คิสขอออกตัวก่อนว่าคิสเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ศึกษาและไม่มีความรู้ทางด้านโภชนาการ หรือวิตามินบำรุงร่างกายใด ไม่กล้าไปแนะนำใคร
แต่คือคิสเริ่มต้นกินวิตามินตั้งแต่อายุประมาณ 29-30 ด้วยเหตุผลสั้นๆว่าอยากดูดี อยาก maintain สุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของ aging sign ต่างๆที่เริ่มเข้ามาทักทาย(แบบรุนแรง เรียกว่าตบหัวทิ่มก็ว่าได้ ไม่คิดว่าสามสิบจะทำให้รู้สึกสูงวัยได้มากมายขนาดนี้ เครื่องเย็นค่ะ)
คิสเริ่มจากพวก Collagen สั่งจาก Iherb สั่งไปสั่งมาเริ่มเพลิดเพลิน นี่คือรายการที่คิสกินทั้งหมดนะคะ
- Collagen Powder, 1 scoop/day
- Vitamin C, Crystal powder 1 g.
- Vitamin C in tablet, 500g * 2/day
- Lycopene 40 mg
- Fish Oil 1 Soft capsule/day
- Iron and minerals 1 tablet/day
- Astraxantin 8g./day(i took 4g. twice)
- Vitamin D (i can't recall the info abt its dose)
- Zinc(I can't recall this one too but I took a tablet/day. that should be alright)
อันนี้คือคร่าวๆนะคะ ช่วงไหนโปรอะไรถูกมากคิสก็ซื้อมากินค่ะ คือปรกติคิสทานอาหารไม่ค่อย nutritious สักเท่าไหร่นัก กินอาหารแบบง่ายๆ เร็วๆ แซนวิชชีส สลัด พาสต้า แครกเกอร์ อัลมอนด์วันละกำมือ นม โยเกริต์ธรรมชาติ อะไรง่ายคิสก็ไปทางนั้น เน้นว่ากินบ่อย และไม่เคยอดอาหาร กินเต็มที่ แค่รู้ดีว่ามันไม่ค่อยมีสารอาหารที่ดี คิดว่าทานเสริมไว้ก็ดีแล้ว
คิสไม่แน่ใจว่านี่ผ่านมาน่าจะสักสองปีกว่า หรือยังไง(แต่ตอนนี้ย่าง 32 ก็คิดว่าน่าจะสักสองปีกว่า) แต่คิสเพิ่งเข้ารพ.แผนกฉุกเฉินด้วยปัญหาเรื่องไตทำงานหนักมาก โชคดีที่กรวยไตยังไม่อักเสบ
และอยากแชร์ข้อมูลเรื่องนึง
คิสรู้จักกับผู้ใหญ่ท่านนึง** เปิดเผยข้อมูลว่า....
**คิสขออนุญาติเข้ามาลบข้อมูลของท่านออก เพราะเกรงใจอยู่เหมือนกันว่าถ้าท่านมาอ่านเจออาจจะไม่ชอบใจที่มาพูดเรื่องบทสนทนาส่วนตัวในครอบครัว**
เพื่อนของท่านอีกที เป็นเจ้าของบริษัทผลิตวิตามินบำรุงร่างกายรายใหญ่เจ้าหนึ่ง(เอ่ยชื่อไปรู้จักกันหมดค่ะ) ตัวประธานเองยังเทคแค่ 3 ตัวเท่านั้น
คือ...แคลเซียม....วิตามินซี....ส่วนอีกตัวคิสดันจำไม่ได้ค่ะ(ที่จำไม่ได้เพราะมันนาน อากู๋เล่าให้ฟังตั้งแต่ตอนทานอาหารวันชิวอิก >> ซึ่งคิสตีซี้เป็นญาติไปด้วยแล้ว โดยที่ไม่มีใครรู้)
สรุป วิตามิน ไม่จำเป็น ไม่ต้องกิน หรือกินเฉพาะเท่าที่แพทย์แนะนำ ซึ่งแพทย์ก็ไม่ค่อยจะแนะนำหรอก แต่เอาว่าบางคนอาจจะจำเป็นต้องกินจริงๆ
ตอนนี้คิสยังไม่หายดี แต่มาเตือนไว้ก่อน เพราะอาหารที่เรากินทุกวันนี้มันก็ทำร้ายไตกันอยู่แล้ว โชคดีเบาๆที่คิสไม่ชอบรสเค็มเลย เลี่ยงโซเดียมทุกอย่าง
