นิวตรอน : โลกที่ไม่มีอยู่กับศัตรูที่ไม่มีเงา ตอนที่ 15
พงษ์กำลังคิดหนักกับภาพที่เห็น เด็กผู้ชายที่เปิดประตูตรงกำแพงได้ทั้งๆที่กำแพงนั้นไม่มีประตู
พอเขาเห็นภาพนี้ในกล้องวงจรปิด ทำให้เขานึกถึงเรื่องที่แปลกมากเรื่องหนึ่งเมื่อ 20 ปีมาแล้ว
ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุ 13 ปี แต่ซ่ามาก และแอบหนีออกจากบ้านในช่วงพฤษภาทมิฬ
คืนหนึ่งเขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ เขาเองหลบอยู่และคิดว่าชายหนุ่มคนนั้นไม่รอดแน่
แต่ไม่นานก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาแถวนั้น เมื่อเขาเห็นชายหนุ่มที่บาดเจ็บ เขาก็พยายามจะช่วย
ขณะนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังบ้าคลั่งมาละแวกนั้นพอดี
พงษ์คิดว่าสองคนนี้ต้องไม่รอดแน่
แต่พอชายหนุ่มที่มาช่วยเอาของบางอย่างวางไว้บนถนน พวกเขาก็เหมือนล่องหนหายตัวไป
ตอนนั้นพงษ์คิดว่าเขาเห็นผี แต่พอโตมา เขาคิดว่าไม่น่าจะใช่ผี
แต่ก็ไม่รู้ว่าลึกๆแล้วมันคืออะไร
เมื่อเทียบกับเหตุการณ์เมื่อครั้งกระโน้น พงษ์ว่ามันประหลาดพอๆกัน เขาต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งสอง เขาไม่แน่ใจว่าจะต้องหาข้อมูลหรือหลักฐานมาจากไหน แต่ไม่แน่นะ เหตุการณ์ครั้งที่ 2 นี้อาจนำไปสู่กุญแจที่จะไขเหตุการณ์แรกได้
พงษ์เอาภาพวงจรปิดนั้นมาดูซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาพอจะจำชุดนักเรียนลักษณะนี้ได้ มันเป็นชุดนักเรียนของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง นักเรียนชายคนนั้นก็น่าจะอยู่ประมาณ ม.ต้น
เมื่อได้ข้อมูลราวๆนี้ พงษ์กะว่าจะสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างแจ้งเท่าที่เขาจะทำได้ เมื่อนึกได้ดังนั้น เขาจึงเริ่มปฏิบัติการทันที
******************************************************************
เมื่อเชนถอดเสื้อออก เขาก็ลุยไอ้ล่ำนั่นทันที มวยข้างถนนรอบนี้ถูกใจคนที่มุงดูมาก
มันชัดเจนมากว่าเชนเสียเปรียบและเป็นรองทั้งรูปร่างและส่วนสูง
คนแถวนั้นจึงรอดูความพลาดของเชนที่จะถูกไอ้ล่ำบดขยี้
ภาพในจินตนาการน่าจะถูกใจคอซาดิสม์เป็นอย่างมาก
หนุ่มหล่อโดนบดขยี้โดยไอ้ยักษ์ร่างใหญ่
แต่พอเชนออกลวดลายเชิงมวย ทั้งแคล่วคล่องว่องไว
คนดูก็แทบตาถลนออกนอกเบ้า เพราะไอ้ยักษ์ต่างหากที่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
เชนหมัดหนักใช่เล่น และหลบหลีกเก่งจนคู่ต่อสู้ตั้งรับไม่ทัน
คนดูจึงพบกับความมันส์ครั้งมโหฬารเมื่อหนุ่มหล่อที่ล่ำน้อยกว่า
กลับมาพลิกเกมเอาชนะไอ้ยักษ์ร่างใหญ่ได้
พอเกมจบ เพียวเดินมากอดคอเชน
“เก่งมากไอ้น้องชาย”
ตอนนั้นเชนไม่ได้คิดอะไรนอกจากอยากเห็นหน้าของพลอยเท่านั้น
