ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 40 ไต่สันเทือกเขาแอนดิส จากเอกวาดอร์ ผ่านทะเลทราย ทะเลภูเขาหิน ทะเลจริง ถึงกรุงลิมา เปรู
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=-xLHj5Py6Fc&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk&index=15
https://www.youtube.com/watch?v=bVyxcLwXPE0&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk&index=16
วันเสาร์ที่ 23 ก.ค. เช้าวันนี้เราร่ำลาคุณซานดร้า และคุณเอริค ออกเดินทางจากกรุงกิโต้ เมืองหลวงของเอกวาดอร์ ประเทศที่มีพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศไทย คือ 256,370 ตร.กม. มีประชากร 14 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัว $4,316 ต่อปี ใช้เงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา พูดภาษาสเปน ที่มีผู้คนเป็นมิตร ค่าครองชีพพอๆ กับเมืองไทย ในขณะที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยกว่าไทย 1 เท่า....พื้นที่ของประเทศอยู่บนที่สูงเป็นส่วนใหญ่ มีเทือกเขาแอนดีส ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เป็นจุดเด่น...อาหารการกิน ค่อนข้างจะแตกต่างจากประเทศในเขตอเมริกากลาง คือ ไม่นิยมนำข้าวโพดมาบดเป็นแป้ง นิยมกินทั้งเมล็ด เหมือนบ้านเรากินข้าว แต่เขาต้องเอาข้าวโพดแห้งไปแช่เหมือนแช่ข้าวเหนียว ก่อนเอาไปหุง😊😊😊😊
มีผลไม้ และอาหารหลากหลาย แต่เรายังไม่เห็นว่า มีปลาขายในตลาดเลย...ป้าเห็นมีร้านขายมะพร้าวขูด และบริการคั้นกะทิด้วย เหมือนบ้านเราเลย🙄🙄🙄🙄
จนถึงวันที่ 3 ที่เราอยู่ในกิโต้ เราใช้เงินไปทั้งหมด ไม่รวมค่าเครื่องบิน $ 58 คิดเป็นเงินไทย 2,030 บาท ถ้ารวมค่าเครื่องบินด้วย ก็ 34,000 บาท ค่าเครื่องบินแพงมาก ข้ามแค่ประเทศเดียว บินแค่ 3 ชม....สิ่งที่เราเห็นนอกเหนือจากความสวยงาม ก็มีคนไร้บ้านอยู่บ้าง มีอุนจิทั้งของหมาและของคนอยู่ตามทางเท้าพอสมควรแก่การระมัดระวังในการก้าวเดิน มีกลิ่นปัสสาวะ อยู่ตามข้างกำแพงทั่วไป ตอนเช้าเจ้าของร้านต้องล้างทางเท้าหน้าร้านก่อนเปิดร้าน เพื่อป้องกันลูกค้าเหยียลสิ่งไม่พึงประสงค์เข้าไปในร้าน😂😂😂😂
บ้านที่มีเว้าเข้าไปในกำแพง พอจะนั่งได้ เขาใช้เหล็กแหลมฝังลงไปในซีเมนต์กันคนนั่ง หรือนอน ตอนกลางคืน เพราะถ้าปล่อยให้นั่ง หรือ นอนได้ ก็จะมีการปล่อยของเสียหน้าบ้าน หรืออาคาร เนื่องจากไม่ปรากฏห้องน้ำสาธารณะในสายตาเลย ไม่ว่าจะเดินไปถนนใดๆ...อาคารบ้านเรือนหลายๆ ถนนตกแต่งแบบบาวาเรียน ในเยอรมนี ทั้งดอกไม้ประดับนอกหน้าต่าง และภาพวาดลวดลาย ขอบหน้าต่าง ประตู เป็นเมืองแห่งศิลปะวัฒนธรรม จริงๆ แม้แต่ดอกหญ้าที่ขึ้นเองตามข้างถนน ก็เป็นเยอบีร่า สีเหลือง😃😃😃😃
เช้าวานนี้เราเห็นคนสวมผ้าคลุมไหล่เป็นเสื้อคลุมสีแดง ที่นิยมแต่งกันที่เมืองแห่งศิลปะใกล้ๆ เมืองกิโต้ด้วย แต่ถ่ายรูปไม่ทัน😉😉😉😉
การเดินทางโดยเครื่องบิน เข้าเอกวาดอร์ โดยผ่านตม.ที่สนามบินกิโต้ ไม่มีการสัมภาษณ์ หรือ เสียค่าใช้จ่ายใดๆ จนท.ได้พาสปอร์ตไป ก็รูด เช็ค แล้วประทับตรา เป็นเสร็จสมบูรณ์ ไม่แน่ใจว่า เพราะการถือพาสปอร์ตประเทศไทย ไม่ต้องขอวีซ่า แต่สามารถอยู่ได้ 90 วัน อย่างเดียวเลย หรือว่า เขาได้เห็นรายการประทับตราเข้า ออกประเทศต่างๆ มาแล้ว หรือ จะเป็นเพราะเข้ามาทางสนามบิน🙄🙄🙄🙄