ต่อไปถามว่าจะกินอีกมั๊ย คิสคงกินเหมือนท่านประธานบริษัทนั้นละค่ะ เพราะไอตัวที่ควรกิน คิสก็ดันไม่ได้กิน(แคลเซียม) คิสดื่มนมวัวไม่ได้ด้วย จบค่ะ
**ขอเข้ามาเพิ่มเติมข้อความที่ตอบเพิ่มไว้ด้านล่างนะคะ**
ขอแจ้งว่า เรื่องปัญหาที่คิสเข้าโรงพยาบาลรอบนี้ "มีหลายสาเหตุ"
การ suspect เรื่องของการรับสารเคมี(วิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงพวกที่ไม่ใช่แร่ธาตุอย่างคอลลาเจน ฯลฯด้วย) มาเป็นระยะเวลายาวถึง 2 ปี เป็นแค่ 1 ในหลายๆปัจจัย เรื่องไตทำงานหนักก็ยังเป็นแค่หนึ่งในอาการที่พบตอนนี้
คิสออกมาเตือนนี้ คิสไม่มีเจตนาใดที่บอกว่ามัน "ไม่ดี" อย่างที่คนบางคนอ่านแล้ววิเคราะห์ใจความบกพร่อง
อยากกินต่อไป หนักหน่วงแค่ไหน เรื่องของแต่ละท่านๆเลยค่ะ เราทุกคนมีสิทธิเลือกให้ตัวเองได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
แต่....แพทย์(ที่มีจรรยาบรรณ ไม่ใช่คนเรียนจบแพทย์แล้วทำงานให้พวกบริษัท MLM เอะอะตบมือ)จะบอกคุณแน่นอนว่า "ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย วิตามินไม่จำเป็น" ประโยคอาจจะสลับไปจากนี้ไปมา แต่เชื่อเถอะว่ามันจะเป็น Golden Phrase ที่แพทย์แนะนำคุณเมื่อไปหาหมอ แล้วคุณบอกว่าคุณจะกินวิตามินเสริม
อันนี้คิสขอกล่าวถึงเฉพาะโรคเจ็บป่วยทั่วไป ไม่ใช่กระดูกหักร้าว แล้วต้องเสริมแคลเซียม เป็นโรคโลหิตจางจึงต้องกินธาตุเหล็ก หรือเด็กที่ไม่เจริญอาหารแล้วต้องเทคบีรวม หรือคนทำงานทั่วๆไปที่ทานวิตามินรวม ซึ่งโดสของวิตามินรวมมันต่ำมาก หรือแม้กระทั่งคนที่มีปัญหาเรื่องไขข้อต่ออะไรต่างๆ การได้รับคอลลาเจนช่วยได้จริง(คิสเห็นผลเมื่อ 3 เดือนขึ้นไป เข่าไม่มีเสียงกรอบแกรบอีกเลย)
"ทานได้ ถ้าจำเป็น" "ไม่จำเป็น ไม่ต้องทาน" คือใจความที่คิสอยากบอกค่ะ
คิสจะกินอีกมั๊ยก็บอกไปแล้วว่ากิน เพราะอาหารคิสมันอาจจะ nutritious ไม่ครบถ้วน และคิสไม่ได้เป็นแม่บ้าน มีเวลาเข้าซุปเปอร์ เข้าครัว ทำอาหารที่อุดมไปด้วยโภชนาการ ทำได้คือเลือกกิน คิสกินไข่ต้ม 2 ฟองทุกเช้า, น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา(ที่กินเพราะบอกตรงๆกลัวขาดน้ำตาลในเส้นเลือดค่ะ ๕๕ คิสไม่ชอบรสหวานเลยให้ตายสิ), ข้าวกล้อง หรือไรซ์เบอรี่ 1 portion, สาหร่ายแห้ง ไม่ปรุงรสเล็กน้อย, milled chia เล็กน้อยผสมในเครื่องดื่ม, กาแฟเอสเพรสโซ่ 2 ชอท, กล้วย 1-2 ลูก(ขึ้นอยู่กับว่าหาได้แค่ไหน เซเว่นบางทีก็หมด), นมถั่วเหลืองดีน่างาดำ 1 กล่องใหญ่, โยเกริตรสธรรมชาติเมจิ 1 ถ้วย, ผลไม้(ที่มีแค่ฝรั่งกับแอปเปิ้ลเท่านั้นที่คิสจะกินได้)หรือผักกรีนโอค+แครอทใส่น้ำจิ้มซีฟู๊ด, น้ำหมัก(Bragg Apple Cider+ Honey+ Lime Juice) อันนี้จะอาทิตย์ละครั้ง
