บางส่วนของข้อความของพุทธอิสระในเฟสของเขาเมื่อสามวันที่ผ่านมา
".....ที่พันธมิตรและกปปส.ออกไปต่อสู้กับพวกทรราชที่โกงกินบ้านเมืองและย่ำยีสถาบัน แล้วชอบอ้างว่าตนมาจากประชาธิปไตย เพราะพวกเราทนรับความชั่วร้ายของพวกรัฐบาลประชาธิปไตยที่ทุจริตไม่ได้ พวกเราไม่ได้มีปัญหากับประชาธิปไตยที่สุจริต พวกเรายอมรับไม่ได้กับพวกคลั่งประชาธิปไตยที่ทุจริต แล้วออกมาบอกว่าโกงได้แต่ต้องแบ่งกันบ้าง........ขอย้ำว่าพันธมิตรและกปปส. ไม่ได้มีปัญหากับประชาธิปไตยที่สุจริต แต่ถ้าทุจริต ย่ำยีสถาบัน แล้วมาอ้างประชาธิปไตย อย่างนั้นต้องตายกันไปข้างหนึ่ง...."
เคไหม?
—————————————————————————————
พุทธอิสระ....พฤติกรรมของเธอที่ผ่านๆ มานั้นมันไม่ได้บ่งชี้สักนิดเลยว่าเธอเป็นสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ดูเอาเถิด... แม้แต่ชื่อของเธอ “พุทธอิสระ” ที่เธอตั้งมันขึ้นมานั้น ดูเหมือนว่าเธอกำลังพยายามจะหนีห่างพระพุทธเจ้าทั้งในนามธรรมและรูปธรรม
พุทธอิสระ.....เธอจงตั้งใจน้อมรับฟังให้ดีนะ..... มรรคอันเป็นหนทางที่พระพุทธเจ้าชี้แนะเอาไว้ อภิสมาจารรวมทั้งพระวินัยที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้เพื่อเป็นกรอบให้ภิกษุ และพุทธจริยาวัตรที่พระองค์ทรงปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่างนั้น เธอไม่เคยเดินตามเลยสักอย่างเลย แล้วอย่างนี้เธอยังไม่มีความละอายที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นพระในบวรพระพุทธศาสนาเลย? หากเธอเป็นพระและเคร่งอย่างที่เธอพร่ำหลอกพุทธศาสนิกชนแล้ว....ในวันนั้นเธอคงจะไม่ห่มผ้าเหลืองออกไปยืนบนเวทีราชดำเนินและประกาศยืนยันการกระทำของกลุ่มคนกปปส. ว่าพวกเขาทำในสิ่งถูกต้องที่สุดในโลกหรอกนะ ซ้ำร้าย เธอยังโพนทะนาด่ากราดกลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามกลุ่มกปปส. ว่าโง่เขลาโดนเขาหลอกอีก
พุทธอิสระ...เธอจงตั้งใจน้อมฟังต่อไปนะ....เผื่อเรื่องที่ฉันจะบอกต่อไปนี้มันจะขัดเกลากิเลสที่พอกตัวเธออยู่ได้ ขึ้นชื่อว่าธุระใดๆ ในทางโลกนั้นไม่ว่าจะเป็นธุระของฝ่ายไหนและสีไหน ธุระเหล่านั้นล้วนมี โลภะ โทสะ และโมหะเป็นตัวขับเคลื่อน เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เธอยังกระโจนเข้าไปเกลือกกลั้วทั้งๆ ที่ยังห่มกาสาวพัตร์อยู่....เธอย่อมไม่ใช่พระที่ควรค่าต่อการอัญชลี เธอย่อมไม่ใช่พระที่ควรค่าต่อทักษิณาทาน เห็นจะมีก็แต่เหล่าพุทธศาสนิกชนที่ยังติดในอวิชชาเท่านั้นที่ยังหลงศรัทธาเธออยู่
พฤติกรรมการเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายหนึ่งแล้วโพนทะนาด่าทอให้ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งนั้น หากเป็นสามัญชนธรรมดาก็พอจะเข้าใจได้ แต่สำหรับเธอผู้ที่พร่ำอ้างว่าเป็นพระผู้ที่ไม่เคยแปดเปื้อนมลทินหรือก้าวล่วงพระธรรมวินัยข้อหนึ่งข้อใดเลยนั้น ถือว่าเธอกำลังกล่าวมุสาซ้ำซ้อน...พระพุทธองค์ทรงตักเตือนสาวกของพระองค์เสมอๆ เรื่องการเร่งความเพียรเพื่อการหลุดพ้นเถิด และการรู้จักสำรวมอินทรีย์ทั้งของตนเอาไว้....เช่นว่าหากใจไม่คิดลามกเสียแล้ว วาจาก็ย่อมไม่กล่าวลามกเช่นกัน แต่คำผรุสวาส คำส่อเสียด ต่างๆ ที่เธอยกอ้างขึ้นมาด่ากราดคนเสื้อแดงบนเวทีราชดำเนินนั้น เธอจะทำให้ฉันเชื่อเธอได้อย่างไรว่าเธอเป็นพระที่เคร่งอย่างที่บอก
พุทธอิสระเอ๋ย....คนใจหยาบเช่นเธอต้องฟังให้กระจ่าง.....ใครจะผิดหรือใครจะถูกนั้น พระพุทธเจ้าไม่เคยเลือกที่จะไปยืนข้างฝ่ายหนึ่งแล้วกราดด่าอีกฝ่ายหนึ่งเลย สำหรับพระพุทธองค์แล้วพระองค์โปรดที่จะเสด็จเข้าไปหาคนชั่วหรือคนที่เห็นผิด อย่างเช่นสามพี่น้องชฏิลอุรุเวลากัสสปะ หรือแม้กระทั่งจอมโจรอย่างองคุลีมาล เพื่อแสดงพระกรุณาธิคุณแสดงธรรมเทศนาให้เขาเห็นจากผิดเป็นชอบ แล้วเธอล่ะพุทธอิสระ??......ในเมื่อเธอเห็นว่าคนเสื้อแดงเห็นผิด คนเสื้อแดงชั่ว เธอควรที่จะไปขึ้นเวทีเสื้อแดงเพื่อเทศน์ให้พวกเขาได้เห็นถูกต้องนะ ไม่ใช่ไปยืนบนเวทีกปปส.แล้วด่าพวกเขาเพื่อเอาเสียงเฮเสียงปรบมือ......เธอว่าเธอเป็นคนกล้าไม่ใช่หรือ? เธอเป็นพญาราชสีห์ไม่ใช่หรือ?...เดินเข้าไปสิ...เดินเข้าไปหาคนกลุ่มคนเสื้อแดงแล้วเทสนาให้พวกเขาบอกพวกเขาว่าเขาเห็นผิดตรงไหน? พุทธอิสระ....สิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้กลับเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับพุทธจริยวัตรโดยสิ้นเชิง เธอยื่นคดีฟ้องร้องคนเสื้อแดง หาว่าเขาดูหมิ่นตัวเธอทำให้เสียชื่อเสียง (คนอย่างเธอมีชื่อเสียงหรือ?)ที่เขากล่าวหาเธอว่าขาดจากความเป็นพระต้องปาราชิก พุทธอิสระเธอรู้ไหม? ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็เคยโดนครหาว่าทำผู้หญิงท้อง พระพุทธองค์ไม่เคยไปยื่นศาลฟ้องร้องคนที่กล่าวหาว่าพระองค์ขาดจากความเป็นพระเลย ไม่รู้ว่าเธอเคยเรียนพุทธประวัติตอนนี้มาบ้างหรือเปล่า?? เชื่อว่าคงไม่เคย....
