"หมอเลี้ยบ" ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีมติเอกฉันท์
มีความผิดตามมาตรา 157 ทำให้รัฐเสียหายจากการอนุมัติแก้ไขสัญญา
ลดสัดส่วนการถือหุ้นของชินคอร์ปในไทยคมจาก 51% เหลือ 40% ซึ่ง
เป็นกรณีหนึ่งที่ศาลฎีกาฯ พิพากษายึดทรัพย์ทักษิณเมื่อปี 53
อาศัยอยู่แผ่นดินไทย ก็ต้องน้อมรับคำวินิจฉัยของศาล แต่ความรู้สึกความผูกพัน
เป็นอีกเรื่องไม่เกี่ยวกัน ในขณะที่หลายคนดีอกดีใจ ได้เห็นหมอเลี้ยบติดคุกสมใจ
ก็มีหลายคนเศร้าสลดอย่างห้ามไม่ได้ เพราะถ้าพูดในส่วนไม่เกี่ยวกับคดี หมอเลี้ยบ
มีผลงานที่ประชาชนประทับใจ เป็นแม่ทัพใหญ่ผลักดันนโยบาย 30 บาท ร่วมกับ
หมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เมื่อปี 44-45
โดยส่วนตัว ผมไม่เคยรู้จักหมอเลี้ยบแม้เป็นคนรุ่นเดียวกัน เพิ่งรู้จักเมื่อไปสัมภาษณ์
พิเศษหลายครั้งสมัย 30 บาท ซึ่งผมเชียร์สุดตัว หมอเลี้ยบเป็นคนสุภาพ อัธยาศัยดี
มีหลักการ ทำงานหนัก นี่แม้แต่พวกหมอชนบทคาบนกหวีดก็น่าจะยอมรับ ยังจำได้ว่า
ครั้งหนึ่งต้องสัมภาษณ์ตอนดึก เพราะหมอเลี้ยบทำงานจนดึก
ขณะเดียวกันในความเป็นคน "รุ่น 6 ตุลา" ก็ยังรู้ว่าหมอเลี้ยบ "อยู่เบื้องหลัง"
การจัดงานรำลึกมาตั้งแต่สมัยสร้างกำแพงประวัติศาสตร์ คือมักจะควักตังค์โดย
ไม่ออกนาม น่าเศร้า ปีนี้หมอเลี้ยบไม่ได้มาร่วมงาน "ครบรอบ 40 ปีสังหารโหด"
ต้องรอเจอกันปีหน้า
เรื่องคดีอาญากับความสัมพันธ์ทางสังคม หรือแม้แต่ความนิยมทางการเมือง
ก็เป็นอย่างนี้ แม้ต้องคำพิพากษาของศาล ก็ไม่สามารถหักห้ามใจคนได้
ส่วนคำพิพากษาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งยังไม่กล่าวถึงเพราะยังไม่เห็นคำวินิจฉัย
ฉบับเต็ม แต่ผมทำใจตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อมองย้อนกลับไปที่คำพิพากษายึดทรัพย์
สรุปสั้นๆ นะครับ เหตุเกิดเมื่อปี 46-47 ชินคอร์ปกับไทยคมขอแก้สัญญาสัมปทาน
ลดสัดส่วนถือหุ้นจาก 51% เป็น 40% เพื่อระดมทุนมาลงทุนดาวเทียมไอพีสตาร์
กระทรวงไอซีทีสอบถามสำนักงานอัยการสูงสุดเห็นว่าทำได้ รัฐไม่เสียประโยชน์
แต่ตั้งข้อสังเกตว่าควรเสนอ ครม.ก่อน หมอเลี้ยบก็ทำเรื่องเข้า ครม. แต่เลขาธิการ
ครม.ส่งเรื่องคืน บอกว่าไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะเสนอ ครม. หมอเลี้ยบกลับไป
หารือสำนักงานอัยการสูงสุดอีกครั้ง บอกว่างั้นก็ทำได้ หมอเลี้ยบจึงลงนาม
<
<
<
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1472209527
ตามอ่านกันเต็มๆ จาก link ... ยาวค่ะ
