รวบนายจ้างฆ่าแม่บ้านยัดถัง สวมบทโหดรับอุปการะเด็ก ทำร้ายจนตาบอด ถอนฟันหมดปาก หวังประกัน(คลิป)
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ที่ปรึกษา (สบ.10) สอบปากคำ นายจักรกฤษณ์ หรือ ออ จาริกานนท์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/59 หมู่ 5 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 84/2559 ลงวันที่ 29 ส.ค. 2559 ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่น โดย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. นำกำลังตำรวจบก.ป. บก.สส.ภ.3 สภ.กลางดง จ.นครราชสีมา และสภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี จับกุมตัวได้ที่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้านหมู่ 5 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 29 ตุลาคม 2556 พบศพหญิงนิรนาม อายุประมาณ 30 ปีเศษ สูง 153 ซม. ถูกฆ่าและตัดหัวนม 2 ข้าง สภาพศพเปลือยกายถูกห่อหุ้มด้วยใยสังเคราะห์ มัดด้วยสายไฟ ยัดในถังพลาสติกสำหรับใส่น้ำ ถูกนำไปทิ้งไว้ที่ริมถนนสายบ้านหัวป้าง-บ้านหัวโกรก หมู่ 14 บ้านหนองไม้แดง ต.ดงพญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุได้ส่งลายพิมพ์นิ้วมือแฝงที่ได้จากที่เกิดเหตุไปตรวจที่กรมการปกครองเพื่อยืนยันตัวบุคคล ซึ่งขณะนั้นไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร กระทั่งปี 2559 กรมการปกครองได้ปรับปรุงซอฟต์แวร์ใหม่ในการสืบค้นลายนิ้วมือ จึงส่งตรวจพิสูจน์ซ้ำและทราบว่าผู้ตายคือน.ส.สุภาพ เดชไทย อายุ 35 ปี ชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด จึงได้แจ้งให้ญาตินำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 802/2559 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มอบหมายให้ตนเองกำกับการดูแลควบคุมการสืบสวนสอบสวนในภาพรวม
ด้าน พล.ต.อ.หาญพล กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาสมัครเป็นแม่บ้านกับบริษัท จัดหางาน (หาแม่บ้าน) แห่งหนึ่งย่านรามอินทรา และถูกส่งไปอยู่ที่บ้านนายจ้างในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลคลองหก ได้หายไปและขาดการติดต่อตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งญาติได้แจ้งคนหายและพยายามติดตามหาแล้วไม่พบตัว ชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคลจาก จ.ร้อยเอ็ด จากกทม. และในจังหวัดปทุมธานี จนได้พยานหลักฐานแน่ชัดเชื่อว่านายจักรกฤษณ์ ผู้ต้องหา นายจ้างของผู้ตายเป็นคนร้ายที่ฆ่า น.ส.สุภาพ ในบ้านของตนเอง ก่อนนำศพใส่ถังพลาสติกและนำไปทิ้งในที่เกิดเหตุดังกล่าว จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสีคิ้ว โดยศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นควรออกหมายจับ จึงได้ทำการจับกุม นายจักรกฤษณ์ ได้ที่บ้านย่าน จ.ปทุมธานี
พล.ต.อ.หาญพล กล่าวว่า นายจักรกฤษณ์ ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง มีพฤติกรรมเป็นขาใหญ่รู้จักข้าราชการหลายหน่วยงาน และมักแสดงตัวเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ทั้งที่ไม่ได้เป็นตำรวจ โดยคนละแวกบ้านของนายจักรกฤษณ์ จะเรียกติดปากว่า ผู้กอง ชอบพกพาอาวุธปืนหลายกระบบอก มีพฤติกรรมชอบยิงปืนข่มขู่จนชาวบ้านหวาดกลัวไม่มีใครกล้าร้องเรียน สำหรับ น.ส.สุภาพ ผู้ตายจากการสืบสวนทราบว่าถูกทำร้ายร่างกายมานาน ถูกเตะจนซี่โครงหัก ไหปลาร้าหัก ไม่เคยได้รับการรักษา ก่อนตายได้โทรศัพท์หาญาติให้ช่วย แต่ทางญาติไม่ทราบว่าให้ไปช่วยที่ไหน จนกระทั่งมาพบศพ จึงได้สืบสวนจนทราบว่า นายจักรกฤษณ์ เป็นผู้ก่อเหตุ