เช้าวันนี้มีเรื่องผิดหวัง 1 เรื่อง คือ พอขึ้นไปที่ห้องครัว แล้วปรากฎว่า แก๊สหมด ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร😣😣😣😣
โชคดีที่เราแบ่งซุปเนื้อ กับ หมูผัดพริก และถั่วต้ม ที่ทำตอนเย็นไว้...แต่เราก็ต้องพกพาไข่สดติดตัวไปอีก😶😶😶😶😶
ตอนเช็คเอาท์ จ่ายเงินกับลูกชายเจ้าของที่พัก ได้บอกปัญหา เขาฟังไม่เข้าใจ บังเอิญน้องที่เช็คเอาท์พร้อมกัน แปลให้ฟัง เขาทำหน้างงๆ แล้วบอกว่า ให้ไปซื้อที่ร้านข้างๆ เหมือนตอนที่ป้าถามหาไฟแช็ค...แต่คราวนี้ เป็นป้า กับน้องล่าม ที่งง🙄🙄🙄🙄
มันจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะป้าเห็นมีถังแก๊สสำรองวางอยู่คู่กัน...คนที่ใช้คนสุดท้าย เมื่อคืน และอาจนั่งสูบบุหรี่ต่อ เป็นคนใช้หมด เพราะป้าล้างอุปกรณ์ เช็ดเก็บเข้าที่ ก่อนออกจากห้องครัว และซักผ้าเช๋ดครัว ตากไว้ที่ขอบเก้าอี้ ๅแต่เช้านี้ มีอุปกรณ์คว่ำไว้ข้างอ่างล้างจาน ผ้าเช็ดครัวก็เปียก และสกปรก🙄🙄🙄
แต่ป้าก็ได้ข้อมูลการเที่ยวมาชู ปิชู จากน้องล่าม ที่ไม่ได้ถามชื่อ เพราะเธอแบกเป้เตรียมออกเดินทาง...ข้อมูลตรงกับที่เราค้นกันเมื่อคืนนี้...เราต้องไปลุ้นเอาข้างหน้า ว่า จะต้องทำอย่างไรกันต่อ เพราะวางแผนล่วงหน้าไม่ได้ ไม่เหมือนไปเครื่องบิน และจองที่พัก กับตั๋วรถไฟล่วงหน้าแล้ว...เราต้องไปเสี่ยงเอา ว่า จะมีตั๋วรถไฟหรือไม่...และมันอาจจะมีอะไรดีๆ รอเราอยู่ เหมือนที่กิโต้ นี่ไง😃😃😃😃
เราออกจากที่พักเวลา 08.30 น. เดินขึ้นไปที่จุดจอดรถ Hermano Miguel สถานีใกล้ที่สุด แต่ไม่ใช่จุดจอด Trolerbus ถามจนท.ขายตั๋ว เธอบอกว่า ขึ้นที่นั่นได้ ให้ไปลงที่สถานี Christobal Colon จ่ายเงินคนละ $.25 จนท.ชาย รับเราเข้าสถานี แล้วคอยบอกให้เราขึ้นรถ เราไม่ทันเห็นป้ายชื่อรถ แต่ขอบอกว่า จนท. บริการดีมาก ใครมาก็ถาม และได้รับการบริการที่ดี😊😊😊😊
ขณะที่ยืนรอรถ ลุงบังเอิญเห็นห้องน้ำหลังสถานี แสดงว่า มีห้องน้ำสาธารณะ แบบจ่ายเงินอยู่ในจุดที่เรามองไม่เห็น จึงขอแก้ข้อความว่า ไม่เห็นมีห้องน้ำสาธารณะ ที่ได้พูดไปแล้ว😉😉😉😉
พอรถคันที่ใช่มาเขาก็ให้เราขึ้น แล้วเราก็ต้องไปถามต่อบนรถ...คราวนี้มองรอบตัว แล้วเอาแผนที่ถามเลย เขาบอกว่าอีก 2 ป้าย แต่คนที่บอกลงไปก่อน พอมีคนใหม่ขึ้นมา ท่าทางจะบอกเราได้ ป้าก็ถามต่อ เขาบอกว่า อีก 2 ป้าย แสดงว่า คนแรกนับป้ายต่อจากที่เขาลง คนที่อยู่ข้างๆ ที่ลงทีหลังเราคอยบอกให้เราลง เมื่อถึงป้าย....วันนี้ค่อยยังชั่ว ไม่เลย ถ้าเลยก็แย่ เพราะแบกเป้ตั้งแต่ที่พัก จนลงรถ แล้วเดินต่อโดยไม่ได้วางเลย😐😐😐😐
ลงรถได้ถามคนที่ใช่ เธอชื่อ Nelly Canamar ท่าทางมีความรู้ และชอบอ่านเรื่องท่องเที่ยว เธอรู้จักประเทศไทยด้วย...ได้เพื่อนเพิ่มอีก 1 คน😄😄😄😄
ถึงสถานี Cruz del Sur 9.00 น. เวลาเหลือเฟือ...หาเน็ตใช้ ถึงสัญญญาณ จะอ่อน แต่ก็พอจะส่งข้อความได้😊😶😶😶
ตอนนี้ใกล้ 10.30 น. รู้สึกร้อนมาก คงต้องถอดเสื้อบางตัวออก หลังจากชิ้นแรกที่เอาออก คือ ผ้าพันคอ😃😃😃😃
รถออกเวลา 11.15 น. ลักษณะรถเป็นรถวีไอพี คล้ายๆ นครชัยแอร์ มีทีวี พร้อมหูฟังส่วนตัว แต่ไม่มีเครื่องนวด ปรับเอนนอนได้ ที่ว่างสำหรับวางขากว้างขวาง มีห้องน้ำในตัว อยู่ที่บันไดขึ้น ลงชั้นสอง ตรงกลางรถ ด้านล่างหลังคนขับเป็นชั้น 1 ราคา $135 ....?