รำพึงถึง "หมอเลี้ยบ" ...ใบตองแห้ง.... ข่าวสดออนไลน์ .../sao..เหลือ..noi
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีมติเอกฉันท์
มีความผิดตามมาตรา 157 ทำให้รัฐเสียหายจากการอนุมัติแก้ไขสัญญา
ลดสัดส่วนการถือหุ้นของชินคอร์ปในไทยคมจาก 51% เหลือ 40% ซึ่ง
เป็นกรณีหนึ่งที่ศาลฎีกาฯ พิพากษายึดทรัพย์ทักษิณเมื่อปี 53
อาศัยอยู่แผ่นดินไทย ก็ต้องน้อมรับคำวินิจฉัยของศาล แต่ความรู้สึกความผูกพัน
เป็นอีกเรื่องไม่เกี่ยวกัน ในขณะที่หลายคนดีอกดีใจ ได้เห็นหมอเลี้ยบติดคุกสมใจ
ก็มีหลายคนเศร้าสลดอย่างห้ามไม่ได้ เพราะถ้าพูดในส่วนไม่เกี่ยวกับคดี หมอเลี้ยบ
มีผลงานที่ประชาชนประทับใจ เป็นแม่ทัพใหญ่ผลักดันนโยบาย 30 บาท ร่วมกับ
หมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เมื่อปี 44-45
โดยส่วนตัว ผมไม่เคยรู้จักหมอเลี้ยบแม้เป็นคนรุ่นเดียวกัน เพิ่งรู้จักเมื่อไปสัมภาษณ์
พิเศษหลายครั้งสมัย 30 บาท ซึ่งผมเชียร์สุดตัว หมอเลี้ยบเป็นคนสุภาพ อัธยาศัยดี
มีหลักการ ทำงานหนัก นี่แม้แต่พวกหมอชนบทคาบนกหวีดก็น่าจะยอมรับ ยังจำได้ว่า
ครั้งหนึ่งต้องสัมภาษณ์ตอนดึก เพราะหมอเลี้ยบทำงานจนดึก
ขณะเดียวกันในความเป็นคน "รุ่น 6 ตุลา" ก็ยังรู้ว่าหมอเลี้ยบ "อยู่เบื้องหลัง"
การจัดงานรำลึกมาตั้งแต่สมัยสร้างกำแพงประวัติศาสตร์ คือมักจะควักตังค์โดย
ไม่ออกนาม น่าเศร้า ปีนี้หมอเลี้ยบไม่ได้มาร่วมงาน "ครบรอบ 40 ปีสังหารโหด"
ต้องรอเจอกันปีหน้า
เรื่องคดีอาญากับความสัมพันธ์ทางสังคม หรือแม้แต่ความนิยมทางการเมือง
ก็เป็นอย่างนี้ แม้ต้องคำพิพากษาของศาล ก็ไม่สามารถหักห้ามใจคนได้
ส่วนคำพิพากษาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งยังไม่กล่าวถึงเพราะยังไม่เห็นคำวินิจฉัย
ฉบับเต็ม แต่ผมทำใจตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อมองย้อนกลับไปที่คำพิพากษายึดทรัพย์
สรุปสั้นๆ นะครับ เหตุเกิดเมื่อปี 46-47 ชินคอร์ปกับไทยคมขอแก้สัญญาสัมปทาน
ลดสัดส่วนถือหุ้นจาก 51% เป็น 40% เพื่อระดมทุนมาลงทุนดาวเทียมไอพีสตาร์
กระทรวงไอซีทีสอบถามสำนักงานอัยการสูงสุดเห็นว่าทำได้ รัฐไม่เสียประโยชน์
แต่ตั้งข้อสังเกตว่าควรเสนอ ครม.ก่อน หมอเลี้ยบก็ทำเรื่องเข้า ครม. แต่เลขาธิการ
ครม.ส่งเรื่องคืน บอกว่าไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะเสนอ ครม. หมอเลี้ยบกลับไป
หารือสำนักงานอัยการสูงสุดอีกครั้ง บอกว่างั้นก็ทำได้ หมอเลี้ยบจึงลงนาม
<
<
<
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1472209527
ตามอ่านกันเต็มๆ จาก link ... ยาวค่ะ