กราบสวัสดี Lady & gentleman วันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยว น่าน จังหวัดที่ใครๆก็เฝ้าถวิลหาและกล่าวขานถึงกันนักว่า "หน้าฝนแสนอร่ามเขียวขจี หน้าหนาวนี้สูดหมอกเย็นกลางทิวเขา" แต่ที่ๆผมจะไปเป็นตำบลเล็กๆที่มีวัฒนธรรมสวยงามน่าค้นหาอย่างตำบล "บ่อสวก" ตำบลที่มีเสน่ห์ทางวิถีชีวิต เรื่องเล่าสืบสานยาวนานกว่า750ปี

ฝากติดตามการเดินทางของหมี : https://www.facebook.com/bearalone/

    ** โฮมสเตย์ที่แท้จริง มันคือการไปพักกับบุคคลท้องถิ่นจริงๆ ไม่ใช่บ้านพักเหมือนในหลายๆเมืองที่ใช้คำว่า โฮมสเตย์ **
  ออกตัวก่อนว่าผมเป็นนักเดินทางสายธรรมชาติอย่างแท้จริงคนนึง ผมชอบการสูดอากาศกลางทะเลหมอก อากาศเย็นๆบนยอดเขาแห่งใดแห่งหนึ่งในหน้าหนาว ผมชอบร้านกาแฟชิคๆหรือแม้กระทั่งร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาในตำนาน แต่ผมก็ชอบหาดทรายสีขาวในหน้าร้อนด้วย

  ผมเฉยๆกับการปั้นหม้อ การทอผ้า หรือแม้แต่การพูดถึงเตาเผาอันโด่งดังที่มีประวัติยาวนานกว่า 700ปี แต่โชคชะตาก็นำพา ให้ผมมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์ และเปลี่ยนความคิดการท่องเทียวเชิงสัมผัสวัฒนธรรมไปตลอดกาล

๐๐๐๐ Episode of Topic ๐๐๐๐
- แบบแผนการเดินทาง
- แนะนำ "บ่อสวก" เมืองเก่าที่ยังมีชีวิต
- โฮมสเตย์ในตำบล บ่อสวก
- อากาศหนาว แผงนาเขียวสด กับวัฒนธรรมอันน่าหลงไหล ที่บ่อสวก ---
- หยิบสวยดอกไม้ ไปทำบุญวัดในเมืองน่าน
- ความอิ่มเอมใจแบบไม่ได้คาดหวัง


--- แบบแผนการเดินทาง ---
   เจตนาจริงๆของผมที่ทำให้ผมเขียนกระทู้นี้เพราะว่า  ความอิ่มใจหลังจากเข้าไปสัมผัสทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่มันแบบเออได้มากกว่าที่เราคิดไว้เยอะมาก และได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ มันล้วนแต่เป็นสิ่งใหม่ เราจะได้พบเจอกับคนที่เค้าอยากจะถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้กับเราจริงๆ และที่สำคัญชุมชนอยู่ใกล้ตัวเมืองน่านมากๆเลยเชียวล่ะ จะวิเศษแค่ไหนถ้ามาเที่ยวน่านแล้วคุณได้ทุกสิ่งครบ ตั้งแต่ฟินธรรมชาติ และอิ่มใจกับการเสพวัฒนธรรมคนท้องถิ่น เริ่ดเลอ
  
    กล่าวถึงที่มานิดนึง ทริปนี้บังเอิญผมได้ไปเห็นโพสของพี่คนหนึ่งในเฟสบุคครับ เค้าชวนเที่ยวน่านโดยมีแผนจะมาท่องเที่ยวบ่อสวกเป็นหลัก ด้วยความที่เที่ยวเมืองมาเยอะ ไต่เขาหนักเบา Backpackมาแยะ แต่ห่างหายจากการเสพวิถีชุมชนไปเกือบปี ผมเลยไม่ลังเลที่จะจอยทริปมาพบเจออะไรใหม่ๆ
    **การมาเที่ยวที่นี่**
  คุณจะต้องติดต่อมาทางชุมชนก่อนครับเหมือนการท่องเที่ยวเชิงชุมชนอื่น โดยติดต่อผ่าน พี่บี พี่บลู เดี๋ยวผมจะทิ้งเบอร์ไว้ให้ครับ พี่เค้าน่ารักมาก พี่เค้าจะจัดการที่พักและกิจกรรมต่างๆที่เราจะได้ทำในชุมชน และถ้าใครไม่มีรถพี่เค้ารับส่งให้ครับ

