สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการรีวิวร้านอาหารไปนานเลย
วันนี้ขอพูดถึงร้าน Haru Bangkok หรือ Haru Izakaya & Sushi Bar
แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกเลยที่เขียนรีวิวด้วย SR เพราะมื้อนี้อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ
แต่ไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรในการรีวิวนะคะ ยกเว้นของขวัญวันเกิดค่ะ (ถือว่าไม่นับนะคะ)


ร้าน Haru Bangkok เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า
เกิดจากความชอบทานอาหารญี่ปุ่นของ และการไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยมากๆของนาง
(หรือต้องเขียนว่า นาย แต่มันไม่ได้ feel อ่ะ เป็น นาง ชั่วคราวละกันนะ)
นางจะตระเวนชิมร้านอาหารในญี่ปุ่นในทุกภูมิภาค
แล้วถ้าเมนูไหนอร่อย นางก็จะตั้งใจถ่ายรูปทุกส่วนอย่างละเอียด
เพื่อกลับมาเมืองไทย และลองผิดลองถูกในการปรุงเมนูนั้นขึ้นมาด้วยตนเอง
ให้อร่อยไม่แพ้ของต้นตำหรับจากญี่ปุ่น แต่ถูกปากคนไทยด้วย
เมื่อสำเร็จ เมนูนั้นก็จะถูกบรรจุอยู่ในเมนูประจำร้าน
เช่นเมนูนี้เป็นต้น หนึ่งใน Signature ของร้าน แต่เดี๋ยวค่อยมาบอกว่าคืออะไร อิอิ......

โดยที่นางจะเป็นผู้ QC อาหารในร้านทุกอย่างด้วยตนเอง
(เพราะงั้นก็ไม่แปลกใจเลยที่นางจะเเอบมีพุงเล็กๆ 555)พูดถึงเมนูอาหารไปแล้ว

นอกจากความละเมียดละไมในเรื่องของอาหารแล้ว
การก่อสร้าง และการตกแต่งก็เป็นอีกหนึ่งความน่ารักของนาง
เวลาเราพูดถึงประเทศญี่ปุ่น สิ่งแรกๆที่เรานึกถึงคงจะต้องมี "นกกระเรียนญี่ปุ่น" ด้วยแน่นอน
นกกระเรียนญี่ปุ่น ถือว่าเป็นนกหายากอันดับที่ 2 ของโลก
ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและความซื่อสัตย์ และเป็นนกที่จับคู่เพียงคู่เดียวตลอดชีวิต
ขอขอบคุณ Wikipedia ด้วยนะคะ สำหรับข้อมูลค่ะ เจ้าของร้านนางก็ได้ idea จากนกกระเรียน
และอยากให้ลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้าน มีความโชคดีหลังจากมาทานอาหารที่ร้าน
และหากใครมาเป็นคู่ก็ขอให้รักกันไปนานๆเหมือนนกกระเรียนที่ซื่อสัตย์ต่อคู่ของตัวเอง
จึงสร้างร้านเป็นตัวนกกระเรียนค่ะ โดยอ้างอิงแบบจากนกกระดาษที่เราพับกัน
ขอบคุณภาพจาก Facebook ของร้านนะคะ (Haru Bangkok)
วันที่ไปมัวแต่เม้ากันเพลิน ลืมถ่ายรูปร้านเลย


เท่านั้นยังไม่พอ ภายในร้านยังมีรอยพับของกระดาษ ซึ่งถือว่าเป็นท้องของนกอีกด้วย


และเพื่อเป็นการให้เห็นภาพ และเข้าใจอย่างถ่องแท้
นางก็ขอกระดาษพับนกจากที่ร้านมาให้เพื่อนๆ และเจ้าของวันเกิดนั่งพับกัน
สำหรับเพื่อนๆที่ไปทานอาหารที่ร้าน Haru สามารถขอกระดาษมาลองพับกันได้นะคะ
วันนั้นไปกัน 6 คน ก็เลยมีนกน้อยอยู่ 6 ตัวค่ะ