นี่คือเบื้องต้นที่คิสกินทุกวัน(ไม่ใช่กินแค่นี้ คือมันมากกว่านี้ทุกวัน แต่อยู่ที่หาอะไรได้ เพราะคิสไม่มีเวลา) คิสถึงได้บอกว่าคิสไม่ได้มีปัญหาเรื่องกินน้อย หรือทานอาหารที่ทำร้ายไต(ถ้าคนพออ่าน article เรื่องสารอาหาร คงพอทราบว่าคิสพยายามที่จะกินอาหารที่เลี่ยงโซเดียมแล้วด้วยซ้ำ) ทำร้ายตับนี่มีบ้าง 55555555555555 เพราะคิสดื่มเบียร์ socially เท่านั้น / อีกเรื่องที่ต้องบอกไว้ด้วยว่าคิสออกกำลังกาย โยคะ คิสเล่นเวท เลิกคาดิโอไปแล้ว เพราะทำร้ายหัวใจหนักมาก คิสกลัวตัวเองตายคาลู่วิ่งค่ะ แต่มีเดิน 5 กิโลอาทิตย์ละครั้ง(เดินไปกลับสีลมกะบ้าน ๕๕) คิสไม่ได้เป็นคนไม่ดูแลตัวเองขนาดนั้นถึงได้ป่วย ทำขนาดนี้ยังป่วยเลยค่ะ ถึงได้มีหน้ามาห่วงคนอื่น
เรื่องดื่มน้ำ ปัญหาของคิสคือดื่มน้ำเยอะเกินไป ไม่ว่าจะ"เกิน"หรือ"ขาด"ย่อมไม่ดีทั้งนั้น คิสดื่มขั้นต่ำ 3 ลิตรต่อวัน(อันนี้คือต้องบังคับไม่ให้เกินจากนี้ เพราะคิสจะหิวน้ำตลอดเวลา ตรวจหาไทรอยด์แล้วก็ไม่เจอ คิสไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรในเรื่องการดื่มน้ำเหมือนกัน จนเดาเอาเองว่าอาจจะเป็นปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับ mental problem ซะมากกว่า เข้ารพ.รอบนี้หมอต้องจำกัดปริมาณน้ำดื่มคิสให้เหมาะสมต่อร่างกาย
ตลกมั๊ยคะที่ความจริงแล้ว ความรู้ที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็กปอหนึ่ง มันเอามา apply ใช้งานได้ทั้งชีวิต
เวลาที่คุณป่วยหนัก(คิสพูดเหมือนคนแก่มั๊ย) คุณจะเพิ่งสำนึกได้ว่า คุณจะไม่อยากได้อะไรเลย นอกจากชีวิตที่มีสุขภาพที่แข็งแรง
คิสสามารถ trade ทุกอย่างที่คิสมี ความอยากสวย อยากเนียน อยากตาใส อยากผิวนิ่ม ทิ้งออกไปได้หมด ถ้ามันจะทำให้ตับไตคิสดีขึ้น
โรคที่เกี่ยวกับอวัยวะภายใน ไม่เหมือนโรคผิวหนัง มันบอกเรายาก กว่าซินทอมมันจะปรากฏอาการออกมาให้คุณเห็น คุณอาจจะโคม่าไปแล้วก็ได้
ระหว่างนี้คุณอาจจะยังไม่รู้สึก หรือคุณอาจจะไม่เป็นอะไรเลย คิสยินดีด้วย แต่คิสออกมาเตือน เพราะคิสรู้ดีว่าผลที่อาจจะเกิดต่อคนที่ทานวิตามินและแร่ธาตุมากเกินไปและระยะยาวมันทรมานแค่ไหน
ขอให้พลังและสุขภาพที่ดีจงอยู่กับทุกท่าน(และกรูด้วยนะ กำลังต้องการ) อาเมน
MAY THE FORCE BE WITH YOU
### เตือนสำหรับใครที่ชอบกินวิตามินบำรุงร่างกาย Supplements ต่างๆ###
แต่คือคิสเริ่มต้นกินวิตามินตั้งแต่อายุประมาณ 29-30 ด้วยเหตุผลสั้นๆว่าอยากดูดี อยาก maintain สุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของ aging sign ต่างๆที่เริ่มเข้ามาทักทาย(แบบรุนแรง เรียกว่าตบหัวทิ่มก็ว่าได้ ไม่คิดว่าสามสิบจะทำให้รู้สึกสูงวัยได้มากมายขนาดนี้ เครื่องเย็นค่ะ)
คิสเริ่มจากพวก Collagen สั่งจาก Iherb สั่งไปสั่งมาเริ่มเพลิดเพลิน นี่คือรายการที่คิสกินทั้งหมดนะคะ
- Collagen Powder, 1 scoop/day
- Vitamin C, Crystal powder 1 g.
