เมื่อวานดูหนังอินเดียเรื่อง delhi-6 สนุกมาก (25.8.59)
Delhi-6 เดลฮี สวรรค์แดนภารตะ
มีอยู่ตอนหนึ่งที่หน้าโบสถ์ฮินดู ตอนนั้นกำลังมัปัญหาเรื่องการหาคนไปตัดขนของลิงดำ
ผู้ชายคนที่หนึ่งได้บอกว่า "ผู้ชายคนนี้" แล้วชี้ไปที่ผู้ชายคนที่สอง พร้อมพูดว่า "คนนี้เหมาะสมที่จะไปตามหาเพื่อตัดขนของลิงยักษ์สีดำ" แต่ผู้ชายคนที่สองก็มีอาการกลัวและไม่อยากไปทำภารกิจอันนี้ ก็เลยโต้แย้งไปว่า "ผมไม่เหมาะกับภารกิจอันนี้ แต่ผู้ชายคนที่หนึ่งก็พูดเชิงบังคับขู่เข็ญ เพราะในเรื่องนี้ ผู้ชายคนที่หนึ่งมักจะข่มเหงผู้ชายคนที่สองตลอดเวลา เขาจึงพูดว่าเจ้า.โง่เอ้ย..เจ้านั้นแหละที่เหมาะสมเพราะเจ้านั้นโง่ที่สุด เจ้าจงไปเถอะเจ้านั้นอยู่ไปก็ไร้ประโยชน์" พร้อมกันนั้น ผู้ชายคนที่หนึ่งก็หยิบ(สมมุติว่าเป็นเงินไทยเพื่อให้เข้าใจง่าย) เหรียญสิบบาท สองเหรียญไว้ที่มือข้างขวาและวางธนบัตรใบละหนึ่งร้อยบาทวางไว้ที่มือข้างซ้าย พร้อมทั้งบอกว่า "ทุกคนจงดูไว้ว่าเจ้าโง่คนนี้มันจะเลือกข้างไหน" เจ้าโง่คนเห็นดังนั้นก็เลือกหยิบเหรียญสิบ สองเหรียญที่มือขวา ทุกคนที่มองเห็นต่างหัวเราเป็นเสียงเดียวกันกับความโง่ของชายคนนั้นที่ไปเลือกเงินแค่ 20 บาท แทนที่จะเลือกอีกข้างที่เป็นเงิน 100 บาท พร้อมกันนั้น ผู้ชายคนที่หนึ่งก็พูดว่า "ทุกท่าน เห็นมั๊ยเจ้าโง่มันเลือกเงินแค่ 20 บาทแทนที่จะเลือกหยิบแบ๊งค์ร้อย" "เราทำแบบนี้ทุกๆครั้งเจ้าโง่ก็เลือกแบบนี้ทุกๆครั้ง" เจ้าโง่เห็นดังนั้นจึงรีบบอกความจริงกับทุกๆคนที่หน้าโบสถ์ให้ทุกๆคนทราบว่า "ข้ารู้ หากข้าเลือกแบ๊งค์ร้อยท่านก็คงจะไม่เล่นเกมแบบนี้กับข้าอีก ที่ผ่านมาข้าจึงต้องเลือกหยิบเหรียญตลอด" ชายคนที่หนึ่งกับทุกๆคนที่หน้าโบสถ์ได้ฟังคำตอบของชายที่ทุกคนเรียกว่า "เจ้าโง่" ถึงกับอึ้งไปทั้งหมด ตกลงแล้วใครฉลาด หรือ ใครโง่กันแน่ พออ่านมาถึงตรงนี้ พวกเราคิดว่าใครโง่กันแน่ครับ บางครั้งคนที่ฉลาดก็อาจจะเป็นคนโง่ หรือกลับกันบางที่คนโง่ก็อาจจะเป็นคนฉลาด ขึ้นอยู่กับใครจะมอง เราอาจจะเป็นคนฉลาดแต่คนอื่นอาจจะมองเราว่าเป็นคนโง่ก็ได้นะครับ