************************************************************
ซันเดินจนทั่วร้าน เขารู้แล้วว่าคิมเข้าใจผิด ร้านนี้ไม่ใช่ร้านในอดีต
แต่มันคือร้านในอนาคตที่พยายามเลียนแบบอดีต
ซันสังเกตสิ่งของที่นำมาขาย มักจะเป็นของที่เลียนแบบของโบราณ
แต่ก็พอมองออกว่าผลิตโดยเทคโนโลยีที่ล้ำยุค
ซันแปลกใจว่าร้านทำนองนี้จะมาโผล่แถวนี้ทำไม
มันเป็นร้านค้าในอนาคตที่ขายของเลียนแบบอดีต
แต่ดันมาโผล่ในปัจจุบัน มันมีเหตุผลอะไรกันแน่
ไม่นานนัก เจ้าของร้านเดินมาทักทายซัน
“สวัสดีครับท่าน”
ซันแปลกใจมากว่าทำไมถึงเรียกเขาว่า “ท่าน” ทั้งๆที่เขาอายุแค่ 15 ปีเอง
“ท่านชอบร้านของกระผมไหมครับ”
“ชอบครับ”
ซันรีบบอกออกไป เขานึกขำที่เจ้าของร้านที่มาจากอนาคตพยายามพูดแบบคนโบราณ
ไม่มีอะไรจะน่าขันมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“ท่านจะเดินชมร้านผมนานแค่ไหนก็ได้เท่าที่ท่านต้องการ”
ซันยิ้มให้เจ้าของร้าน
“ไม่ใช่เท่าที่เวลาอำนวยเหรอครับ”
เจ้าของร้านยิ้มให้ซัน
“เวลามันมีที่ไหนกันครับท่าน จริงๆแล้วเวลามันไม่มีหรอก”
ซันจ้องหน้าเขาเขม็ง
“ผมเห็นด้วยกับคุณนะ จริงๆแล้วเวลาไม่มี เพราะถ้าเวลามันมีและเดินตามในทางที่มันควรจะเดิน เราคงจะไม่ได้มาพบกัน”
เจ้าของร้านพูดต่อ
“ท่านเข้าใจว่าร้านผมคืออะไรครับ”
“ก็คือร้านค้าสิครับถามได้ แต่คงไม่ใช่ร้านค้าปกติเป็นแน่ เป็นร้านค้าที่อยู่เหนือกาลเวลา”
เจ้าของร้านยิ้มอย่างพอใจ
“ท่านก็ยังคงเป็นท่านคนเดิม”
ซันแปลกใจในประโยคที่เจ้าของร้านเพิ่งพูดไป
“คุณพูดเหมือนกับว่าคุณเคยพบผมมาก่อน”
เจ้าของร้านยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เอาเป็นว่าท่านเดินชมร้านของผมนานแค่ไหนก็ได้ ตามใจท่าน และขอให้ท่านตามหาสิ่งที่ท่านต้องการให้พบนะขอรับ เกล้ากระผมขอตัวก่อน”
ซันแปลกใจในคำพูดของเจ้าของร้าน ซันคิดในใจว่า “กูต้องการหาอะไรเหรอ ... เปล่านี่”
การมาเจอร้านลักษณะนี้มันช่างแปลกประหลาดมากกว่านั้น
แต่สิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าคือเมื่อเดินออกจากร้าน พอซันหันไปมองร้านนี้อีกครั้ง
มันกลายเป็นร้านขายไก่ทอดไปแล้ว
อีกหนึ่งวันต่อมาซันเรียกสมาชิกมาประชุมกัน ต่างฝ่ายต่างเล่าว่าตัวเองไปเจออะไรมา
“กูยินดีด้วยนะที่เมิงเข้ากลุ่มไอ้เพียวมันได้แล้ว”
แทนที่เชนจะคุยเรื่องอื่น เขากลับพูดขึ้นว่า
“กูว่าเรามาปรึกษาหารือกันดีกว่าว่าจะชวนหญิงกับพลอยเข้ากลุ่มได้ยังไง”
คิมพูดขึ้นมาว่า
“ผมไปสืบมาแล้วนะครับ ที่ทั้งคู่ได้ฉายามิสเอเพราะสอบได้เอทุกวิชา แต่ที่แปลกกว่านั้น ทั้งคู่ยังสนใจเรื่องศาสนากันทั้งคู่ครับ”
“เห็นทีเราคงต้องเอาทั้งคู่มาเข้ากลุ่มให้ได้” ซันพูดขึ้นและพูดต่อว่า
“แต่เราจะใช้วิธีใดดีละหรือบอกไปตรงๆ”
ซันยังพูดไม่ทันขาดคำ รอนก็นำพลอยกับหญิงเข้ามาในโฟตอน
ชายหนุ่มทั้งสามตกใจกันมาก