รถวิ่งบนเทือกเขาแอนดีส ไปตามสันเขาบ้าง เลียบไปตามไหล่เขา และหุบเขาบ้าง ที่ราบเชิงเขา และตามไหล่เขาสูงที่โล่งเตียน เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงวัว
ภูเขาที่อยู่ริมทาง มีทั้งภูเขาหิน และภูเขาที่มีต้นไม้ที่หาค่าไม่ได้ มีไม้คายไม่อยากเรียกเป็นลำ เพราะมันดูเล็กเกินไป ไม่ได้เป็นกอ เหมือนป่าทางเหนือ หรือ อีสาน😉😉😉
รถวิ่งต่อไปถึงเขตชุมชนหนึ่ง มีลักษณะเหมือนชุมชนข้างทางเล็กๆ ที่มีนักบุกเบิกไปก่อร่างสร้างตัว จากการจัดถนนใหม่ แต่ลักษณะบ้านไม่ได้ใหม่...เป็นบ้านเก่า หลังเล็ก เป็นดินบ้าง อิฐบ้าง ปูนบ้าง หลังคาราบด้วยพื้นปูนบ้าง สังกะสี้ก่าบ้าง กระเบื้องเก่าบ้าง...พวกขายังคงใช้ฟืน และถ่านในการประกอบอาหาร...ในเมืองกิโต้ ไม่เห็นการใช้ฟืนเลย...แต่เป็นชุมชนที่มีมหาวิทยาลัย ใหญ่พอๆ กับมหาวิทยาลัยทางการศึกษา ดอนบอสโก้ ที่เมืองเก่ากิโต้เลย😊😊
มีโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ที่จำเป็นสำหรับคนในเมืองเล็กๆ และคนเดินทาง😊😊😊
ต่อไปเป็นภูเขาหินที่ยอดสูงสุดมีการแกะสลัก ชื่อบุคคสำคัญ...เห็นมีการไถบริเบณรอบๆ เหมือนกำลังทะลายภูเขาสร้างถนน หรือไม่ก็จะทำเป็นลานชมวิว เพราะอยู่ที่สูง สลับกับป่าเสื่อมโทรม...ที่แปลก คือ มีบางจุด มีน้ำใส ไหลรินๆ เป็นสายเล็ก ผ่านซอกหิน ลงมาข้างถนน🙄🙄🙄🙄
ผ่านไปอีก มีการแกะสลักหน้าคน แต่ดูเหมือนใกล้จะถึงเวลา พังทะลาย เพราะ ฟันที่อยู่ในปาก เริ่มหายไปบ้างแล้ว😐😐😐😐
ชุมชนต่อมาเริ่มอุดมสมบูรณ์ มีร้านขายอาหารริมถนน เหมือนริมทางแถวๆ ทางเข้ายโสธร และอุบลราชธานี ด้านม่วงสิบต้น😊😊😊
ชุมชนต่อๆ ไปทางใต้ เริ่มอุดมสมบูรณ์ ขึ้นเรื่อยๆ มีการตั้งเพิงขายผลไม้หลายอย่าง ได้แก่ กล้วยพื้นเมือง กล้วยไข่ สับปะรด ส้มเกลี้ยง อ้อยควั่น น้ำอ้อยสด😊😊😊
ยิ่งลงทางใต้ยิ่งเห็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น...โอ้วว! นั่น...หมวกใบใหญ่ สานโปร่งๆ ด้วยไม้ไผ่ทองคำทั้งผิว รมควัน ทาแชลแล็ค ใช้กันแดด แทนร่มได้ แต่คงกันฝนไม่ได้ น่าจะเอาไปแต่งบ้านมากกว่า😁😁😁😁
คราวนี้ผ่านป่าไม้ไผ่ทองคำ กอใหญ่ ไม้ไผ่อื่นๆ ก็มี ไร่กาแฟ ไร่ข้าวโพด มันสำปะหลัง สวนปาล์ม สวนกล้วย
สวนมะแฮะ มะม่วง ส้ม มะนาว มีความชุ่มชื้นขนาดเป็นป่าบอน กับต้นอะไร คล้ายๆ คูนที่เราเอามาแกง หรือ กินกับส้มตำ แต่พวกโพลินีเชี่ยนเอาไปห่อหมูทั้งตัว ร่วมกับใบตอง แล้วเอาหมูลงไปอบในโพรงดิน เพราะใบมันใหญ่และแข็ง...อันนี้เคยอ่านมา😅😅😅😅แล้วก็เคยเห็นตอนไปนิวซีแลนด์ มันใหญ่มาก!!!