- Vitamin C in tablet, 500g * 2/day
- Lycopene 40 mg
- Fish Oil 1 Soft capsule/day
- Iron and minerals 1 tablet/day
- Astraxantin 8g./day(i took 4g. twice)
- Vitamin D (i can't recall the info abt its dose)
- Zinc(I can't recall this one too but I took a tablet/day. that should be alright)
อันนี้คือคร่าวๆนะคะ ช่วงไหนโปรอะไรถูกมากคิสก็ซื้อมากินค่ะ คือปรกติคิสทานอาหารไม่ค่อย nutritious สักเท่าไหร่นัก กินอาหารแบบง่ายๆ เร็วๆ แซนวิชชีส สลัด พาสต้า แครกเกอร์ อัลมอนด์วันละกำมือ นม โยเกริต์ธรรมชาติ อะไรง่ายคิสก็ไปทางนั้น เน้นว่ากินบ่อย และไม่เคยอดอาหาร กินเต็มที่ แค่รู้ดีว่ามันไม่ค่อยมีสารอาหารที่ดี คิดว่าทานเสริมไว้ก็ดีแล้ว
คิสไม่แน่ใจว่านี่ผ่านมาน่าจะสักสองปีกว่า หรือยังไง(แต่ตอนนี้ย่าง 32 ก็คิดว่าน่าจะสักสองปีกว่า) แต่คิสเพิ่งเข้ารพ.แผนกฉุกเฉินด้วยปัญหาเรื่องไตทำงานหนักมาก โชคดีที่กรวยไตยังไม่อักเสบ
และอยากแชร์ข้อมูลเรื่องนึง
คิสรู้จักกับผู้ใหญ่ท่านนึง** เปิดเผยข้อมูลว่า....
**คิสขออนุญาติเข้ามาลบข้อมูลของท่านออก เพราะเกรงใจอยู่เหมือนกันว่าถ้าท่านมาอ่านเจออาจจะไม่ชอบใจที่มาพูดเรื่องบทสนทนาส่วนตัวในครอบครัว**
เพื่อนของท่านอีกที เป็นเจ้าของบริษัทผลิตวิตามินบำรุงร่างกายรายใหญ่เจ้าหนึ่ง(เอ่ยชื่อไปรู้จักกันหมดค่ะ) ตัวประธานเองยังเทคแค่ 3 ตัวเท่านั้น
คือ...แคลเซียม....วิตามินซี....ส่วนอีกตัวคิสดันจำไม่ได้ค่ะ(ที่จำไม่ได้เพราะมันนาน อากู๋เล่าให้ฟังตั้งแต่ตอนทานอาหารวันชิวอิก >> ซึ่งคิสตีซี้เป็นญาติไปด้วยแล้ว โดยที่ไม่มีใครรู้)
สรุป วิตามิน ไม่จำเป็น ไม่ต้องกิน หรือกินเฉพาะเท่าที่แพทย์แนะนำ ซึ่งแพทย์ก็ไม่ค่อยจะแนะนำหรอก แต่เอาว่าบางคนอาจจะจำเป็นต้องกินจริงๆ
ตอนนี้คิสยังไม่หายดี แต่มาเตือนไว้ก่อน เพราะอาหารที่เรากินทุกวันนี้มันก็ทำร้ายไตกันอยู่แล้ว โชคดีเบาๆที่คิสไม่ชอบรสเค็มเลย เลี่ยงโซเดียมทุกอย่าง
ต่อไปถามว่าจะกินอีกมั๊ย คิสคงกินเหมือนท่านประธานบริษัทนั้นละค่ะ เพราะไอตัวที่ควรกิน คิสก็ดันไม่ได้กิน(แคลเซียม) คิสดื่มนมวัวไม่ได้ด้วย จบค่ะ
ขอแจ้งว่า เรื่องปัญหาที่คิสเข้าโรงพยาบาลรอบนี้ "มีหลายสาเหตุ"