พุทธอิสระ....ที่เธอบอกว่า
พันธมิตรและกปปส. ออกไปต่อสู้ทรราชที่โกงบ้านเมืองและย่ำยีสถาบัน เพราะพวกเรา(คือตัวเธอกับกลุ่มกปปส.)ทนรับความชั่วร้ายของพวกรัฐบาลประชาธิปไตยที่ทุจริตไม่ได้ นั้น ...พุทธอิสระเอ๋ย....เมื่อได้ยินอย่างนี้แล้วฉันชักเริ่มรู้สึกสงสารเธอขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ นี่ต้องตายไปอีกกี่ชาติๆ กันหนอเธอถึงจะหมดเวรหมดกรรมและเกิดเป็นคนดีกับเขาสักที ชาตินี้เธอสู้อุตส่าห์โกนหัวบวชแล้วแท้ๆ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ยังไม่สามารถขัดเกลาจิตใจอันหยาบกระด้างและดื้อดึงของเธอให้เบาบางลงได้เลย เธอกำลังประเมินตัวเธอเองสูงไปนะ...ถึงขนาดที่จะกู้ชาติ กู้บ้านเมือง ปราบการโกงได้ขนาดนั้นหรือ...เธอคิดผิดแล้วล่ะพุทธอิสระ คือผิดตั้งแต่ต้น....ผิดที่ไม่รู้กิจใดควรทำกิจใดไม่ควร ผิดที่กิจของเธอที่ได้ทำลงไปแล้วทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียทรัพย์สินเงินทองรวมไปถึงการสูญเสียชีวิตด้วย
นี่แน่ะพุทธอิสระ....ฉันอยากจะเล่าให้เธอฟังต่อว่า....ในสมัยพุทธกาลนั้น แว่นแคว้นต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปประทับไม่ว่า มคธ โกศล สาวัตถี พาราณาสี ฯลฯ แว่นแคว้นและบ้านเมืองเหล่านั้นก็มีการโกง ฉ้อราษฏร์บังหลวงมาเหมือนกัน พระพุทธเจ้าและสงฆ์สาวก(ยกเว้นพระเทวทัต)ก็ไม่ได้เอาเหตุการณ์หรือพฤติกรรมเหล่านั้นมาเป็นธุระให้เร่าร้อนเหมือนอย่างเธอ เธอที่ตอนนี้เที่ยวเก็บเอาเรื่องไร้สาระ เรื่องที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เรื่องที่เขาไม่ได้อาราธนานิมนต์ มาเป็นอุปสรรคต่อการหลุดพ้น ส่วนเรื่องย่ำยีสถาบันนั้น.....ในสมัยพุทธกาลอย่าว่าแต่ย่ำยีเลย ทั้งสถาบันและทั้งตระกูลที่เป็นหน่อเนื้อกษัตริย์ของพระพุทธเจ้านั้นถูกฆ่าตายหมดเกลี้ยง จนสูญสิ้นตระกูล “ศายกยะวงศ์” แห่งกรุงกบิลพัตร์ และนั่นเป็นตระกูลและสถาบันที่พระพุทธเจ้าเคยเติบโตและเป็นอุปราชมาแล้วแท้ๆ....พระพุทธองค์ยังปล่อยให้เป็นเรื่องของวิบากรรม แล้วเธอล่ะ?.....แค่มีคนพูดเรื่องโกงให้เธอได้ยิน และเธอยังไม่รู้แน่ชัดว่าโกงจริงหรือโกงปลอม แค่นี้เธอถึงกับน้อมมาใส่ใจว่าเป็นธุระสำคัญกว่าการเร่งความเพียรในทางธรรม ถลกสบงจีวรปลิวออกจากวัดมาขึ้นเวทีราชดำเนินทันที เห็นทีว่าที่เธอปรารถนาว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้านั้น คงต้องเป็นตาลยอดด้วนอยู่อย่างนี้ไปหลายกัปป์หลายกัลป์เสียแล้ว...
