หมดเวรหมดกรรมซักที สิ้น กย. นี้ อุโมงค์มไหสวรรค์เสร็จ
มื่อวันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา นายจิระเดช กรุณกฤตกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมการก่อสร้าง สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.)เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางถนนตากสินกับถนนรัชดาภิเษกเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณแยกมไหสวรรย์ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ลดจุดตัดทางแยก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจรบนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งเป็นโครงข่ายถนนวงแหวนรัชดาภิเษกของกรุงเทพมหานคร และรองรับโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความยาวประมาณ 1,515 เมตร ขนาด 4 ช่องจราจร กว้าง 17 เมตร ความสูงช่องทางลอดประมาณ 5 เมตร ความยาวทางลอด 887 เมตร โดยมีงบประมาณในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 969ล้านบาทนั้น ขณะนี้ กทม. อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการก่อสร้างอย่างเต็มที่ โดยงานการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ไปจำนวนมากแล้ว ซึ่งเบื้องต้น ในวันที่ 30ก.ย.นี้ จะสามารถเปิดใช้งานอุโมงค์ ทั้ง4ช่องจราจรด้านล่าง และผิวจราจรด้านบนปกติให้รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้ทำการประสานตำรวจจราจรในท่องที่ คือสน.บุคคโล เพื่อร่วมกันวางแผนการจราจรเมื่ออุโมงค์เปิดใช้งาน หลังจากการเปิดใช้งานอุโมงค์ทางลอดดังกล่าวอย่างไม่เป็นทางการแล้ว กทม.ก็จะเร่งการปรับปรุงทางเท้าโดยรอบพื้นที่ก่อสร้าง เนื่องจากในช่วงการก่อสร้าง มีการขุดเจาะผิวดินจนเกิดความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งยืนยันว่า อุโมงค์ลอดแยกมไหสวรรย์ และพื้นที่ก่อสร้างโดยรอบจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปลายปี 59นี้อย่างแน่นอน
นายจิระเดชกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สำหรับการก่อสร้างอุโมงค์มไหสวรรย์นั้น เป็นโครงการที่ก่อสร้างขึ้นในปี 54 ซึ่งการแต่งานค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ก็มีอุปสรรคในการเดินทางและการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ อีกทั้งติดปัญหาการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคทั้งใต้ดินและบนดิน ได้แก่ ท่อประปา สายสื่อสาร สายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า ใช้ระยะเวลาดำเนินการค่อนข้างมาก ทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งกทม.ก็ได้พิจารณาขยายสัญญาในการก่อสร้างใช้แก่ผู้รับเหมาถึง 4ครั้ง เพื่อเร่งการก่อสร้าง โดยการก่อสร้างอุโมงค์ดังกล่าวมีประชาชนร้องเรียนจำนวนมากถึงผลกระทบการจราจรที่ทำให้รถติดหนักมาโดยตลอด แต่เมื่อเปิดใช้งานอุโมงค์ได้ การจราจรในพื้นที่จะเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน .... อ่านต่อที่ :
http://www.dailynews.co.th/bangkok/520837
สิ้นเวรสิ้นกรรมซักที สำหรับชาวฝั่งธน
หมดเวรหมดกรรมซักที สิ้น กย. นี้ อุโมงค์มไหสวรรค์เสร็จ
มื่อวันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา นายจิระเดช กรุณกฤตกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมการก่อสร้าง สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.)เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางถนนตากสินกับถนนรัชดาภิเษกเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณแยกมไหสวรรย์ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ลดจุดตัดทางแยก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจรบนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งเป็นโครงข่ายถนนวงแหวนรัชดาภิเษกของกรุงเทพมหานคร และรองรับโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความยาวประมาณ 1,515 เมตร ขนาด 4 ช่องจราจร กว้าง 17 เมตร ความสูงช่องทางลอดประมาณ 5 เมตร ความยาวทางลอด 887 เมตร โดยมีงบประมาณในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 969ล้านบาทนั้น ขณะนี้ กทม. อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการก่อสร้างอย่างเต็มที่ โดยงานการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ไปจำนวนมากแล้ว ซึ่งเบื้องต้น ในวันที่ 30ก.ย.นี้ จะสามารถเปิดใช้งานอุโมงค์ ทั้ง4ช่องจราจรด้านล่าง และผิวจราจรด้านบนปกติให้รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้ทำการประสานตำรวจจราจรในท่องที่ คือสน.บุคคโล เพื่อร่วมกันวางแผนการจราจรเมื่ออุโมงค์เปิดใช้งาน หลังจากการเปิดใช้งานอุโมงค์ทางลอดดังกล่าวอย่างไม่เป็นทางการแล้ว กทม.ก็จะเร่งการปรับปรุงทางเท้าโดยรอบพื้นที่ก่อสร้าง เนื่องจากในช่วงการก่อสร้าง มีการขุดเจาะผิวดินจนเกิดความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งยืนยันว่า อุโมงค์ลอดแยกมไหสวรรย์ และพื้นที่ก่อสร้างโดยรอบจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปลายปี 59นี้อย่างแน่นอน
นายจิระเดชกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สำหรับการก่อสร้างอุโมงค์มไหสวรรย์นั้น เป็นโครงการที่ก่อสร้างขึ้นในปี 54 ซึ่งการแต่งานค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ก็มีอุปสรรคในการเดินทางและการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ อีกทั้งติดปัญหาการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคทั้งใต้ดินและบนดิน ได้แก่ ท่อประปา สายสื่อสาร สายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า ใช้ระยะเวลาดำเนินการค่อนข้างมาก ทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งกทม.ก็ได้พิจารณาขยายสัญญาในการก่อสร้างใช้แก่ผู้รับเหมาถึง 4ครั้ง เพื่อเร่งการก่อสร้าง โดยการก่อสร้างอุโมงค์ดังกล่าวมีประชาชนร้องเรียนจำนวนมากถึงผลกระทบการจราจรที่ทำให้รถติดหนักมาโดยตลอด แต่เมื่อเปิดใช้งานอุโมงค์ได้ การจราจรในพื้นที่จะเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน .... อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/bangkok/520837