ที่มา :
http://www2.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000086578
สำนักงาน กสทช. เตรียมเรียก ดีแทค เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีหญิงไทยทำงานที่ฟิลิปปินส์โดนหมายศาลเรียกให้ชำระค่าบริการ จำนวน 4 แสนกว่าบาท จากเบอร์ที่เธออ้างว่าไม่เคยใช้ บริการ ด้านดีแทคระบุมีหลักฐานการเปิดใช้งาน พร้อมบันทึกการใช้งานเกิดขึ้นที่ฟิลิปปินส์จริง
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.ได้รับการร้องเรียนจากนายประสงค์ อยู่ไพร อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 8 ต.นิคมคำสร้อย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร บิดาของน.ส.จงจิตร อยู่ไพร ผู้เสียหายว่า มีหมายศาลจังหวัดมุกดาหาร มาที่บ้านแจ้งว่า ลูกสาวซึ่งเดินทางไปทำงานอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์จนถึงปัจจุบันค้างชำระค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด 2 เลขหมาย เป็นจำนวนเงิน 438,853.85 บาท
น.ส.จงจิตร ได้อ้างต่อสำนักงาน กสทช. ว่า ปัจจุบันเธอทำงานอยู่ที่ฟิลิปปินส์ และช่วงเวลาที่บริษัทฯ เรียกเก็บค่าใช้บริการเธออยู่ที่ฟิลิปปินส์ และไม่เคยเปิดใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับทางบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัดเลย จึงมอบหมายให้ นายประสงค์ อยู่ไพร บิดาเข้าแจ้งความเป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรนิคมคำสร้อย และได้ร้องเรียนมายังสำนักงาน กสทช. เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นสำนักงาน กสทช.ได้ทำการตรวจสอบไปยังสถานีตำรวจภูธรนิคมคำสร้อยแล้ว พบว่า นายประสงค์ อยู่ไพร ได้มาแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานจริง ขั้นตอนต่อไปสำนักงาน กสทช. จะเร่งตรวจสอบหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหมด และจะเรียกให้บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัดเข้ามาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ได้ข้อสรุปต่อไป
นายฐากร กล่าวว่า สำนักงาน กสทช.จะดูแลคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้งาน หากประชาชนมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถร้องเรียนมาได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำนักงาน กสทช. หมายเลขโทรศัพท์ 1200 (ฟรี)
ทางด้านดีแทคขอชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ดีแทคมีหลักฐานยืนยันว่าลูกค้ามาจดทะเบียนจริง โดยใช้หลักฐานเป็นสำเนาบัตรประชาชนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2557 ที่สำนักงานดีแทค เดอะมอลล์ บางกะปิ เจ้าหน้าที่ดีแทคได้ทำการจดทะเบียนถูกต้องตามกระบวนการและกฎของ กสทช.
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบันทึกการใช้งานทั้ง 2 เลขหมาย ยังพบว่ามีการใช้งานจริง ทั้งในประเทศฟิลิปปินส์ในบริการข้ามแดนอัตโนมัติกลับมาประเทศไทยและอื่นๆ พร้อมทั้งภายในประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีการเรียกเก็บค่าบริการรายเดือนในการใช้งานที่เกิดขึ้นตามหลักฐานเจ้าของหมายเลขตามปกติตลอดมา
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการเปิดเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งจงใจหละหลวม หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยังพบเมื่อเร็วๆ นี้ ทางทรูมูฟ เอช ได้มีลูกค้าร้องเรียนผ่านหน้าเว็บไซต์พันทิป ระบุถึงการนำสำเนาบัตรประชาชนไปเปิดเบอร์ทรู ซึ่งเกิดกรณีพนักงานนำสำเนาบัตรประชาชนไปใช้เปิดเลขหมาย โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบ และทางทีมงานทรูได้ออกมายอมรับแล้วว่าเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นจริง และยืนยันว่าจะลงโทษตามกฎของบริษัทเนื่องจากเป็นการกระทำโดยไม่ได้คำนึงถึงความเสียหาย และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวลูกค้า
