ความน่าสงสัยในการทำงานของ ป.ป.ช. ต่อคดีหมอเลี้ยบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรณีแก้ไขสัญญาาสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสาร

กระทู้คำถาม
อย่างที่ทราบกันนะครับ
ป.ป.ช. ยื่นฟ้องหมอเลี้ยบต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ  ข้อหาผิดอาญามาตรา 157  ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ในการแก้ไขสัญญาสัมปทานดาวเทียมสื่อสาร  ที่ต้องให้ผู้ได้รับสัมปทานถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51%   เป็นไม่น้อยกว่า 40%

ผู้ได้สัมปทานก็ชินคอร์ป  โดยบริษัทชิน แซทเทิร์นไลท์  จำกัด(มหาชน)  นั่นแหละครับ

ป.ป.ช.  กล่าวหาว่า  หมอเลี้ย ในฐานะ รมว.ไอซีที  และพวก (ข้าราชการในไอซีที)
แก้ไขสัญญาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป   เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เพราะไม่นำเรื่องการแก้ไขสัญญาเข้ารับความเห็นชอบจาก ครม. เสียก่อน (นี่คือมูลฐานความผิดนะครับ)




เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ตุลาคม 2547

ประเด็นคือ   หมอเลี้ยบทำการแก้ไขสัญญาไปโดยพลการจริงหรือ ?      ไม่นำเข้ารับความเห็นชอบจาก ครม. ก่อนจริงหรือ ?

นี่แหละครับ   จึงเป็นที่มาของความน่าสงสัยในการทำงานของ ป.ป.ช.



ก่อนลงนามทำการแก้ไขสัญญา
หมอเลี้ยบ  ในฐานะ รมว.ไอซีทีในขณะนั้น (รัฐบาลทักษิณ)

ได้ทำหนังสือหารือกับอัยการสูงสุด   ว่าทางไอซีทีสามารถแก้ไขสัญญากับเอกชนได้หรือไม่

อัยการสูงสุดตอบกลับข้อหารือมาว่า   ทำได้  แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ก่อน

ไอซีที   จึงเสนอเรื่องต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  (นายบวรศักดิ์  อุวรรณโณ)  เพื่อนำบรรจุในวาระการประชุม ครม.

แต่นายบวรศักดิ์   ไม่ได้นำเรื่องเข้า ครม.  โดยบอกทางไอซีทีว่า  เป็นเรื่องที่ไม่ควรนำเข้า
เพราะนายกรัฐมนตรีทักษิณนั้น  มีความเกี่ยวพันกับชินคอร์ป  ไม่เหมาะที่จะให้เรื่องนี้ได้รับความเห็นชอบจาก ครม.
(แต่นายบวรศักดิ์   ให้ปากคำต่อกรรมการสอบเรื่องนี้ในภายหลังว่า  
ไอซีทีเสนอเรื่องมาจริง แต่ไม่มีความชัดเจนว่าเรื่องอะไร  จึงไม่นำเข้า ครม.)




เมื่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่นำเรื่องเข้า ครม.
ทางไอซีทีจึงทำข้อหารือไปถึงอัยการสูงสุดอีกครั้ง   ว่าเลขาฯ ครม. ไม่นำเรื่องเข้า  ไอซีทีจะทำสัญญาได้หรือไม่

อัยการสูงสุดตอบข้อหารือกลับมาอีกครั้งว่า   เมื่อเลขาฯ ครม. บอกว่าไม่ต้องนำเข้า
ไอซีทีก็สามารถทำสัญญาได้เลย



ประเด็นหลัก   คือ  เรื่องการนำเข้ารับความเห็นชอบจาก ครม.

เมื่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  ไม่นำเข้า       เมื่อไอซีทีปรึกษาหารือกับอัยการสูงสุดว่าทำได้

แล้วไอซีที   ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตรงไหน ???



หากไอซีที   หากหมอเลี้ยงทำไปโดยพลการ   นั่นจึงน่าจะถือได้ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
แต่นี่ทำไปตามระเบียบขั้นตอน   มีการหารือกับฝ่ายกฎหมายคืออัยการสูงสุดถึงสองครั้ง

ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตรงไหน ?

หาก ป.ป.ช. เห็นว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  
แล้วชื่อนายบวรศักดิ์  อุวรรณโณ   ในฐานะเลขาธิการคณรัฐมนตรี  ที่ไม่นำเรื่องเข้า ครม. ตามหน้าที่   หายไปไหน ?




จึงสงสัยในการทำงานของ ป.ป.ช. ครับ

ดูเหมือนว่า  อะไรที่เกี่ยวกับทักษิณ   โดนหมด

สมัครก็โดน    สมชายก็โดน    นพดลก็โดน    จนมาถึงยิ่งลักษณ์

โดนเรียบ

ขณะเดียวกัน   อะไรที่เกี่ยวกับ ปชป.    หลุดหมด  (มีโดนบ้างก็เรื่องจิ๊บจ๊อย)

อย่างเรื่องไอซีที  ทำสัญญา 3 จี กับทรูมูฟเมื่อ ม.ค. 54    ชัด ๆ เลยว่ารัฐเสียหายหลายหมื่นล้าน
ถึงวันนี้   ไม่รู้คดีถึงไหน

มีเพียงข่าวว่า   กันยายน 2558  
นายจุติ  ไกรฤกษ์  รมว.ไอซีที ที่ทำสัญญาในตอนนั้น  ขอความเป็นธรรมให้ ป.ป.ช. สอบพยานหลักฐานเพิ่ม
ป.ป.ช. ก็โอเค   (แต่คดีจำนำข้าวยิ่งลักษณ์   ไม่ยอมสอบเพิ่ม   แถมตัดพยานหลักฐานเพียบ)




เรื่องหมอเลี้ยบนี่   ดูข้อเท็จจริงแล้ว   ควรตกไปตั้งแต่ขั้นชี้แจงข้อกล่าวหาแล้วครับ
ไม่น่าถึงศาล    เพราะดูอย่างไร  ก็ไม่เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแน่นอน

แต่ ป.ป.ช. ก็ฟ้องจนได้




เหมือนยังไงก็ตาม   ป.ป.ช. ต้องส่งเรื่องให้ถึงศาลให้ได้   แล้วจะยังไงต่อก็แล้วแต่เทวดา
แต่หากเป็นเรื่องของอีกฝ่าย    ยกคำร้อง  ยุติเรื่องเป็นอาจิณ   หรือหากหาทางจบไม่ได้   ก็ดองไปเรื่อย ๆ


ว่าแล้ว  นึกถึงจักรยาน
ถีบขาคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่