การ suspect เรื่องของการรับสารเคมี(วิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงพวกที่ไม่ใช่แร่ธาตุอย่างคอลลาเจน ฯลฯด้วย) มาเป็นระยะเวลายาวถึง 2 ปี เป็นแค่ 1 ในหลายๆปัจจัย เรื่องไตทำงานหนักก็ยังเป็นแค่หนึ่งในอาการที่พบตอนนี้
คิสออกมาเตือนนี้ คิสไม่มีเจตนาใดที่บอกว่ามัน "ไม่ดี" อย่างที่คนบางคนอ่านแล้ววิเคราะห์ใจความบกพร่อง
อยากกินต่อไป หนักหน่วงแค่ไหน เรื่องของแต่ละท่านๆเลยค่ะ เราทุกคนมีสิทธิเลือกให้ตัวเองได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
แต่....แพทย์(ที่มีจรรยาบรรณ ไม่ใช่คนเรียนจบแพทย์แล้วทำงานให้พวกบริษัท MLM เอะอะตบมือ)จะบอกคุณแน่นอนว่า "ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย วิตามินไม่จำเป็น" ประโยคอาจจะสลับไปจากนี้ไปมา แต่เชื่อเถอะว่ามันจะเป็น Golden Phrase ที่แพทย์แนะนำคุณเมื่อไปหาหมอ แล้วคุณบอกว่าคุณจะกินวิตามินเสริม
อันนี้คิสขอกล่าวถึงเฉพาะโรคเจ็บป่วยทั่วไป ไม่ใช่กระดูกหักร้าว แล้วต้องเสริมแคลเซียม เป็นโรคโลหิตจางจึงต้องกินธาตุเหล็ก หรือเด็กที่ไม่เจริญอาหารแล้วต้องเทคบีรวม หรือคนทำงานทั่วๆไปที่ทานวิตามินรวม ซึ่งโดสของวิตามินรวมมันต่ำมาก หรือแม้กระทั่งคนที่มีปัญหาเรื่องไขข้อต่ออะไรต่างๆ การได้รับคอลลาเจนช่วยได้จริง(คิสเห็นผลเมื่อ 3 เดือนขึ้นไป เข่าไม่มีเสียงกรอบแกรบอีกเลย)
"ทานได้ ถ้าจำเป็น" "ไม่จำเป็น ไม่ต้องทาน" คือใจความที่คิสอยากบอกค่ะ
คิสจะกินอีกมั๊ยก็บอกไปแล้วว่ากิน เพราะอาหารคิสมันอาจจะ nutritious ไม่ครบถ้วน และคิสไม่ได้เป็นแม่บ้าน มีเวลาเข้าซุปเปอร์ เข้าครัว ทำอาหารที่อุดมไปด้วยโภชนาการ ทำได้คือเลือกกิน คิสกินไข่ต้ม 2 ฟองทุกเช้า, น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา(ที่กินเพราะบอกตรงๆกลัวขาดน้ำตาลในเส้นเลือดค่ะ ๕๕ คิสไม่ชอบรสหวานเลยให้ตายสิ), ข้าวกล้อง หรือไรซ์เบอรี่ 1 portion, สาหร่ายแห้ง ไม่ปรุงรสเล็กน้อย, milled chia เล็กน้อยผสมในเครื่องดื่ม, กาแฟเอสเพรสโซ่ 2 ชอท, กล้วย 1-2 ลูก(ขึ้นอยู่กับว่าหาได้แค่ไหน เซเว่นบางทีก็หมด), นมถั่วเหลืองดีน่างาดำ 1 กล่องใหญ่, โยเกริตรสธรรมชาติเมจิ 1 ถ้วย, ผลไม้(ที่มีแค่ฝรั่งกับแอปเปิ้ลเท่านั้นที่คิสจะกินได้)หรือผักกรีนโอค+แครอทใส่น้ำจิ้มซีฟู๊ด, น้ำหมัก(Bragg Apple Cider+ Honey+ Lime Juice) อันนี้จะอาทิตย์ละครั้ง
