เท่าที่ผมเล่นและติดตามบอลทั่วโลกมาร่วม 20 กว่าปี สิ่งที่ทำให้ไทยไม่ถึงบอลโลกมีหลายอย่าง โดยส่วนตัวผมคิดว่า ณ.เวลานี้ต่อให้เราเอา มูรินโญ่ ท่านเซอร์ หรือเป็บ มามันก็ไม่ทำให้เราไปถึงบอลโลก แต่อย่าเข้าใจว่าผมถอดใจหรือไม่รักชาติ ลึกๆผมอยากให้ผมคิดผิดและมีอะไรบางอย่างทำให้เราทำผลงานได้ดีในนัดที่เหลือจนได้ไปบอลโลก ทีมชาติ ณ ปัจจุบันมีทีมเวิรค์ที่ดี เข้าใจเกม เล่นเร็วขึ้น มีความฟิต ความมุ่งมั่น มีวินัยทัศนคติดี ไม่ค่อยเล่นนอกเกม ซึ่งผิดกับสมัยก่อนเยอะ ก็เป็นผลเนื่องจากลีคเราเริ่มจะเข้าสู่ระบบฟุตบอลอาชีพมากขึ้น และได้โค้ชดีน่าเชื่อถือมาปลูกฝังทัศนคติที่ดีให้กับน้องๆทีมชาติ มันก็เลยทำให้สภาพทีมชาติเราดีขึ้นมากแต่ถ้าจะไปถึงบอลโลกเรายังขาดอีกหลายอย่างและต้องใช้เวลาหลายปีในการสร้าง สิ่งที่ควรสร้างมีดังนี้ครับ
1 สร้างลีคให้เข้าสู่ระบบอาชีพแบบเต็มตัวเหมือนกับทุกชาติที่เขาเคยไปบอลโลก เทียบกันง่ายๆกับมาตรฐานที่ afc เขาวางไว้ให้ทุกชาติในเอเซียประจำปี โดยสรุปมีทีมจากไทยในลีคสูงสุดที่ผ่านมาตรฐานคลับไลเซนส์แค่ 4-5 ทีมเท่านั้นในขณะที่ขาประจำบอลโลกอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อีหร่าน เขาผ่านคลับไลเซนส์กันทุกทีมในลีคสูงสุด แค่ระดับทีมรองๆลงมาที่เคยไปบอลโลกบ้างเช่น ซาอุ uae จีน มาตรฐานทีมในลีคของเขาก็ผ่านคลับไลเซนส์ได้เกือบหมด นักเตะทีมชาติมันมาจากสโมสรเมื่อในระดับสโมสรเราด้อยกว่าเขาชนิดเทียบไม่ติดแล้วนักเตะในทีมชาติจะสู้เขาได้หรือครับ แต่ยังดีที่เราหาทางแก้ไขโดยพยายามบีบบังคับทีมในไทยลีคให้เพิ่มมาตรฐานทีมขึ้นทุกปีเพื่อให้ทันมาตรฐานของ afc แม้จะช้าซักนิดเพราะบ้านเราเป็นสังคมอะลุ้มอะล่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่พยายามยกระดับครับ เชื่อว่าในแต่ละปีบ้านเราจะมีทีมที่ผ่านมาตรฐานเพิ่มขึ้นทุกปี
2 ต้องฝึกฝนบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลให้มากขึ้นกว่านี้ จะเห็นได้ว่าฟุตบอลมันไม่ได้มีแค่สต๊าฟและนักเตะ มันมีอีกหลายส่วน การแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬา นักกายภาพ แมวมอง เอเย็นต์ นักกายภาพ ในชาติที่เจริญด้านฟุตบอลมีบุคลากรเหล่านี้มากมาย และบุคลากรเหล่านี้นั่นแหละที่จะทำให้วงการมีโอกาสพบเพชรเม็ดงามมากขึ้น อายุการใช้งานนักเตะยาวขึ้น อาการบาดเจ็บของนักเตะมีน้อยลงทำให้พัฒนาการนักเตะต่อเนื่องมากขึ้น เท่าที่ดูในทุกวันนี้มีเพียงไม่กี่สโมสรในไทยที่มีบุคลากรเหล่านี้นับว่าเรายังด้อยพัฒนากว่าหลายๆชาติที่เขาเคยไปบอลโลกอยู่มาก เท่าที่สังเกตุก็มีมากขึ้นทุกปีนะครับเพราะถ้าบอลลีคบ้านเรายังคงมีการนิยมติดกระแสไปได้เรื่อยๆแบบนี้อาชีพเหล่านี้ก็จะเยอะขึ้นเองตามกลไกอุปสงค์อุปทานครับ ดังนั้นพวกเราที่เป็นคนไทยควรหาทีมสโมสรเชียร์ได้แล้วครับ อย่าลืมว่าบอลนอกแค่สะใจบอลไทยอยู่ในสายเลือด ถ้าเรารักชาติ รักทีมชาติ เราควรสนับสนุนพวกเรา ไม่เชื่อลองเข้าไปดูในสนามซิครับไม่แน่คุณอาจติดใจกลายเป็นแฟนพันธ์แท้สโมสรบางสโมสรแบบผมก็ได้