นิวตรอน : โลกที่ไม่มีอยู่กับศัตรูที่ไม่มีเงา ตอนที่ 15 - 16
พงษ์กำลังคิดหนักกับภาพที่เห็น เด็กผู้ชายที่เปิดประตูตรงกำแพงได้ทั้งๆที่กำแพงนั้นไม่มีประตู
พอเขาเห็นภาพนี้ในกล้องวงจรปิด ทำให้เขานึกถึงเรื่องที่แปลกมากเรื่องหนึ่งเมื่อ 20 ปีมาแล้ว
ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุ 13 ปี แต่ซ่ามาก และแอบหนีออกจากบ้านในช่วงพฤษภาทมิฬ
คืนหนึ่งเขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ เขาเองหลบอยู่และคิดว่าชายหนุ่มคนนั้นไม่รอดแน่
แต่ไม่นานก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาแถวนั้น เมื่อเขาเห็นชายหนุ่มที่บาดเจ็บ เขาก็พยายามจะช่วย
ขณะนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังบ้าคลั่งมาละแวกนั้นพอดี
พงษ์คิดว่าสองคนนี้ต้องไม่รอดแน่
แต่พอชายหนุ่มที่มาช่วยเอาของบางอย่างวางไว้บนถนน พวกเขาก็เหมือนล่องหนหายตัวไป
ตอนนั้นพงษ์คิดว่าเขาเห็นผี แต่พอโตมา เขาคิดว่าไม่น่าจะใช่ผี
แต่ก็ไม่รู้ว่าลึกๆแล้วมันคืออะไร
เมื่อเทียบกับเหตุการณ์เมื่อครั้งกระโน้น พงษ์ว่ามันประหลาดพอๆกัน เขาต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งสอง เขาไม่แน่ใจว่าจะต้องหาข้อมูลหรือหลักฐานมาจากไหน แต่ไม่แน่นะ เหตุการณ์ครั้งที่ 2 นี้อาจนำไปสู่กุญแจที่จะไขเหตุการณ์แรกได้
พงษ์เอาภาพวงจรปิดนั้นมาดูซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาพอจะจำชุดนักเรียนลักษณะนี้ได้ มันเป็นชุดนักเรียนของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง นักเรียนชายคนนั้นก็น่าจะอยู่ประมาณ ม.ต้น
เมื่อได้ข้อมูลราวๆนี้ พงษ์กะว่าจะสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างแจ้งเท่าที่เขาจะทำได้ เมื่อนึกได้ดังนั้น เขาจึงเริ่มปฏิบัติการทันที
******************************************************************
เมื่อเชนถอดเสื้อออก เขาก็ลุยไอ้ล่ำนั่นทันที มวยข้างถนนรอบนี้ถูกใจคนที่มุงดูมาก
มันชัดเจนมากว่าเชนเสียเปรียบและเป็นรองทั้งรูปร่างและส่วนสูง
คนแถวนั้นจึงรอดูความพลาดของเชนที่จะถูกไอ้ล่ำบดขยี้
ภาพในจินตนาการน่าจะถูกใจคอซาดิสม์เป็นอย่างมาก
หนุ่มหล่อโดนบดขยี้โดยไอ้ยักษ์ร่างใหญ่
แต่พอเชนออกลวดลายเชิงมวย ทั้งแคล่วคล่องว่องไว
คนดูก็แทบตาถลนออกนอกเบ้า เพราะไอ้ยักษ์ต่างหากที่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
เชนหมัดหนักใช่เล่น และหลบหลีกเก่งจนคู่ต่อสู้ตั้งรับไม่ทัน
คนดูจึงพบกับความมันส์ครั้งมโหฬารเมื่อหนุ่มหล่อที่ล่ำน้อยกว่า
กลับมาพลิกเกมเอาชนะไอ้ยักษ์ร่างใหญ่ได้
พอเกมจบ เพียวเดินมากอดคอเชน
“เก่งมากไอ้น้องชาย”
ตอนนั้นเชนไม่ได้คิดอะไรนอกจากอยากเห็นหน้าของพลอยเท่านั้น
