วันนี้ดีใจมากลูกโทรมาบอกว่าสอบวิชาสังคมได้คะแนนสูงสุดของห้อง จากเด็กที่ได้คะแนนรองโหล่ คะแนนสอบขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆของห้อง ชื่นใจจริงๆค่ะ ก็เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ ยาวหน่อยนะคะ
เรามีลูก 2 คน คนโตเรียนเก่ง ได้ที่ 1 ของระดับชั้นมาตลอด (ตอนประถมผลการเรียนประมาณ 86-89% ไม่เคยถึง 90% เลยซักครั้ง) โดยที่ไม่ได้ขวนขวายเรียนพิเศษ ได้คุณครูที่รร.ช่วยติวสอบแข่งขั้นต่างๆ แต่ก็ไม่ได้รางวัลอะไร เพราะไม่ได้เรียนพิเศษข้างนอกเลย เริ่มเรียนพิเศษจริงๆจังๆ ประมาณ 3 เดือน ก่อนสอบเข้า Gifted ม.1 รร.ประจำจังหวัด ส่วนใหญ่จะทำแบบฝึกหัดเองที่บ้าน
คนที่ 2 ป.1-ป.4 ผลการเรียนได้ประมาณ 71-72% เค้าจะได้ประมาณที่ 27-28 (ที่ห้องมี 30คน) ซึ่งเราได้ได้ซีเรียสเรื่องลำดับที่ 70% ก็โอเคแล้ว ก็เลยไม่ได้อะไรมากมาย
กอรปกับตอนคนเล็ก ป.2 และคนพี่ ป.4 เคยพาไปพบอาจาร์ยหมอที่ศิริราช แล้วคุณหมอสรุปว่าลูกปกติ แต่แม่นี่แหละที่มีปัญหา555 (รายละเอียดอยู่ในสปอยนะคะ กลัวจะยาวเกิน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนนั้นที่พาไปหาหมอประเด็นหลักเพราะ คนโตมีปัญหา(แม่มารู้ตอนก่อนสอบ) คุณครูวิทยาศาสตร์เรียกเก็บสมุด แต่สมุดคุณเธอว่างเปล่า ไม่มีเขียนอะไรแม้แต่ตัวเดียว และวิชาศิลปะก็ไม่ส่งงานซักชิ้น คิอทำนะแต่ไม่เสร็จ บางอันเสร็จก็ไม่ส่ง ครูฟ้องว่าอยู่ในห้องเธอก็อยู่ไม่สุข เดินไปโน่นมานี่
ส่วนคนเล็ก ครูประจำชั้นบอกว่าชอบเหม่อในห้อง เขียนหนังสือกลับซ้ายขวา ภาษาไทยหัวเข้าหัวออกผิดหมด อ่านข้ามคำ และเรียนอ่อน ซึ่งจริงๆ แม่ไม่ได้กังวลมากแต่ไหนๆ ก็จะเดินทางไปแล้ว ก็เลยแพ็คคู่ไปเลย
ผลก็คือ อาจาร์ยหมอ (ตอนตรวจนศ.แพทย์เต็มห้องเลยค่ะ) บอกว่าลูกไม่เป็นอะไรทั้ง 2 คน พ่อกับแม่นี่แหละที่มีปัญหา เลี้ยงลูกผิดวิธี
หมอถามว่า กางเกงใน ถุงเท้า รองเท้า แม่ทำให้ใช่ไหม๊ ลูกมีหน้าที่เรียน ดูการ์ตูน กินเข้า นอน อาบน้ำแม่ยังต้องเรียกให้อาบน้ำใช่ไหม๊ ฯลฯ
สำหรับคนโตให้กลับมาฝึกความรับผิดชอบ โดยให้มอบหมายงานบ้านให้เค้ารับผิดชอบ
ในห้องเรียนที่เค้าชอบเดินไปโน่นมานี่ เกิดจากเพราะเค้าหัวไว ทำงานเสร็จเร็ว เด็กลักษณะแบบนี้จะไม่ชอบนั่งอยู่เฉย ตอนหลังคุณครูก็เลยให้ไปนั่งกับเด็กที่เรียนอ่อน มีหน้าที่ช่วยสอนเพื่อน