....พุทธอิสระ "ตาลยอดด้วน"....
".....ที่พันธมิตรและกปปส.ออกไปต่อสู้กับพวกทรราชที่โกงกินบ้านเมืองและย่ำยีสถาบัน แล้วชอบอ้างว่าตนมาจากประชาธิปไตย เพราะพวกเราทนรับความชั่วร้ายของพวกรัฐบาลประชาธิปไตยที่ทุจริตไม่ได้ พวกเราไม่ได้มีปัญหากับประชาธิปไตยที่สุจริต พวกเรายอมรับไม่ได้กับพวกคลั่งประชาธิปไตยที่ทุจริต แล้วออกมาบอกว่าโกงได้แต่ต้องแบ่งกันบ้าง........ขอย้ำว่าพันธมิตรและกปปส. ไม่ได้มีปัญหากับประชาธิปไตยที่สุจริต แต่ถ้าทุจริต ย่ำยีสถาบัน แล้วมาอ้างประชาธิปไตย อย่างนั้นต้องตายกันไปข้างหนึ่ง...."
เคไหม?
—————————————————————————————
พุทธอิสระ....พฤติกรรมของเธอที่ผ่านๆ มานั้นมันไม่ได้บ่งชี้สักนิดเลยว่าเธอเป็นสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ดูเอาเถิด... แม้แต่ชื่อของเธอ “พุทธอิสระ” ที่เธอตั้งมันขึ้นมานั้น ดูเหมือนว่าเธอกำลังพยายามจะหนีห่างพระพุทธเจ้าทั้งในนามธรรมและรูปธรรม
พุทธอิสระ.....เธอจงตั้งใจน้อมรับฟังให้ดีนะ..... มรรคอันเป็นหนทางที่พระพุทธเจ้าชี้แนะเอาไว้ อภิสมาจารรวมทั้งพระวินัยที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้เพื่อเป็นกรอบให้ภิกษุ และพุทธจริยาวัตรที่พระองค์ทรงปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่างนั้น เธอไม่เคยเดินตามเลยสักอย่างเลย แล้วอย่างนี้เธอยังไม่มีความละอายที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นพระในบวรพระพุทธศาสนาเลย? หากเธอเป็นพระและเคร่งอย่างที่เธอพร่ำหลอกพุทธศาสนิกชนแล้ว....ในวันนั้นเธอคงจะไม่ห่มผ้าเหลืองออกไปยืนบนเวทีราชดำเนินและประกาศยืนยันการกระทำของกลุ่มคนกปปส. ว่าพวกเขาทำในสิ่งถูกต้องที่สุดในโลกหรอกนะ ซ้ำร้าย เธอยังโพนทะนาด่ากราดกลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามกลุ่มกปปส. ว่าโง่เขลาโดนเขาหลอกอีก
พุทธอิสระ...เธอจงตั้งใจน้อมฟังต่อไปนะ....เผื่อเรื่องที่ฉันจะบอกต่อไปนี้มันจะขัดเกลากิเลสที่พอกตัวเธออยู่ได้ ขึ้นชื่อว่าธุระใดๆ ในทางโลกนั้นไม่ว่าจะเป็นธุระของฝ่ายไหนและสีไหน ธุระเหล่านั้นล้วนมี โลภะ โทสะ และโมหะเป็นตัวขับเคลื่อน เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เธอยังกระโจนเข้าไปเกลือกกลั้วทั้งๆ ที่ยังห่มกาสาวพัตร์อยู่....เธอย่อมไม่ใช่พระที่ควรค่าต่อการอัญชลี เธอย่อมไม่ใช่พระที่ควรค่าต่อทักษิณาทาน เห็นจะมีก็แต่เหล่าพุทธศาสนิกชนที่ยังติดในอวิชชาเท่านั้นที่ยังหลงศรัทธาเธออยู่
พฤติกรรมการเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายหนึ่งแล้วโพนทะนาด่าทอให้ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งนั้น หากเป็นสามัญชนธรรมดาก็พอจะเข้าใจได้ แต่สำหรับเธอผู้ที่พร่ำอ้างว่าเป็นพระผู้ที่ไม่เคยแปดเปื้อนมลทินหรือก้าวล่วงพระธรรมวินัยข้อหนึ่งข้อใดเลยนั้น ถือว่าเธอกำลังกล่าวมุสาซ้ำซ้อน...พระพุทธองค์ทรงตักเตือนสาวกของพระองค์เสมอๆ เรื่องการเร่งความเพียรเพื่อการหลุดพ้นเถิด และการรู้จักสำรวมอินทรีย์ทั้งของตนเอาไว้....เช่นว่าหากใจไม่คิดลามกเสียแล้ว วาจาก็ย่อมไม่กล่าวลามกเช่นกัน แต่คำผรุสวาส คำส่อเสียด ต่างๆ ที่เธอยกอ้างขึ้นมาด่ากราดคนเสื้อแดงบนเวทีราชดำเนินนั้น เธอจะทำให้ฉันเชื่อเธอได้อย่างไรว่าเธอเป็นพระที่เคร่งอย่างที่บอก
พุทธอิสระเอ๋ย....คนใจหยาบเช่นเธอต้องฟังให้กระจ่าง.....ใครจะผิดหรือใครจะถูกนั้น พระพุทธเจ้าไม่เคยเลือกที่จะไปยืนข้างฝ่ายหนึ่งแล้วกราดด่าอีกฝ่ายหนึ่งเลย สำหรับพระพุทธองค์แล้วพระองค์โปรดที่จะเสด็จเข้าไปหาคนชั่วหรือคนที่เห็นผิด อย่างเช่นสามพี่น้องชฏิลอุรุเวลากัสสปะ หรือแม้กระทั่งจอมโจรอย่างองคุลีมาล เพื่อแสดงพระกรุณาธิคุณแสดงธรรมเทศนาให้เขาเห็นจากผิดเป็นชอบ แล้วเธอล่ะพุทธอิสระ??......ในเมื่อเธอเห็นว่าคนเสื้อแดงเห็นผิด คนเสื้อแดงชั่ว เธอควรที่จะไปขึ้นเวทีเสื้อแดงเพื่อเทศน์ให้พวกเขาได้เห็นถูกต้องนะ ไม่ใช่ไปยืนบนเวทีกปปส.แล้วด่าพวกเขาเพื่อเอาเสียงเฮเสียงปรบมือ......เธอว่าเธอเป็นคนกล้าไม่ใช่หรือ? เธอเป็นพญาราชสีห์ไม่ใช่หรือ?...เดินเข้าไปสิ...เดินเข้าไปหาคนกลุ่มคนเสื้อแดงแล้วเทสนาให้พวกเขาบอกพวกเขาว่าเขาเห็นผิดตรงไหน? พุทธอิสระ....สิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้กลับเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับพุทธจริยวัตรโดยสิ้นเชิง เธอยื่นคดีฟ้องร้องคนเสื้อแดง หาว่าเขาดูหมิ่นตัวเธอทำให้เสียชื่อเสียง (คนอย่างเธอมีชื่อเสียงหรือ?)ที่เขากล่าวหาเธอว่าขาดจากความเป็นพระต้องปาราชิก พุทธอิสระเธอรู้ไหม? ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็เคยโดนครหาว่าทำผู้หญิงท้อง พระพุทธองค์ไม่เคยไปยื่นศาลฟ้องร้องคนที่กล่าวหาว่าพระองค์ขาดจากความเป็นพระเลย ไม่รู้ว่าเธอเคยเรียนพุทธประวัติตอนนี้มาบ้างหรือเปล่า?? เชื่อว่าคงไม่เคย....