ดงมหาหงส์ ที่เคยปลูกไว้ให้ส่งกลิ่นหอมตอนกลางคืน ก็มีทั้งขึ้นเอง และปลูก ส่วนวิหกหรรษา กับปักษาสวรรค์ เป็นพืชขึ้นเอง ที่มีอยู่ทั่วไป
ต้นอะไรใบคล้ายใบตอง แต่กลมๆ ก้านแข็ง ยาว บ้านเราใช้เป็นไม้ประดับก็เยอะไปหมด บางที่ มันอยู่ในไร่พืชเศรษฐกิจ บนเขา เป็นสีขาวๆ สะท้อนแสง มองเห็นแต่ไกล....มีต้นฝ้ายกำลังบาน เขาเพาะต้นกล้ากาแฟขายด้วย😊😊😊😊
ตอนบ่ายโมง ลุงหิวมาก เหลียวซ้าย แลขวา ไม่มีวี่แววว่า เขาจะแจกอาหาร จึงเอากล้วยต้ม ขึ้นมากินกัน...รสชาติมัน เหมือนกล้วยดิบต้ม ผสมเผือก ทั้งๆ ที่มันเป็นกล้วยห่าม...ตอนแรก กะจะกินแค่คนละครึ่งลูก แต่หยุดไม่อยู่ เอาออกมาอีก คนละครึ่งลูก...ดื่มน้ำตามไป อิ่มพอดี😄😄😄😄
เวลา 13.30 น. เขาเปิดไฟ แล้วประกาศ เราฟังไม่รูเรื่อง แต่คนอื่นกางที่วางอาหาร...นึกแล้วเชียว ว่า จะต้องเป็นแบบนี้ เพราะถามคนขายตั๋ว บอกว่า มีอาหารกลางวัน อาหารว่าง และกาแฟ😋😋😋😋
ตอนขึ้นรถ ลุงเห็นเขาขนข้าวกล่องขึ้นรถ และตอนซื้อตั๋ว เขาก็เช็คว่า ไก่ หรือ มังฯ
อาหารมาเป็นกล่อง มีข้าวหุงใส่เกลือกับน้ำมัน ไข่ดาว สเต็กไก่ เฟรนช์ฟราย มาทั้งใส่ซองกระดาษแข็งเล็กๆ กับแปะมาบนข้าว มะเขือเทศฝานบางๆ 1 ชิ้น กับผักสลัด 1 ใบ มีน้ำจิ้ม ทำจากมะแฮะดองเป็นแบบหลนในกะทิ รสชาติออกเค็มๆ🙄🙄🙄🙄
เมื่อวานคุณซานดร้า กับ คุณเอริค เล่าให้ฟังว่า ไปกินอาหารพื้นเมืองแถวๆ ที่พักมา เป็นไก่ย่าง เค็มมาก พวกเขาถามว่า จะขอเปลี่ยนเป็นชิ้นอื่นได้ไหม คนเสิร์ฟ บอกว่า เหมือนกันทุกชิ้น...ป้าจึงบอกว่า นั่นเป็นเหตุผล ที่เราพยายามที่จะทำอาหารกินเอง😊😊😊😊
เห็นเขาขายไก่ย่างเสียบไม้ขายเหมือนแถวๆ อีสาน ... นึกถึงความเค็มแต่ไม่มีข้างเหนียวแล้ว คอแห้งไว้รอเลย😉😉😉😉
เพิงขายของข้างทาง เริ่มมีผักมาเพิ่ม เป็นผักกาดแก้ว กะหล่ำปลี ถั่วแขก ผลไม้ที่มาเพิ่มมีแตงโม มะพร้าว มะละกอลูกใหญ่ ป้อมๆ ห่ามๆ มีมันสำปะหลังเหง้าใหญ่ๆ หลายสิบกก. ด้วย😙😙😙😙
บางที่ เอาเมล็ดกาแฟตากไว้ริมถนน ถ้ารถเหยียบ ก็ประหยัดค่าสีไป😅😅😅 เห็นบางที่มีต้นปาล์ม ยืนคอหัก ใบแห้ง ขาวโพลน ไม่แน่ใจว่า เกิดอะไรขึ้น🙄🙄
เริ่มเห็นมีคลองส่งน้ำ ชลประทาน และแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่พึ่งพาธรรมชาติอย่างเดียว เหมือนในอเมริกากลาง....