ส่วนคนเล็ก หมอบอกว่าไม่เป็นอะไร ยังไม่ถึงเวลาของเค้า หมอก็ไม่ได้เรียนเก่งตั้งแต่เด็กๆ มาเริ่มเรียนดีตอนที่มีเป้าหมายว่าจะเป็นหมอ แม่ก็เลยชิว และมาวิตกจริตอีกทีตอนป.5 ที่คนเล็กเริ่มจะต้องติวสอบเข้า ม.1
***จุดเริ่มต้อนของการทานพรมมิ***
พอคนเล็กขึ้น ป.5 แม่ก็เริ่มติวเพื่อเตรียมสอบเข้า ม.1 ผลคืออิแม่เครียดมากค่ะ555 ถามอะไรตอบก็ไม่ได้ อ่านภาษาไทยผิดๆถูกๆ อ่านข้ามตัวอักษร สรุปใจความไม่ได้ ภาษาอังกฤษยิ่งไม่ต้องพูดถึง เลขก็ได้หน้าลืมหลัง ยังเขียนหนังสือกลับซ้ายขาวอยู่ เช่นตัว d b ถ ภ เหมือนสมองเธอสับสน
เราเริ่มหาตัวช่วยและสงสัยว่าลูกจะสมาธิสั้น(อีกแล้ว) เราพาไปหาหมออีกครั้ง คราวนี้ไม่ไปไกลค่ะ แค่รพ.ประจำจังหวัด เพราะต้องรู้มาคราวๆ แล้วว่าต้องไปหลายครั้ง (ปิดเทอม ป.5 ขึ้น ป.6 ซึ่งผลสอบได้เธอได้ 72%)
***พบหมอครั้งแรก ต.ค.58***
จากการพูดคุย หมอคิดว่าไม่น่าเป็นสมาธิสั้น และหมอให้กลับมาทำตารางกิจกรรมประจำวัน และเข้มงวดกับตารางเวลา ลดการดูการ์ตูน ทีวี และ Youtube เหลือวันละไม่เกิน 1 ชม. (ปกติดูประมาณ 2-3 ชม./วัน)
***ได้ตัวช่วยแล้ว เริ่มกินพรมมิ 20 ธ.ค.58***
เราสั่งพรมมิขององค์เภสัชกรรมทาง fb ขององค์กรเภสัชกรรม เพราะหาซื้อตามร้านไม่ได้เลย
https://www.facebook.com/gpobrahmi/
ส่วนทำไมถึงทานพรมมิ ก็เพราะเสริชหาข้อมูลทางเน็ตนี้แหละค่ะ ลองดูเว็บนี้ก็ได้
http://wp.me/p74RkJ-1T
ถ้าถามว่ามันใจว่าจะได้ผลไหม๊ ...ไม่มันใจค่ะ แต่เชื่อมั่นใน ดร.กฤษณา (ต้องไปอ่านประวัติท่านค่ะ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงคิดแบบนี้) ท่านบอกว่าไม่มีผลข้างเคียง ถ้าทานผักเก่งให้หาผักมิ(พรมมิ)มาปลูก แล้วทานทุกวันวันละ 3 ขีด
ดังนั้นถ้าจะลองก็ไม่เสียหาย ตอนนั้นทานวันละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
***พบหมอครั้งที่2 29 ธ.ค.58 ทดสอบไอคิว***
สรุปผลการทดสอบ
ลูกไม่เป็นสมาธิสั้น ทดสอบไอคิวได้ 109
อิแม่โล่งใจไปหน่อย แต่ก็ยังกลุ้มเรื่องเตรียมสอบเข้า ม.1 หมอให้ไปปรับพฤติกรรมที่บ้านอีก คราวนี้งด TV การ์ตูน youtube 100% พ.ค.59 หมอนัดอีกครั้ง (รอผลการเรียนออก)
