**** หมายเหตุ ก่อนอ่านกระทู้ มีหลายคน Inbox มาถามว่า บ้าหรือเปล่า คุยกับผีญี่ปุ่นรู้เรื่องหรอ
ก่อนนอนไหว้พระแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นไหม ไหว้เจ้าที่ญี่ปุ่น ต้องแปลก่อนไหม ???
ก็เหมือนพวกเธอ ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ต่างประเทศ ไปญี่ปุ่น ไปไหว้ศาลเจ้า เธอต้อง จ้างล่ามมาแปลก่อนไหม
เราว่า ถ้าคนที่เชื่อ ก็คิดว่า เป็นการสื่อสารกันทางจิต อะไรแบบนี้
** ความรัก ไม่เลือกเวลาเกิด ผีหลอก ก็ไม่เลือกภาษาเช่นกันค่ะ !!!!! >"< ปล. ก่อนอ่านโปรด วิจารณญาณ นะคะ
งดดูถูก หรือ ว่าคนที่เคยเก็นผีว่าบ้าบอ ไร้สาระ นะคะ ^^
เริ่มเรื่อง
ต้องบอกก่อนว่า เราไปญี่ปุ่นมาทั้งหมด 17 ครั้งแล้ว ไปมาตั้งแต่ คุมาโมโต้ ไล่ไปยัน ซัปโปโร
เจอเรื่องราวสนุกมากมายและที่สำคัญ เราเดินทางคนเดียวตลอด เนื่องจากเป็นนักล่าตั๋วถูก
ดังนั้น ระหว่างที่เดินทางที่ ญี่ปุ่น ก็มักจะเจออะไรแปลกๆ เช่นไปถ่ายรูปที่ศาลเจ้าเก่าๆ คนเดียว
ตอนเย็นๆ และฝนตกปรอย ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงคนวิ่งตึงๆ บนไม้
เหมือนมาเป็นสิบๆ คนทั้งๆ มีเราอยู่คนเดียว หันไปมองซ้ายขวา หน้าหลัง
ก็ทำไงละคะ ก็วิ่งป่าราบเลยสิคะ
แต่ครั้งที่ชัดที่สุด และคิดว่าน่ากลัวที่สุดของเรา คือตอนไปที่ Otaru เมืองเล็กๆ ที่อยู่ห่างจาก Sapporo ไป ประมาณ 40 - 50 นาที
ที่พักที่เราไปพัก เป็นบ้านไม้เก่าๆที่ เอามาทำเป็น Hostel เราไปพัก Hokkaido ทุกครั้ง
เราต้องมาพักที่นี่ เพราะว่า เราชอบบรรยากาศ ค่อนข้างเงียบสงบ และเดินไปเที่ยวในคลอง Otaru ไม่ไกลเลย
และทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่น เราจะพัก Hostel ตลอด
เนื่องจากเราเป็นคนกล้วผี คิดว่า บางทีได้ยินเสียงคนกรน ก็ยังดีกว่าตื่นมาไม่เจอใคร
หรือ ถ้าเกิดตื่นมาเจอผี อย่างน้อย ก็เรียกให้ เพื่อนร่วมห้อง
ให้มาช่วยได้ 55555 แต่ความจริงแล้ว ไม่เป็นอย่างนั้น !!!!