รถวิ่งไปเรื่อยๆ ถ้าเมื่อไร รู้สึกว่า มีคันกั้นถนน แสดงว่า เข้าเขตชุมชน และก่อนเข้าเขตเมืองใหญ่ เป็นถนน 4 เลน😊😊😊
ที่สวนกล้วยเขาเอาถุงสวมกันแมลงกวนกล้วยด้วย
(ยังมีต่อ)
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กฯ อเมริกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอน 40 ไต่สันเทือกเขาแอนดิส ไปเปรู
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=-xLHj5Py6Fc&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk&index=15
https://www.youtube.com/watch?v=bVyxcLwXPE0&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk&index=16
วันเสาร์ที่ 23 ก.ค. เช้าวันนี้เราร่ำลาคุณซานดร้า และคุณเอริค ออกเดินทางจากกรุงกิโต้ เมืองหลวงของเอกวาดอร์ ประเทศที่มีพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศไทย คือ 256,370 ตร.กม. มีประชากร 14 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัว $4,316 ต่อปี ใช้เงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา พูดภาษาสเปน ที่มีผู้คนเป็นมิตร ค่าครองชีพพอๆ กับเมืองไทย ในขณะที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยกว่าไทย 1 เท่า....พื้นที่ของประเทศอยู่บนที่สูงเป็นส่วนใหญ่ มีเทือกเขาแอนดีส ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เป็นจุดเด่น...อาหารการกิน ค่อนข้างจะแตกต่างจากประเทศในเขตอเมริกากลาง คือ ไม่นิยมนำข้าวโพดมาบดเป็นแป้ง นิยมกินทั้งเมล็ด เหมือนบ้านเรากินข้าว แต่เขาต้องเอาข้าวโพดแห้งไปแช่เหมือนแช่ข้าวเหนียว ก่อนเอาไปหุง😊😊😊😊
มีผลไม้ และอาหารหลากหลาย แต่เรายังไม่เห็นว่า มีปลาขายในตลาดเลย...ป้าเห็นมีร้านขายมะพร้าวขูด และบริการคั้นกะทิด้วย เหมือนบ้านเราเลย🙄🙄🙄🙄
จนถึงวันที่ 3 ที่เราอยู่ในกิโต้ เราใช้เงินไปทั้งหมด ไม่รวมค่าเครื่องบิน $ 58 คิดเป็นเงินไทย 2,030 บาท ถ้ารวมค่าเครื่องบินด้วย ก็ 34,000 บาท ค่าเครื่องบินแพงมาก ข้ามแค่ประเทศเดียว บินแค่ 3 ชม....สิ่งที่เราเห็นนอกเหนือจากความสวยงาม ก็มีคนไร้บ้านอยู่บ้าง มีอุนจิทั้งของหมาและของคนอยู่ตามทางเท้าพอสมควรแก่การระมัดระวังในการก้าวเดิน มีกลิ่นปัสสาวะ อยู่ตามข้างกำแพงทั่วไป ตอนเช้าเจ้าของร้านต้องล้างทางเท้าหน้าร้านก่อนเปิดร้าน เพื่อป้องกันลูกค้าเหยียลสิ่งไม่พึงประสงค์เข้าไปในร้าน😂😂😂😂
บ้านที่มีเว้าเข้าไปในกำแพง พอจะนั่งได้ เขาใช้เหล็กแหลมฝังลงไปในซีเมนต์กันคนนั่ง หรือนอน ตอนกลางคืน เพราะถ้าปล่อยให้นั่ง หรือ นอนได้ ก็จะมีการปล่อยของเสียหน้าบ้าน หรืออาคาร เนื่องจากไม่ปรากฏห้องน้ำสาธารณะในสายตาเลย ไม่ว่าจะเดินไปถนนใดๆ...อาคารบ้านเรือนหลายๆ ถนนตกแต่งแบบบาวาเรียน ในเยอรมนี ทั้งดอกไม้ประดับนอกหน้าต่าง และภาพวาดลวดลาย ขอบหน้าต่าง ประตู เป็นเมืองแห่งศิลปะวัฒนธรรม จริงๆ แม้แต่ดอกหญ้าที่ขึ้นเองตามข้างถนน ก็เป็นเยอบีร่า สีเหลือง😃😃😃😃
เช้าวานนี้เราเห็นคนสวมผ้าคลุมไหล่เป็นเสื้อคลุมสีแดง ที่นิยมแต่งกันที่เมืองแห่งศิลปะใกล้ๆ เมืองกิโต้ด้วย แต่ถ่ายรูปไม่ทัน😉😉😉😉
การเดินทางโดยเครื่องบิน เข้าเอกวาดอร์ โดยผ่านตม.ที่สนามบินกิโต้ ไม่มีการสัมภาษณ์ หรือ เสียค่าใช้จ่ายใดๆ จนท.ได้พาสปอร์ตไป ก็รูด เช็ค แล้วประทับตรา เป็นเสร็จสมบูรณ์ ไม่แน่ใจว่า เพราะการถือพาสปอร์ตประเทศไทย ไม่ต้องขอวีซ่า แต่สามารถอยู่ได้ 90 วัน อย่างเดียวเลย หรือว่า เขาได้เห็นรายการประทับตราเข้า ออกประเทศต่างๆ มาแล้ว หรือ จะเป็นเพราะเข้ามาทางสนามบิน🙄🙄🙄🙄
