พอดีผมเคยมีประสบการณ์ต้องนั้งรถตู้ไปทำงาน ซึ่งเป็นทางเลือกที่รู้สึกว่าดีที่สุด แต่ปัญหามีอยู่ว่าผมก็มาเช้าตรงเวลา ที่เหมาะสมทุกวัน รถตู้นี้ต้องขึ้นที่ต้นสาย เต็มเมื่อไหร่ถึงจะออก ทั้งวันน่าจะมีแค่ 2 เที่ยวเฉพาะช่วงเช้าเนื่องจาก ปลายที่ไปไม่ค่อยมีใครไปอยู่แล้วผู้โดยสารก็หน้าเดิมๆ  รถเมล์ก็นานมาที แถมแน่น และกว่ารถเมล์จะขึ้นทางด่วน ก็ต้องผ่านจุด ที่มีรถติดมาก ในขณะที่รถตู้จะวิ่งเข้าทางหลักและขึ้นทางด่วนไปได้เลย
คราวปัญหานี้มีอยู่ว่า ระยะหลังๆ ผู้โดยสาร ปรกติ 7 โมง หรือ ไม่เกิน 7 ครึ่งก็จะเต็ม และไปถึงที่หมายทันสบาย ทีนี้กลับไม่เต็มซักที อาจเพราะรถติด มาช้า หรือไม่มา เพราะอย่างที่บอกว่าผู้โดยสารจะหน้าเดิมๆ คนผ่านๆทั้วไปที่ไม่เคยใช่ก็จะไม่รู้ไม่สนใจ เกินวันนั้นผู้โดยสารมาช้าหรือไม่มาก็ต้องรอ บางวันคนขึ้นรถตั่งแต่ 7 โมง ขาดอีก ที่ 2 ที่ก็ต้องรอไปเรื่อย ลุ้นว่าคนที่ลงรถเมล์มาจะมาขึ้น  ยิ่งสายรถก็ยิ่งติด กว่ารถเมล์จะหลุดไฟแดงมาแต่ละคันก็นาน กลับกลายเป็นว่าอุตส่าห์มาเช้า ก็ต้องมารอคนอื่น บางที่รอแค่คน 2 คนตั้งแต่ 7 โมงยันถึง เกือบ 8 โมงก็สาย สิครับ คนที่รอก็ไม่ใช่ว่านัดกับคนขับไว้แค่ว่าเต็มก็ออก
บางคน รอไม่ไหวหงุดหงิด ก็ลงไปเลย เรียก แท็กซี่ไป กลายเป็นว่าก็ต้องรอเพิ่มอีก  ทั้งที่คนขับก็น่าจะรู้ว่า คนที่ขึ้นส่วนใหญ่ก็คนทำงาน ต้องเข้างานประมาณ 8 โมง แต่เขาก็ไม่สนใจรอไปเรี่อยๆ คนในรถใครทนไม่ไหวก็ลงไป ยิ่งทำให้ไม่เต็มซักที บางครั้งผมเลยคิดว่าอย่างตอนที่ ขาดอยู่ 1 คนหรือ 2 คน ผมยินดีจ่าย เพราะถ้าไม่ไปรถตู้ผมก็ต้องไปแท็กซี่ ซึ่งแพงกว่าแน่ๆ แต่สุดท้ายผมก็ไม่ทำอย่างนั้นเพราะมีคำถามมากมาย
- ถ้าเสนอไปอย่างน้น คนขับรถตู้จะคิด อย่างไร ยินดี หรือ มองเป็นการ ประชด
- ผู้โดยสารอื่นในรถ ก็ดูจะเดื่อดร้อน บางคน ทนไม่ไหวก็ลงไป ไม่ได้คุยหรือมีความเห็นอะไรกัน ใครทนรอได้ก็รอไป คราวนี้ถ้าผมทำอย่างนั้นโดยการเสนอจ่ายเองในส่วนที่ขาด ผู้โดยสารในรถน่าจะรู้สึกอย่างไร