************************************************************
ซันเดินจนทั่วร้าน เขารู้แล้วว่าคิมเข้าใจผิด ร้านนี้ไม่ใช่ร้านในอดีต
แต่มันคือร้านในอนาคตที่พยายามเลียนแบบอดีต
ซันสังเกตสิ่งของที่นำมาขาย มักจะเป็นของที่เลียนแบบของโบราณ
แต่ก็พอมองออกว่าผลิตโดยเทคโนโลยีที่ล้ำยุค
ซันแปลกใจว่าร้านทำนองนี้จะมาโผล่แถวนี้ทำไม
มันเป็นร้านค้าในอนาคตที่ขายของเลียนแบบอดีต
แต่ดันมาโผล่ในปัจจุบัน มันมีเหตุผลอะไรกันแน่
ไม่นานนัก เจ้าของร้านเดินมาทักทายซัน
“สวัสดีครับท่าน”
ซันแปลกใจมากว่าทำไมถึงเรียกเขาว่า “ท่าน” ทั้งๆที่เขาอายุแค่ 15 ปีเอง
“ท่านชอบร้านของกระผมไหมครับ”
“ชอบครับ”
ซันรีบบอกออกไป เขานึกขำที่เจ้าของร้านที่มาจากอนาคตพยายามพูดแบบคนโบราณ
ไม่มีอะไรจะน่าขันมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“ท่านจะเดินชมร้านผมนานแค่ไหนก็ได้เท่าที่ท่านต้องการ”
ซันยิ้มให้เจ้าของร้าน
“ไม่ใช่เท่าที่เวลาอำนวยเหรอครับ”
เจ้าของร้านยิ้มให้ซัน
“เวลามันมีที่ไหนกันครับท่าน จริงๆแล้วเวลามันไม่มีหรอก”
ซันจ้องหน้าเขาเขม็ง
“ผมเห็นด้วยกับคุณนะ จริงๆแล้วเวลาไม่มี เพราะถ้าเวลามันมีและเดินตามในทางที่มันควรจะเดิน เราคงจะไม่ได้มาพบกัน”
เจ้าของร้านพูดต่อ
“ท่านเข้าใจว่าร้านผมคืออะไรครับ”
“ก็คือร้านค้าสิครับถามได้ แต่คงไม่ใช่ร้านค้าปกติเป็นแน่ เป็นร้านค้าที่อยู่เหนือกาลเวลา”
เจ้าของร้านยิ้มอย่างพอใจ
“ท่านก็ยังคงเป็นท่านคนเดิม”
ซันแปลกใจในประโยคที่เจ้าของร้านเพิ่งพูดไป
“คุณพูดเหมือนกับว่าคุณเคยพบผมมาก่อน”
เจ้าของร้านยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เอาเป็นว่าท่านเดินชมร้านของผมนานแค่ไหนก็ได้ ตามใจท่าน และขอให้ท่านตามหาสิ่งที่ท่านต้องการให้พบนะขอรับ เกล้ากระผมขอตัวก่อน”
ซันแปลกใจในคำพูดของเจ้าของร้าน ซันคิดในใจว่า “กูต้องการหาอะไรเหรอ ... เปล่านี่”
การมาเจอร้านลักษณะนี้มันช่างแปลกประหลาดมากกว่านั้น
แต่สิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าคือเมื่อเดินออกจากร้าน พอซันหันไปมองร้านนี้อีกครั้ง
มันกลายเป็นร้านขายไก่ทอดไปแล้ว
อีกหนึ่งวันต่อมาซันเรียกสมาชิกมาประชุมกัน ต่างฝ่ายต่างเล่าว่าตัวเองไปเจออะไรมา
“กูยินดีด้วยนะที่เมิงเข้ากลุ่มไอ้เพียวมันได้แล้ว”
แทนที่เชนจะคุยเรื่องอื่น เขากลับพูดขึ้นว่า
“กูว่าเรามาปรึกษาหารือกันดีกว่าว่าจะชวนหญิงกับพลอยเข้ากลุ่มได้ยังไง”
คิมพูดขึ้นมาว่า
“ผมไปสืบมาแล้วนะครับ ที่ทั้งคู่ได้ฉายามิสเอเพราะสอบได้เอทุกวิชา แต่ที่แปลกกว่านั้น ทั้งคู่ยังสนใจเรื่องศาสนากันทั้งคู่ครับ”
“เห็นทีเราคงต้องเอาทั้งคู่มาเข้ากลุ่มให้ได้” ซันพูดขึ้นและพูดต่อว่า
“แต่เราจะใช้วิธีใดดีละหรือบอกไปตรงๆ”
ซันยังพูดไม่ทันขาดคำ รอนก็นำพลอยกับหญิงเข้ามาในโฟตอน
ชายหนุ่มทั้งสามตกใจกันมาก