นี่คือเบื้องต้นที่คิสกินทุกวัน(ไม่ใช่กินแค่นี้ คือมันมากกว่านี้ทุกวัน แต่อยู่ที่หาอะไรได้ เพราะคิสไม่มีเวลา) คิสถึงได้บอกว่าคิสไม่ได้มีปัญหาเรื่องกินน้อย หรือทานอาหารที่ทำร้ายไต(ถ้าคนพออ่าน article เรื่องสารอาหาร คงพอทราบว่าคิสพยายามที่จะกินอาหารที่เลี่ยงโซเดียมแล้วด้วยซ้ำ) ทำร้ายตับนี่มีบ้าง 55555555555555 เพราะคิสดื่มเบียร์ socially เท่านั้น / อีกเรื่องที่ต้องบอกไว้ด้วยว่าคิสออกกำลังกาย โยคะ คิสเล่นเวท เลิกคาดิโอไปแล้ว เพราะทำร้ายหัวใจหนักมาก คิสกลัวตัวเองตายคาลู่วิ่งค่ะ แต่มีเดิน 5 กิโลอาทิตย์ละครั้ง(เดินไปกลับสีลมกะบ้าน ๕๕) คิสไม่ได้เป็นคนไม่ดูแลตัวเองขนาดนั้นถึงได้ป่วย ทำขนาดนี้ยังป่วยเลยค่ะ ถึงได้มีหน้ามาห่วงคนอื่น
เรื่องดื่มน้ำ ปัญหาของคิสคือดื่มน้ำเยอะเกินไป ไม่ว่าจะ"เกิน"หรือ"ขาด"ย่อมไม่ดีทั้งนั้น คิสดื่มขั้นต่ำ 3 ลิตรต่อวัน(อันนี้คือต้องบังคับไม่ให้เกินจากนี้ เพราะคิสจะหิวน้ำตลอดเวลา ตรวจหาไทรอยด์แล้วก็ไม่เจอ คิสไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรในเรื่องการดื่มน้ำเหมือนกัน จนเดาเอาเองว่าอาจจะเป็นปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับ mental problem ซะมากกว่า เข้ารพ.รอบนี้หมอต้องจำกัดปริมาณน้ำดื่มคิสให้เหมาะสมต่อร่างกาย
ตลกมั๊ยคะที่ความจริงแล้ว ความรู้ที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็กปอหนึ่ง มันเอามา apply ใช้งานได้ทั้งชีวิต
เวลาที่คุณป่วยหนัก(คิสพูดเหมือนคนแก่มั๊ย) คุณจะเพิ่งสำนึกได้ว่า คุณจะไม่อยากได้อะไรเลย นอกจากชีวิตที่มีสุขภาพที่แข็งแรง
คิสสามารถ trade ทุกอย่างที่คิสมี ความอยากสวย อยากเนียน อยากตาใส อยากผิวนิ่ม ทิ้งออกไปได้หมด ถ้ามันจะทำให้ตับไตคิสดีขึ้น
โรคที่เกี่ยวกับอวัยวะภายใน ไม่เหมือนโรคผิวหนัง มันบอกเรายาก กว่าซินทอมมันจะปรากฏอาการออกมาให้คุณเห็น คุณอาจจะโคม่าไปแล้วก็ได้
ระหว่างนี้คุณอาจจะยังไม่รู้สึก หรือคุณอาจจะไม่เป็นอะไรเลย คิสยินดีด้วย แต่คิสออกมาเตือน เพราะคิสรู้ดีว่าผลที่อาจจะเกิดต่อคนที่ทานวิตามินและแร่ธาตุมากเกินไปและระยะยาวมันทรมานแค่ไหน
ขอให้พลังและสุขภาพที่ดีจงอยู่กับทุกท่าน(และกรูด้วยนะ กำลังต้องการ) อาเมน