พล.ต.อ.หาญพล กล่าวว่า นอกจากนี้พบว่านายจักรกฤษณ์ มีพฤติการณ์รับอุปการะเด็ก ก่อนทำร้ายร่างกายจนฟันหักเพื่อหวังเงินประกันอุบัติเหตุ อย่างที่ตาบอดก็อ้างว่าโดนน้ำยาล้างห้องน้ำ หรือ โซดาไฟ แต่มีหลายบริษัทที่ไม่เชื่อ เนื่องจากพบพิรุธ เนื่องจากเด็กมีอาการหวาดกลัว จึงมีคดีฟ้องร้องกันอยู่ ซึ่งกรณีนี้เมื่อปี 2556 นายจักรกฤษณ์ ได้รับตัวนายเบนซ์ อายุ 17 ปี มาจากพ่อเลี้ยงซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายจักรกฤษณ์ มาอุปการะไว้ จากนั้นได้ทำกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุกับบริษัทประกันภัย 13 แห่ง จำนวน 21 กรมธรรม์ ทุนประกันรวมกว่า 17 ล้านบาท ก่อนลงมือทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนตาบอด และถอนฟันหมดปากเหลือเพียง 4 ซี่ แล้วนำหลักฐานไปเบิกเงินจากบริษัทประกันภัย โดยกรณีฟันหักเบิกเงินไป 2 ครั้ง จากบริษัทประกัน ได้เงินจำนวน 1,180,000 บาท ส่วนกรณีตาบอดทางบริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายเงิน และถูกบริษัทประกันภัยหลายบริษัทฟ้องร้องในข้อหาฉ้อโกงประกันภัย
“สำหรับนายเบนซ์ เดิมทีอยู่กับพ่อเลี้ยงซึ่งมีอาชีพปล่อยเงินกู้ที่ตลาดไท แต่ไปขโมยเงินเพื่อไปเล่นเกม จึงถูกจับมัดไว้ ก่อนเรียกนายจักรกฤษณ์ มารับตัว จากนั้นนำมาล่ามโซ่ไว้ที่บ้าน ชาวบ้านมาถามว่าทำไมล่ามโซ่เด็ก นายจักรกฤษณ์ ก็อ้างว่า เด็กติดยาเอามาบำบัด หลังจากนั้นก็ลงมือซ้อมทุกวันจนเด็กหวาดกลัว สั่งทำอะไรก็ต้องทำ สภาพร่างกายของ นายเบนซ์ ที่เราพบ ถูกทำร้ายทั้งตัว ถูกยิงด้วยปืนบีบีกัน ตาบอด ซี่โครงหัก มีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง ขณะนี้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ” ที่ปรึกษา(สบ10) ระบุ
จากการสอบสวน นายจักรกฤษณ์ รับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่า น.ส.สุภาพ จริงซึ่งเป็นการทำไปโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากตนเองเป็นคนอารมณ์ร้อน เมื่อโมโหไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เคยป่วยเป็นโรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์สองขั้ง รักษาตัวที่ รพ.สินแพทย์ แต่ตนไม่ชอบรับประทานยาที่แพทย์จ่ายให้ เพราะทำให้ไม่สามารถขับรถหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ ยืนยันไม่ได้เสพยาเสพติด
ยิ่งกว่าหนังโรคจิต!! หนุ่มอ้างจิตป่วย ทารุณกรรม ตัดนม ถอนฟัน น้ำกรดหยอดตาเหยื่อ หวังเงินประกัน!!!
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ที่ปรึกษา (สบ.10) สอบปากคำ นายจักรกฤษณ์ หรือ ออ จาริกานนท์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/59 หมู่ 5 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 84/2559 ลงวันที่ 29 ส.ค. 2559 ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่น โดย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. นำกำลังตำรวจบก.ป. บก.สส.ภ.3 สภ.กลางดง จ.นครราชสีมา และสภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี จับกุมตัวได้ที่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้านหมู่ 5 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 29 ตุลาคม 2556 พบศพหญิงนิรนาม อายุประมาณ 30 ปีเศษ สูง 153 ซม. ถูกฆ่าและตัดหัวนม 2 ข้าง สภาพศพเปลือยกายถูกห่อหุ้มด้วยใยสังเคราะห์ มัดด้วยสายไฟ ยัดในถังพลาสติกสำหรับใส่น้ำ ถูกนำไปทิ้งไว้ที่ริมถนนสายบ้านหัวป้าง-บ้านหัวโกรก หมู่ 14 บ้านหนองไม้แดง ต.ดงพญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุได้ส่งลายพิมพ์นิ้วมือแฝงที่ได้จากที่เกิดเหตุไปตรวจที่กรมการปกครองเพื่อยืนยันตัวบุคคล ซึ่งขณะนั้นไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร กระทั่งปี 2559 กรมการปกครองได้ปรับปรุงซอฟต์แวร์ใหม่ในการสืบค้นลายนิ้วมือ จึงส่งตรวจพิสูจน์ซ้ำและทราบว่าผู้ตายคือน.ส.สุภาพ เดชไทย อายุ 35 ปี ชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด จึงได้แจ้งให้ญาตินำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 802/2559 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มอบหมายให้ตนเองกำกับการดูแลควบคุมการสืบสวนสอบสวนในภาพรวม