แม้จะเจอผี เพื่อนร่วมห้องก็ช่วยเธอไม่ได้นะ
ครั้งแรกที่เราไปพัก พอถึงที่พัก Check in เสร็จ เราก็ หลับทันที
เนื่องจาก Flight ที่ Delay มาจาก BKK ไปถึง Otaru ก็เกือบเย็นๆ
ในวันแรก ก็รู้สึกเลย สะดุ้งตื่นมาตอนไหนไม่รู้ ตอนนั้นในห้องปิดไฟ มืดมาก
เฮ้ยยยยยยย !!! ญี่ปุ่นมีผีอำด้วยหรอนี่ รู้สึกเลยว่า ตัวหนักๆ
ขยับไม่ได้ ได้แต่เหลือกตาไปมา พยายามตะโกนให้ เพื่อนร่วมห้องได้ยิน
ได้มีแต่เสียงลมปากแค่นั้นจริงๆ พอนึกได้ว่า นี่โดนอำ
ก็เออ ช่างมัน หลับต่อก็ได้ ไม่แคร์
เช้ามาก็ตื่นมาจึงเห็นว่า ที่ Hostel มี เหมือนคล้ายๆ ศาลเจ้าเล็กๆ เป็นไม้
แขวนอยู่บนกำแพง หน้าห้องนอน ก็เออวะ สงสัยลืมไหว้เจ้าที่
เพราะบ้านที่ไปนอนเก่ามาก มันต้องมีอะไรแน่ๆ และทุกครั้งที่พาเพื่อนจากเมืองไทย
ไปนอนที่นี่ ก็เจอกันบ่อยๆ โดนอำเนี่ย หลายคนก็เจอ
เลยสงสัยว่า Guest จาก ญี่ปุ่น นี่โดนอำกันบ้างป่าว หรือว่าเห็นคนไทยใจดี
เลยมาทักทาย ไม่น๊าาาาาาาา
แล้วมีอยู่ครั้งนึง ไปพักที่นี่ ตอนจะลากลับเมืองไทย ก็เดินไปลาศาล
แล้วดันไปพูดว่า ถ้าได้มาอีกครั้ง จะเอาชาจากเมืองไทยมาไหว้นะจ๊ะ
แล้วทีนี้ ได้กลับไปอีกทีจริงๆ ก็ซื้อชาไทย แบบชงน้ำร้อนและซื้อแก้วใส่ชาเล็กๆ
ไปไหว้ด้วยเลย ซื้อมาเป็น Set ครั้งนั้น เราจำได้
กว่าจะออกจาก Sapporo เดินแรดๆๆ ช็อปปิ้ง เสร็จ ก็ปาไป เกือบ 2ทุ่มแล้ว
กว่าจะไปถึง Otaru ก็สามทุ่มได้มั้ง
พอไปถึงสถานี หิมะก็เริ่มตก กว่าจะเดินไปถึงที่พัก ก็อีก 15 นาที ลากกระเป๋าใบใหญ่โต
ถึงที่พัก ก็แอบเหนือย พอไป Check in เสร็จก็แทนที่จะได้ไหว้เลย ในใจตั้งใจจะไหว้ตอนเช้า
ไปถึงก็ไปนั่งเมาท์มอยกับ ผู้ชายเกาหลีที่ห้องโถง จ้าาาาาา เหนื่อยแต่ยังมีความแรด
พอสักเที่ยงคืนก็เลยเข้านอน
คืนนั้น เรานอนเตียงชั้น 2 คืนนั้นหนาวมาก วันนั้น -6 องศา
ก่อนนอน ก็ไหว้พระสวดมนต์ ไหว้เจ้าที่เป็นปกติ
จำได้ พอหลับไป อยู่ๆก็ตื่นมาตอนแรก ตอนนั้น
รู้สึกได้ว่า ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เฮ้ยยยยย นี่ข้างนอน-6 นะ สักกแป้บ รู้สึกเลยจ้าาา ตัวแข็ง รู้เลยว่า มีอะไรอีกละ
สักพักตาเราเหลือบไปเห็น อะไรเอ่ยๆ เหมือนผ้าขาวๆ
ลอยอยู่กลางห้อง แล้วมันก็ค่อยๆ ลอยขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงฝ้าเพดาน
(ภาพประกองจาก Internet)
สักแป้บ มันก็ค่อยๆ เหมือนเป็นคน แล้วมันก็คลานตามฝ้า มาทางเตียงนอนเราเลยจ้าาาาา โหดไปไหน
เรานอนอยู่เตียงชั้น 2 คิดดูสิ่ว่า มันชัด ขนาดไหน !!!! พอสิ่งที่เราเห็นมันลอยมาใกล้ๆ เรา
มือซ้ายเรา มันก็กระชาก ขึ้นไปบนเพดาน
ลองนึกภาพ นอนๆ อยู่แล้วมีคนมาดึงแขนขึ้นไป จะติดเพดาน
นาทีนั้น เราแทบกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
แต่กรี๊ดดดดด ไม่ออก พอหลุด จากภวังค์นั้นมาได้ เรากระโดดลงมาจากเตียงชั้น 2
ลงมาเปิดไฟเลยจ้าาาาา คนอื่นในห้องหลับกันหมด ไม่มีใครตื่นด้วยสักคน
เราก็ขึ้นมาสวดมนต์อีกครั้ง และก็คิดว่า สิ่งที่เห็นเมื่อกี้คืออะไรวะ ??