พุทธอิสระ....ที่เธอบอกว่าพันธมิตรและกปปส. ออกไปต่อสู้ทรราชที่โกงบ้านเมืองและย่ำยีสถาบัน เพราะพวกเรา(คือตัวเธอกับกลุ่มกปปส.)ทนรับความชั่วร้ายของพวกรัฐบาลประชาธิปไตยที่ทุจริตไม่ได้ นั้น ...พุทธอิสระเอ๋ย....เมื่อได้ยินอย่างนี้แล้วฉันชักเริ่มรู้สึกสงสารเธอขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ นี่ต้องตายไปอีกกี่ชาติๆ กันหนอเธอถึงจะหมดเวรหมดกรรมและเกิดเป็นคนดีกับเขาสักที ชาตินี้เธอสู้อุตส่าห์โกนหัวบวชแล้วแท้ๆ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ยังไม่สามารถขัดเกลาจิตใจอันหยาบกระด้างและดื้อดึงของเธอให้เบาบางลงได้เลย เธอกำลังประเมินตัวเธอเองสูงไปนะ...ถึงขนาดที่จะกู้ชาติ กู้บ้านเมือง ปราบการโกงได้ขนาดนั้นหรือ...เธอคิดผิดแล้วล่ะพุทธอิสระ คือผิดตั้งแต่ต้น....ผิดที่ไม่รู้กิจใดควรทำกิจใดไม่ควร ผิดที่กิจของเธอที่ได้ทำลงไปแล้วทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียทรัพย์สินเงินทองรวมไปถึงการสูญเสียชีวิตด้วย
นี่แน่ะพุทธอิสระ....ฉันอยากจะเล่าให้เธอฟังต่อว่า....ในสมัยพุทธกาลนั้น แว่นแคว้นต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปประทับไม่ว่า มคธ โกศล สาวัตถี พาราณาสี ฯลฯ แว่นแคว้นและบ้านเมืองเหล่านั้นก็มีการโกง ฉ้อราษฏร์บังหลวงมาเหมือนกัน พระพุทธเจ้าและสงฆ์สาวก(ยกเว้นพระเทวทัต)ก็ไม่ได้เอาเหตุการณ์หรือพฤติกรรมเหล่านั้นมาเป็นธุระให้เร่าร้อนเหมือนอย่างเธอ เธอที่ตอนนี้เที่ยวเก็บเอาเรื่องไร้สาระ เรื่องที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เรื่องที่เขาไม่ได้อาราธนานิมนต์ มาเป็นอุปสรรคต่อการหลุดพ้น ส่วนเรื่องย่ำยีสถาบันนั้น.....ในสมัยพุทธกาลอย่าว่าแต่ย่ำยีเลย ทั้งสถาบันและทั้งตระกูลที่เป็นหน่อเนื้อกษัตริย์ของพระพุทธเจ้านั้นถูกฆ่าตายหมดเกลี้ยง จนสูญสิ้นตระกูล “ศายกยะวงศ์” แห่งกรุงกบิลพัตร์ และนั่นเป็นตระกูลและสถาบันที่พระพุทธเจ้าเคยเติบโตและเป็นอุปราชมาแล้วแท้ๆ....พระพุทธองค์ยังปล่อยให้เป็นเรื่องของวิบากรรม แล้วเธอล่ะ?.....แค่มีคนพูดเรื่องโกงให้เธอได้ยิน และเธอยังไม่รู้แน่ชัดว่าโกงจริงหรือโกงปลอม แค่นี้เธอถึงกับน้อมมาใส่ใจว่าเป็นธุระสำคัญกว่าการเร่งความเพียรในทางธรรม ถลกสบงจีวรปลิวออกจากวัดมาขึ้นเวทีราชดำเนินทันที เห็นทีว่าที่เธอปรารถนาว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้านั้น คงต้องเป็นตาลยอดด้วนอยู่อย่างนี้ไปหลายกัปป์หลายกัลป์เสียแล้ว...