***พบหมอครั้งที่3 ต้นพ.ค.59***
ผลสอบได้ 73% หมอบอกว่าไอคิว 109 ผลการเรียนไม่น่าเป็นแบบนี้ และจากการทดสอบครั้งก่อน ภาษาไทยเค้าได้ระดับ ป.4 เลข ป.5 ตามที่หมอบอกไป (แต่เราจำไม่ได้ว่าหมอบอกนะ) หมอเลยจะนัดทดสอบ LD อีกครั้ง นัด พ.ย.59 นี้
กลุ้มกว่าเดิมอีกค่ะ สมาธิสั้นยังมียาเพิ่มสมาธิ แต่ถ้าเป็น LD นี้ไม่มียารักษา และลักษณะอาการมันเข้าข่ายเหลือเกิน (อันนี้หมอไม่ได้บอกนะ แต่รู้จากที่อ่านในหนังสือ)
***จากนั้นทานพรมมิต่อเนื่อง 30 มี.ค. เปลี่ยนยี่ห้อเป็น Herbal One พรมมิ เพราะหาซื้อง่ายและถูกกว่า
จากที่อ่านผลการวิจัยและทดลอง เราเริ่มเปลี่ยนมาให้ลูกทาน พรมมิเช้า 1 เม็ด ก่อนนอน 1 เม็ดค่ะ
***เปิดเทอมเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง***
ปกติที่โรงเรียนจะให้ท่องศัพท์สัปดาห์ละ 15 คำ เมื่อก่อนกว่าจะท่องได้ 15 คำใช้เวลานานมากๆ เราให้ท่องแค่วันละ 3 คำ ได้หน้าลืมหลัง ได้หลังลืมหน้า ส่วนใหญ่จะได้คะแนน 10-11 คะแนน
แต่ตอนนี้ 15 คำ แค่ 2-3 วันก็ท่องได้หมดแล้ว ไม่ต้องสอนว่าท่องยังไง แยกคำยังไง ตอนนี้ได้คะแนน 14-15 ส่วนใหญ่จะ 14.5 โดนหัก 0.5 คะแนนเพราะสะกดคำแปลภาษาไทยผิด 1 คำ
ทำแบบฝึกหัดท้ายบทดีขึ้น เดิมเต็ม20 จะได้ประมาณ 12-15 คะแนน แต่ตอนนี้ดีขึ้นได้มากกว่า 15 ตลอดแต่ก็ไม่เคยได้เต็ม
*****คะแนนสอบก็ดีขึ้นค่ะ ได้ประมาณ 80% อย่างวันนี้สอบสังคมเต็ม 50 ได้ 41 ได้คะแนนสูงสุดในห้อง ลูกดีใจมากกกกกกกกกก จากเด็กที่มีปมรู้สึกว่าตัวเองเรียนไม่เก่งมาตลอด เค้าภูมิใจมากและมีกำลังใจที่จะติวหนังสือต่อ ****
ต้องเล่าย้อนว่า ที่คะแนนดีขึ้นนี่ก็เพราะเรียนพิเศษเพิ่มด้วย เพราะพื้นฐานไม่ดีเลย เริ่มเรียนพิเศษจริงจัง ตอนปิดเทอม ป.5 ขึ้น ป.6 คะ คุณครูปูพื้นฐานใหม่หมดเลย สอนย้อนไปตั้งแต่เนื้อหา ป.4 เลยค่ะ เรียนทุกวัน ตอนแรกคุณครูบอกว่าครูถึงกับท้อเลย เพราะเธอเหมือนแก้วน้ำที่ก้นรั่ว ได้หน้าลืมหลัง ได้หลังลืมหน้า
ถึงตอนนี้สรุปได้ว่า ผลการเรียนเค้าดีขึ้น เพราะ
1. เปลี่ยนพฤติกรรมตามคุณหมอบอก
2. พรมมิช่วยให้ความจำดีขึ้น
3. อดทน และมีความมานะพยายามค่ะ
ตอนนี้กำลังลังเลว่า พ.ย.59 นี้จะพาลูกไปทดสอบ LD ดีไหม๊ แต่ %ที่จะไม่ไปสูงกว่าเพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ (ครั้งก่อนเธอก็ร้องไห้กลัวตัวเองจะสมาธิสั้น) และผลการเรียนเริ่มดีขึ้นแล้ว