3 ผู้ฝึกสอนทุกระดับชั้นตั้งแต่โค้ชชุดใหญ่จนถึงโค้ชระดับฟุตบอลเด็กต้องยกระดับให้มากกว่านี้ ฟุตบอลเป็นศาสตร์ที่มีการพัฒนาต่อเนื่องกันเป็น 100 ปีมีการวางหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างถูกต้องทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และมีโครงการอบรมผู้ฝึกสอนเป็นขั้นๆอยู่ตลอดทั้งปี ตั้งแต่ c ไลเซนส์จนถึงโปรไลเซนส์ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของผู้ฝึกสอน เมื่อย้อนมองมาที่ไทยแม้จะพบว่าระดับผู้ฝึกสอนสูงขึ้นมากเพราะมีโปรไลเซนส์ 1 คน aไลเซนส์ 50กว่าคน b ไลเซนส์หลายร้อย c ไลเซนส์หลัก 1000 คน แต่เมื่อเทียบกับชาติอื่นที่เขาขาประจำบอลโลกก็พบว่าโปรไลเซนส์ในบ้านเขาแทบจะเดินชนกันตาย ระดับรองๆลงมาไม่ต้องพูดถึงมากกว่าเราหลายเท่า ลองคิดเล่นๆแล้วกันนักบอลไทยอายุ 7 จนถึง 17 ถูกฝึกโดยครูพละไร้ไลเซนส์หลังจากอายุ 18 พึ่งได้รับการสอนที่ถูกวิธีตามหลักสูตร กับนักบอลญี่ปุ่นอายุ 7 ถึง 35 อัพ ถูกฝึกโดยโค้ชที่ผ่านการอบรมได้รับการสอนที่ถูกวิธี พอถึงจุดที่รับใช้ทีมชาติชุดใหญ่ใครมันจะเก่งและเข้าใจเกมมากกว่ากัน คิดกันง่ายๆแค่นี้แหละ แต่จุดนี้ไทยเราก็พยายามกันครับที่จะเพิ่มศักยภาพให้บุคลากร ปลายปีนี้จะมีการอบรมโค้ชโปรไลเซนส์ 50 คนในไทยซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีและอยากให้มีการเพิ่มระดับผู้ฝึกสอนแบบนี้ทุกๆปี ซักวันเราจะตามเขาทันเพราะเด็กเราจะได้รับการสอนที่ดีตั้งแต่เด็กๆ
4 วิธีนี้ยากสุดครับแต่ทำได้ก็จะดีมากและคิดว่ากว่าจะทำได้คงต้องพยายามทำ 1-3 ให้ดีมากกว่านี้ซะก่อน นั่นคือพยายามส่งนักเตะไปเล่นในลีคที่ระดับสูงกว่าบ้านเราเพื่อยกระดับนักเตะ ผมคิดว่าไม่ใช่นักเตะบ้านเราจะไม่อยากไปแต่ชาติอื่นเขาไม่เอาเรามากกว่า ในลีคบ้านเราโควต้านักเตะต่างชาติมีจำกัดดังนั้นตัวต่างชาติในบ้านเราถ้าไม่เก่งเหนือนักเตะไทยจริงๆจนติดอันดับต้นๆของสโมสรเขาไม่เอาหรอกครับ เมืองนอกก็เหมือนกันครับถ้านักเตะไทยเราไม่เก่งสุดในทีมเขาแค่ระดับกลางๆหรือแค่ต้นๆในทีมเขา เขาก็ไม่เอาเราให้เสียโควต้าเหมือนกัน ดังนั้นข้อนี้เป็นสิ่งที่ตัวนักเตะต้องพยายามเองครับจะทำยังไงให้ฟอรม์เข้าตาลีคอื่นที่ดีกว่านี้ และเวลาไปทดสอบฝีเท้าหรือไปเล่นต้องโชว์ให้ต่างชาติเขาเห็นว่าเราท็อปของทีมสมโควต้าต่างชาติของทีมเขา ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องทำข้อ 1-3 ให้ดีเท่าหรือเทียบเท่ากับชาติที่เขามีลุ้นไปบอลโลกซะก่อนนะครับ