ในใจก็อธิษฐานว่า ถ้าเป็นเจ้าที่ ก็ ขอโทษด้วยด้วยค่ะ
ที่หนูมาแล้วยังไม่ได้มาถวายน้ำชา ตั้งใจจะถวายตอนเช้า (มโนไปนั่น)
สักแป้บ ก็หลับต่อ แต่คราวนี้ เปิดไฟนอนยังฃนเช้าเลย
เช้ามาก็วิ่งไปบอกเจ้าของ Hostel ว่า ขอเอาชาจากเมืองไทย
มาถวายให้เจ้าที่ ที่แขวนอยู่ตรงกำแพงนะ ตอนแรกก็กล้วว่า เจ้าของ คนญี่ปุ่น เค้าจะไม่เข้าใจ
หาว่า งมงาย แต่โชคดีที่เค้าเข้าใจแล้วช่วยชงชาแล้วเอาไปถวายให้
แล้วค้าก็บอกว่า นี่เป็นที่ที่อยู่ของบรรพบุรุษเค้า ก็ยังดีที่เค้าเองก็เชื่อเรื่องแบบนี้
ปกติ เราเดินทางในญี่ปุ่นคนเดียวตลอด มีครั้งนี้ที่เจอแบบใกล้ๆ ชัดๆ ต้องเนื้อต้องตัว
มีเพื่อนๆ คนไหน เคยเจอผีญี่ปุ่น Version ไหนบ้าง มาเล่าสู่กันฟังบ้างน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เคยได้ยินมาว่า โรงแรมแถวๆ สนามบินนาริต๊ะ มีหลอนๆ อยู่ที่นึง
แบบว่า ลูกเรือชอบแอบไปเจอ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ยังหลอนอยู่หรือเปล่า
แล้วก็โรงแรมแถวๆ ทะเล คาวากูจิโกะ ที่คนไทยชอบไปเจอกันบ่อย ๆ
แล้วก็อีกที แถวทะเลสาบโทยะ ฮอกไกโด ที่แบบว่าชอบมาตามฝ้าเพดาน
ใครไปเจอที่ไหน มาเล่า กันน๊าาาาา
มาแชร์ประสบการณ์เจอผีหลอกที่ญี่ปุ่นกันค่ะ
ก่อนนอนไหว้พระแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นไหม ไหว้เจ้าที่ญี่ปุ่น ต้องแปลก่อนไหม ???
ก็เหมือนพวกเธอ ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ต่างประเทศ ไปญี่ปุ่น ไปไหว้ศาลเจ้า เธอต้อง จ้างล่ามมาแปลก่อนไหม
เราว่า ถ้าคนที่เชื่อ ก็คิดว่า เป็นการสื่อสารกันทางจิต อะไรแบบนี้
** ความรัก ไม่เลือกเวลาเกิด ผีหลอก ก็ไม่เลือกภาษาเช่นกันค่ะ !!!!! >"< ปล. ก่อนอ่านโปรด วิจารณญาณ นะคะ
งดดูถูก หรือ ว่าคนที่เคยเก็นผีว่าบ้าบอ ไร้สาระ นะคะ ^^
เริ่มเรื่อง
ต้องบอกก่อนว่า เราไปญี่ปุ่นมาทั้งหมด 17 ครั้งแล้ว ไปมาตั้งแต่ คุมาโมโต้ ไล่ไปยัน ซัปโปโร
เจอเรื่องราวสนุกมากมายและที่สำคัญ เราเดินทางคนเดียวตลอด เนื่องจากเป็นนักล่าตั๋วถูก
ดังนั้น ระหว่างที่เดินทางที่ ญี่ปุ่น ก็มักจะเจออะไรแปลกๆ เช่นไปถ่ายรูปที่ศาลเจ้าเก่าๆ คนเดียว
ตอนเย็นๆ และฝนตกปรอย ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงคนวิ่งตึงๆ บนไม้
เหมือนมาเป็นสิบๆ คนทั้งๆ มีเราอยู่คนเดียว หันไปมองซ้ายขวา หน้าหลัง
ก็ทำไงละคะ ก็วิ่งป่าราบเลยสิคะ
แต่ครั้งที่ชัดที่สุด และคิดว่าน่ากลัวที่สุดของเรา คือตอนไปที่ Otaru เมืองเล็กๆ ที่อยู่ห่างจาก Sapporo ไป ประมาณ 40 - 50 นาที
ที่พักที่เราไปพัก เป็นบ้านไม้เก่าๆที่ เอามาทำเป็น Hostel เราไปพัก Hokkaido ทุกครั้ง
เราต้องมาพักที่นี่ เพราะว่า เราชอบบรรยากาศ ค่อนข้างเงียบสงบ และเดินไปเที่ยวในคลอง Otaru ไม่ไกลเลย
และทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่น เราจะพัก Hostel ตลอด
เนื่องจากเราเป็นคนกล้วผี คิดว่า บางทีได้ยินเสียงคนกรน ก็ยังดีกว่าตื่นมาไม่เจอใคร
หรือ ถ้าเกิดตื่นมาเจอผี อย่างน้อย ก็เรียกให้ เพื่อนร่วมห้อง
ให้มาช่วยได้ 55555 แต่ความจริงแล้ว ไม่เป็นอย่างนั้น !!!!