เกริ่นกันมายาวนานมาก จะบอกว่าก็ยังไม่ถึงรายการอาหารนะคะ
เพราะอย่างที่บอกนางเป็นคนละเมียดละไม และเก็บทุกรายละเอียดจริงๆ
ดังนั้นกว่าร้าน Haru จะออกมาเป็นรูปเป็นร่างนี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะคะ
สิ่งต่อไปเวลาพูดถึงประเทศญี่ปุ่น Sakura ต้องเป็นอีกอย่างหนึ่งที่เรานึกถึงแน่นอน
ดังนั้นเมื่อคุณไปที่ร้าน Haru คุณก็จะได้พบกับซากุระเช่นกัน


สามเหลี่ยมเหล่านี้ เกิดจากการที่คุณเอาดอกซากุระมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ
แล้วที่ฮารุก็เอาดอกซากุระนี่ โปรยไว้ทั่วร้าน ตามกระจก ประตู ใครเห็นก็เข้าใจว่ามันคือซากุระนะคะ
ไม่ใช่แค่ สามเหลี่ยมที่ใช้ตกแต่งร้านเฉยๆ
นอกจากซากุระภาพนิ่งแล้ว ใครที่เป็นสาวก Pokemon Go ทุกวันเวลา 6 โมง ถึงหนึ่งทุ่ม
ที่ร้านก็จะโปรยซากุระ เพื่อให้เพื่อๆมาจับ Pokemon ที่ร้านกันได้นะคะ
โดยที่ Pokemon ที่ร้านจะเป็นธาตุน้ำค่ะ เพราะข้างๆร้านมีคลองเล็กๆอยู่
หากใครจับ Pokemon ที่มี CP เกิน 100 ได้ที่ร้าน ทางร้านจะแจก Sushi ฟรี  1ชิ้นด้วยค่ะ


ความเป็นมาของร้าน อาหาร และการตกแต่งก็ประมาณนี้ค่ะ
ตอนนี้ก็ถึงเวลาอาหารซะที แต่ก่อนหน้านั้นก็ต้องเดินเข้าร้านซะก่อน
วันนั้นเรานัดกัยด้วย Theme : White Shirt & Blue Jean ค่ะ


แต่ด้วยธรรมเนียมของคนญี่ปุ่น เราก็ต้องล้างมือก่อนทานอาหารด้วยนะคะ 5555
ล้อเล่นนะคะ ใครต้องการล้างมือก็ขอเชิญที่ห้องน้ำจะดีกว่าค่ะ


จะได้เข้าร้านแล้ว เย้.........!!!!!


พอมาถึง เนื่องจากคนอื่นๆยังมาไม่ครบ ก้อยเลยสั่งอาหารทานเล่นก่อน
ช่วงนี้ชอบมากจริงๆ ถั่วแระญี่ปุ่น แปะก๊วย และยำปลาแซลมอน อร่อย.......ทานแล้วฟิน
แต่พอนางมาถึงเท่านั้นแหละ นางบอกว่า "ก้อย!!!!"
เราเลี้ยงอาหารจริงจังนะ ไม่ได้เลี้ยงอาหารกินเล่น ใครให้สั่งถั่วมากิน เดี๋ยวซื้อจากโลตัสมาให้เลย 5555


จากนั้นนางก็เป็นผู้ลงมือสั่งอาหาร เพราะไม่ไว้ใจให้ก้อยสั่งแล้ว หุหุ.....
อาหารทานเล่นจานแรกมาแล้วค่ะ สลัดปลาเงิน
พออาหารเสิร์ฟ ถ่ายรูปเสร็จ ก็ต้องคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนทานนะคะ ..... อย่อย


จานที่ 2 สำหรับคนที่ชอบทาน Sashimi ขอบอก นุ่ม ลื่น ชิ้นหย่ายยยยยย
ทานแล้วฟินอ่ะ บอกเลย จานนี้ที่ก้อยชอบมากที่สุดคือ ปลาหมึก แซลมอน แล้วก็ฮามาจิ
เพราะได้ชิมไป 3 อย่างเอง 55555 ตักไม่ทันคนอื่นๆ เค้าเป็นเจ้าของวันเกิดนะ ทำไมแย่งเค้ากินอ่ะ ฮือๆๆๆ