เช้าวันนี้มีเรื่องผิดหวัง 1 เรื่อง คือ พอขึ้นไปที่ห้องครัว แล้วปรากฎว่า แก๊สหมด ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร😣😣😣😣
โชคดีที่เราแบ่งซุปเนื้อ กับ หมูผัดพริก และถั่วต้ม ที่ทำตอนเย็นไว้...แต่เราก็ต้องพกพาไข่สดติดตัวไปอีก😶😶😶😶😶
ตอนเช็คเอาท์ จ่ายเงินกับลูกชายเจ้าของที่พัก ได้บอกปัญหา เขาฟังไม่เข้าใจ บังเอิญน้องที่เช็คเอาท์พร้อมกัน แปลให้ฟัง เขาทำหน้างงๆ แล้วบอกว่า ให้ไปซื้อที่ร้านข้างๆ เหมือนตอนที่ป้าถามหาไฟแช็ค...แต่คราวนี้ เป็นป้า กับน้องล่าม ที่งง🙄🙄🙄🙄
มันจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะป้าเห็นมีถังแก๊สสำรองวางอยู่คู่กัน...คนที่ใช้คนสุดท้าย เมื่อคืน และอาจนั่งสูบบุหรี่ต่อ เป็นคนใช้หมด เพราะป้าล้างอุปกรณ์ เช็ดเก็บเข้าที่ ก่อนออกจากห้องครัว และซักผ้าเช๋ดครัว ตากไว้ที่ขอบเก้าอี้ ๅแต่เช้านี้ มีอุปกรณ์คว่ำไว้ข้างอ่างล้างจาน ผ้าเช็ดครัวก็เปียก และสกปรก🙄🙄🙄
แต่ป้าก็ได้ข้อมูลการเที่ยวมาชู ปิชู จากน้องล่าม ที่ไม่ได้ถามชื่อ เพราะเธอแบกเป้เตรียมออกเดินทาง...ข้อมูลตรงกับที่เราค้นกันเมื่อคืนนี้...เราต้องไปลุ้นเอาข้างหน้า ว่า จะต้องทำอย่างไรกันต่อ เพราะวางแผนล่วงหน้าไม่ได้ ไม่เหมือนไปเครื่องบิน และจองที่พัก กับตั๋วรถไฟล่วงหน้าแล้ว...เราต้องไปเสี่ยงเอา ว่า จะมีตั๋วรถไฟหรือไม่...และมันอาจจะมีอะไรดีๆ รอเราอยู่ เหมือนที่กิโต้ นี่ไง😃😃😃😃
เราออกจากที่พักเวลา 08.30 น. เดินขึ้นไปที่จุดจอดรถ Hermano Miguel สถานีใกล้ที่สุด แต่ไม่ใช่จุดจอด Trolerbus ถามจนท.ขายตั๋ว เธอบอกว่า ขึ้นที่นั่นได้ ให้ไปลงที่สถานี Christobal Colon จ่ายเงินคนละ $.25 จนท.ชาย รับเราเข้าสถานี แล้วคอยบอกให้เราขึ้นรถ เราไม่ทันเห็นป้ายชื่อรถ แต่ขอบอกว่า จนท. บริการดีมาก ใครมาก็ถาม และได้รับการบริการที่ดี😊😊😊😊
ขณะที่ยืนรอรถ ลุงบังเอิญเห็นห้องน้ำหลังสถานี แสดงว่า มีห้องน้ำสาธารณะ แบบจ่ายเงินอยู่ในจุดที่เรามองไม่เห็น จึงขอแก้ข้อความว่า ไม่เห็นมีห้องน้ำสาธารณะ ที่ได้พูดไปแล้ว😉😉😉😉
พอรถคันที่ใช่มาเขาก็ให้เราขึ้น แล้วเราก็ต้องไปถามต่อบนรถ...คราวนี้มองรอบตัว แล้วเอาแผนที่ถามเลย เขาบอกว่าอีก 2 ป้าย แต่คนที่บอกลงไปก่อน พอมีคนใหม่ขึ้นมา ท่าทางจะบอกเราได้ ป้าก็ถามต่อ เขาบอกว่า อีก 2 ป้าย แสดงว่า คนแรกนับป้ายต่อจากที่เขาลง คนที่อยู่ข้างๆ ที่ลงทีหลังเราคอยบอกให้เราลง เมื่อถึงป้าย....วันนี้ค่อยยังชั่ว ไม่เลย ถ้าเลยก็แย่ เพราะแบกเป้ตั้งแต่ที่พัก จนลงรถ แล้วเดินต่อโดยไม่ได้วางเลย😐😐😐😐
ลงรถได้ถามคนที่ใช่ เธอชื่อ Nelly Canamar ท่าทางมีความรู้ และชอบอ่านเรื่องท่องเที่ยว เธอรู้จักประเทศไทยด้วย...ได้เพื่อนเพิ่มอีก 1 คน😄😄😄😄
ถึงสถานี Cruz del Sur 9.00 น. เวลาเหลือเฟือ...หาเน็ตใช้ ถึงสัญญญาณ จะอ่อน แต่ก็พอจะส่งข้อความได้😊😶😶😶
ตอนนี้ใกล้ 10.30 น. รู้สึกร้อนมาก คงต้องถอดเสื้อบางตัวออก หลังจากชิ้นแรกที่เอาออก คือ ผ้าพันคอ😃😃😃😃
รถออกเวลา 11.15 น. ลักษณะรถเป็นรถวีไอพี คล้ายๆ นครชัยแอร์ มีทีวี พร้อมหูฟังส่วนตัว แต่ไม่มีเครื่องนวด ปรับเอนนอนได้ ที่ว่างสำหรับวางขากว้างขวาง มีห้องน้ำในตัว อยู่ที่บันไดขึ้น ลงชั้นสอง ตรงกลางรถ ด้านล่างหลังคนขับเป็นชั้น 1 ราคา $135 ....?