ด้าน พล.ต.อ.หาญพล กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาสมัครเป็นแม่บ้านกับบริษัท จัดหางาน (หาแม่บ้าน) แห่งหนึ่งย่านรามอินทรา และถูกส่งไปอยู่ที่บ้านนายจ้างในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลคลองหก ได้หายไปและขาดการติดต่อตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งญาติได้แจ้งคนหายและพยายามติดตามหาแล้วไม่พบตัว ชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคลจาก จ.ร้อยเอ็ด จากกทม. และในจังหวัดปทุมธานี จนได้พยานหลักฐานแน่ชัดเชื่อว่านายจักรกฤษณ์ ผู้ต้องหา นายจ้างของผู้ตายเป็นคนร้ายที่ฆ่า น.ส.สุภาพ ในบ้านของตนเอง ก่อนนำศพใส่ถังพลาสติกและนำไปทิ้งในที่เกิดเหตุดังกล่าว จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสีคิ้ว โดยศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นควรออกหมายจับ จึงได้ทำการจับกุม นายจักรกฤษณ์ ได้ที่บ้านย่าน จ.ปทุมธานี
พล.ต.อ.หาญพล กล่าวว่า นายจักรกฤษณ์ ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง มีพฤติกรรมเป็นขาใหญ่รู้จักข้าราชการหลายหน่วยงาน และมักแสดงตัวเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ทั้งที่ไม่ได้เป็นตำรวจ โดยคนละแวกบ้านของนายจักรกฤษณ์ จะเรียกติดปากว่า ผู้กอง ชอบพกพาอาวุธปืนหลายกระบบอก มีพฤติกรรมชอบยิงปืนข่มขู่จนชาวบ้านหวาดกลัวไม่มีใครกล้าร้องเรียน สำหรับ น.ส.สุภาพ ผู้ตายจากการสืบสวนทราบว่าถูกทำร้ายร่างกายมานาน ถูกเตะจนซี่โครงหัก ไหปลาร้าหัก ไม่เคยได้รับการรักษา ก่อนตายได้โทรศัพท์หาญาติให้ช่วย แต่ทางญาติไม่ทราบว่าให้ไปช่วยที่ไหน จนกระทั่งมาพบศพ จึงได้สืบสวนจนทราบว่า นายจักรกฤษณ์ เป็นผู้ก่อเหตุ
พล.ต.อ.หาญพล กล่าวว่า นอกจากนี้พบว่านายจักรกฤษณ์ มีพฤติการณ์รับอุปการะเด็ก ก่อนทำร้ายร่างกายจนฟันหักเพื่อหวังเงินประกันอุบัติเหตุ อย่างที่ตาบอดก็อ้างว่าโดนน้ำยาล้างห้องน้ำ หรือ โซดาไฟ แต่มีหลายบริษัทที่ไม่เชื่อ เนื่องจากพบพิรุธ เนื่องจากเด็กมีอาการหวาดกลัว จึงมีคดีฟ้องร้องกันอยู่ ซึ่งกรณีนี้เมื่อปี 2556 นายจักรกฤษณ์ ได้รับตัวนายเบนซ์ อายุ 17 ปี มาจากพ่อเลี้ยงซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายจักรกฤษณ์ มาอุปการะไว้ จากนั้นได้ทำกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุกับบริษัทประกันภัย 13 แห่ง จำนวน 21 กรมธรรม์ ทุนประกันรวมกว่า 17 ล้านบาท ก่อนลงมือทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนตาบอด และถอนฟันหมดปากเหลือเพียง 4 ซี่ แล้วนำหลักฐานไปเบิกเงินจากบริษัทประกันภัย โดยกรณีฟันหักเบิกเงินไป 2 ครั้ง จากบริษัทประกัน ได้เงินจำนวน 1,180,000 บาท ส่วนกรณีตาบอดทางบริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายเงิน และถูกบริษัทประกันภัยหลายบริษัทฟ้องร้องในข้อหาฉ้อโกงประกันภัย
“สำหรับนายเบนซ์ เดิมทีอยู่กับพ่อเลี้ยงซึ่งมีอาชีพปล่อยเงินกู้ที่ตลาดไท แต่ไปขโมยเงินเพื่อไปเล่นเกม จึงถูกจับมัดไว้ ก่อนเรียกนายจักรกฤษณ์ มารับตัว จากนั้นนำมาล่ามโซ่ไว้ที่บ้าน ชาวบ้านมาถามว่าทำไมล่ามโซ่เด็ก นายจักรกฤษณ์ ก็อ้างว่า เด็กติดยาเอามาบำบัด หลังจากนั้นก็ลงมือซ้อมทุกวันจนเด็กหวาดกลัว สั่งทำอะไรก็ต้องทำ สภาพร่างกายของ นายเบนซ์ ที่เราพบ ถูกทำร้ายทั้งตัว ถูกยิงด้วยปืนบีบีกัน ตาบอด ซี่โครงหัก มีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง ขณะนี้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ” ที่ปรึกษา(สบ10) ระบุ
จากการสอบสวน นายจักรกฤษณ์ รับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่า น.ส.สุภาพ จริงซึ่งเป็นการทำไปโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากตนเองเป็นคนอารมณ์ร้อน เมื่อโมโหไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เคยป่วยเป็นโรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์สองขั้ง รักษาตัวที่ รพ.สินแพทย์ แต่ตนไม่ชอบรับประทานยาที่แพทย์จ่ายให้ เพราะทำให้ไม่สามารถขับรถหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ ยืนยันไม่ได้เสพยาเสพติด