____________________________________________________
--- แนะนำ "บ่อสวก" เมืองเก่าที่ยังมีชีวิต ---

ผมจะเอ่ยถึงข้อมูลคร่าวๆของที่นี่ ตำบลบ่อสวก อยู่ในอำเภอเมืองน่าน  จังหวัดน่าน  เขตพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.บ่อสวก ในเขตพื้นที่พิเศษ เมืองเก่าน่าน สภาพทางภูมิศาสตร์ของชุมชน จะเป็นที่ราบภูเขา มีลำห้วยที่สำคัญไหลผ่าน คือ ลำห้วยสวก ลำห้วยม่วง ลำห้วยน้ำจาง
  ตำแหน่งของ ตำบลบ่อสวกใกล้กับตัวอำเภอเมืองน่านมากๆครับ ตามแผนที่

  การท่องเที่ยวของเราจะเกี่ยวกับสี่หมู่บ้านในบริเวณนี้ครับสามหมู่บ้านเป็นของบ่อสวกคือ ซาวหลวง นาปง บ่อสวก ส่วนนาซาวขึ้นกับดู่ใต้
   หากคุณแวะมาที่นี่สิ่งที่คุณจะได้รับ คือคุณจะพบกับบรรยากาศความสงบสุข ทุ่งนาสีเขียวอร่ามด้วยวิวหลังเป็นวัดสีขาวแดงทอง หรือทิวเขาที่มีหมอกลอยอยู่บางๆ อากาศกำลังดีในหน้าฝน และอากาศเย็นสบายสุดฟินในหน้าหนาว ฮ่าๆ ใครฝันอยากไปนั่งในกระท่อมกลางนาก็ไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป

- โฮมสเตย์ในตำบล บ่อสวก
  โฮมสเตย์ที่นี่จะแบ่งเป็นสองหมู่บ้านนะครับ มีทั้งทางฝั่งของ บ้านบ่อสวกเอง และทางด้านของบ้านนาปง ทั้งสองแห่งไกลกันพอสมควร กิจกรรมส่วนใหญ่ก็กระจายอยู่ในชุมชน หากเราติดต่อคุณบีคุณบลูแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวลครับ ส่วนตัวผมพักในบ้านนาปงครับ
____________________________________________________



   บ่อสวกเป็นชุมชนติดตัวจังหวัดที่มีกิจกรรมสอดแทรกวัฒนธรรม นอกจากธรรมชาติอันสวยงามของความเป็นน่านที่เราจะได้รับแล้ว กิจกรรมที่ทางชุมชนเตรียมให้เรา อยากบอกว่าน่าประทับใจไม่น้อยเลยครับ
   วันที่พวกผมมาถึง ได้เจอกับเพื่อนๆอีกกลุ่มที่มาเที่ยวที่นี่เช่นเดียวกัน มาจากหลากหลายแห่งต่างที่มา

   พวกผมมาถึงขนส่งช่วงเช้ามืด แยกย้ายกันทำธุระส่วนตัว ล้างหน้าแปลงฟัน เข้ 4 แล้วกลับมานั่งยังไม่ทันตูดร้อน พี่ๆจากบ้านบ่อสวกก็เข้ามาสอบถามทักทาย ก่อนจะพาไปงีบหลังรออีกกลุ่มที่มาถึงเวลาเกือบสิบโมง ณ.โฮมสเตย์ของพี่บลูพี่บี