รถวิ่งบนเทือกเขาแอนดีส ไปตามสันเขาบ้าง เลียบไปตามไหล่เขา และหุบเขาบ้าง ที่ราบเชิงเขา และตามไหล่เขาสูงที่โล่งเตียน เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงวัว
ภูเขาที่อยู่ริมทาง มีทั้งภูเขาหิน และภูเขาที่มีต้นไม้ที่หาค่าไม่ได้ มีไม้คายไม่อยากเรียกเป็นลำ เพราะมันดูเล็กเกินไป ไม่ได้เป็นกอ เหมือนป่าทางเหนือ หรือ อีสาน😉😉😉
รถวิ่งต่อไปถึงเขตชุมชนหนึ่ง มีลักษณะเหมือนชุมชนข้างทางเล็กๆ ที่มีนักบุกเบิกไปก่อร่างสร้างตัว จากการจัดถนนใหม่ แต่ลักษณะบ้านไม่ได้ใหม่...เป็นบ้านเก่า หลังเล็ก เป็นดินบ้าง อิฐบ้าง ปูนบ้าง หลังคาราบด้วยพื้นปูนบ้าง สังกะสี้ก่าบ้าง กระเบื้องเก่าบ้าง...พวกขายังคงใช้ฟืน และถ่านในการประกอบอาหาร...ในเมืองกิโต้ ไม่เห็นการใช้ฟืนเลย...แต่เป็นชุมชนที่มีมหาวิทยาลัย ใหญ่พอๆ กับมหาวิทยาลัยทางการศึกษา ดอนบอสโก้ ที่เมืองเก่ากิโต้เลย😊😊
มีโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ที่จำเป็นสำหรับคนในเมืองเล็กๆ และคนเดินทาง😊😊😊
ต่อไปเป็นภูเขาหินที่ยอดสูงสุดมีการแกะสลัก ชื่อบุคคสำคัญ...เห็นมีการไถบริเบณรอบๆ เหมือนกำลังทะลายภูเขาสร้างถนน หรือไม่ก็จะทำเป็นลานชมวิว เพราะอยู่ที่สูง สลับกับป่าเสื่อมโทรม...ที่แปลก คือ มีบางจุด มีน้ำใส ไหลรินๆ เป็นสายเล็ก ผ่านซอกหิน ลงมาข้างถนน🙄🙄🙄🙄
ผ่านไปอีก มีการแกะสลักหน้าคน แต่ดูเหมือนใกล้จะถึงเวลา พังทะลาย เพราะ ฟันที่อยู่ในปาก เริ่มหายไปบ้างแล้ว😐😐😐😐
ชุมชนต่อมาเริ่มอุดมสมบูรณ์ มีร้านขายอาหารริมถนน เหมือนริมทางแถวๆ ทางเข้ายโสธร และอุบลราชธานี ด้านม่วงสิบต้น😊😊😊
ชุมชนต่อๆ ไปทางใต้ เริ่มอุดมสมบูรณ์ ขึ้นเรื่อยๆ มีการตั้งเพิงขายผลไม้หลายอย่าง ได้แก่ กล้วยพื้นเมือง กล้วยไข่ สับปะรด ส้มเกลี้ยง อ้อยควั่น น้ำอ้อยสด😊😊😊
ยิ่งลงทางใต้ยิ่งเห็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น...โอ้วว! นั่น...หมวกใบใหญ่ สานโปร่งๆ ด้วยไม้ไผ่ทองคำทั้งผิว รมควัน ทาแชลแล็ค ใช้กันแดด แทนร่มได้ แต่คงกันฝนไม่ได้ น่าจะเอาไปแต่งบ้านมากกว่า😁😁😁😁
คราวนี้ผ่านป่าไม้ไผ่ทองคำ กอใหญ่ ไม้ไผ่อื่นๆ ก็มี ไร่กาแฟ ไร่ข้าวโพด มันสำปะหลัง สวนปาล์ม สวนกล้วย
สวนมะแฮะ มะม่วง ส้ม มะนาว มีความชุ่มชื้นขนาดเป็นป่าบอน กับต้นอะไร คล้ายๆ คูนที่เราเอามาแกง หรือ กินกับส้มตำ แต่พวกโพลินีเชี่ยนเอาไปห่อหมูทั้งตัว ร่วมกับใบตอง แล้วเอาหมูลงไปอบในโพรงดิน เพราะใบมันใหญ่และแข็ง...อันนี้เคยอ่านมา😅😅😅😅แล้วก็เคยเห็นตอนไปนิวซีแลนด์ มันใหญ่มาก!!!