ในความเป็นจริงอาจมีอีกหลายข้อที่เราต้องปรับปรุงผมอาจมองไม่เห็น แต่ยังไงผมก็คิดว่าถ้าข้อ 1-4 เราทำได้แค่เทียบเท่าทีมใหญ่ในเอเซีย เราก็มีลุ้นพอที่จะไปบอลโลกแล้วครับ ทุกวันนี้เราห่างเขามากเกินไปตามที่ผมวิเคราะห์ ต้องใช้เวลาอย่าใจร้อน กรุงโรมไม่เสร็จภายในวันเดียว ทุกวันนี้เรามาถูกทางแล้วครับ เหลือแค่ว่าเราต้องช่วยกันสนับสนุนประคับประคองบอลไทยในหลายๆทางให้ฟุตบอลลีคบ้านเรามันเจริญมากกว่านี้แล้วในอีกหลายปีให้หลังบอลโลกมันไม่ใช่ความฝันอีกแล้วครับ
การวิเคราะห์บอลไทยจากประสบการณ์ของผม
1 สร้างลีคให้เข้าสู่ระบบอาชีพแบบเต็มตัวเหมือนกับทุกชาติที่เขาเคยไปบอลโลก เทียบกันง่ายๆกับมาตรฐานที่ afc เขาวางไว้ให้ทุกชาติในเอเซียประจำปี โดยสรุปมีทีมจากไทยในลีคสูงสุดที่ผ่านมาตรฐานคลับไลเซนส์แค่ 4-5 ทีมเท่านั้นในขณะที่ขาประจำบอลโลกอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อีหร่าน เขาผ่านคลับไลเซนส์กันทุกทีมในลีคสูงสุด แค่ระดับทีมรองๆลงมาที่เคยไปบอลโลกบ้างเช่น ซาอุ uae จีน มาตรฐานทีมในลีคของเขาก็ผ่านคลับไลเซนส์ได้เกือบหมด นักเตะทีมชาติมันมาจากสโมสรเมื่อในระดับสโมสรเราด้อยกว่าเขาชนิดเทียบไม่ติดแล้วนักเตะในทีมชาติจะสู้เขาได้หรือครับ แต่ยังดีที่เราหาทางแก้ไขโดยพยายามบีบบังคับทีมในไทยลีคให้เพิ่มมาตรฐานทีมขึ้นทุกปีเพื่อให้ทันมาตรฐานของ afc แม้จะช้าซักนิดเพราะบ้านเราเป็นสังคมอะลุ้มอะล่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่พยายามยกระดับครับ เชื่อว่าในแต่ละปีบ้านเราจะมีทีมที่ผ่านมาตรฐานเพิ่มขึ้นทุกปี
2 ต้องฝึกฝนบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลให้มากขึ้นกว่านี้ จะเห็นได้ว่าฟุตบอลมันไม่ได้มีแค่สต๊าฟและนักเตะ มันมีอีกหลายส่วน การแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬา นักกายภาพ แมวมอง เอเย็นต์ นักกายภาพ ในชาติที่เจริญด้านฟุตบอลมีบุคลากรเหล่านี้มากมาย และบุคลากรเหล่านี้นั่นแหละที่จะทำให้วงการมีโอกาสพบเพชรเม็ดงามมากขึ้น อายุการใช้งานนักเตะยาวขึ้น อาการบาดเจ็บของนักเตะมีน้อยลงทำให้พัฒนาการนักเตะต่อเนื่องมากขึ้น เท่าที่ดูในทุกวันนี้มีเพียงไม่กี่สโมสรในไทยที่มีบุคลากรเหล่านี้นับว่าเรายังด้อยพัฒนากว่าหลายๆชาติที่เขาเคยไปบอลโลกอยู่มาก เท่าที่สังเกตุก็มีมากขึ้นทุกปีนะครับเพราะถ้าบอลลีคบ้านเรายังคงมีการนิยมติดกระแสไปได้เรื่อยๆแบบนี้อาชีพเหล่านี้ก็จะเยอะขึ้นเองตามกลไกอุปสงค์อุปทานครับ ดังนั้นพวกเราที่เป็นคนไทยควรหาทีมสโมสรเชียร์ได้แล้วครับ อย่าลืมว่าบอลนอกแค่สะใจบอลไทยอยู่ในสายเลือด ถ้าเรารักชาติ รักทีมชาติ เราควรสนับสนุนพวกเรา ไม่เชื่อลองเข้าไปดูในสนามซิครับไม่แน่คุณอาจติดใจกลายเป็นแฟนพันธ์แท้สโมสรบางสโมสรแบบผมก็ได้
