสริฐจากยอดบุญจากการถวายทานไม่ใช่เรื้องที่เหมาะสมเลยสำหรับนักปฏิบัติใหม่ ท่านก็จงเลือกกัลยาณมิตรที่ถูกจริตของท่าน กัลยาณมิตรที่ดีย่อมแนะนำเราไปในทางที่ถูก

5.ไม่เป็นสำนักที่มุ่งเน้นสร้างภาพ สร้างอภินิหารย์
บ่อยครั้งที่นักปฏิบัติใหม่ไม่ทราบเรื่อง มุ่งหาครูบาอาจารย์ที่ดังตามชั้นหนังสือ บางสำนักอ้างชาติสุดท้ายของผู้สอน ฝึกที่นี่สามารถติดต่อพระอินทร์ได้ มีงานบุญมากมาย เป็นพระมีชื่อ วิธีการดูง่าย เมื่อเข้าไปฝึกปฏิบัติ คนเหล่านี้จะมีบอดี้การ์ด กันไม่ให้ผู้บฏิบัติเข้าถึง ท้ายสุดกับกลายเป็นของปลอม มีลูกเมียหนีไปต่างประเทศ บางสำนักอ้างตนว่าเป็นฆราวาสบรรลุธรรม ไม่รู้เลยว่าบรรลุแบบไหน อ้างว่าสามารถติดต่อพระเถระเจ้าที่สิ้นแล้ว สามารถใช้ไฟเผาผลาญกิเลสให้มอดไหม้ แถมยังไปช่วยเหลือคนที่ตายในต่างประเทศได้ แต่เวลามีชุมนุมทางการเมืองกลับมาเข้าร่วมซึ่งก็เป็เรื่องแปลกดี

6.ไม่เป็นกัลยาณมิตรที่เห็นแก่เงิน มุ่งเน้นชวนแต่ทำบุญ
กับยาณมิตรแบบนี้ข้าพเจ้ามีเยอะ ทั้งประเภทงานการไม่ทำ มุ่งแต่ทำบุญสุญทาน งานการไม่ทำใช้เงินสามี กรรมฐานไม่จับ วุ่นวายแต่กับซองบุญ อีกกลุ่ม มุ่งเน้นทำยอดบุญให้ทะลุเป้า เพราะหวังในของชำร่วยที่อาจจะได้ บางส่วนอยากได้คำชื่นชมจากเจ้าสำนัก บางคนอ้างว่าเมื่อเช้าใช้มโนจิตขึ้นไปเฝ้าพระพุทธองค์ พอถามถึงสภาวะปฐมฌาณ ฌาณ4ฌาณ8กลับไม่รู้เรื่อง แถมหงุดหงิดใส่แต่ทำไมขึ้นไปหาพระนิพพานได้อันนี้ไม่รู้ ทั้งๆที่คำสอนแหวกแนวขนาดนี้กลับเชื่อถือ นักบุญเหล่านี้ขาดปัญญา แถมยังอธิฐานติดตามไปเกิดในพุทธภูมิที่ครูบาอาจารย์ไปเกิดในอนาคตกาลก็มี กัลยาณมิตรแบบนี้ให้รีบถอยหนี อย่าได้สนทนานาน

7.ให้โอกาสคนอย่างเสมอภาค
ข้อนี้ชัดเจน กัลยาณมิตรที่ดีย่อมไม่เลือกคนให้คำปรึกษา ไปมาหาสู่ ถ้าเลือกคุยเฉพาะคนรวย ไม่คุยกับพวกคนจนอันนี้ไม่ใช่แล้ว การพูดคุยแนะนำต้องไม่เป็นในทางถากถาง อ้างตัวว่าข้าดี ข้าเก่ง ยึดติดในสิ่งๆเก่าๆของฝ่ายตรงข้าม ถ้าท่านเจอคนแบบนี้ให้รีบถอยห่าง

สรุป หลักง่ายๆในการพูดคุยกับกัลยาณมิตร
1.พูดคุยแล้วสบายใจ สามารคุยสภาวะได้ทุกเรื่อง
2.บรรยากาศรอบๆข้างเมื่อพูดคุยจะเย็นสบาย
3.มีปัญหา แนะนำได้แบบรู้จริง ไม่มั่ว สามารถนำไปใช้ได้ บางคนตอบแบบคั่งๆคูๆ อ้างคำสอนครู อ้างพระไตรปิฏกให้ถอยหนี
4.ควรเลือกสำนักกรรมฐานที่มีครูบาอาจารย์ที่เป็นพระเถระมากกว่าฆราว่สสอนกันเอง เพราะโอกาสผิดเพี้ยนสูงดีงที่เล่าสู่
5.ถ้าคุยเรื่องเงินทอง สร้างโน่นสร้างนี้ พระเครื่องรุ่นี้ดัง พระเครื่ององค์นี้ดี ขลัง ให้รีบถอยห่าง

ขอให้นักปฏิบัติใหม่เจริญในธรรมสวัสดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่