๐ โฮมสเตย์ พี่บลู&พี่บี

    เมื่อเดินทางมาถึงผมปล่อยเป้สองใบที่เกี่ยวร่างกายทิ้งตัวลงนอนบนฝูกนุ่มๆ ที่ทางโฮมสเตย์ปูเอาไว้ เพื่อนๆหลายคนแยกย้ายกันทำภารกิจส่วนตัว บ้างอาบน้ำ บ้างเดินเล่น บ้างก็ไปปั่นจักรยานชิคๆ
ที่นี่เองที่เราได้พบกับต้นอ้อ สาวน้อยใสๆ วัยปอหนึ่งที่จะอยู่กับเราไปสองวัน แทบจะเป็นตัวชูโรงที่ทำให้เรามีรอยยิ้มติดตัวตลอดสองวัน

ถนนหน้าบ้านที่นี่ติดท้องนา มองไปเขียวสดชื่น อากาศเช้านี้ดี แต่ฟ้าไม่เปิด ผมเดินวนอยู่หลายรอบบ้านพี่บีพี่บลูมีคุณแม่ ที่มาทำอาหารให้เรารับประทานร้อนๆ อารมณ์ดี ผมชวนคุยยิ้มหวานเลยเชียวครับ ^^

อาหารมื้อแรกของวัน คือข้าวต้มกุ้งอร่อยมากครับ ได้กินพร้อมกับเสพบรรยากาศยามเช้าฟินจีจีนะ หลังจากอาหารมื้อเช้า พวกเราก็ไปเดินถ่ายรูปเล่นกันครับ มีคันนาหลายจุดให้เดินลงไปลั่นชัตเตอร์เล่น เขียวอร่ามจริงๆ



  พอจะเต็มอิ่มก็ได้เวลาไปพบทีมท่องเที่ยวเชิงชุมชนกล่าวต้อนรับเราครับ

  หลังจากเสร็จสิ้นพวกเราก็จะได้เดินทางเข้าที่พักที่ทางชุมชนเตรียมไว้ให้ คำว่าโฮมสเตย์ในที่นี้คือการพักผ่อนกับชาวบ้านจริงๆนะครับ ไม่ใช่โฮมสเตย์เก๊ ที่เดี๋ยวนี้มีเกลื่อนเต็มไปหมด มันไม่ใช่อะ!!

  เจ้าของบ้านต้อนรับอบอุ่นมากๆ จากประสบการณ์ที่ไปนอนชุมชนโฮมสเตย์มาสองสามที่ ที่นี่นับว่าเจ้าของบ้านน่ารักเป็นพิเศษแล้วก็ดูแลเราดี


๐๐บ้านแม่อุ้ยดี (บ้านสองผี)

  บ้านหลังนี้มีที่มา.. โดยจะมีน้องๆคนท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของบ้านมาเล่าให้ฟังครับ เนื้อหาน่าสนใจโดยพอสังเขปประมาณว่า เดิมทีบ้านหลังนี้มีฝั่งซ้ายฝั่งเดียวนะครับโดยเป็นของปู่ เมื่อปู่กับย่าแต่งงานกัน ผีทวดฝั่งย่าไม่ถูกกับผีทวดฝั่งปู่ หากเมื่อใดที่ย่าเดินขึ้นบันไดหน้าบ้าน (ฝั่งในภาพ) ปู่จะล้มป่วยทุกที ภายหลังมีคนทัก คุณปู่กับย่าเลยสร้างบ้านฝั่งขวาขึ้น และคุณย่าไปเดินขึ้นบ้านทางบันไดฝั่งซ้ายของบ้านแทน คุณปู่ก็ไม่เจ็บป่วยอีกเลย ..

  บริเวณในตัวบ้านเดินชมโน้นนี่นั่นได้ฟิลครับ ทุกอย่างยังคงอยู่ซึ่งของเก่าแก่ เรารับประทานอาหารกันที่นี่ อยากบอกว่าฟินมากอาหารอร่อยเลยเชียวละ



  To be continuous... อยากให้เพื่อนๆได้เสพนะครับ

ฝากติดตามการเดินทางของหมี : https://www.facebook.com/bearalone/