ดงมหาหงส์ ที่เคยปลูกไว้ให้ส่งกลิ่นหอมตอนกลางคืน ก็มีทั้งขึ้นเอง และปลูก ส่วนวิหกหรรษา กับปักษาสวรรค์ เป็นพืชขึ้นเอง ที่มีอยู่ทั่วไป
ต้นอะไรใบคล้ายใบตอง แต่กลมๆ ก้านแข็ง ยาว บ้านเราใช้เป็นไม้ประดับก็เยอะไปหมด บางที่ มันอยู่ในไร่พืชเศรษฐกิจ บนเขา เป็นสีขาวๆ สะท้อนแสง มองเห็นแต่ไกล....มีต้นฝ้ายกำลังบาน เขาเพาะต้นกล้ากาแฟขายด้วย😊😊😊😊
ตอนบ่ายโมง ลุงหิวมาก เหลียวซ้าย แลขวา ไม่มีวี่แววว่า เขาจะแจกอาหาร จึงเอากล้วยต้ม ขึ้นมากินกัน...รสชาติมัน เหมือนกล้วยดิบต้ม ผสมเผือก ทั้งๆ ที่มันเป็นกล้วยห่าม...ตอนแรก กะจะกินแค่คนละครึ่งลูก แต่หยุดไม่อยู่ เอาออกมาอีก คนละครึ่งลูก...ดื่มน้ำตามไป อิ่มพอดี😄😄😄😄
เวลา 13.30 น. เขาเปิดไฟ แล้วประกาศ เราฟังไม่รูเรื่อง แต่คนอื่นกางที่วางอาหาร...นึกแล้วเชียว ว่า จะต้องเป็นแบบนี้ เพราะถามคนขายตั๋ว บอกว่า มีอาหารกลางวัน อาหารว่าง และกาแฟ😋😋😋😋
ตอนขึ้นรถ ลุงเห็นเขาขนข้าวกล่องขึ้นรถ และตอนซื้อตั๋ว เขาก็เช็คว่า ไก่ หรือ มังฯ
อาหารมาเป็นกล่อง มีข้าวหุงใส่เกลือกับน้ำมัน ไข่ดาว สเต็กไก่ เฟรนช์ฟราย มาทั้งใส่ซองกระดาษแข็งเล็กๆ กับแปะมาบนข้าว มะเขือเทศฝานบางๆ 1 ชิ้น กับผักสลัด 1 ใบ มีน้ำจิ้ม ทำจากมะแฮะดองเป็นแบบหลนในกะทิ รสชาติออกเค็มๆ🙄🙄🙄🙄
เมื่อวานคุณซานดร้า กับ คุณเอริค เล่าให้ฟังว่า ไปกินอาหารพื้นเมืองแถวๆ ที่พักมา เป็นไก่ย่าง เค็มมาก พวกเขาถามว่า จะขอเปลี่ยนเป็นชิ้นอื่นได้ไหม คนเสิร์ฟ บอกว่า เหมือนกันทุกชิ้น...ป้าจึงบอกว่า นั่นเป็นเหตุผล ที่เราพยายามที่จะทำอาหารกินเอง😊😊😊😊
เห็นเขาขายไก่ย่างเสียบไม้ขายเหมือนแถวๆ อีสาน ... นึกถึงความเค็มแต่ไม่มีข้างเหนียวแล้ว คอแห้งไว้รอเลย😉😉😉😉
เพิงขายของข้างทาง เริ่มมีผักมาเพิ่ม เป็นผักกาดแก้ว กะหล่ำปลี ถั่วแขก ผลไม้ที่มาเพิ่มมีแตงโม มะพร้าว มะละกอลูกใหญ่ ป้อมๆ ห่ามๆ มีมันสำปะหลังเหง้าใหญ่ๆ หลายสิบกก. ด้วย😙😙😙😙
บางที่ เอาเมล็ดกาแฟตากไว้ริมถนน ถ้ารถเหยียบ ก็ประหยัดค่าสีไป😅😅😅 เห็นบางที่มีต้นปาล์ม ยืนคอหัก ใบแห้ง ขาวโพลน ไม่แน่ใจว่า เกิดอะไรขึ้น🙄🙄
เริ่มเห็นมีคลองส่งน้ำ ชลประทาน และแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่พึ่งพาธรรมชาติอย่างเดียว เหมือนในอเมริกากลาง....
รถวิ่งไปเรื่อยๆ ถ้าเมื่อไร รู้สึกว่า มีคันกั้นถนน แสดงว่า เข้าเขตชุมชน และก่อนเข้าเขตเมืองใหญ่ เป็นถนน 4 เลน😊😊😊
ที่สวนกล้วยเขาเอาถุงสวมกันแมลงกวนกล้วยด้วย
(ยังมีต่อ)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น