Sully : ซัลลี่ ปาฏิหาริย์ที่แม่น้ำฮัดสัน
5 skulls

... นิ่ง อึ้ง น้ำตาไหล และอยากลุกขึ้นยืนปรบมือให้กับหนังเมื่อหนังขึ้น end credit (แต่ยังไม่ได้ทำ) เป็นความรู้สึกเดียวกันกะตอนดู Million Dollar Baby หนังออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเมื่อปี 2014 ของผู้กำกับคนเดียวกัน ปู่คลินต์ อีสต์วูด (ต่างกันนิดนึงตรงที่ Million Dollar Baby เราร้องไห้จนไม่กล้าเดินออกจากโรง)

คือปู่คลินต์เนี่ย ถ้าไปดูเครดิตเก่าๆ จะรู้ว่าแกบ้าพลังมากๆ ทั้งแสดง กำกับ โปรดิวซ์ ถามบางเรื่องยังทำดนตรีเองอีกด้วย แม้เราจะไม่ได้ดูหนังของแกทุกเรื่องหรอก แต่หลายๆ เรื่องในยุคหลังๆ ของแกที่ดูคือแพ้ตลอด ไล่มาตั้งแต่ Mystic River , Million Dollar Baby , Changeling , Gran Torino , Hereafter , American Sniper จะมีที่ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ก็เรื่อง Flag of Our Fathers กะ Letters from Iwo Jima สองเรื่องนี้เข้าไม่ถึง ดูแล้วจะหลับ ส่วนที่ยังไม่ได้ดูก็จะเป็นพวกที่ไม่ได้เข้าฉายโรงฯ ในไทยอย่าง J. Edgar กะ Invictus

ทีนี้มาว่ากันที่ Sully หนังเล่าเรื่องเหตุการณ์จริงที่เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2009 เมื่อกัปตัน เชสลี่ ซัลเลนเบอร์เกอร์ หรือ ซัลลี่ นำเครื่องบินที่ประสบเหตุฉุกเฉินลงจอดบนแม่น้ำฮัดสัน รักษาชีวิตผู้โดยสารบนเครื่องไว้ได้ทั้ง 155 คน ฟังดูเหมือนกัปตันซัลลี่เป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์ แต่พวกบริษัทเจ้าของสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มองเช่นนั้น แต่กลับมองว่าเป็นกระทำที่เสี่ยง และมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าการนำเครื่องลงจอดบนแม่น้ำ

ตัวหนังว่าด้วยการสอบสวนกัปตันซัลลี่และผู้ช่วยนักบินจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เดินเรื่องควบคู่กันไประหว่างการสอบสวนและการเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ที่ทำได้สนุก ลุ้นระทึกและน่าติดตามยิ่งกว่าหนังสืบสวน/สอบสวน หรือหนังแอ็คชั่นไล่ล่าหลายเรื่องซะอีก โอเค ในเมื่อหนังวางให้ ซัลลี่ เป็นพระเอกของเรื่อง (ซึ่งมันก็สมควรจะเป็นเช่นนั้น) และวางให้ ทีมสอบสวน เป็นเหมือนผู้ร้ายของหนัง ที่พยายามยกข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์มาหักล้างสิ่งที่ ซัลลี่ ทำ เราก็เลยจะรู้สึกเกลียดขี้หน้าไอ้พวกทีมสอบสวนนี่ซะเหลือเกิน (ซึ่งจริงๆ เค้าก็คงแค่ต้องการให้มีความถูกต้องมากที่สุดนั่นแหละ) และก็เอาใจช่วยให้ ซัลลี่ ผ่านเรื่องราวร้ายๆ ครั้งนี้ไปให้ได้ ซึ่งก็แน่นอนเมื่อเรื่องราวทั้งหมดคลี่คลาย เราก็รู้สึกโล่งใจและดีใจตาม ซัลลี่ ไปด้วย

ทอม แฮงค์ ในบท ซัลลี่ ให้การแสดงในระดับที่สุดยอดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือนี่แค่เดือนแรกของฤดูกาลล่ารางวัลนะ แต่เราขอฟันธงไว้ก่อนเลยว่า แฮงค์ ต้องมีชื่อเข้าชิงรางวัลนำชายยยอดเยี่ยมในหลายๆ สถาบันแน่ๆ และถ้าเป็นไปได้ เชียร์ให้ได้ออสการ์ไปเลยด้วยซ้ำ (เดี๋ยวๆ นี่แค่เดือนแรก) เอาเป็นว่าชอบมากๆ อ่ะแหละ และน่าดีใจมากที่ได้เห็น ทอม แฮงค์ กลับมาดูเท่ห์ ดูสมาร์ทอีกครั้งหลังจากที่หนังหลายๆ เรื่องในยุดหลังๆ เราได้เห็น ทอม แฮงค์ ในสภาพคนแก่ปล่อยตัว (โดยเฉพาะล่าสุดใน A Hologram for the King) แอรอน เอ็คฮาร์ท ในบทผู้ช่วยนักบิน แม้จะไม่โดดเด่นเท่า (แน่ล่ะ) แต่ก็เข้าขาและดูลื่นไหลดี ทีมสอบสวน 3-5 คน ให้การแสดงที่น่าหมั่นไส้และอยากเดินเข้าไปถีบมากๆ (อันนี้ถือว่าเค้าแสดงได้ดีนะ) นอกนั้นนักแสดงสมทบอื่นๆ ก็ถือว่าช่วยส่งเสริมหนัง จะมีที่ดูเว่อร์ๆ ไปหน่อยไม่กี่คน (ซึ่งก็อาจจะมาจากบทที่ได้รับ) งานกำกับไม่ต้องพูดถึงและ ไม่รู้จะสรรเสริญเยิยยอยังไงแล้ว พอๆ

สรุปและ ไปดูกันเถอะ คุ้มค่าเงิน คุ้มค่าเวลาที่เสียไปแน่ๆ หนังดีดูสนุกระดับนี้ เราว่าไม่ได้มีมาให้ดูกันบ่อยๆ (แบบฉายวงกว้าง หาโรง หารอบดูง่ายน่ะนะ) และยิ่งถ้าเกิดหนังได้รางวัลใหญ่ๆ ปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า (ซึ่งเราเชียร์ให้ได้) จะมาบ่นเสียดายกันทีหลังเปล่าๆ