แม้จะเจอผี เพื่อนร่วมห้องก็ช่วยเธอไม่ได้นะ
ครั้งแรกที่เราไปพัก พอถึงที่พัก Check in เสร็จ เราก็ หลับทันที
เนื่องจาก Flight ที่ Delay มาจาก BKK ไปถึง Otaru ก็เกือบเย็นๆ
ในวันแรก ก็รู้สึกเลย สะดุ้งตื่นมาตอนไหนไม่รู้ ตอนนั้นในห้องปิดไฟ มืดมาก
เฮ้ยยยยยยย !!! ญี่ปุ่นมีผีอำด้วยหรอนี่ รู้สึกเลยว่า ตัวหนักๆ
ขยับไม่ได้ ได้แต่เหลือกตาไปมา พยายามตะโกนให้ เพื่อนร่วมห้องได้ยิน
ได้มีแต่เสียงลมปากแค่นั้นจริงๆ พอนึกได้ว่า นี่โดนอำ
ก็เออ ช่างมัน หลับต่อก็ได้ ไม่แคร์
เช้ามาก็ตื่นมาจึงเห็นว่า ที่ Hostel มี เหมือนคล้ายๆ ศาลเจ้าเล็กๆ เป็นไม้
แขวนอยู่บนกำแพง หน้าห้องนอน ก็เออวะ สงสัยลืมไหว้เจ้าที่
เพราะบ้านที่ไปนอนเก่ามาก มันต้องมีอะไรแน่ๆ และทุกครั้งที่พาเพื่อนจากเมืองไทย
ไปนอนที่นี่ ก็เจอกันบ่อยๆ โดนอำเนี่ย หลายคนก็เจอ
เลยสงสัยว่า Guest จาก ญี่ปุ่น นี่โดนอำกันบ้างป่าว หรือว่าเห็นคนไทยใจดี
เลยมาทักทาย ไม่น๊าาาาาาาา
แล้วมีอยู่ครั้งนึง ไปพักที่นี่ ตอนจะลากลับเมืองไทย ก็เดินไปลาศาล
แล้วดันไปพูดว่า ถ้าได้มาอีกครั้ง จะเอาชาจากเมืองไทยมาไหว้นะจ๊ะ
แล้วทีนี้ ได้กลับไปอีกทีจริงๆ ก็ซื้อชาไทย แบบชงน้ำร้อนและซื้อแก้วใส่ชาเล็กๆ
ไปไหว้ด้วยเลย ซื้อมาเป็น Set ครั้งนั้น เราจำได้
กว่าจะออกจาก Sapporo เดินแรดๆๆ ช็อปปิ้ง เสร็จ ก็ปาไป เกือบ 2ทุ่มแล้ว
กว่าจะไปถึง Otaru ก็สามทุ่มได้มั้ง
พอไปถึงสถานี หิมะก็เริ่มตก กว่าจะเดินไปถึงที่พัก ก็อีก 15 นาที ลากกระเป๋าใบใหญ่โต
ถึงที่พัก ก็แอบเหนือย พอไป Check in เสร็จก็แทนที่จะได้ไหว้เลย ในใจตั้งใจจะไหว้ตอนเช้า
ไปถึงก็ไปนั่งเมาท์มอยกับ ผู้ชายเกาหลีที่ห้องโถง จ้าาาาาา เหนื่อยแต่ยังมีความแรด
พอสักเที่ยงคืนก็เลยเข้านอน
คืนนั้น เรานอนเตียงชั้น 2 คืนนั้นหนาวมาก วันนั้น -6 องศา
ก่อนนอน ก็ไหว้พระสวดมนต์ ไหว้เจ้าที่เป็นปกติ
จำได้ พอหลับไป อยู่ๆก็ตื่นมาตอนแรก ตอนนั้น
รู้สึกได้ว่า ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เฮ้ยยยยย นี่ข้างนอน-6 นะ สักกแป้บ รู้สึกเลยจ้าาา ตัวแข็ง รู้เลยว่า มีอะไรอีกละ