[CR] รีวิว ผลการปรับพฤติกรรมและทานพรมมิ(ที่เค้าว่าช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำ เพิ่มสมาธิ)จากเด็กเรียนไม่เก่งจนผลการเรียนดีขึ้น
เรามีลูก 2 คน คนโตเรียนเก่ง ได้ที่ 1 ของระดับชั้นมาตลอด (ตอนประถมผลการเรียนประมาณ 86-89% ไม่เคยถึง 90% เลยซักครั้ง) โดยที่ไม่ได้ขวนขวายเรียนพิเศษ ได้คุณครูที่รร.ช่วยติวสอบแข่งขั้นต่างๆ แต่ก็ไม่ได้รางวัลอะไร เพราะไม่ได้เรียนพิเศษข้างนอกเลย เริ่มเรียนพิเศษจริงๆจังๆ ประมาณ 3 เดือน ก่อนสอบเข้า Gifted ม.1 รร.ประจำจังหวัด ส่วนใหญ่จะทำแบบฝึกหัดเองที่บ้าน
คนที่ 2 ป.1-ป.4 ผลการเรียนได้ประมาณ 71-72% เค้าจะได้ประมาณที่ 27-28 (ที่ห้องมี 30คน) ซึ่งเราได้ได้ซีเรียสเรื่องลำดับที่ 70% ก็โอเคแล้ว ก็เลยไม่ได้อะไรมากมาย
กอรปกับตอนคนเล็ก ป.2 และคนพี่ ป.4 เคยพาไปพบอาจาร์ยหมอที่ศิริราช แล้วคุณหมอสรุปว่าลูกปกติ แต่แม่นี่แหละที่มีปัญหา555 (รายละเอียดอยู่ในสปอยนะคะ กลัวจะยาวเกิน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอคนเล็กขึ้น ป.5 แม่ก็เริ่มติวเพื่อเตรียมสอบเข้า ม.1 ผลคืออิแม่เครียดมากค่ะ555 ถามอะไรตอบก็ไม่ได้ อ่านภาษาไทยผิดๆถูกๆ อ่านข้ามตัวอักษร สรุปใจความไม่ได้ ภาษาอังกฤษยิ่งไม่ต้องพูดถึง เลขก็ได้หน้าลืมหลัง ยังเขียนหนังสือกลับซ้ายขาวอยู่ เช่นตัว d b ถ ภ เหมือนสมองเธอสับสน
เราเริ่มหาตัวช่วยและสงสัยว่าลูกจะสมาธิสั้น(อีกแล้ว) เราพาไปหาหมออีกครั้ง คราวนี้ไม่ไปไกลค่ะ แค่รพ.ประจำจังหวัด เพราะต้องรู้มาคราวๆ แล้วว่าต้องไปหลายครั้ง (ปิดเทอม ป.5 ขึ้น ป.6 ซึ่งผลสอบได้เธอได้ 72%)
จากการพูดคุย หมอคิดว่าไม่น่าเป็นสมาธิสั้น และหมอให้กลับมาทำตารางกิจกรรมประจำวัน และเข้มงวดกับตารางเวลา ลดการดูการ์ตูน ทีวี และ Youtube เหลือวันละไม่เกิน 1 ชม. (ปกติดูประมาณ 2-3 ชม./วัน)
เราสั่งพรมมิขององค์เภสัชกรรมทาง fb ขององค์กรเภสัชกรรม เพราะหาซื้อตามร้านไม่ได้เลย https://www.facebook.com/gpobrahmi/
ส่วนทำไมถึงทานพรมมิ ก็เพราะเสริชหาข้อมูลทางเน็ตนี้แหละค่ะ ลองดูเว็บนี้ก็ได้ http://wp.me/p74RkJ-1T
ถ้าถามว่ามันใจว่าจะได้ผลไหม๊ ...ไม่มันใจค่ะ แต่เชื่อมั่นใน ดร.กฤษณา (ต้องไปอ่านประวัติท่านค่ะ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงคิดแบบนี้) ท่านบอกว่าไม่มีผลข้างเคียง ถ้าทานผักเก่งให้หาผักมิ(พรมมิ)มาปลูก แล้วทานทุกวันวันละ 3 ขีด