คนโง่ บางทีไม่โง่ ข้อคิดดีๆในหนัง Delhi-6 เดลฮี สวรรค์แดนภารตะ
Delhi-6 เดลฮี สวรรค์แดนภารตะ
มีอยู่ตอนหนึ่งที่หน้าโบสถ์ฮินดู ตอนนั้นกำลังมัปัญหาเรื่องการหาคนไปตัดขนของลิงดำ
ผู้ชายคนที่หนึ่งได้บอกว่า "ผู้ชายคนนี้" แล้วชี้ไปที่ผู้ชายคนที่สอง พร้อมพูดว่า "คนนี้เหมาะสมที่จะไปตามหาเพื่อตัดขนของลิงยักษ์สีดำ" แต่ผู้ชายคนที่สองก็มีอาการกลัวและไม่อยากไปทำภารกิจอันนี้ ก็เลยโต้แย้งไปว่า "ผมไม่เหมาะกับภารกิจอันนี้ แต่ผู้ชายคนที่หนึ่งก็พูดเชิงบังคับขู่เข็ญ เพราะในเรื่องนี้ ผู้ชายคนที่หนึ่งมักจะข่มเหงผู้ชายคนที่สองตลอดเวลา เขาจึงพูดว่าเจ้า.โง่เอ้ย..เจ้านั้นแหละที่เหมาะสมเพราะเจ้านั้นโง่ที่สุด เจ้าจงไปเถอะเจ้านั้นอยู่ไปก็ไร้ประโยชน์" พร้อมกันนั้น ผู้ชายคนที่หนึ่งก็หยิบ(สมมุติว่าเป็นเงินไทยเพื่อให้เข้าใจง่าย) เหรียญสิบบาท สองเหรียญไว้ที่มือข้างขวาและวางธนบัตรใบละหนึ่งร้อยบาทวางไว้ที่มือข้างซ้าย พร้อมทั้งบอกว่า "ทุกคนจงดูไว้ว่าเจ้าโง่คนนี้มันจะเลือกข้างไหน" เจ้าโง่คนเห็นดังนั้นก็เลือกหยิบเหรียญสิบ สองเหรียญที่มือขวา ทุกคนที่มองเห็นต่างหัวเราเป็นเสียงเดียวกันกับความโง่ของชายคนนั้นที่ไปเลือกเงินแค่ 20 บาท แทนที่จะเลือกอีกข้างที่เป็นเงิน 100 บาท พร้อมกันนั้น ผู้ชายคนที่หนึ่งก็พูดว่า "ทุกท่าน เห็นมั๊ยเจ้าโง่มันเลือกเงินแค่ 20 บาทแทนที่จะเลือกหยิบแบ๊งค์ร้อย" "เราทำแบบนี้ทุกๆครั้งเจ้าโง่ก็เลือกแบบนี้ทุกๆครั้ง" เจ้าโง่เห็นดังนั้นจึงรีบบอกความจริงกับทุกๆคนที่หน้าโบสถ์ให้ทุกๆคนทราบว่า "ข้ารู้ หากข้าเลือกแบ๊งค์ร้อยท่านก็คงจะไม่เล่นเกมแบบนี้กับข้าอีก ที่ผ่านมาข้าจึงต้องเลือกหยิบเหรียญตลอด" ชายคนที่หนึ่งกับทุกๆคนที่หน้าโบสถ์ได้ฟังคำตอบของชายที่ทุกคนเรียกว่า "เจ้าโง่" ถึงกับอึ้งไปทั้งหมด ตกลงแล้วใครฉลาด หรือ ใครโง่กันแน่ พออ่านมาถึงตรงนี้ พวกเราคิดว่าใครโง่กันแน่ครับ บางครั้งคนที่ฉลาดก็อาจจะเป็นคนโง่ หรือกลับกันบางที่คนโง่ก็อาจจะเป็นคนฉลาด ขึ้นอยู่กับใครจะมอง เราอาจจะเป็นคนฉลาดแต่คนอื่นอาจจะมองเราว่าเป็นคนโง่ก็ได้นะครับ