น่าจะมีอะไรผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงหรือไม่ มีคำพิพพากษาแบบนี้ด้วยหรือ
คำพิพากษาจะเกี่ยวเฉพาะโจทก์-จำเลย เท่านั้น ธนาคารเป็นคนนอกคดี ศาลจะสั่งแบบนี้ไม่ได้
คดีระหว่างโจทก์-จำเลย แล้วเกี่ยวอะไรกับธนาคารผู้รับจำนอง

เฉพาะข้อความที่ว่า...หากไม่ไถ่ถอนให้ทำการยึด แล้วนำออกขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชำระแก่โจทย์ โดยโจทย์เป็นผู้รับผิดชอบหนี้กับธนาคารตามเดิม.... เมื่อโจทก์ได้รับเงินแล้ว โจทก์จะมีความรับผิดอะไรกับธนาคาร  

ดังนั้นที่อ้างว่าเป็นคำสั่งศาลนั้นน่ะ ไม่น่าจะใช่แต่เป็นข้อเสนอของทนายโจทก์ ที่จะทำให้เขาได้ประโยชน์มากกว่า


เมื่อจำเลยแพ้คดี โจทก์ก็ต้องขอยึดที่ดินออกขายทอดตลาดนั่นน่ะ ถูกต้อง
แต่ที่ดินติดจำนองอยู่ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องถามไปยังธนาคารว่าจะให้ขายทอดตลาดโดยปลอดจำนอง หรือติดจำนอง
ถ้าขายโดยปลอดจำนอง  เมื่อขายได้เท่าไรก็ต้องหักเงินให้ธนาคารก่อน ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิ
ที่เหลือจึงให้เจ้าหนี้ ถ้าเหลือ จึงคืนให้แก่จำเลย
ถ้าขายโดยติดจำนอง ราคาจะน้อย เพราะคนซื้อจะได้ที่ดินติดจำนองไปด้วย ธนาคารยังมีสิทธิเหมือนเดิม

หากจำเลยไถ่ถอนที่ดิน(ชำระหนี้จำนอง) ที่ดินก็จะปลอดจำนอง การขายก็ไม่ต้องถามธนาคาร โจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับเงินจากการขายทั้งหมดเพื่อชำระหนี้  

โจทก์และจำเลยมีสิทธิการบังคับคดีได้
ข้อเสนอข้อ 1 เกิดหลังจากจำเลยไถ่ถอนที่ดิน แล้วขาย และนำเงินมาชำระหนี้แล้ว  ข้อนี้เป็นเรื่องทั่วๆไป ใช้ได้
                2.เมื่อที่ดินขายไปแล้วโจทก์ได้เงินชำระหนี้แล้ว  ที่ดินก็ไม่ใช่กรรมสิทธืของจำเลยอีกโจทก์จะมีสิทธิอะไรไปบังคับเอากับที่ดินนั้น
                3.ที่ดินเป็นกรรมสิทธื์ของจำเลยมาแต่ต้น แม้จำนองก็ยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โดยไม่ต้องให้โจทก์ยินยอม จนกระทั้งขายนำเงินมาชำระ ที่ดินจึงเป็นของผู้ซื้อ ต่อให้โจทก์ยินยอม จำเลยก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์

คำถาม
1.ไม่น่าจะเป็นคำสั่งศาล
   อย่างไรก็ตามสัญญาทุกชนิดทำกันได้  เมื่อทำสัญญากันแล้วก็ผิดสัญญากันได้ และอีกฝ่ายหนึ่งก็มีสิทธิฟ้องบังคับตามสัญญาได้
2.หากชำระเงินตามคำพิพากษาต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีๆก็จะงดการขายตามกฎหมาย