ดังนั้นถ้าจะลองก็ไม่เสียหาย ตอนนั้นทานวันละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
สรุปผลการทดสอบ
ลูกไม่เป็นสมาธิสั้น ทดสอบไอคิวได้ 109
อิแม่โล่งใจไปหน่อย แต่ก็ยังกลุ้มเรื่องเตรียมสอบเข้า ม.1 หมอให้ไปปรับพฤติกรรมที่บ้านอีก คราวนี้งด TV การ์ตูน youtube 100% พ.ค.59 หมอนัดอีกครั้ง (รอผลการเรียนออก)
ผลสอบได้ 73% หมอบอกว่าไอคิว 109 ผลการเรียนไม่น่าเป็นแบบนี้ และจากการทดสอบครั้งก่อน ภาษาไทยเค้าได้ระดับ ป.4 เลข ป.5 ตามที่หมอบอกไป (แต่เราจำไม่ได้ว่าหมอบอกนะ) หมอเลยจะนัดทดสอบ LD อีกครั้ง นัด พ.ย.59 นี้
กลุ้มกว่าเดิมอีกค่ะ สมาธิสั้นยังมียาเพิ่มสมาธิ แต่ถ้าเป็น LD นี้ไม่มียารักษา และลักษณะอาการมันเข้าข่ายเหลือเกิน (อันนี้หมอไม่ได้บอกนะ แต่รู้จากที่อ่านในหนังสือ)
จากที่อ่านผลการวิจัยและทดลอง เราเริ่มเปลี่ยนมาให้ลูกทาน พรมมิเช้า 1 เม็ด ก่อนนอน 1 เม็ดค่ะ
ปกติที่โรงเรียนจะให้ท่องศัพท์สัปดาห์ละ 15 คำ เมื่อก่อนกว่าจะท่องได้ 15 คำใช้เวลานานมากๆ เราให้ท่องแค่วันละ 3 คำ ได้หน้าลืมหลัง ได้หลังลืมหน้า ส่วนใหญ่จะได้คะแนน 10-11 คะแนน
แต่ตอนนี้ 15 คำ แค่ 2-3 วันก็ท่องได้หมดแล้ว ไม่ต้องสอนว่าท่องยังไง แยกคำยังไง ตอนนี้ได้คะแนน 14-15 ส่วนใหญ่จะ 14.5 โดนหัก 0.5 คะแนนเพราะสะกดคำแปลภาษาไทยผิด 1 คำ
ทำแบบฝึกหัดท้ายบทดีขึ้น เดิมเต็ม20 จะได้ประมาณ 12-15 คะแนน แต่ตอนนี้ดีขึ้นได้มากกว่า 15 ตลอดแต่ก็ไม่เคยได้เต็ม
ต้องเล่าย้อนว่า ที่คะแนนดีขึ้นนี่ก็เพราะเรียนพิเศษเพิ่มด้วย เพราะพื้นฐานไม่ดีเลย เริ่มเรียนพิเศษจริงจัง ตอนปิดเทอม ป.5 ขึ้น ป.6 คะ คุณครูปูพื้นฐานใหม่หมดเลย สอนย้อนไปตั้งแต่เนื้อหา ป.4 เลยค่ะ เรียนทุกวัน ตอนแรกคุณครูบอกว่าครูถึงกับท้อเลย เพราะเธอเหมือนแก้วน้ำที่ก้นรั่ว ได้หน้าลืมหลัง ได้หลังลืมหน้า
1. เปลี่ยนพฤติกรรมตามคุณหมอบอก
2. พรมมิช่วยให้ความจำดีขึ้น
3. อดทน และมีความมานะพยายามค่ะ
ตอนนี้กำลังลังเลว่า พ.ย.59 นี้จะพาลูกไปทดสอบ LD ดีไหม๊ แต่ %ที่จะไม่ไปสูงกว่าเพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ (ครั้งก่อนเธอก็ร้องไห้กลัวตัวเองจะสมาธิสั้น) และผลการเรียนเริ่มดีขึ้นแล้ว