วงการเมทัลไทยอาจได้ขุนพลหนุ่มมาเสริมทัพเพิ่มอีกวงแล้วครับ
เมื่อวานนี้มีน้องแชร์เพลงนี้มา บอกว่าเป็นวงของเพื่อน
ลองกดเข้าไปดูโปรไฟล์ พบว่าเป็นห้าหนุ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร
กดเพลงฟังโดยไม่คาดหวังอะไรมาก แต่สิ่งที่กระทบโสตประสาทกลับดีเกินคาด
เปิดหัวมาด้วยริฟฟ์ picking ที่ชวนให้นึกถึง System of a Down
ตามด้วยริฟฟ์หลัก grooveๆ ชวนให้นึกถึง Hatebreed ปนๆกับ Lamb of God
แล้วกระชากอารมณ์ปรับ tempo หน่วงสุดๆแบบ Doom/Sludge
กระชากกลับมาอัด blast beat กันแบบ grindcore
แล้วก็ปิดด้วยริฟฟ์หลัก grooveๆ อีกที
เป็นสองนาทีครึ่งที่เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา
ในเพลงความยาวแค่นี้ พบอิทธิพลจากแนวดนตรีหลากหลายทั้ง Hardcore, Metalcore, Grindcore, Nu-Metal, Doom Metal, Sludge Metal
สิ่งแรกที่เตะหูผมเลยคือซาวด์กีตาร์ หนักหน่วงกำลังดี มีความดิบ ให้ความรู้สึกทั้งวินเทจและโมเดิร์น
production มีความดิบพอดี ไม่ดิบจนฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่สะอาดปราณีตเคลียร์จนเพลงขาดเสน่ห์
ปัญหาของเพลงเมทัลสมัยใหม่หลายวงคือโปรดักชันดีเกินไป สะอาดเกินไป
เสียงกลองชัดแต่ไม่ฟังดูปลอม กระเดื่องไม่ดังเวอร์ เบสไม่บวมไม่เด้งเกินไป เสียงร้องโหดแต่ไม่โดดออกมาเกินมิกซ์
การเรียบเรียงและการบรรเลงยากจะเชื่อว่ามาจากฝีมือคนหนุ่มอายุไม่เกิน 20
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีที่ติเสียทีเดียว ในส่วนของเนื้อ อ่านเนื้อแล้วก็ยังงงๆอยู่บ้าง ภาษาที่ใช้แปลกๆเหมือนไม่ค่อยถูกไวยากรณ์
รวมถึงลายเซ็นของวงที่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน ตามที่เขียนไปว่าสัมผัสได้ถึงอิทธิพลจากแนวดนตรีและวงข้างต้น
การใช้ประโยชน์จากกีตาร์คู่ยังไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
แต่ผมเชื่อว่า ประสบการณ์จะทำให้พวกเขาเติบโตและสร้างอัตลักษณ์ได้ในเร็ววัน
Monstercock คือวงเมทัลรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ฝีมือเกินอายุ และจะเป็นกำลังสำคัญของวงการเมทัลไทยไปอีกหลายปี
Track Review: Monstercock's 'Rape and Smile' เมทัลไทยหน้าใหม่จากรั้วศิลปากร
เมื่อวานนี้มีน้องแชร์เพลงนี้มา บอกว่าเป็นวงของเพื่อน
ลองกดเข้าไปดูโปรไฟล์ พบว่าเป็นห้าหนุ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร
กดเพลงฟังโดยไม่คาดหวังอะไรมาก แต่สิ่งที่กระทบโสตประสาทกลับดีเกินคาด
เปิดหัวมาด้วยริฟฟ์ picking ที่ชวนให้นึกถึง System of a Down
ตามด้วยริฟฟ์หลัก grooveๆ ชวนให้นึกถึง Hatebreed ปนๆกับ Lamb of God
แล้วกระชากอารมณ์ปรับ tempo หน่วงสุดๆแบบ Doom/Sludge
กระชากกลับมาอัด blast beat กันแบบ grindcore
แล้วก็ปิดด้วยริฟฟ์หลัก grooveๆ อีกที
เป็นสองนาทีครึ่งที่เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา
ในเพลงความยาวแค่นี้ พบอิทธิพลจากแนวดนตรีหลากหลายทั้ง Hardcore, Metalcore, Grindcore, Nu-Metal, Doom Metal, Sludge Metal
สิ่งแรกที่เตะหูผมเลยคือซาวด์กีตาร์ หนักหน่วงกำลังดี มีความดิบ ให้ความรู้สึกทั้งวินเทจและโมเดิร์น
production มีความดิบพอดี ไม่ดิบจนฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่สะอาดปราณีตเคลียร์จนเพลงขาดเสน่ห์
ปัญหาของเพลงเมทัลสมัยใหม่หลายวงคือโปรดักชันดีเกินไป สะอาดเกินไป
เสียงกลองชัดแต่ไม่ฟังดูปลอม กระเดื่องไม่ดังเวอร์ เบสไม่บวมไม่เด้งเกินไป เสียงร้องโหดแต่ไม่โดดออกมาเกินมิกซ์
การเรียบเรียงและการบรรเลงยากจะเชื่อว่ามาจากฝีมือคนหนุ่มอายุไม่เกิน 20
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีที่ติเสียทีเดียว ในส่วนของเนื้อ อ่านเนื้อแล้วก็ยังงงๆอยู่บ้าง ภาษาที่ใช้แปลกๆเหมือนไม่ค่อยถูกไวยากรณ์
รวมถึงลายเซ็นของวงที่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน ตามที่เขียนไปว่าสัมผัสได้ถึงอิทธิพลจากแนวดนตรีและวงข้างต้น
การใช้ประโยชน์จากกีตาร์คู่ยังไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
แต่ผมเชื่อว่า ประสบการณ์จะทำให้พวกเขาเติบโตและสร้างอัตลักษณ์ได้ในเร็ววัน
Monstercock คือวงเมทัลรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ฝีมือเกินอายุ และจะเป็นกำลังสำคัญของวงการเมทัลไทยไปอีกหลายปี