3 ผู้ฝึกสอนทุกระดับชั้นตั้งแต่โค้ชชุดใหญ่จนถึงโค้ชระดับฟุตบอลเด็กต้องยกระดับให้มากกว่านี้ ฟุตบอลเป็นศาสตร์ที่มีการพัฒนาต่อเนื่องกันเป็น 100 ปีมีการวางหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างถูกต้องทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และมีโครงการอบรมผู้ฝึกสอนเป็นขั้นๆอยู่ตลอดทั้งปี ตั้งแต่ c ไลเซนส์จนถึงโปรไลเซนส์ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของผู้ฝึกสอน เมื่อย้อนมองมาที่ไทยแม้จะพบว่าระดับผู้ฝึกสอนสูงขึ้นมากเพราะมีโปรไลเซนส์ 1 คน aไลเซนส์ 50กว่าคน b ไลเซนส์หลายร้อย c ไลเซนส์หลัก 1000 คน แต่เมื่อเทียบกับชาติอื่นที่เขาขาประจำบอลโลกก็พบว่าโปรไลเซนส์ในบ้านเขาแทบจะเดินชนกันตาย ระดับรองๆลงมาไม่ต้องพูดถึงมากกว่าเราหลายเท่า ลองคิดเล่นๆแล้วกันนักบอลไทยอายุ 7 จนถึง 17 ถูกฝึกโดยครูพละไร้ไลเซนส์หลังจากอายุ 18 พึ่งได้รับการสอนที่ถูกวิธีตามหลักสูตร กับนักบอลญี่ปุ่นอายุ 7 ถึง 35 อัพ ถูกฝึกโดยโค้ชที่ผ่านการอบรมได้รับการสอนที่ถูกวิธี พอถึงจุดที่รับใช้ทีมชาติชุดใหญ่ใครมันจะเก่งและเข้าใจเกมมากกว่ากัน คิดกันง่ายๆแค่นี้แหละ แต่จุดนี้ไทยเราก็พยายามกันครับที่จะเพิ่มศักยภาพให้บุคลากร ปลายปีนี้จะมีการอบรมโค้ชโปรไลเซนส์ 50 คนในไทยซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีและอยากให้มีการเพิ่มระดับผู้ฝึกสอนแบบนี้ทุกๆปี ซักวันเราจะตามเขาทันเพราะเด็กเราจะได้รับการสอนที่ดีตั้งแต่เด็กๆ
4 วิธีนี้ยากสุดครับแต่ทำได้ก็จะดีมากและคิดว่ากว่าจะทำได้คงต้องพยายามทำ 1-3 ให้ดีมากกว่านี้ซะก่อน นั่นคือพยายามส่งนักเตะไปเล่นในลีคที่ระดับสูงกว่าบ้านเราเพื่อยกระดับนักเตะ ผมคิดว่าไม่ใช่นักเตะบ้านเราจะไม่อยากไปแต่ชาติอื่นเขาไม่เอาเรามากกว่า ในลีคบ้านเราโควต้านักเตะต่างชาติมีจำกัดดังนั้นตัวต่างชาติในบ้านเราถ้าไม่เก่งเหนือนักเตะไทยจริงๆจนติดอันดับต้นๆของสโมสรเขาไม่เอาหรอกครับ เมืองนอกก็เหมือนกันครับถ้านักเตะไทยเราไม่เก่งสุดในทีมเขาแค่ระดับกลางๆหรือแค่ต้นๆในทีมเขา เขาก็ไม่เอาเราให้เสียโควต้าเหมือนกัน ดังนั้นข้อนี้เป็นสิ่งที่ตัวนักเตะต้องพยายามเองครับจะทำยังไงให้ฟอรม์เข้าตาลีคอื่นที่ดีกว่านี้ และเวลาไปทดสอบฝีเท้าหรือไปเล่นต้องโชว์ให้ต่างชาติเขาเห็นว่าเราท็อปของทีมสมโควต้าต่างชาติของทีมเขา ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องทำข้อ 1-3 ให้ดีเท่าหรือเทียบเท่ากับชาติที่เขามีลุ้นไปบอลโลกซะก่อนนะครับ
ในความเป็นจริงอาจมีอีกหลายข้อที่เราต้องปรับปรุงผมอาจมองไม่เห็น แต่ยังไงผมก็คิดว่าถ้าข้อ 1-4 เราทำได้แค่เทียบเท่าทีมใหญ่ในเอเซีย เราก็มีลุ้นพอที่จะไปบอลโลกแล้วครับ ทุกวันนี้เราห่างเขามากเกินไปตามที่ผมวิเคราะห์ ต้องใช้เวลาอย่าใจร้อน กรุงโรมไม่เสร็จภายในวันเดียว ทุกวันนี้เรามาถูกทางแล้วครับ เหลือแค่ว่าเราต้องช่วยกันสนับสนุนประคับประคองบอลไทยในหลายๆทางให้ฟุตบอลลีคบ้านเรามันเจริญมากกว่านี้แล้วในอีกหลายปีให้หลังบอลโลกมันไม่ใช่ความฝันอีกแล้วครับ