สักพักตาเราเหลือบไปเห็น อะไรเอ่ยๆ เหมือนผ้าขาวๆ
ลอยอยู่กลางห้อง แล้วมันก็ค่อยๆ ลอยขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงฝ้าเพดาน
(ภาพประกองจาก Internet)
สักแป้บ มันก็ค่อยๆ เหมือนเป็นคน แล้วมันก็คลานตามฝ้า มาทางเตียงนอนเราเลยจ้าาาาา โหดไปไหน
เรานอนอยู่เตียงชั้น 2 คิดดูสิ่ว่า มันชัด ขนาดไหน !!!! พอสิ่งที่เราเห็นมันลอยมาใกล้ๆ เรา
มือซ้ายเรา มันก็กระชาก ขึ้นไปบนเพดาน
ลองนึกภาพ นอนๆ อยู่แล้วมีคนมาดึงแขนขึ้นไป จะติดเพดาน
นาทีนั้น เราแทบกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
แต่กรี๊ดดดดด ไม่ออก พอหลุด จากภวังค์นั้นมาได้ เรากระโดดลงมาจากเตียงชั้น 2
ลงมาเปิดไฟเลยจ้าาาาา คนอื่นในห้องหลับกันหมด ไม่มีใครตื่นด้วยสักคน
เราก็ขึ้นมาสวดมนต์อีกครั้ง และก็คิดว่า สิ่งที่เห็นเมื่อกี้คืออะไรวะ ??
ในใจก็อธิษฐานว่า ถ้าเป็นเจ้าที่ ก็ ขอโทษด้วยด้วยค่ะ
ที่หนูมาแล้วยังไม่ได้มาถวายน้ำชา ตั้งใจจะถวายตอนเช้า (มโนไปนั่น)
สักแป้บ ก็หลับต่อ แต่คราวนี้ เปิดไฟนอนยังฃนเช้าเลย
เช้ามาก็วิ่งไปบอกเจ้าของ Hostel ว่า ขอเอาชาจากเมืองไทย
มาถวายให้เจ้าที่ ที่แขวนอยู่ตรงกำแพงนะ ตอนแรกก็กล้วว่า เจ้าของ คนญี่ปุ่น เค้าจะไม่เข้าใจ
หาว่า งมงาย แต่โชคดีที่เค้าเข้าใจแล้วช่วยชงชาแล้วเอาไปถวายให้
แล้วค้าก็บอกว่า นี่เป็นที่ที่อยู่ของบรรพบุรุษเค้า ก็ยังดีที่เค้าเองก็เชื่อเรื่องแบบนี้
ปกติ เราเดินทางในญี่ปุ่นคนเดียวตลอด มีครั้งนี้ที่เจอแบบใกล้ๆ ชัดๆ ต้องเนื้อต้องตัว
มีเพื่อนๆ คนไหน เคยเจอผีญี่ปุ่น Version ไหนบ้าง มาเล่าสู่กันฟังบ้างน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เคยได้ยินมาว่า โรงแรมแถวๆ สนามบินนาริต๊ะ มีหลอนๆ อยู่ที่นึง
แบบว่า ลูกเรือชอบแอบไปเจอ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ยังหลอนอยู่หรือเปล่า
แล้วก็โรงแรมแถวๆ ทะเล คาวากูจิโกะ ที่คนไทยชอบไปเจอกันบ่อย ๆ
แล้วก็อีกที แถวทะเลสาบโทยะ ฮอกไกโด ที่แบบว่าชอบมาตามฝ้าเพดาน
ใครไปเจอที่ไหน มาเล่า กันน๊าาาาา