จานที่ 3 หอยเชลล์ฮอกไกโด โอ๊ยยยยยยยยย สุดๆอ่ะจานนี้
ยอมอ้วนเลยทีเดียว ชีสเยิ้มๆ รสเผ็ดหน่อยๆ (จริงๆก็ไม่ค่อยหน่อยเท่าไหร่)
แต่เอาเป็นว่ามันอร่อยก็แล้วกัน เสิร์ฟมาคนละตัว ...... ทำไมนางไม่ถามเรานะว่าอยากได้ตัวที่ 2 รึป่าว 55


จานที่ 4 ชาบูหมูคุโรบุตะ อร่อยอีกเช่นกัน
น้ำซุปอร่อยเจ้มจ้น ใส่ซอสงาแล้วก็พอนสึผสมลงไปด้วยเล็กน้อย เรียกน้ำย่อยดีแท้


และกิมมิคที่สำคัญอีกอย่างของที่ร้าน คือจะมีวุ้นคอลลาเจน เสิร์ฟมาให้ลูกค้าผสมลงในชาบูด้วยนะ
เรียกได้ว่า นอกจากจะอิ่มอร่อยแล้ว ยังสามารถมีผิวที่สวยงามควบคู่กันไปได้ด้วย
เสิร์ฟร้อนๆ ให้คนละชาม


จานที่ 5 ไม่อยากจะบอกเลยว่า กำลังลดน้ำหนักอยู่ ฮือๆๆๆๆ
ลดมาตลอดชีวิต แต่ก็ไม่ผอมจริงๆซะที 5555
จานนี้ก็อร่อยทุกคำเช่นกัน ชอบมากสุดคือ Sushi หน้า Foir Gras


ระหว่างรอของคาวเมนูสุดท้าย ก็อยากให้ลองสั่งเครื่องดื่มนี้มาชิมกันดูนะคะ
วุ้นในน้ำข้าวหมักรสบ๊วยค่ะ 555 อร่อยนุ่มนวล แต่ถ้าทานเยอะก็อย่าขับรถกันนะคะ


จานสุดท้ายมาแล้นนนนนนนนน
ใครที่ชอบข้าวอบ และหมูสามชั้น และน้ำซุปอร่อยๆไม่ควรพลาดเด็ดขาดค่ะ


Zoom ................ m ล้านตัว


เวลาทาน เราก็ทานได้ 2 แบบคือแบบที่ 1ทานเป็นข้าวอบธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา


แบบที่ 2 ทานเป็นเหมือนข้าวต้ม เติมน้ำซุปลงไป
ตอนแรกว่าทานแบบข้าวอบฟินแล้วนะ เติมน้ำซุปลงไป ฟินกว่าบอกเลย


มาถึงขนมหวานจานสุดท้ายแล้วค่ะ โมจิปั้นสดไส้ถั่วแดง


ส่วนแก้วเล็กด้านข้าง แถมมาให้ชิมเล่นๆค่ะ น้ำหมักข้าวเช่นกัน
ขอบอกว่าน้ำหมักข้าวร้านนี้ อร่อยทุกขนานจริงๆ


ไปถึงร้านตั้งแต่หกโมงเย็น กว่าจะได้กลับบ้านก็สี่ทุ่มกว่า
เพราะมีท่านรองเสฯ โดนผบ.ที่บ้านโทรตาม ไม่งั้นคงยังไม่ได้กลับบ้าน เม้ากันสนุกมากจริงๆ 555

ขอจบรีวิววันนี้แต่เพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับอาหารอร่อยๆ
การเรียนรู้ และเปิดโลกใหม่ๆ ก็ทำให้เราได้เพื่อนใหม่ พร้อมกับมิตรภาพที่ดี
#RSU #Ph.D. #Leadership10

สำหรับพิกัดของร้านตามไปได้เลยที่นี่ค่ะ
เปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 11.30 - 14.00น. และ 17.00 - 22.00น.
โทรไปจองโต๊ะก่อนได้ที่เบอร์ 098-278-2266 หรือ 02-515-0058