“ฐากร” เตรียมเรียกดีแทคแจงเก็บค่าบริการ 4 แสนจากคนไม่เคยใช้เบอร์
สำนักงาน กสทช. เตรียมเรียก ดีแทค เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีหญิงไทยทำงานที่ฟิลิปปินส์โดนหมายศาลเรียกให้ชำระค่าบริการ จำนวน 4 แสนกว่าบาท จากเบอร์ที่เธออ้างว่าไม่เคยใช้ บริการ ด้านดีแทคระบุมีหลักฐานการเปิดใช้งาน พร้อมบันทึกการใช้งานเกิดขึ้นที่ฟิลิปปินส์จริง
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.ได้รับการร้องเรียนจากนายประสงค์ อยู่ไพร อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 8 ต.นิคมคำสร้อย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร บิดาของน.ส.จงจิตร อยู่ไพร ผู้เสียหายว่า มีหมายศาลจังหวัดมุกดาหาร มาที่บ้านแจ้งว่า ลูกสาวซึ่งเดินทางไปทำงานอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์จนถึงปัจจุบันค้างชำระค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด 2 เลขหมาย เป็นจำนวนเงิน 438,853.85 บาท
น.ส.จงจิตร ได้อ้างต่อสำนักงาน กสทช. ว่า ปัจจุบันเธอทำงานอยู่ที่ฟิลิปปินส์ และช่วงเวลาที่บริษัทฯ เรียกเก็บค่าใช้บริการเธออยู่ที่ฟิลิปปินส์ และไม่เคยเปิดใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับทางบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัดเลย จึงมอบหมายให้ นายประสงค์ อยู่ไพร บิดาเข้าแจ้งความเป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรนิคมคำสร้อย และได้ร้องเรียนมายังสำนักงาน กสทช. เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นสำนักงาน กสทช.ได้ทำการตรวจสอบไปยังสถานีตำรวจภูธรนิคมคำสร้อยแล้ว พบว่า นายประสงค์ อยู่ไพร ได้มาแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานจริง ขั้นตอนต่อไปสำนักงาน กสทช. จะเร่งตรวจสอบหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหมด และจะเรียกให้บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัดเข้ามาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ได้ข้อสรุปต่อไป
นายฐากร กล่าวว่า สำนักงาน กสทช.จะดูแลคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้งาน หากประชาชนมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถร้องเรียนมาได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำนักงาน กสทช. หมายเลขโทรศัพท์ 1200 (ฟรี)
ทางด้านดีแทคขอชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ดีแทคมีหลักฐานยืนยันว่าลูกค้ามาจดทะเบียนจริง โดยใช้หลักฐานเป็นสำเนาบัตรประชาชนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2557 ที่สำนักงานดีแทค เดอะมอลล์ บางกะปิ เจ้าหน้าที่ดีแทคได้ทำการจดทะเบียนถูกต้องตามกระบวนการและกฎของ กสทช.
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบันทึกการใช้งานทั้ง 2 เลขหมาย ยังพบว่ามีการใช้งานจริง ทั้งในประเทศฟิลิปปินส์ในบริการข้ามแดนอัตโนมัติกลับมาประเทศไทยและอื่นๆ พร้อมทั้งภายในประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีการเรียกเก็บค่าบริการรายเดือนในการใช้งานที่เกิดขึ้นตามหลักฐานเจ้าของหมายเลขตามปกติตลอดมา
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการเปิดเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งจงใจหละหลวม หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยังพบเมื่อเร็วๆ นี้ ทางทรูมูฟ เอช ได้มีลูกค้าร้องเรียนผ่านหน้าเว็บไซต์พันทิป ระบุถึงการนำสำเนาบัตรประชาชนไปเปิดเบอร์ทรู ซึ่งเกิดกรณีพนักงานนำสำเนาบัตรประชาชนไปใช้เปิดเลขหมาย โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบ และทางทีมงานทรูได้ออกมายอมรับแล้วว่าเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นจริง และยืนยันว่าจะลงโทษตามกฎของบริษัทเนื่องจากเป็นการกระทำโดยไม่ได้คำนึงถึงความเสียหาย และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวลูกค้า